Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง ม.เกษตร สกลนคร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
              สวัสดีเพื่อนๆชาว dek-D ที่น่ารักทุกคนคะ ขอแทนตัวเองว่าเป็นพี่แล้วกันนะคะ วันนี้พี่จะมาแชร์ประสบการณ์ การเรียน สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สกลนคร พี่เป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง ที่ครอบครัวมีฐานะปานกลาง พี่เลือกที่จะเรียนสาขาการตลาด เพราะทางบ้าน ประกอบอาชีพค้าขายมาตั้งแต่พี่ยังเด็ก พี่คิดว่าการเรียนสาขาการตลาดจะสามารถนำไปต่อยอดกับธุรกิจของที่บ้านได้ ให้มีกำไรเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง พี่คิดว่านักการตลาดมีความสำคัญกับทุกสายงานและทุกองค์กร เพราะถ้าไม่มีนักการตลาด มาทำการตลาด วางแผนการตลาด ก็มีโอกาสขายสินค้าไม่ได้เลยนะ การทำการตลาดดีมีชัยไปกว่าครึ่งเลยนะ ยิ่งทุกวันนี้ผู้บริโภคมีความรู้และช่องทางการหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น การทำการตลาดให้ปังยิ่งยากเข้าไปอีก ซึ่งในยุคปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้น เทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้ชีวิตบนสื่อออนไลน์มากขึ้น ทุกวันนี้ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านก็สามารถขายสินค้าได้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ และคนที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ นำเสนอสินค้าที่ตอบสนองความต้องการและปัญหาของลูกค้า จะมีความได้เปรียบคู่แข่งในเชิงธุรกิจมากกว่า และการเรียนสาขาการตลาดก็ตอบโจทย์ กับสังคมในยุคปัจจุบันอย่างแน่นอน พี่ขอยกตัวอย่าง แม้กระทั่งอาชีพครูสอนหนังสือก็ยังต้องใช้หลักการตลาด ในการที่จะมีศิลปะการขาย การพูด การฟัง และการแสดง ในการที่จะนำเสนอความรู้ต่างๆให้นักเรียนเข้าใจได้ง่ายและมีความสนใจในเนื้อหาที่สอนและตัวของผู้สอน การเรียนสาขาการตลาดจึงมีความสำคัญอย่างมากในทุกสายงานและทุกสายอาชีพ 




สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สกลนคร แห่งนี้ จึงตอบโจทย์กับสังคมที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและกลุ่มลูกค้าในยุคปัจจุบัน เพราะสาขาการตลาด  มีหลักสูตรมุ่งเน้นให้มีโครงสร้าง ลักษณะวิชา และเนื้อหาวิชาทันสมัยตามการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน หลักสูตรได้มีการปรับปรุงตามความต้องการของตลาดแรงงานที่ต้องการบัณฑิตที่มีความสามารถทางด้านการตลาดควบคู่กับความสามารถทางธุรกิจ นอกจากนี้หลักสูตรสาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สกลนคร ยังเน้นการสร้างความตระหนักในคุณธรรมและความรับผิดชอบในการบริหารงานด้านการตลาดแก่สังคมโดยมีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม มีจริยธรรมในการทำงานอีกด้วย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สกลนคร ยังได้รับการรับรองคุณภาพจาก สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)และเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับต้นๆว่า เรียนจบไปแล้วมีงานทำเยอะสุดด้วยนะ การเดินทางมาเรียนก็มีความสะดวกสบาย




สำหรับคนที่อยู่ทางภาคกลาง เหนือ ใต้ ออกและตก มีสนามบินที่ห่างจากมหาวิทยาลัย ไม่ถึง 5 กิโลเมตร มีรถโดยสารรับส่งเข้า-ออก สนามบิน และผ่านหน้ามหาวิทยาลัย สะดวกสบายสุดๆ (รถแดงท่าแร่) พอมาถึงหน้ามอก็จะมีรถรางของมหาวิทยาลัย รับส่งนิสิตถึงหอพักหรือแม้แต่ส่งหน้าอาคารเรียน เก๋สุดๆจ้าาาาา สำหรับเดินทางด้วยรถประจำทางก็สะดวกไม่แพ้กัน เพราะที่จังหวัดสกลนคร มีบขส.ถึง2ที่เลยที่เดียว
 

หลังจากที่พี่ได้เข้ามาเป็นนิสิต สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฯ สกลนคร พี่ชอบบรรยากาศในมหาวิทยาลัยมากๆ เพราะรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ อากาศดีสุดๆ เหมาะสำหรับคนที่แพ้ภูมิกรุงเทพมากๆ 555555 (เพลงพี่ป้าง นครินทร์ ลอยมาทันที หุหุ) แค่มาสูดอากาศบริสุทธิ์ ก็คุ้มในระดับหนึ่งแล้ว ค่าครองชีพก็ถูกมากๆ กับข้าวในโรงอาหารเริ่มต้นที่20บาท ร้านข้าวนอกมหาวิทยาลัยก็ไม่แพง ราคาคุณภาพ อร่อย ได้เยอะมากกกกกกกกกกกก 





