Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Creepypasta​ : ฆาตกร​แห่งเสียง​ 'Hibiki​'

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดี​ค่ะ.. คือนี้เป็นกระทู้แรกของเราและ.. 
เราอยากจะมาแชร์ตำนานเมืองที่เราไปเจอมาค่ะ.. เกริ่นก่อนว่าเรามีเพื่อนเป็นคนอเมริกัน​คนหนึ่ง.. แกชอบเรื่องลึกลับมากและมีเรื่องหนึ่งที่สนุกแต่น้อยคนนักจะพูดถึง.. คุยกันไปคุยกันมาเราก็ได้ลองอ่านดูค่ะ.. พอแปลออกมาแล้วรู้สึกชอบมากเลยอยากให้ทุกคนได้อ่านด้วยกันหน่อย..

**บอกเลยว่าส่วนตัวชอบญี่ปุ่น​มาก.. ติดใจตรงชื่อน้องมากเลยค่ะ.. ดูขลังยังไงไม่ร​ู้ฮืออ

ขอบคุณ​ : Miguel Oliver ด้วยนะคะที่ยำข้อมูลดีๆมาให้

ตอนนี้เราแปลออกมาได้แค่​ 3 ตอนค่ะ​ ยังไงเรียบเรียงภาษาแปลกๆก็ขอโทษ​ด้วยนะคะ​ เราพยายาม​ใช้คำสวยๆให้ไม่น่าเบื่อดู​... 

Creepypasta​ คือตำนานเมืองสุดหลอนที่แม้แต่คุณยังต้องขนลุก.. คุณคงรู้จักเจฟเดอะคิลเลอร์​ สเลนเดอร์แมนด์.. หรือตำนานที่โด่งดัง.. แต่คุณคิดหรือ..? ว่า​ Creepypasta ที่น่ากลัวแบบนั้นจะไม่มีอยู่อีก..? 

ลองมาดูเรื่องราวอีกซักเรื่องที่จะทำให้คุณขนหัว​ลุก​ไม่แพ้กัน.. 

"รวมคดีสุดหลอนของ​ Hibiki" 



แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

Akai-Sama 20 พ.ย. 61 เวลา 17:52 น. 1

รวมคดีสุดหลอนของ​ hibiki




1.ไม่มีใครได้ยินเสียงของฉัน

เมื่อวันที่​ 24​ พฤศจิกายน​ สำนักงานข่าวในรัฐแห่งหนึ่งของอเมริกาได้รายงานว่า.. มีการฆาตกรรม​สุดสยองเกิดขึ้นแถวๆถนนXXX ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์​เล่าว่า.. ขณะที่​เจฟ(นามสกุล)​ขับรถจักรยานยนต์​มากับเพื่อนอีก​ 2 คนโดยที่มี​ 1 คนขี่นำหน้าไปก่อนส่วนเจฟและเพื่อนอีกคนหนึ่งขี่ตามหลัง..


ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ​ 5 ทุ่มเกือบจะเที่ยงคืน.. พวกเขาเพิ่งกลับจากปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนอีกคนหนึ่ง..ระหว่าง​ทางกลับบ้านสองข้างทางก็เป็นฟาร์มที่ไร้ผู้คนอาศัย​ จะมีก็แต่ไก่หรือนกที่อยู่แถวนั้นเท่านั้น.. ขณะที่​ขับรถจักรยานยนต์​กันไปได้ซักพัก.. เจฟก็เห็นว่าจู่ๆหัวของคนที่ขับรถนำหน้าก็หลุดออกจากบ่า.. มันทำให้เขาต้องเบรกรถกระทัน​หัน​และดูตกอกตกใจ​เป็นอย่างมาก.. เพื่อนอีกคนที่นั่งด้านหลังเองก็ทำหน้างงๆก่อนที่จะชะโงก​หน้าออกมาดู.. และก็มีอาการ​ไม่ต่างกัน..


