รีวิวการทำข้อสอบ IELTS, SAT พาร์ท Reading สำหรับเข้าภาคอินเตอร์
ตั้งกระทู้ใหม่
ก่อนอื่น ต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้คะแนนดีมากอะไร
IELTS - ยังไม่ออกฮะ เพิ่งสอบไป 555
SAT - 1480 (Reading+Writing 690/800)
CUTEP Reading - 52/60
แต่ก็อยากมาแชร์วิธีการทำข้อสอบ Reading ในข้อสอบต่าง ๆ ที่เราจะเจอกันนะครับ ก็คือข้อสอบ IELTS , SAT และ CUTEP (สำหรับใช้แทน IELTS)
เริ่มจาก ข้อสอบเจ้าปัญหา SAT ก่อนละกัน 555
ข้อสอบ SAT นี้เป็นข้อสอบ Reading ที่เรียกได้ว่า น่าจะยากที่สุดในบรรดา 3 ตัวที่เรามักจะเจอเลยครับ เนื่องจากเป็นข้อสอบที่ใช้วัดนักเรียนทั่วโลก รวมถึงนักเรียนอเมริกันด้วย (ขนาดนักเรียน prep school บางคนยังได้ 1300 เองครับ) เราจะลองมาชำแหละข้อสอบตัวนี้กันดู
ต้องขอบอกก่อนว่า Mindset ในการทำข้อสอบ SAT Reading นั้น จะค่อนข้างแตกต่างจาก Mindset ในการทำข้อสอบ Reading อื่น ๆ อย่างมาก เนื่องจาก SAT Reading มองตัวบทความเหมือน "วรรณกรรม" ครับ และข้อสอบ SAT มักจะชำแหละเอาประโยคมาถามว่าประโยคนี้ "ส่งผล" ยังไงกับบทความโดยรวม ฯลฯ คือเป็นการวิเคราะห์เทคนิคการเขียน การพรรณนาของผู้เขียน โดยมากแล้วจะไม่ใช่การอ่านจับใจความ เหมือน IELTS Reading หรือข้อสอบภาษาอังกฤษของภาคไทยทั่วไปอย่างแน่นอนครับ (อาจมีคำถามจับใจความ เพียง 1 - 2 ข้อ ต่อ passage)
SAT Reading จะมีทั้งหมด 5 passages ประกอบด้วย
- วรรณกรรม (Literature) --> ส่วนตัวคิดว่ายากสุดครับ 555
- สังคมศาสตร์ (Social Science)
- วิทยาศาสตร์ (Science)
- ประวัติศาสตร์ (History)
- แบบ 2 passage ย่อย (Paired Passage)
1. ห้ามอ่านข้าม ๆ แล้วพยายามตอบคำถามเลยโดยเด็ดขาด (ยกเว้นข้อที่ถาม main idea) เพราะมักจะทำให้เข้าใจผิดอย่างร้ายแรง ในการตอบคำถามแต่ข้อต้องเข้าใจบริบทของสิ่งที่จะถามทั้งหมด แล้วจึงตอบคำถาม
ข้อสอบ SAT Reading ถูกออกแบบมาดักนักเรียน หรือผู้เข้ารับการทดสอบที่อ่านข้าม ๆ แล้วตอบเลย โดยมักจะมีช้อยหลอกปรากฏอยู่เสมอหากเราอ่านไม่รอบคอบ เพราะฉะนั้นเมื่อเจอคำถาม ให้กลับไปอ่านส่วนที่เกี่ยวข้องกับคำถามใน passage อีก 1 ครั้ง เสมอ
2. ข้อสอบ SAT Reading เป็น passage ระดับ Academic ซึ่งใน passage จะมีข้อความที่ขัดแย้งกับ main point ของผู้เขียนอย่างแน่นอน (99%) ในหนังสือของ Meltzer มักเรียก passage แบบนี้ว่า "they say, I say" หรือคือ ส่วนที่คนอื่นพูด และส่วนที่ผู้เขียนจะนำเสนอ เราต้องแยกให้ออกระหว่าง 2 ส่วนนี้ ไม่งั้นเราจะงง สับสน เหมือนบทความเขียนขัดแย้งกันเอง ตัวอย่างเช่น
"...When human beings are regarded as moral beings, sex, instead of being enthroned upon the summit, administering upon rights and responsibilities, sinks into insignificance and nothingness..."
