รีวิวแชมพูขจัดรังแค VS แชมพูยาขจัดรังแค ควรใช้แบบไหนดี
ปัจจุบันนี้หลายคนเป็นรังแคกันเยอะมาก เพราะไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตเปลี่ยน และอากาศที่ร้อนขึ้น
ที่นี้เรามาดูกันก่อนดีกว่า ว่าสาเหตุหลักๆในการเกิดรังแคมีอะไรบ้าง
1.หนังศีรษะมัน
2. มีเชื้อราบนหนังศีรษะ
3. ปัจจัยอื่นเช่น มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกาย, มีความเครียด
สำหรับคนที่มีปัญหารังแคจะมีสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ใช้กับหนังศีรษะเลย หลักจะมีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน
1. ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ถ้าจะใช้ ควรเลือกเป็นสารกลุ่ม Amino acid แทน
2. ต้องใช้ผลิตภัณฑ์แบบ Silicone freeและต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ให้หนังศีรษะไม่แห้งคันด้วย
สำหรับปาล์มตอนนี้ใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดรังแคอยู่ 2 ตัวด้วยกัน นั่นคือ
1. Clear Sakura Fresh ซึ่งเป็นแชมพูขจัดรังแค
2.Nizoral Ketoconazole 2% ซึ่งเป็นแชมพูยา
สำหรับข้อดี ข้อเสียของแชมพู 2 แบบนี้ จะเป็นไปตามนี้เลยค้าบ
เริ่มที่บรรจุภัณฑ์
- ของ Nizoralจะมาในขวดแบน ฝาเป็นฝา Flip แบบแชมพูทั่วไป ใช้กะปริมาณในการเทได้ดี
- ของ Clear มาในขวดป้อมๆจับถนัดมือ 555 และที่สำคัญคือ ฝาเปิดแบบใหม่ ฝาสไลด์แค่ดันขึ้นก็เปิดแล้วจ้า
อลังการมากเปิดสะดวก ไม่ต้องใช้เล็บแงะ เหมาะมากกับสาวๆที่ต่อเล็บมา
สารสกัด
- ของ Clear เขามีสารกลุ่ม Pyrithioneช่วยขจัดรังแค และลดอาการคัน
ที่พีคคือ เขาเอาส่วนผสมจาก Skin care มาใส่ในแชมพูด้วยจ้า ส่วนผสมที่ว่านั้นก็คือ Niacinamindและ Amino acid
2 ตัวนี้จะช่วยบำรุงให้หนังศีรษะแข็งแรง และไม่กลับมาเป็นรังแคซ้ำอีก
-ของ Nizoral จะมีสารสกัดหลักคือตัวยา Ketoconazole 2% ส่วนสารสกัดที่ช่วยบำรุงจะไม่มี จะเน้นไปทางยารักษาเชื้อราซึ่งเป็นสาเหตุของรังแคโดยเฉพาะ
วิธีใช้
-ของ Clear สามารถใช้สระได้ทุกวัน
-ของ Nizoral ใช้แค่อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 2-4 สัปดาห์ หลังรังแคหายแล้วใช้อาทิตย์เว้นอาทิตย์
ทั้ง 2 ตัวปาล์มจะใช้สระแล้วทิ้งไว้บนหนังศีรษะประมาณ 3-5 นาที ระหว่างรอก็นวดไปด้วย
ที่ต้องทิ้งไว้เพื่อให้สารสกัดต่างๆทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความรู้สึกหลังใช้
-ของ Clear ใช้แล้วรู้สึกสะอาด หนังศีรษะไม่แห้ง ผมไม่แห้ง หลังใช้ 3-4 ครั้งปัญหารังแคแบบแผ่นเล็กหายไปเลย
ที่ชอบของตัวนี้คือ กลิ่นหอม ปาล์มใช้เป็นสูตรซากุระเฟรช จะผสมซากุระเอสเซนส์ ให้กลิ่นหอมติดทนมาก
สระตอนเช้า ออกไปทำงาน เย็นไปเล่นฟิตเนสเสร็จกลิ่นยังหอมอ่อนๆอยู่เลย
-ของ Nizoral หลังสระแล้วรู้สึกสะอาดมากกกกกกกก หลังสระครั้งแรกอาการคันลดลงไปเกือบ 80%
ปัญหาหนังศีรษะมันก็ลงลดไปเกือบ 50% แต่มันทำให้ผมแข็ง และแห้งมาก
ถ้าสระตัวนี้แล้วไม่ลงครีมนวดต่อ จะไม่สามารถใช้หวีสางผมได้เลย มันติดสุดๆ 555
แถมอีกอย่างที่ไม่ค่อยปลื้มคือ กลิ่น มันเป็นกลิ่นยา แถมกลิ่นติดผมดีมาก ใช้แล้วเพื่อนจับได้เลยว่าเป็นรังแคอีกแล้ว
สรุปเลย
สำหรับคนที่มีปัญหารังแคหนักๆ และต้องการการรักษาแบบเร่งด่วน ให้ใช้แชมพูยามันจะช่วยรักษาอาการได้ดีมาก
ส่วนใครที่เพิ่งเริ่มเป็น และไม่อยากให้อาการลุกลาม ให้ใช้แชมพูขจัดรังแค
นอกจากนี้คนที่มีปัญหาหนังศีรษะมันอย่างปาล์มก็เหมาะกับการใช้แชมพูขจัดรังแค
เพราะมันช่วยลดความมันบนหนังศีรษะได้ดีหากใช้ต่อเนื่อง
แชมพูยาจะไม่สามารถใช้ติดต่อกันได้ทุกวัน แต่แชมพูขจัดรังแคสามารถใช้ติดต่อกันได้เรื่อยๆเลย
เพราะฉะนั้นใครที่มีปัญหาหนังศีรษะมัน และเริ่มเป็นรังแค ให้รีบหาแชมพูขจัดรัง-าใช้ด่วนๆ
อย่าให้อาการลุกลามไปมาก จนต้องใช้แชมพูยาเลยนะคะเพราะแชมพูยามันทำให้ผมแห้ง แข็งจริงๆ 555
วันนี้ปาล์มต้องขอตัวลาไปก่อนนะคะ บ๊ายบายค่ะ
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณมากค่า ได้ความรู้มากเลย
สอบถามนิดนึงนะคะ สามารใช้สองตัวนี้สลับกันได้มั้ยเอ่ย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?