ชีวิตฉัน...(แค่อยากระบาย)
ตั้งกระทู้ใหม่
แม่บอกว่าตอนไปงานประชุมผู้ปกครองพ่อแม่คนอื่นๆบอกว่าลูกเกรดสามขึ้นทั้งนั้นเลย พอนึกถึงเกรดลูกตัวเองแล้วก็อายไม่อยากจะพูด
เราจุกเลยค่ะ แต่ก็ทำเป็นยิ้มๆเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก จริงๆแลเวคือโคตรของโคตรเศร้าเลย บางทีก็คิดนะว่าการที่เราเกรดแย่กว่าคนอื่นมันน่าอายขนาดนั้นเลยใช่มั้ย เรามีดีแค่เกรดใช่มั้ย
ท้อเลยค่ะ ท้อมากๆ บวกกับเราเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือตอนอยู่คนเดียวและอยู่กับเพื่อน มันมีแรงบันดาลใจในการอ่านมากกว่าอ่ะ พอมาอ่านต่อหน้าแม่แล้วแบบรู้สึกไม่อยากอ่าน บวกกับเวลาอ่านต่อหน้าแม่ แม่จะชอบถามว่า อ่านหรือว่านั่งเหม่อ เราก็เลยบอกแม่ไป ว่าอ่านตรงนี้แล้วมันไม่เข้าหัว แม่บอกกลับมาว่าไม่เข้าหัวหรือขี้เกียจ เราก้ไม่อยากจะเถียงด้วย เลยจำยอมอ่านไป อ่านทั้งๆที่มันไม่เข้าหัวนั่นแหละ แบบนี้เลยยิ่งไม่อยากอ่นเข้าไปอีก
เห้อออออออ ขอบคุณที่รับฟังค่ะ
6 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะ นี่ก็เป็นคนนึงที่เกรด 2 กว่าๆ โดนเปรียบเทียบกับคนอื่นคล้ายๆจขกท.เลยค่ะ แต่ฟังจนชินแล้ว ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง 55555555555 ยอมรับว่าส่วนนึงเพราะขี้เกียจและเบื่อระบบการศึกษาไทย เลยไม่ได้ตั้งใจเรียนอยู่แล้วตั้งแต่แรก เรียกง่ายๆก็คือหมดไฟนั่นแหละค่ะ
คหสต.นะคะ ถ้าเราทำดีที่สุดแล้วมันได้แค่นี้ มันก็ไม่มีอะไรให้เสียใจแล้วค่ะ คำพูดคนอื่นให้มันเป็นลมผ่านหูไปบ้างก็ดี เรื่องบางเรื่องเก็บเอามาคิดไปก็มีแต่ผลเสีย เอาเวลามาคิดดีกว่าค่ะว่าจะเข้าคณะอะไร แล้วเกรดที่มีพอยื่นมั้ย
อยู่กับปัจจุบันค่ะ เกรดมันออกมาแล้วเรากลับมาแก้ไขมันไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้มาคิดดีกว่าว่าเราจะสอบติดมหาลัยได้ยังไง ต้องอ่าน ต้องเก็งข้อสอบตรงเนื้อหาตรงไหนบ้าง เกรดไม่ได้เป็นตัวกำหนดทุกอย่างเสมอไปค่ะ เพราะคะแนนที่ต้องยื่น มันยังมี Gat-Pat, O-net และคะแนนอื่นๆแยกย่อยออกไปตามเกณฑ์รับของคณะที่เราจะเข้า และแน่นอนมันไม่ได้ใช้ Gpax ซึ่งเป็นเกรดเฉลี่ยของเราอย่างเดียว ดังนั้นเรายังไปทำคะแนนแก้ตัวตรงอื่นได้อีกค่ะ 5555555 เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะคะ สู้ๆจ้า
ไม่แย่หรอกค่ะ ขึ้นอยู่กับมุมมอง
พอโตขึ้นเราจะรู้ว่าเกรดไม่ได้วัดทุกอย่าง
พี่อยู่ ม.เกรดก็น้อยกว่าเพื่อนนะคะ ถือว่าบ๊วยเลยแหละคนอื่นเขาได้ A วิชานี้ทั้งนั้น แต่เราไม่ได้
ตอนแรกก็เครียดนะคะ ตอนหลังก็มานั่งคิดว่าสิ่งที่เราได้จากการเรียนมีค่ากว่าเยอะ เกรดมันเป็นเรื่องของใครของมัน
#ปี3
คิดว่าทำเพื่อตนเอง เรียนให้ดีในวิชาที่เราชอบ อันไหนชอบต้องได้A อันไหนไม่ชอบ ก็รักษาC ไว้ ผลรวมจะดีขึ้น
เกรดไม่ใช่ทุกอย่าง ดังนั้นเราต้องหาจุดเด่นของเรา หาให้ได้ และมุ่งไปให้ถึง