จะสังเกตว่า ประโญคหลักคือที่เป็นตัวหนา ส่วนตรงที่ขีดเส้นใต้ เป็นส่วน "they say" หรือ ส่วนที่แย้งต่อผู้เขียน เราต้องยึดตรงที่เป็นตัวหนาเป็นหลักเพื่อทำความเข้าใจ passage ตรงนี้ครับ
3. ข้อสอบ SAT Reading จงใจหลอกเราด้วยคำตอบที่ทำให้เรางง
อันนี้ส่วนตัวมองว่าจริง 555 ข้อสอบ SAT Reading มันหลอกเราด้วยตัวเลือกที่ เหมือนจะถูกนะ แต่ไม่ถูก เต็มไปหมด ถ้าอ่าน passage ไม่รอบคอบมากพออาจเลือกตัวเลือกที่ผิดได้
เพราะฉะนั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องรอบคอบในการเลือกคำตอบข้อใดข้อหนึ่ง โดยอาจใช้วิธีดังนี้
- คิดไว้อยู่เสมอว่า คำคำเดียวในคำตอบ อาจทำให้ช้อยนั้นผิดได้เลย
- คำตอบทุกอย่างจะถูก support โดย ประโยคใน passage ไว้เสมอ คำตอบไหนที่เหมือนจะถูก แต่ไม่มีประโยคใน passage รองรับ ให้สันนิษฐานไว้ได้เลยว่า ผิด
ที่สำคัญที่สุด เมื่ออ่านคำถามเสร็จแล้ว อย่ารีบอ่านตัวเลือก ให้คิดคำตอบของเราไว้ก่อนในใจ แล้วดูว่าตรงกับตัวเลือกไหนมากที่สุด จะได้ไม่สับสนหรือโดน College Board หลอกเรา TvT
สำหรับหนังสือ แนะนำหนังสือ The Complete Guide to SAT Reading ของ Erica Meltzer
ใช้ศึกษา logic การทำข้อสอบ SAT Reading จากนั้นให้ฝึกจาก practice test ของจริง หลาย ๆ ฉบับครับ
เครดิตจาก kinokuniya ครับ
อนึ่ง ไม่แนะนำ Barron เนื่องจากโจทย์ค่อนข้างเหมือน Old SAT มากกว่า New SAT
IELTS Reading
สำหรับข้อสอบ IELTS Reading นั้น เป็นข้อสอบที่ค่อนข้างง่ายกว่า SAT ค่อนข้างมาก และให้เวลาทำค่อนข้างมากถ้าเทียบกับข้อสอบ SAT (passage ละ 20 นาที ในขณะที่ SAT passage ละ 12 นาที)
passage ของข้อสอบ IELTS จะเป็น passage ทั่วไป และ passage ทางวิชาการ
ทริคของข้อสอบ IELTS คือ passage กับตัวเลือก หรือส่วนที่เราต้องเติม มักจะพูดเรื่องเดียวกันเลย ใจความเหมือนกันด้วย ไม่ต้องตีความหรืออะไรทั้งนั้น แค่นำคำที่อยู่ใน passage มาใส่ให้ถูกต้อง เราก็จะได้คะแนน
เช่น "...During World War I, scientists created the technology for measuring sound waves in the ocean.."
