ทำไมสื่อมักจะเปิดกว้างเรื่องแนวฆ่าฟันแบบเลือดสาดมากกว่าแนวโป๊เปลือย
ตั้งกระทู้ใหม่
เลยสงสัยตามหัวข้อครับ
7 ความคิดเห็น
สนับสนุนให้คนฆ่ากันมากกว่าให้คนมามีเอสอีเอกซ์กันล่ะมั้งครับ
สงสัยกลัวคนล้นโลก555+
อยู่ที่การจำกัดเรตติ้งของพื้นที่ประเทศที่สื่อนั้นเผยแพร่ค่ะ เช่นประเทศไทยเราจะเห็นปัญหานี้บ่อยมากเลย ในขณะที่เราเซนเซอร์นมชิซูกะ แต่ยังให้การ์ตูนที่มีฉากฆ่ากันจัดอยู่ในเรตติ้งทั่วไป ทั้งที่ต่อให้เป็นการ์ตูน แต่ในเรื่องความรุนแรงจัดอยู่ในเรต ฉ กันแล้วค่ะ สังเกตจากพวกเว็บสตรีมมิ่งต่างชาติก็ได้ เราจะเห็นตัวอย่างการจัดเรตติ่งที่ไม่ย้อนแย้งแบบบ้านเราค่ะ คิดอีกอย่างคือบ้านเราปิดกั้นเรื่องเพศมาระยะหนึ่ง การเปิดเผยเรื่องเพศจึงเป็นสิ่ง "ต้องห้าม" หรือต้องหลีกเลี่ยงในการพูดถึงอย่างตรงไปตรงมาค่ะ ตอนนี้อาจจะเปิดเผยมากขึ้น แต่ในสายตาของผู้จัดเรตติ่งที่มีอายุอยู่คนละช่วงวัยกับกลุ่มวัยทำงานหนุ่มสาวตอนนี้ย่อมยังมองว่า "ไม่เหมาะสม" จนถึง "ห้ามเผยแพร่" อยู่ดีค่ะ อีกประเด็นคือหากเนื้อหาตรงนั้นไม่ได้ให้ความรุนแรงด้านการกระทำ แต่มีแนวคิดหรือการสะท้อนการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ อันนี้ในบ้านเราก็จัดเรต ฉ ดังที่จะเห็นหนังสะท้อนสังคมบางอย่างที่มีฉากพระร้องไห้ถูกห้ามฉายหรือมองว่าไม่เหมาะสมนี่แหละค่ะ ไปจนถึงงานบทความที่วิเคราะห์บทบาทสถาบันพระมหากษัตริย์ในอดีต แล้วนักวิชาการรุ่นปู่โดนคดีจนต้องจำคุกยามชรา
ฉากพระร้องไห้นั่นมันมีมากกว่าฉากพระร้องไห้นะ เผื่อใครเข้าใจผิด มันไม่ได้ถูกแบนเพราะพระร้องไห้ แต่แบนเพราะสาเหตุพระร้องไห้ต่างหาก
แต่เรื่องพระร้องไห้นี่ย้อนแยงจริง เพราะที่ผ่านมาหนังของ ผกก คนหนึ่งที่เกี่ยวกับพระเหมือนกัน พระเล่นไพ่ เณรกลัวผีจนฉี่ราดผ่านเฉยเลย
#2-1 แต่ในความเป็นจริงแล้วภาวะทางอารมณ์ของมนุษย์มันซับซ้อนเกินกว่าที่พอเอาคำว่า "พระ" มาสวมแล้วจะบดบังได้ทุกอารมณ์ และได้กับทุกคนนี่คะ? ขณะที่เราอยู่ร่วมโลกกับพระสงฆ์ที่กระทำผิดตั้งแต่ศีล5 ยังไม่ต้องนับศีล 227 ข้อที่พระต้องถือเป็นพระวินัยเลยค่ะ แบบนี้ถ้าเกิดว่าเราบวชพระเพื่อทดแทนคุณระยะสั้น แล้วพ่อของเราเสียชีวิต เราที่เป็นพระต้องกลั้นน้ำตาเหรอคะ? ในขณะที่เรื่องนี้ฉากพระร้องไห้โดนแบน แต่ผกกคนอื่นนี่ยิ่งกว่าพระร้องไห้ พระกลายเป็นตัวตลกก็มีเยอะแยะ ไม่ยักกะโดนแบนสักทีนะคะ น่าคิดค่ะ
น่าจะเพราะเรื่องเงินใต้โต๊ะไม่ก็เบื้องหลังอะไรสักอย่างน่ะครับ ไม่ก็ กบว คงเป็นไบโพล่าห์
2-4 คงอยู่เหนือความเข้าใจของคนปกติในสังคมจะรับรู้ได้ คนเสพก็ได้แต่เสพกัน่ต่อไปค่ะ จริงๆ เราชอบหนังพระหลายเรื่อง แต่เป็นหนังพระที่โดนแบนอย่าง "นาคปรก" งี้ คือสะท้อนผ่านการกระทำที่รุนแรงแต่เห็นถึงผลกระทบและจุดจบของมันได้ดี ทว่ากว่าหนังจะได้ฉายก็ผ่านไปหลายปีเหลือเกิน จำได้ว่าดูถึงฉากหนึ่งซึ้งในรสพระธรรมจนร้องไห้เลยค่ะ
อีกเรื่องนังก็เรื่องอาบัติครับ โดนเล่นจนต้องเปลลี่ยนชื่อเรื่องเ็น อาปัติ
2-6 ศพไม่เงียบ...นับไหมคะ 555 เอาจริงๆก็เหมือนดูหนังพระเยอะเหมือนกันแฮะ แต่ไม่ใช่คนพุทธค่ะ อาปัตินี่จำเรื่องไม่ได้ แต่พอได้ยินชื่ออาปัติทีไร จะคิดถึงฉากนี้ https://www.youtube.com/watch?v=-mCHa1Nsr9Y