กลับมาที่การเรียนสาขาการตลาด สิ่งที่พี่ ประทับใจในสาขาการตลาด คือความใส่ใจของอาจารย์ในสาขาที่มีต่อนิสิตทุกคน อาจารย์ในสาขาจำชื่อนิสิตได้ทุกคนแกรเอ๊ยยยย เริดสุดดดดด  สำหรับการเรียนการสอนในห้องของแต่ละวิชา บรรยากาศในห้อง คือทุกคนในคลาสมีส่วนร่วมด้วยกันหมดเลย ไม่ใช่นั่งเรียนแบบไร้ล่องลอยๆ จดๆฟังๆอย่างที่คิดไว้นะจ๊ะ แต่ที่นี้ จะมีเกมส์สนุกๆในคลาสเรียนด้วย ให้นิสิตนำความรู้ที่เรียนในแต่ละคาบมาปฏิบัติจริง ไม่ต้องกลัวว่าจะง่วงนอน ทุกวินาที เราจะได้รับความรู้ที่เต็มเปี่ยมแน่นอน (พี่ไม่มีเวลาหลับ ร่างกายต้องตื่นตัว เพราะเกมในคลาสนี้แหละ 55555) บางรายวิชา อาจารย์ท่านจะให้พวกพี่แบ่งกลุ่ม แล้วนำมาแชร์กัน สอนกันเองในห้อง และมีการถามตอบในห้องด้วย สนุกมากกก เพราะตั้งคำถามยังไงให้เพื่อนตอบไม่ได้ 5555555 หลับไม่ลงแน่นอน เพราะต้องมานั่งลุ้นว่า วันนี้เพื่อนกลุ่มนี้จะมาแชร์อะไรให้กับเพื่อนๆในห้อง ส่งกำลังใจให้เพื่อนตอนพรีเซ็น และตั้งคำถาม ถามเพื่อนๆหลังพรีเซ็น 


นอกจากจะทำให้เราตั้งใจเรียนขึ้นแล้ว ยังทำให้เราได้คะแนนเพิ่มด้วย (มันดีตรงนี้แหละ) เป็นการเรียนที่พี่คิดว่ามันไม่น่าเบื่อ มันได้อะไรมากกว่าการที่ไปนั่งฟัง จดๆ บางทีก็วูบหลับ ตื่นมาเลิกคลาส 5555555 เป็นการได้ฝึกพรีเซ็น ฝึกการขายสินค้าที่ไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะได้ขายอะไร เพราะจับฉลากสดๆร้อนๆในห้อง ได้ลองทำโฆษณา กำกับเอง แสดงเอง ทำฉากเอง ตัดต่อเอง พรีเซ็นเอง ทุกอย่างทำเองหมด เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจริงๆ


และทางมหาวิทยาลัยยังมีเครื่องมือที่ทันสมัย มาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติอีกด้วย ทำให้พี่ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ได้สัมผัสกับการทำกิจกรรมต่างๆที่เหมือนกับการทำงานจริง ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันในการจบออกไปทำงานในอนาคต 



สำหรับพี่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ได้สัมผัสในสาขาการตลาด เป็นการเรียนการสอนที่ไม่มีขีดจำกัด พี่ได้ความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ หลักสูตรของมหาวิทยาลัยทำให้พี่ก้าวไปพร้อมกับโลกยุคปัจจุบัน ต่อให้ในอนาคตโลกจะเปลี่ยนแปลงไปมากหรือน้อย พี่ก็เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ พี่ได้รับจาก สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สกลนคร แห่งนี้ จะทำให้ พี่เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์และอยู่กับโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในอนาคต เปรียบเสมือนน้ำที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างตามภาชนะต่างๆอย่างแน่นอนค่ะ 




  ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ น้องๆคนไหนที่สนใจเกี่ยวกับสาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สกลนคร สามารถเม้นถาม แสดงความคิดเห็นได้เลยนะ พี่ยินดีจะตอบทุกข้อสงสัย ขอบคุณอีกครั้งค่ะ 





 



สำหรับน้องๆคนไหนที่สนใจและอยากมาเป้นครอบครัวเดียวกันสแกนเลย




แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

Kim Kardashian 2 ม.ค. 62 เวลา 20:43 น. 3

น่าสนใจนะคับ อยากลองสมัครจังเลยคับ แต่กลัวว่าจะเรียนยาก จบยาก 5555555555555555555

พี่ๆช่วยให้คำแนะนำหน่อยเพิ่มเติมหน่อยคับ

0
Nammy Zebra 2 ม.ค. 62 เวลา 20:47 น. 4

จาก คห.3 พี่ที่ รร.เราก็เรียนที่ เกษตร สกลนคร เรียนบัญชี ตอนนี้ 6 ปีแล้ว ยังไม่จบเลย พ่อแม่ทางบ้านก็บ่นมากๆว่าเมื่อไหร่จะจบ

รอบแรกเราก็ว่าจะสมัครแล้ว แต่กลัวจบช้า เห็นบอกเรียนยากชิปหาย

2
boon ziix 3 ม.ค. 62 เวลา 12:17 น. 4-1

คนส่วนใหญ่ก็เรียนจบ 4 ปีนะครับ หลักสูตรเดียวกัน ต้องดูแล้วละครับว่ามันอยู่ที่คนหรือหลักสูตร

0
Numnim Sudarut_Ansanun 3 ม.ค. 62 เวลา 23:26 น. 4-2

พี่คิดว่าถ้าเราตั้งใจเรียน และมีความพยายาม ใฝ่หาความรู้ที่ไม่ใช่เพียงในห้องเรียนเท่านั้น พี่มั่นใจว่า ต้องจบ4ปีแน่นอน เพราะหลักสูตรทุกๆมหาวิทยาลัย เขามีการวางแผนและปรับเปลี่ยนเข้ากับผู้เรียนอยู่แล้ว และต้องมีการคิดมาว่าเหมาะสมกับผู้เรียนและจะเรียนได้หรือไม่ และมันก็มีคนจบ3ปีครึ่งด้วยนะคะ พี่คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นที่ตัวเรา 90%ค่ะ


0