คำถามอาจจะถามว่า Instrument for determining ________ in the ocean was built during World War I
ก็ใส่ได้เลยครับ sound waves ไม่ต้องลังเลใด ๆ เพียงแค่เขาเปลี่ยนวิธีการเรียบเรียงข้อความเท่านั้น
หรือถ้าเป็นส่วน True / False ดูว่าเขาพูดตรงกับที่เขียนไว้ใน passage หรือไม่ ก็จะได้คะแนน
ข้อสอบส่วน True / False มีข้อควรระวังคือ ห้าม infer หรือตีความเพิ่มเติมจาก passage โดยเด็ดขาด
เช่นสมมติ passage บอกว่า การทดลองนี้เอาคลื่น 2 ความถี่ปล่อยไปในทะเล ปรากฏว่าคลื่นหนึ่งทำให้โลมาเกยตื้น อีกคลื่นหนึ่งไม่ส่งผลอะไร
แล้วข้อความบอกว่า "การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาว่าโลมาตายได้ด้วยคลื่นความถี่ใดบ้าง"
ต้องตอบ NOT GIVEN นะครับ ห้ามเดาเอาเองว่า "ก็มันเอาคลื่นมาเปรียบเทียบกันหนิ ก็คงใช่มั้ง" ห้ามเด็ดขาด
หนังสือที่แนะนำ คือหนังสือ official ของ IELTS เลยครับ หาซื้อได้ที่ร้าน kinokuniya เลยจ้า มีเยอะมาก 555
เครดิตจากเว็บ kinokuniya
สุดท้าย ข้อสอบ Reading นั้น ขึ้นอยู่กับการทำโจทย์ให้มากเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อสอบ Reading มันจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และทักษะที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในระหว่างการทำโจทย์
ขอให้ใครที่จะสอบ IELTS ได้ 7.5+ ทุกคนนะคร้าบบบ
ถ้า SAT ก็ 1400, 1500++ ไปเลยยย
โชคดีทุกคนครับ ขอบคุณฮะ =//=
10 ความคิดเห็น
เข้ามาคารวะครับ ตอนนี้ได้ IELTS 6 เอง อยากได้ 6.5 มาตายตรง Reading นี้แหละครับ T_T
ส่วน SAT ก็ตายตรง Reading เช่นกัน T_T นับว่ากระทู้นี้ช่วยชีวิตชาว SAT และ IELTS อย่างผมครับเลยครับบบบบบบ 5555555
ทำพาร์ทรีดดิ่ง SAT ไม่ทัน 10 กว่าข้อเลยค่ะ ที่บ้านก็จับเวลาตลอดเลย รบกวนช่วยแนะนำเรื่องการบริหารเวลาพาร์ทนี้หน่อยค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ// ปล. กระทู้ดีมั่กๆเลยค่ะ
สอบSATมาหลายรอบมากเลยค่ะ คะแนนreadingก็คงที่มากเลย ไม่ขึ้นไม่ลง5555 ขอเทคนิคบริหารเวลาหน่อยได้ไหมคะ ทำไม่เคยทันเลยค่ะ
ต้องทำ passage ที่ถนัดมาก ๆ ให้เสร็จอย่างรวดเร็วครับ (ไม่เกิน 10 นาที)
อย่างส่วนตัวจะทำ Social Sciences / Science ให้เสร็จก่อนอย่างเร็ว 3 passage ก็จะใช้เวลาประมาณ 20 - 25 นาที
แล้วเอาเวลามาบวกให้พวก Literature ที่จะใช้เวลาเยอะ (มาก) ครับ555
ขอบคุณที่เขียนบทความดีๆค่า
จขกท.สุดยอดมากเลยครับ ขอบคุณที่เขียนกระทู้ดีๆแบบนี้นะครับ
มีที่สอน ielts เค้าแนะนำมา enghubtutor ลองเสิจในกูเกิลดู
Facebook : Enghubtutor
line : @aaa6318u
Phone : 095-050-7095
สงสัยตรง passage แบบ They say, I say ที่ Erica เขียนในหนังสืออะครับ คือตรงที่ They say เราไม่ต้องสนใจก็ได้ แต่ให้เข้าใจตรง I say ที่คนเขียนต้องการจะบอกหรือนำเสนอใช่ไหมครับ
หมายความว่า SAT reading ควรอ่านทั้งแพจเสจแล้วค่อยตอบใช่มั้ยค่ะ
ติว IELTS SAT GED มี enghubtutor เค้าแนะนำมา ลองเสิจในกูเกิลดู
Facebook : Enghubtutor
line : @aaa6318u
Phone : 095-050-7095
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?