มีหลายเหตุผลครับ และพ่อแม่ส่วนใหญ่ก็กังวลเรื่องทางเพศของลูกมากกว่า กล่าวคือ มีพ่อแม่ให้ลูกพกถุงเพื่อป้องกัน มากกว่าพกปืนพกมีดเพื่อป้องกันจริงไหม? อีกอย่างเรื่อง sex มันเป็นความลับและอาจจะเป็นปัญาเรื้อรังได้ ต่างจากเรื่องความรุนแรงที่ทำแล้วปิดไม่มิด และมีปัญหาก็ไม่ได้บานปลายขนาด sex
เหตุนี้การลดสิ่งยั่วยุต่อคนในวัยฮอร์โมนของสื่อจึงเป็นเรื่องที่มีเหตุผลพอสมควร เรื่อง sex ก่อพฤติกรรมเลียนแบบได้ง่าย และมากกว่าความรุนแรง sex มีหลายอย่างน่าทำตาม น่าลองกว่าเยอะ เราอยากลองนั่นนี่ไปหมดตามที่เห็นครับ (แต่ไม่ค่อยมีใครอยากลองการทำร้าย หรือฆ่าใครครับโดยส่วยใหญ่ ถ้าไม่เสียสติจริงๆ ดูการฆ่าเลือดสาดแล้วอยากทำตาม อันนี้ต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญแล้วครับ)
ขอยกอ้างอิง
https://www.hollywoodreporter.com/news/movie-ratings-sex-remains-top-845507
The 2015 survey of parents commissioned by the Classification and Rating Administration (CARA) finding the top concern about film content was graphic sex scenes (80 percent), followed by full male nudity (72 percent), hard drugs (70 percent), full female nudity (70 percent) and graphic violence (64 percent). Only 44 percent believed PG-13 rated movies have too much graphic violence.
So the commercial imperative, understandably, is there for Hollywood to favour violence-infused blockbuster fare over sexual content.
อันนี้เค้าแค่ concern เพราะการจัดเรตติ้งไม่เหมาะสมหรือเปล่าคะ? ไม่ได้มองว่าการฆ่ากันสามารถเผยแพร่ได้มากกว่าฉาก sex scene ในทางกลับกันการนำเสนอฉากการฆาตกรรมสามารถนำพาความคิดเอนเอียงในทางที่มองบุคคลอื่นเป็น object มากกว่า human ส่งผลให้เกิดการพยายามเลียนแบบได้เหมือนกัน
ใช่ครับสื่อทุกอย่างมีผลกับคนทั้งหมดนั่นแหละครับ มันไม่ใช่เหตุผลของผม ผมแค่ชี้ว่ารับ sexual contents มีอารมณ์จะไปทำตามมากกว่าพวก graphic violence ครับ (ผู้ปกครองส่วนใหญ่ถึงเป็นห่วงมากกว่า)
จากที่ Google ได้ จริง ๆ แล้วมี 2-3 บทความที่เชื่อมกันครับ แต่ผมยกมาแค่อันที่เป็นผลสำรวจ (survey) เพราะเห็นว่ามันเข้าใจง่ายดี
บทความอื่นเขาแยก ภาพยนต์กับทีวีครับ เช่น ทีวีจะเน้น sex มากกว่าหนังหน่อย เพราะมีเวลาที่ผู้ใหญ่ดูชัดเจน เวลาไหนเด็กควรนอนแล้ว ส่วนหนังจะมีเรตติ้ง ซึ่งผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็แสดงความเป็นห่วงอย่างที่เห็น PG13 ควรมีอะไรบ้าง โป๊แค่ไหน หยาบแค่ไหน รุนแรงแค่ไหน บลาๆ ครับ (ผมเลยเอาแค่ผลสำรวจที่เขากังวลมาอ้างอิงครับ)
ส่วนเรื่องพฤติกรรมเลียนแบบ มีงายวิจัยเยอะแยะครับ เรื่อง sex น่าจะวิจัยจบไปตั้งแต่ยุค 80s แต่เรื่อง violence ยังมีเรื่อยๆครับ ผมหาดูก็มีปี 2006-2007 (ใคร google imitaion behavior ก็เจอนะ ไม่ยากเลย)
การที่งานวิจัยมันจบลงไปตั้งแต่ทศวรรษนั้นเพราะความเข้าใจในบทบาททางเพศที่เปลี่ยนไปในแบบยอมรับการมีอยู่และความหลากหลายทางเพศมากกว่านะคะ ส่วนในรายงานวิจัยเรื่องความรุนแรงในสื่อที่ไม่ใช่เรื่องเพศมีมากกว่า 1,000 งานวิจัยในทางอาญชวิทยาที่มีความเห็นว่าความรุนแรงในสื่อส่งผลต่อเยาวชน ทำให้เกิดความฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดในเด็กมากขึ้น และนำไปสู่ปัญหาระยะยาวค่ะ http://oxfordre.com/criminology/view/10.1093/acrefore/9780190264079.001.0001/acrefore-9780190264079-e-189
ที่คุณยกมาถูกครับ แต่...