เจฟเล่าว่า.. ขณะที่​เขาจอดรถแล้ววิ่งไปดูเพื่อนคนนั้น.. สภาพที่เห็นก็ทำเอาเขาแทบอ้วก.. มันมีลวดขึงอยู่ระหว่างต้นไม้สองต้นที่ตัดถนนไป.. และเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นเหยื่อรายแรกของเส้นลวดนั้นเสียด้วย.. เพื่อนอีกคนของเจฟที่มีสติก็รีบโทรศัพท์​แจ้งเจ้าหน้าที่​ตำรวจทันที.. เจ้าหน้าที่รับสายและบอกว่าพวกเขาจะไปยังจุดเกิดเหตุ​ให้เร็วที่สุด.. ในขณะเดียวกัน​ทางเจฟเองก็ร้อนรนเช่นกัน..


ใครกันนะเป็นคนทำ…?

เขาทำไปเพื่ออะไร..?

มันคือความน่ากลัวอย่างหนึ่งที่เจฟมองไม่เห็นตัวผู้ก่อการอุกอาจ​เช่นนี้​ ทำให้เขาและเพื่อนต่างรู้สึก​หวาดระแวง​ไม่ต่างกัน.. ในขณะนั้น.. เจฟก็เหลือบไปเห็นคนคนหนึ่งยืนมองพวกเขาอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีลวดขึงอยู่..

ลักษณะ​คือเป็นผู้ชายที่ตัวค่อนข้างเล็ก(สำห​รับ​มาตรฐาน​ผู้ชายยุโรป)​สูงประมาณ​ 170​ กว่าๆ​ ผมของเขาเป็นผมยาวถึงต้นคอสีดำ​ ที่ดูออกว่าเป็นผู้ชายคงเพราะรูปร่าง​ ใส่เสื้อเชิ้ต​สีขาวและยัดชายเสื้อไว้ในกางเกงสีดำ​ มองไม่เห็นหน้าเพราะมีหน้ากากสีขาวปิดหน้าไว้.. ตรงหน้ากากมีลายอะไรบางอย่างที่เจฟมองไม่ชัด.. แต่ชัดที่สุดคือตัวอักษร​ภาษาญี่ปุ่น​ตัวใหญ่ที่เขียนในแนวตั้งว่า​ 響き แล้วมีตัวอักษร​ตัวเล็กเขียนในแนวเดียวกันว่า Hibiki​

ในแวบแรกที่เจฟรู้สึกคือ.. สายตาที่จ้องมองผ่านหน้ากากด้วยความว่างเปล่า..เขายืนอยู่อย่างนั้น..ไม่ขยับไปไหน..เจฟเรียกให้เพื่อนหันไปมองซึ่งเพื่อนของเขาเองก็เห็นเหมือนกัน.. Hibiki​ เริ่มก้าวเดินออกมาจากใต้ร่มไม้.. เขาใช้มือที่มีถุงมือสีขาวลูบไปตามเส้นลวดจนเดินมาถุงจุดที่มีเลือดเนื้อของเพื่อนอีกคนของเจฟห้อยอยู่.. Hibiki​ ยืนอยู่ห่างจากเราประมาณ​ 70 เมตรได้.​. นับได้ว่าใกล้มากและอันตราย​มากหาก​เขาคือคนที่ก่อการฆาตกรรม​ครั้งนี้.. จู่ๆ​ Hibiki ก็พูดงึมงัมออกมาเบาๆเป็น​ภาษาอังกฤษ​ว่า..

“ไม่มีใครได้ยินเสียงของฉัน.. ไม่มีใครฟังฉัน.. ไม่มีใครต้องการฟังฉัน”

เจฟรู้สึกงงงวยกับเหตุดังกล่าว.. พวกเขาไม่กล้าแม้จะขยับออกไปจากจุดที่ตนเองอยู่.. แรงกดดัน​ตอนนั้นมันทำให้เจฟและเพื่อนรู้สึกกลัวคนตรงหน้าเอามากๆ..

