[กระทู้ปรึกษา] แม่บังคับให้เลิกเรียน และกลับไปอยู่บ้าน รู้สึกไม่อยากกลับบ้านเลยทำอย่างไรดี
ตั้งกระทู้ใหม่
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เปิดเทอมมา แม้ว่าจะเป็นคณะที่เราไม่ชอบ เตรียมจะซิ่ว เราจะซิ่วไปสัตวแพทย์ ซึ่งในคณะเรามีคนจะซิ่วเยอะมากๆ เราได้ไปติวหนังสือกับเพื่อนๆในเอก และได้อ่านหนังสือเอง ได้กำลังใจจากเพื่อนๆ แต่คะแนนมิดเทอมของคณะออกมาไม่ดีเท่าไร เพราะเราไม่ถนัดงานของคณะเลยเพราะพ่อแม่เราบังคับ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่เราโทรหาเราบ่อยมากๆ แบบแม่เราอยู่บ้านคนเดียว แต่ท่านเป็นคนเจ้าอารมณ์ และขอร้องให้เราเลิกเรียนตลอดเลยๆ เพราะมหาลัยอยู่ไกลบ้าน และเราบอกว่าเรายังอยากเรียนต่อเพราะมีเพื่อนดีสังคมดีได้ไปอ่านหนังสือกับเพื่อนๆ
เราก็เลยตัดสินใจไหนๆเป็นคณะที่เราไม่ชอบและจะซิ่วแล้ว +กับแม่ไม่พอใจที่มหาลัยไกลบ้าน เราก็เลยยอมไปดรอปเรียนพักการเรียนไว้ก่อน ทั้งๆที่เราเองก็เสียดายเหมือนกัน เพราะมหาลัยเป็นมหาลัยที่ดีมาก แต่ติดที่ว่าเราไม่ถนัดวิชาของคณะเลย
ประเด็นก็คือ ที่เราไม่อยากกลับบ้านนะคะ ถ้าลองไปอ่านกระทู้เก่าๆเราดูจะรู้ว่าแต่ก่อน เราอยู่กับ2คนนะคะ แต่เราเข้ากับแม่ไม่ได้เลย แม่เราบังคับเรามาตลอดแม้กระทั้งเรื่องนี้บังคับให้เราเลิกเรียนเพื่อกลับมาอยู่ใกล้ๆแม่ บังคับเรื่องเรียน ทรงผม การแต่งตัว แต่เราไม่เคยออกนอกทางเลย ไม่ชอบเที่ยว มีแต่อ่านหนังสือ
แม่เราจะเจ้าอารมณ์มาก ถ้าไม่พอใจก็จะขวางปาข้าวของจนเพื่อนบ้านออกมาดู ชอบหยิกทำร้ายร่างกาย ถ้าเราเตือนเขา มีครั้งหนึ่งแม่เราแซงคิว เราบอกว่าแม่ไปต่อแถวดีๆนะ แม่ตบหน้าเราตรงนั้นเลย เราเองก็เป็นเด็กซิ่วแล้ว แม่เราก็ชอบพูดแซะพูดบั่นทอน แบบด่าเราว่าโง่บ้าง คำหยาบๆคายๆมากมาย แม่ด่าว่าเราอกตัญญูเพราะไม่เรียนมหาลัยใกล้บ้าน
อันที่จริง เราเลือกเรียนไกลบ้านและไม่อยากอยู่บ้านเพราะรู้สึกไม่สบายใจ กับพฤติกรรมของแม่ เราไม่ได้ไม่รักแม่นะคะ เรารักเขา แต่ไม่อยากทะเลาะกับเขา ไม่อยากฟังคำพูดที่มันแย่ๆอ่ะค่ะ เราเคยเปิดใจกับเขาแล้ว อย่างที่บอก แม่เราไม่ยอมรับ และอารมณ์เสียหนักมาก แบบไม่พอใจอ่ะค่ะ เราไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว เราก็เลยเลือก ที่จะอยู่คนละทิศ แต่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ ดีกว่าเพราะเวลาเจอคำพูดแย่ๆเราก็เลือกที่จะวางสายได้
อย่าว่าเราอกตัญญูเลยนะคะเพราะเราเครียดมาก
เราควรจะทำอย่างไรดีคะ เราอยากอยู่กทม.ต่อไม่ใช่จะหลงหรืออะไรนะคะ เพราะไม่อยากเจอความเจ้าอารมณ์ของแม่อ่ะค่ะ
3 ความคิดเห็น
เรื่องแบบนี้มันต้องเลือกแล้วก็เด็ดขาด
คุณต้องทำตามคำสั่งของแม่เพราะยังต้องขอเงินจากเขาใช่ไหม ถ้าใช่ เราจะแนะนำให้คุณกลับไปอยู่บ้าน และวิธีจัดการกับอารมณ์ของแม่คุณ ก็อย่าทำให้เขาโกรธ อะไรที่ทำให้เขาไม่พอใจอย่าไปทำ แค่นั้นแหละ
แต่ถ้าคุณเลือกว่าทนอารมณ์แม่ไม่ได้แล้ว ก็ต้องตัดให้ขาด อย่าโทรไปหา อย่ารับสายเขา อย่ารับเงินเขาด้วย มีชีวิตอยู่ด้วยตัวเองให้ได้
แม่ก็คนแหละค่ะ แม่บางคนก็คิดว่าฉันหาเงินมาเลี้ยงลูก ลูกคือสมบัติของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ ลูกต้องอยู่กับฉัน ต้องเลี้ยงดูฉันตอนที่ฉันแก่ มันก็ปกติของชีวิต แต่ถ้าคุณทนไม่ได้ก็ต้องไป สำหรับเราไม่ได้เรียกว่าอกตัญญู แต่คนเราทุกคนล้วนต้องมีชีวิตของตัวเอง
ผมว่าไม่ใช่ละ..คนเป็นพ่อเป็นแม่ทำลูกเกิดขึ้นมาก็ต้องมีความรับผิดชอบเลีเยงดูส่งเสียให้มีความรู้เพื่อสามารถเลี้ยงตัวเองและเป็นคนดีของสังคมได้...พ่อแม่ไม่ได้อยู่กับลูกตลอดไปนะ..สักวันก็ต้องตายแล้วลูกจะอยู่กับความทุกข์เพราะทำในสิ่งที่ไม่ชอบได้เหรอ?..ก็จะแนะนำผมว่าเปิดโลกกว้างๆหน่อย..ลูกไม่ใช่ทรัพย์สมบัติของพ่อแม่ครับ..
