รู้ข่าวสำนักพิมพ์ปิดกิจการหรือยังคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
7 ความคิดเห็น
คำต่อคำ เป็นสำนักพิมพ์ที่ผมตั้งใจจะส่งต้นฉบับไปพิจารณาพอดีเลยครับ วางแผนไว้ว่าปลายมกรารีไรต์เสร็จจะลองส่งดู เสียใจเช่นกันครับ
เขาเปลี่ยนชื่อเป็นเป็นหนึ่ง สนพ นะคะ https://www.facebook.com/pen1books/ ลองส่งไปที่นี่ดูค่ะ เจ้าของเดิม
โอ้ว ขอบคุณมากเลยครับผม
ไปเปิดเป็นเป็นหนึ่งสำนักพิมพ์...
เดี๋ยวนี่สำนักพิมพ์อยู่ยากค่ะ
หลายสำนักพิมพ์ขาดทุนย่อยยับ
เราไม่ได้ทำงานด้านนี้นะคะ
แต่ปีที่แล้วเราเขียนหนังสือจบหนึ่งเรื่อง
ก็ลองส่งต้นฉบับไปให้สำนักพิมพ์พิจารณา
ปรากฏว่าผ่านค่ะ แต่ สนพ. จะให้ค่าลิขสิทธิ์แค่ 7%
เราเลยเซย์โน แล้วเอามาเปิดพรีฯ พิมพ์เอง
จนตอนนี้ผ่านไป 1 ปี
ยอดขายโดยรวม 2000+ เล่ม
ได้ค่าต้นฉบับมาพอหอมปากหอมคอ
ปีนี้จบอีก 1 เรื่อง
และไม่คิดจะส่ง สนพ. แต่ตั้งเริ่มเขียนแล้วค่ะ
เพราะพิมพ์เอง ขายเอง ได้ค่าต้นฉบับเยอะกว่า (มากๆ)
อันนี้แค่เล่า สปก. ตัวเองค่ะ
และนักเขียนยุคนี้ ก็นิยมพรีฯ พิมพ์เอง + ขายอีบุค
เพราะยังไงก็ได้เยอะกว่าส่ง สนพ. แบบเท่าตัว
กลายเป็นว่านักเขียนที่ส่งต้นฉบับพิมพ์กับ สนพ. เริ่มน้อย
สนพ. งานหาย กำไรน้อย แต่ต้นทุนยังมากเหมือนเดิม
เพราะปกติ สนพ. แค่จัดพิมพ์หนังสือ แต่ตอนขาย
สนพ. ก็ขายผ่านสายส่งอย่าง บีทูเอส ซีเอ็ด นายอินทร์
ปกติสายส่งหักค่าฝากขาย 40% จากราคาปก
กลายเป็นว่า สนพ. ได้แค่ 60% ไหนจะค่าลิขสิทธิ์นักเขียน 7-10%
ค่าพิมพ์หนังสือ 15-20% ค่า พนง.
สนพ. เลยได้กำไรน้อย
สนพ. ไหนสู้วิกฤษนี้ไม่ได้ก็ต้องปิดตัวลงค่ะ
ตลาดหนังสือบ้านเราเลยซบเซาลงทุกปีๆ
เราว่าเรื่องจริงเลยค่ะที่นักเขียนเดียวนี้ไม่ค่อยส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์กัน เพื่อนของเราก็เขียนเอง พรีฯเอง พิมพ์ขายเอง ขนาดมีสำนักพิมพ์ติดต่อมาเขายัง say no เลยบอกว่าไม่คุ้มทำเองดีกว่า เราเห็นเขาพิมพ์ขายเองมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบเรื่องละค่ะ
ของเราก็มี สนพ. ติดต่อเข้ามาแต่ก็ say no ไปเช่นกันค่ะ เพราะเห็นนักเขียนหลาย ๆ ท่านพูดให้ฟังว่าส่ง สนพ.แล้วเครียดงานการไม่เป็นอันทำ แถมได้ไม่คุ้มกับความเก็บกดที่ได้รับ
อีกอย่างคนสมัยนี้ก็หันมาอ่าน e-book กันซะมากกว่าด้วยเพราะมันถูกกว่าหนังสือ
พี่ที่รู้จักคนหนึ่งก็บอกค่ะว่า