เหมือนโชคดีในโชคร้าย.. ไฟหน้ารถและเสียงไซเรน​ของรถตำรวจสาดมาที่ด้านหลังของ​ Hibiki​ เขาหันควับกลับไปมองก่อนที่จะรีบเดินกลับเข้าไปในป่าที่เดิม.. ตำรวจลงมาจากรถ.. เจฟเล่าเหตุการณ์​ที่เกิด​ขึ้นให้ฟัง..ทำให้​ตำรวจต่างรีบออกตามหารอบๆบริเวณ​ป่านั้น.. พบรอยเท้าแต่ก็ไม่สามารถ​ระบุอะไรได้ไปมากกว่านั้น..ทำให้คดีนี้ไม่มีการคืบหน้าใดๆ.. เหตุการณ์​นี้เองทำให้​ผู้คนระแวกนั้นรู้สึก​หวาดผวาไม่น้อย..

แต่เขาทำไปเพื่ออะไรกันนะ..? จนทุกวันนี้เจฟก็ยังหาคำตอบให้กับคำพูดนั้นไม่ได้อยู่ดี

....
0
Akai-Sama 20 พ.ย. 61 เวลา 17:57 น. 2

2.ข้างนอกมีเสียง..


นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในระแวกบ้านของชายคนหนึ่ง.. ขอให้นามสมมุติ​ว่า​ 'โอมี่' วันนี้โอมี่ต้องอยู่ที่บ้านเพียงลำพังเพราะพ่อของเขาต้องทำงานกะดึกกระทันหัน.. โอมี่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขกในช่วง​ 5 ทุ่ม.. รายการวาไรตี้​ไม่ได้ทำให้โอมี่รู้สึกสนใจมันนัก.. ทำให้เขาเผลอหลับไปทันทีหลังจากมันเล่นไปได้เพียงแค่​ 15​ นาที..


โอมี่​ตื่นขึ้นมาอีกที.. รายการ​ในโทรทัศน์​ก็กลายเป็นเพียงคลื่นสัญญาณ​ซ่าๆที่ส่งเสียงหนักหูเท่านั้น.. โอมี่ลุกขึ้นไปปิด.. เหลือบมองนาฬิกา​ตอนนี้เองก็บ่งบอกเวลาตี​ 2 : 4 นาที​ โอมี่คิดว่าตัวเขาเองควรขึ้นไปนอนได้แล้วแต่ทว่ายังไม่ทันจะก้าวขึ้นบันได​ สายตาเจ้ากรรมก็เหลือบไปเห็นบางอย่าง​อยู่นอกหน้าต่าง.. แม้เขาจะขยี้ตาดูอีกทีแต่ร่างนั้นก็ยังไม่หายไป.. มันหันหลังพิงกระจกที่ไร้ผ้าม่านปิดบัง.. หายใจแรงจนไหล่กระเพื่อ​มขึ้นลงเร็วๆ.. โอมี่เริ่มรู้สึกไม่ดี.. จะแจ้งตำรวจเลยก็ใช่ที่.. เขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ..


ยังไงยังไงเสีย.. ตัวเขาก็ปลอดภัย​หากยังอยู่ในบ้านหลังนี้.. แต่ทว่าทันทีที่โอมี่เดินเข้าไปใกล้.. ร่างนั้นก็หันควับกลับมาก่อนที่มันจะรีบหลบไปอีกทาง..โอมี่ได้แต่ยืนนิ่งเพราะสิ่งที่มันฝากไว้บนหน้าต่างคือรอยเลือดที่เป็นรูปมือดูน่ากลัว.. โอมี่ไม่รีรอที่จะโทรแจ้งตำรวจอีกแล้ว.. แต่ยังไม่ทันที่ตำรวจจะรับสาย​ เจ้าของร่างเดิมก็กลับมายืนที่หน้าต่าง.. แต่ตอนนี้ร่างนั้นกลับหันหน้ามามองที่โอมี่.. โอมี่ตกใจกับหน้ากากสีขาวที่เปื้อนเลือดนั่น.. คราบเลือดมันเลอะช่วงแก้มด้านขวาปิดตัวหนังสือใหญ่ๆสีดำจนเกือบมิด..


