สมมุติว่านิยายได้ตีพิมพ์แล้วต่อมาลดราคาขายกองๆ กันเล่มละ 20,40 บาทจะรู้สึกยังไง
ตั้งกระทู้ใหม่
สนุกบ้างไม่สนุกบ้างปนกันไป
แต่พอนึกถึงความตั้งใจในการเขียนของนักเขียน แต่ละเรื่องคงเขียนไม่ใช่ง่ายๆ พอเห็นหนังสือที่ตัวเองตั้งใจเขียนเอามาลดราคาขาย (ดีไม่ดีคนไม่ซื้ออีก) จะรู้สึกยังไง เสียใจไหม หรือเขียนให้ดีกว่าเดิม หรือพอใจแล้วที่จะเขียนตามตลาดขอแค่ขายได้ราคาเท่าไหร่ก็ได้?
13 ความคิดเห็น
ถ้ามองในฐานะของคนอ่านก็คงจะมองว่าถูกดีอ่ะค่ะ แต่ถ้ามองในฐานะของคนเขียนก็คงจะรู้สึกจุกเล็กน้อยจนถึงปานกลาง
ฝนฟ้ากระจายเป็นหย่อมๆด้วย
ไม่เจ็บอะไร..ไปคุ้ยกระบะซื้อผลงานตัวเองในราคา shock sale สนุกๆ...
คงจุก อึ้งหน่อยๆเนอะ คือไม่มีประสบการณ์ ไม่เคยตีพิมพ์ไง 555
ก็ดีค่ะ
เราจะได้ซื้อหลายๆเล่ม
ยังดีกว่าไปซื้อหนังสือเล่มเดียวต้องเสียเงินไปหลายร้อยบาท
ในฐานะคนอ่านนี่เราเคยซื้อหนังสือแบบที่ว่าทีเดียวสองสามพันบาทเลยล่ะค่ะ แต่ที่น่าเศร้าก็คือจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้อ่านมันเลยสักเล่ม
เราอยากได้หลายเล่มมาก
แต่งบไม่พอซื้อ
ต้องซื้อแค่ 1-2 เล่ม ถ้านับรวมหนังสือที่ขายตามราคาปกขายไม่ถึง 100 บาท
ก็ปาไปประมาณหลายร้อยบาทแล้ว
เราเหมียนกัน ซื้อมาดอง...
เหตุผลหนึ่ง...ที่ไม่ทำหนังสือ...กลัวแบบนี้แหละ กลัวใจหาย ....
เคยเตรียมใจไว้นานแล้วค่ะ
ตั้งแต่เห็นนิยายแปล ที่จั่วหัวว่า Bestseller พ่วงด้วยคำว่าจากนักเขียนอันดับหนึ่งประเทศฝรั่งเศสวางขายบนแผงลดราคา "ทุกเล่ม50บาท" (ราคาเดิมคือ 200 กว่าๆ)
แล้วก็ยังมีนักเขียน Bestseller คนอื่นๆอีกที่เราเคยซื้อมาเล่มละแค่ 10-20บาท
เหมือนเห็นสัจธรรมชีวิตที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ได้
หันมาดูนักเขียนธรรมดาสามัญ ที่ยังอยู่ในซอกหลืบอย่างเรา ถ้าจะมีวันนั้นบ้างก็ไม่แปลกหรอก5555
พอเห็นตัวอย่างมาก่อนแบบนี้ ก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ
หนังสือถ้ามันเหลือขายไม่ออกมีสองทางคือลดราคา กับถูกร้านหนังสือฉีกทิ้ง จะเจ็บปวดกับทางไหนมากกว่าก็ไม่รู้สินะ...