สิ่งที่คุณเขียนมามันคืออุดมคติค่ะ แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น และเราก็เขียนไว้ว่า 'แม่บางคน' ถ้าคนเป็น 'พ่อแม่' เป็น 'พ่อแม่ที่ดี' ทุกคน ประเทศไทยและโลกใบนี้คงไม่มีปัญหาครอบครัว
หวังว่าคุณจะเข้าใจสิ่งที่เราเขียนนะคะ
พี่ลองให้อีก 1 ทางเลือกนะ เจอปัญหาคล้ายๆกัน
ถ้าซิวแล้ว จะไปเรียนทางที่ชอบพี่สนับสนุนนะ มันเป็นการฮีลตัวเองได้ดีเวลาที่เราทำในสิ่งที่เราชอบ ส่วนเรื่องกลับไปอยู่บ้าน ถ้าไม่อยากกลับ ลองดู ขอแม่อยู่หอ (ของพี่ใช้วิธีเก็บตังไปจองหอเอาเอง ได้ที่แล้วค่อยบอกตอนย้าย กลายเป็นแม่พี่มาช่วยดูของอะไรขาดเหลือดูให้หมด) (ตอนแรกพี่ก็ขอแต่ไม่ให้เด็ดขาด55) ในมอแถวบ้านน้องน่าจะมี ปัญหามันลดลงเวลาเราอยู่ห่างๆกันจริง แต่น้องต้องทำให้แม่เห็นว่าอยู่แล้วเป็นไง ถ้านอนหอ จัดสรรอะไรเรียบร้อยแล้วลองพาแม่น้องมาดูว่าเราอยู่ยังไงแบบไหน เดี๋ยวนี้ช่องทางสื่อสารเยอะมาก ถ้าแม่น้องคุยโทรสับแล้วยังว่า ลองให้ท่านเล่นเฟส เล่นไลน์ เชื่อพี่เถอะ ถึงท่านไม่เม้นไม่ไลค์ แต่ตามอ่านทุกโพส (พี่เคยเจอมาแล้ว55 แม่พี่มีทุกอย่างที่พี่เล่นเพื่อฟอลพี่โดยเฉพาะ) สิ่งที่แม่น้องทำให้เพราะท่านห่วง ยิ่งลูกผู้หญิงยิ่งห่วง ถ้าเราทำให้ท่านเห็นว่า เราดูแลตัวเองได้ในระดับนึงนะ คิดถึงโทรตาม ก็กลับ้านมาหาท่านมั้ง เผื่อจะได้เปลี่ยนบทสนทนาจากด่า มาถามเรื่องนู่น เรื่องนี่แทน ลองดูนะ สู้ๆ
คุณจขกทลองพยายามขอทุนเรียน และ ทำงาน
พิเศษ ดำรงหาเลี้ยงชีพและเก็บเงินไปด้วยในตัว
จะดีกว่าไมครับ
เชื่อเถอะ แม่คุณเคยดือกับย่ามาก่อน ประเภท
ยอมหัก ไม่ยอมงอ เท่าที่คุณเล่านิสัยใจคอมา
พอบงบอก
นิสัยพฤติกรรม ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร คุณจขกท
ควรต้องพึงตนเอง แล้วละ ผมเคยดูชีวประวัติ
ของคุณวิกรม
คุณวิกรม เขาเป็นคนนิสัยดีมาก แต่นิสัยของเขา
คล้ายพ่อ เจ้าตัวเสนอจากบทบาท แบบนั้น แต่
เขาก็ดูแล ครอบครัว เท่าที่ทำได้
แม่ของคุณจขกทลักษณะคล้าย คุณพ่อของคุณ
วิกรมเลย อย่างแรกก็ทำตามข้างต้น อย่างที่ผม
บอกคุณ นั้นแหลาะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?