เจ้าของร่างนั้นยกมือขึ้น.. ทุบกระจกของเขาเบาๆเมื่อเห็นว่าเขาถือหูโทรศัพท์​อยู่.. โอมี่ตัวสั่น.. และพอปลายสายรับ..โอมี่ก็พูดจาไม่เป็นภาษาอยู่พักใหญ่.. ดวงตาจ้องไปยังคนที่ยืนทุบกระจกและจ้องเข้ามาอย่างร้อนรน.. พอบอกที่อยู่กับตำรวจไป.. ทางนั้นก็รับปากว่าจะรีบมา.. และจะถือสายรอเป็นเพื่อน..

โอมี่กลัวมาก.. แต่ก็ไม่กล้าขึ้นไปข้างบนเพราะกลัวว่าหากเขาขึ้นไปแล้วคนข้างนอกจะพังประตูเข้ามา.. เหมือนเจ้านั้นจะรู้ตัว.. มันยกมือขึ้นเช็ดเลือดออกจนเห็นตัวอักษร​ภาษาอังกฤษ​สั้นๆที่เขียนว่า​ ‘HIBIKI’ โอมี่ทำอะไรไม่​ถูก.. เขากลัวมากกับเหตุการณ์​ที่เกิดขึ้น..


เจ้าของหน้ากากสีขาวค่อยๆถอยออกห่างจากหน้าต่างช้าๆ.. ก่อนที่จะหายลับไป.. ทิ้งไว้เพียงแค่รอยเลือดที่ติดกับกระจกนั่น..

ตำรวจมาถึงในเวลาไม่นาน.. เขาสอบถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งโอมี่ก็พร้อมจะเอ่ยเล่าทุกอย่างให้ฟังทันที.. เมื่อพวกเขาได้ฟังก็ถึงกับอุทานออกมา..


“คนที่คุณพบใส่หน้ากากสีขาวใช่ไหม..?”


“ใช่”


“อ๋อ.. นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคน​เห็น​ Hibiki และเกิดเหตุเช่น​นี้ขึ้น.. ตำรวจพยายาม​สืบคดีทุกอย่างแล้วแต่ทว่ากลับไม่พบเบาะแสใดๆเลย..”


“แล้วเขาไปรึยังครับ..?” โอมี่ถามด้วยความหวาดผวา..


“เราสำรวจดูรอบๆก็ไม่เห็นแล้ว.. ผมว่าเขาไม่ใช่ผี.. เขาอาจจะเป็นแค่คนที่ป่วยทางจิตก็ได้”


ถึงแม้ตำรวจจะพูดเช่นนั้น..

แต่โอมี่ก็พร้อมจะสัญญา​กับตัวเองว่าเขาจะไม่ยอมอยู่บ้านคนเดียวอีกตลอดชีวิต..


..

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Akai-Sama 20 พ.ย. 61 เวลา 18:04 น. 4

เกิดจากการที่กำลังนั่งโซ่ยบะหมี่แล้วเลื่อนไปเห็นเข้า..


Extra : ความวิปริต​ของผู้ดี

(เรื่องแต่งของแฟนเมดชาวสวีเดน​ : RezyJ


Hibiki เป็นทาสชาวญี่ปุ่น​ที่ถูกผู้ดีอังกฤษ​ซื้อมาจากชาวอเมริกัน​เมื่อสมัย​ 240​ ปีที่แล้ว​


ชื่อเดิมของ​ Hibiki ไม่มีใครรู้​ รู้เพียงแต่ว่าเขาถูกซื้กอมาด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ดีอังกฤษ​คนนั้นเป็นคนเบี่ยงเบน​ทางเพศ​ก็คือ​รักและชอบพอกับเพศเดียวกันเอง​


ในคฤหาสน์​ของผู้ดีคนนั้นจะมีห้องไว้สำห​รับ​ทาสผู้ชายที่เขาประมูลหรือซื้อมาเป็นห้องๆซึ่งชาวบ้านแถวนั้นรู้กันดีแต่ทว่าไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย..