เพื่อจะตอบคำถามว่า ทำไม "สื่อ" ถึงเปิดกว้างกับเรื่องความรุนแรงมากกว่าเรื่องเพศ การใช้ผลสำรวจจากผู้ปกครอง (ผู้บริโภค/consumers) มันตอบคำถามได้ว่าทำไมครับ
การหาว่าอะไรมีผลกระทบมาก หรือน้อยกว่า โดยที่มันมีผลกระทบทั้งคู่ มันไม่ตอบคำถามว่า "ทำไมสื่อถึงทำแบบนั้น"
ผมยกผลสำรวจ ปี 2015 มา มันก็พอจะตอบได้ว่าสื่อนั้นตอบสนองตามความต้องการผู้บริโภคครับ (ผมแยกภาพยนต์กับทีวีแล้วด้วย)
น่าจะเพราะกระแสสังคม ยอมปล่อยผ่านเรื่องพวกนี้มากกว่า คือให้มีฉากฆ่าฟันได้ แต่ก็ขึ้นเรตติงควบคุมไว้ (ซึ่งก็คือเส้นด้ายบาง ๆ อยู่ดี) และอาจด้วยที่ทำเลียนแบบยาก จึงไม่มีผลต่อความสงบสุขของสังคมเท่าไหร่ และอาจเพราะ พฤติกรรมหรือสัญชาติญาณของมนุษย์ ไม่ชอบเรื่องฆ่าฟันเป็นทุนเดิม (ไม่นับฆ่าหมูปลา) อยู่แล้ว ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับทางเพศ อันนี้สังคมเห็นว่าเลวร้ายมาก บวกด้วยพฤติกรรมและสัญชาติญาณของมนุษย์ถูกสร้างมาให้เป็นเครื่องจักรของการสืบเผ่าพันธุ์ ด้วยเหตุนี้ โอกาสจะเกิดจึงสูงมาก มากกว่าการฆ่าซะอีก
คิดว่าน่าจะเพราะเหตุนี้ การเซนเซอร์และการจัดการกับเรตติงจึงเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ถ้าจะให้พูดเข้าใจง่ายๆ ก็คือ "นโยบายสองมาตราฐาน"
ความรุนแรงมากแค่ไหนก็ยังสามารถมีสิทธิ์วางขายอยู่บนแผงได้ แต่ถ้าเป็นแนวชีวิตรักสัตว์โลกผู้น่ารัก จะถูกแบน ตัวอย่างไม่ต้องไปดูอื่นไกล ถ้าใครเคยดูการ์ตูนเก่าๆ อย่างเรื่อง "หมัดเทพเจ้าดาวตก" เลือดสาดกระเซ็นทั้งเรื่อง ก็ยังมีสิทธิ์ได้เผยแพร่ทางทีวี(ก่อนจะถูกแบนภายหลัง)
เมืองไทยเมื่อพุทธครับ (อย่างน้อยเขาก็เชื่อกันมาอย่างฮั้น 555) เรื่องเพศพูดไม่ได้ คนโดนรถชนตายไม่เซนเซอร์ศพ น่ารักดีจริง ๆ 5555
อย่าลืมจุดสำคัญของพวกเราชาวไทย ถ้าโดนรถชนตายแล้วต้องมีไทยมุง แต่ถ้าเปลี่ยนจากศพเป็นสิ่งของ ไม่มีไทยมุง มีแต่ไทยเก็บแหลกอย่างเดียว
นึกถึงเคสเลาด้าตก เคสรถขนเบียร์คว่ำ เคสหยิบของตกมาเป็นของตัว และอีกหลายกรณี
เด็ก ๆ มักจะให้ความสนใจกับเรื่องเพศเรื่องโป๊เปลือยมากกว่า ขณะที่ฉากเลือดสาด คนที่จะอ้วกมีแนวโน้มที่จะเบือนหน้าหนีมากกว่าไปอยากรู้อยากเห็น ทำเลียนแบบยากกว่าด้วย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?