ตลาดหนังสือยุคนี้ เปิดพรีฯ พิมพ์เอง + ขายอีบุค
คุ้มค่ากว่าการส่งต้นฉบับให้ สนพ. พิมพ์
น่าจะด้วยเหตุนี้ สนพ. เล็กๆ ที่งบไม่หนา
จึงทยอยปิดตัวลง บาง สนพ. มีดราม่าค้างค่าต้นฉบับ นข. ด้วย
เพราะบริหารเงินในภาวะที่เศรษฐกิจฝืดเคืองไม่ได้
เศร้าใจแท้
ยุคนี้เป็นยุคสมัยที่นักเขียนทำทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างแท้จริงเลยค่ะ เขียนเองไม่พอ แม้แต่ปกก็ยังพากันวาดเองไปด้วย
ผมชอบสำนักพิมพ์คำตอคำ จะปิดแล้วจริงหรือนี่ โธ่ ไม่น่าเลย
เปิดใหม่ในชื่อ สำนักพิมพ์เป็นหนึ่ง ค่ะ
ชื่อสำนักพิมพ์ "เป็นหนึ่ง" เหมือนผมเคยเห็นแวบๆ ที่ meb
ผมว่า
ความจริงเขาไม่น่าเปลี่ยนชื่อสำนักพิมพ์เลย เพราะคนส่วนใหญ่จดจำชื่อแรกที่ตั้งไปแล้ว เปลี่ยนชื่อใหม่ก็ต้องมาตั้งตัวกันใหม่อีก เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยติดตามความเป็นไปของสำนักพิมพ์เท่าไร อย่างมากสุดก็เดินไปดูที่ร้านหนังสือ หรือไม่ก็เปิดแอปอ่านอีบุ๊ก ก็เหมือนตัวนักเขียนเปลี่ยนนามปากกา นักอ่านส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่แฟนพันแท้จริงๆ จะไม่ค่อยรู้ รู้แต่ว่าเห็นนามปากกานี้วางขายก็กดซื้อเท่านั้น
ไม่ได้เปลี่ยนชื่อ แต่เปลี่ยนเป็นคนละสำนักพิมพ์เลยค่ะ ก่อนหน้านี้คำต่อคำกับที่รักเป็นเครือของดีบุ๊กส์กรุ๊ป แต่ตอนนี้แยกกันไปแล้วค่ะ จะให้ใช้ชื่อเดิมก็ยังไงอยู่
4-2 ขอโทษค่ะ เราตอบไม่ชัดเจน ตามที่ 4-3 ว่าเลยค่ะ
สำนักพิมพ์ไม่ได้ขาดทุนหรือมีปัญหาเรื่องรายได้ค่ะ ที่ปิดกิจการเพราะเป็นเรื่องภายในด้านหุ้นส่วนค่ะ แล้วก็ไปเปิดเป็นเป็นหนึ่งสำนักพิมพ์อย่างที่ทราบกันแล้ว ทีมงานและนักเขียนส่วนใหญ่มาจากชุดเดิมของคำต่อคำค่ะ
ยืนยันอีกครั้ง...สำนักพิมพ์คำต่อคำไม่ได้มีปัญหาด้านการเงินอะไรเลย
ที่ปิดตัวเพราะ "ภายใน" เขาต้องการสวม converse กันล้วนๆ
ใครยังอยากร่วมงานก็ตามสำนักพิมพ์ใหม่ที่จะเป็นร่างอวตารของเขาได้ค่ะ
ตามเฟซบุคนั่นแหละ เดี๋ยวก็แชร์กันมาให้รู้เอง
ถ้าหมายถึง คห. ของเรา
ขอชี้แจงนะคะว่าเราไม่ได้หมายถึง สนพ. คำต่อคำ
เพียงแต่พูดถึงภาพกว้างๆ ของตลาดหนังสือในปัจจุบันเท่านั้น
ขออภัยหากทำให้ใครคิดว่า คห.เรา หมายถึงคำต่อคำ
ขออภัยหากตอบ กท. ไม่ค่อยตรงกับเนื้อหาใน กท. เท่าไร
ขอเปลี่ยนแปลงรายการสั่งหนังสือได้ไหมคะ
หนังสืออะไรค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?