มายกมือบอกว่าเราเป็นหนึ่งในนักเขียนที่เคยเจอประสบการ์ณนี้กับตัวค่ะ
แต่ของเรานานแล้ว เป็นนิยายแฟนตาซี ปีสองปีแรกที่ตีพิมพ์ยังลดไม่มาก(ราคาเล่มละ200 ปลายๆ) แต่พอปีหลังๆถ้ายังเจอในร้านคือจะลดราคาค่ะ แต่จะลดมากที่สุดในงานหนังสือ ขายรวมๆในกระบะของ สนพ. จากลด 50% นานไปก็ราคา 20 บาท หรือกระทั่ง 10 บาท ขายพ่วงๆกับหนังสือเล่มอื่นไป
แรกๆก็แอบเซ็งนะ แต่ก็คิดได้ว่ามันเป็นสัจธรรมที่ห้ามไม่ได้อ่ะ เหมือนการเกิดแล้วต้องแก่งี้ นิยายเล่มก็เหมือนกัน ยิ่งค้างในสต็อกนานราคาก็ต้องลดลงตามระยะเวลาอย่างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คือเป็นวัฎจักรของงานเขียนเลยก็ว่าได้ เรามองว่าตราบใดที่ยังมีคนซื้อเพิ่มเล่มหนึ่ง ถึงจะราคาถูกเหมือนของฟรี แต่ก็ยังเท่ากับมีคนอ่านนิยายเราเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง พอคิดแบบนี้ก็รู้สึกโอเคขึ้นค่ะ
นักเขียนรางวัลซีไรต์ของไทยคนนึงเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ประมาณหนังสือของเขาขายไม่ออก สนพ.ต้องเอามาลดราคาเหลือเล่มละ 50 บาท พอหนังสือหมดเกลี้ยงจากแผง ราคาพุ่งดันสูงขึ้นตามกลไกตลาด จนตอนนี้ซื้อขายกันเล่มละพัน เป็นคนเขียนคงพูดไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆ
เราเข้าใจความจำเป็นของ สนพ ค่ะว่าเค้าคงต้องการเอาทุนคืน
แต่อาจจะเพราะยังไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้เองก็เป็นได้ค่ะ เลยยัง
บอกไม่ได้ว่าเจอแล้วจะรู้สึกยังไง แต่คือแค่ได้เห็นเล่มเราก็ดีใจแล้วค่ะ
เห็นแล้วเจ็บค่ะ ;w;
สรุปโดยรวมคือจุกในใจแต่ทำอะไรมิได้สินะคะ
ในฐานะคนอ่าน วั๊ยตายแล้น นิยายถูก...กวาด ไม่สนุกยังบริจาคเข้าห้องสมุดตจว.ได้
ในฐานนะคนเขียน ก็ยังไม่เคยตีพิมพ์อ่ะนะ แต่คิดว่าถ้าตีพิมพ์กับสนพ. เราได้เงินมาแล้วที่เหลือสนพ.ก็แบกรับความเสี่ยงไป แต่ถ้าได้พิมพ์ซ้ำเราคงกระโดดตัวลอย ถ้าได้แปลไปตปท. นี่คงทะลุอวกาศ
แต่ ณ ตอนนี้คือฝันไป ลา ลา ลา
ถ้าตอนในฐานะนักเขียน คงไม่รู้สึกอะไรนะคะ เคารพการตัดสินใจของสนพ. คือ เราก็รักงานตัวเองนั่นแหละ แต่จุดหนึ่งที่สนพ. มองว่าควรระบายงานเราออก ก็ไม่เป็นไร เพราะตอนเช่าต้นฉบับก็ได้รับค่าตอบแทนสมมูลค่าความคิดอยู่แล้ว
ในฐานะนักอ่าน คิดว่าถูกดีแค่นั้นอะค่ะ ซื้อมาไม่ชอบก็บริจาคไม่รู้สึกอะไรมากนัก แต่เจอหนังสือที่ตัวเองซื้อมาราคาเต็ม แล้วเจอลดก็หลังหักอะค่ะ 55
mirahaircenter.com
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?