Hibiki​ คือคนสุดท้ายที่ผู้ดีอังกฤษ​คนนั้นซื้อเข้ามา.. และนับจากนั้นเขาก็ไม่ได้ซื้อใครเข้ามาอีกเลย.. ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น.. Hibiki ชอบใส่เสื้อเชิ้ต​สีขาวและกางเกงขายาวสีดำ.. ติดจี้ห้อยตรงอกข้างซ้ายและยัดเสื้อเข้าไปในกางเกง..


ทุกวันชาวบ้่านจะเห็น Hibiki ยืนอยู่ชั้นบนของคฤหาสน์.. เขาจะมองลงมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยและไร้อารมณ์​ใดๆ​..


ผ่านไปเพียงแค่​ 2 สัปดาห์​ก็มีทาสคนหนึ่งหลุดออกมาจากที่คุมขัง​ เขาดูร้อนรนและหวาดกลัวอะไรบางอย่าง.. สอบถามไปมาจึงได้ความว่า..จู่ๆผู้ดีคนนั้นก็คุ้มคลั่ง​เพราะหาตัว Hibiki ไม่เจอเลยเที่ยวไล่ฆ่าทุกคนในคฤหาสน์​อย่างไร้เหตุผล..


ชาวบ้านจึงพากันบุกเข้าไปด้านใน.. ก็พบเข้ากับศพของผู้ดีอังกฤษ​คนนั้นในสภาพศพถูกแก้ผ้าและขวานคอกับลวดเหล็ก.. เพราะน้ำหนักกดทับทำให้ลวดนั้นเฉือนคอของเขาจนมันแทบจะขาดออกจากกัน.. แต่ยังมีกระดูกคอคั่นไว้เลยทำให้ตัวของเขาห้อยอยู่แบบนั้น..


ทุกคนพยายาม​มองหาชายที่ชื่อ​ Hibiki และก็พบเขานั่งอ่านหนังสือ​อยู่​หน้าเตาผิงราวกับ​ไม่มีอะไรเกิดขึ้น.. จากเหตุการณ์​นั้น​ Hibiki ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกซาตานไปโดยปริยาย.. เขาถูกจับขังไว้เพื่อรอวันประหาร..


แต่เมื่อวันประหารมาถึง​ Hibiki กลับหายตัวไป.. ทิ้งไว้เพียงแค่ศพของผู้คุม​ 2 คนที่โดนตัดศีรษะ​ด้วยหอกของตนเองเท่านั้น…

หลังจาก​เหตุการณ์​วันนั้น..


ชาวบ้านที่เคยกล่าวหา​ Hibiki ทุกคนก็ถูกฆ่ากันหมด.. โดยที่ไม่มีใครสามารถ​จับฆาตกร​คนนั้นได้เลย


..

0
ชนุ่น 21 พ.ย. 61 เวลา 17:42 น. 5

ผมว่าน่าสนใจดีครับ ลองรวบรวมเป็นเรื่องสั้นดูมั้ยครับ จะได้คนหาง่าย ไม่สูญหายด้วย

1
Akai-Sama 21 พ.ย. 61 เวลา 20:24 น. 5-1

ขอบ​คุณ​ค่ะ.. เราเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันแต่ไม่แน่ใจจะมีคนอ่านไหมน่ะค่ะ​ เลยว่าจะแปลใ้หลายๆตอนก่อนแล้วค่อยรวมเป็นนิยายเรื่องยาวเลย0**0

0