พอดีอ่านมาเจอครับ ปีนี้พี่เพิ่งเรียนจบจากม.ดังในคณะที่พ่อแม่สามารถเอาไปพูดข่มลูกคนอื่นได้ แต่ส่วนตัวพี่ไม่ชอบเวลาเห็นพ่อแม่รังแกเด็กไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจเลยอยากจะมาแชร์ความคิดให้ฟังนิดนึง
อย่างแรกเลยเรื่องเกรดเนี่ยมันเอามาวัดคุณค่าของคนไม่ค่อยได้หรอกครับ คนที่มีความคิดทันสมัยเดี๋ยวนี้เค้าไม่มีใครดูเกรดตัดสินคนกันแล้ว เผื่อน้องจะยังไม่รู้นะ มันมีสังคมดีๆ แบบนั้นอยู่ครับ เค้าดูคนกันที่ความตั้งใจ ความรักดีใฝ่รู้ใฝ่เรียนกันมากกว่า เพราะต่อให้ตอนนี้จะยังไม่เก่งแต่ในระยะยาวไงๆ คนที่ตั้งใจมากกว่าก็ประสบความสำเร็จกว่าครับ มันเป็นสูตรตายตัวง่ายๆ เลย พิสูจน์กันมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว
อย่างที่สองคือการเรียนให้เก่ง พี่เห็นว่าน้องยังพยายามอ่านหนังสือซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะ ดีกว่าพี่อีกเพราะเอาจริงๆ พี่อยู่บ้านก็ไม่ค่อยแตะหรอกหนังสือ 5555 ก่อนอื่นพี่มีความจริงที่โหดร้ายจะบอก คือคนเราแต่ละคนจะเรียนรู้อะไรได้ไม่เร็วเท่ากันซึ่งเราจะเรียนรู้ไวหรือช้าแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสมองที่พ่อแม่ของเราให้มานี่แหละ แล้วก็การใช้งานสมองของเราตอนเราเด็กๆ บางอย่างที่คนเก่งๆ อ่านหนังสือ ชม. นึงก็รู้เรื่องกับเราอาจจะใช้เวลาทั้งวันก็ได้ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจครับว่าทำไมเราเรียนรู้ได้ช้ากว่าคนอื่น แต่น้องไม่ต้องหมดหวังกับเรื่องนี้นะครับ เพราะเค้าก็พิสูจน์กันมาแล้วอีกนั่นแหละว่าคนเราสามารถฉลาดขึ้นได้ถ้าเราใช้งานสมองบ่อยๆ หรือพูดง่ายๆ ก็คือน้องสามารถเป็นคนที่เรียนรู้ได้ไวได้ถ้าให้เวลาสมองน้องปรับตัวมากพอนั่นเอง
อย่างที่สาม พี่จะบอกว่าการที่น้องเกรดไม่เยอะไม่ใช่ความผิดของน้องแต่อย่างใด ยิ่งถ้าเราสนใจในการเรียนจริงๆ แล้วไม่ควรมีใครมาว่าน้องเลยด้วยซ้ำนะ เป็นพี่ๆ จะบอกว่าทำดีแล้ว ลองทำต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น อะไรประมาณนี้มากกว่า ดังนั้นก็อย่าเพิ่งท้อแท้ครับ ถึงตอนนี้น้องจะอยู่ ม.6 แล้วก็ไม่ใช่ว่าน้องจะหมดอนาคต เพราะมันยังอีกเยอะครับ แต่ขอฝากไว้อย่างนึงว่าอย่าทิ้งการเรียนนะ เพราะมันสำคัญมากถ้าเราไม่ได้มีใครมาคอยหนุนหลังให้ตอนโต การเข้ามหาลัยดีๆ มันจะทำให้เราเจอคนดีๆ อย่างที่พี่เคยบอกไปครับ แล้วชีวิตน้องจะดีขึ้นจากเดิมเหมือนที่พี่เป็นอยู่ตอนนี้ แล้วก็อย่ากลัวที่จะเริ่มใหม่(ซิ่วนั่นเอง) สู้ๆ ครับ ^^
พี่หนูว่าเกรดมันก็แค่ตัวเลขที่คีลงไปใส่กระดาษให้ผู้ปกครองดู ถ้าดีก็จะอวดกันถ้าไม่ดีก็ด่า มันไม่ได้กำหนดอนาคตเราสักหน่อย เกรดสี่เป็นหมอ เกรดหนึ่งไม่มีอนาคต หนูว่ามันอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่าว่าเราเลือกที่จะทำตัวอย่างไร
พี่ก็จบมัธยมมา 2 เหมือนกัน แถมสอบโคต้ามหาลัยไม่ติดด้วย
แต่พี่ก็ยังเรียนจบปริญญาตรีได้ แถมมหาลัยดังด้วยนะ
บอกแม่ไปเลย "เกรดไม่ได้เป็นทุกอย่าง"
เน้นความชอบของเราเป็นหลัก
ตั้งเป้าหมายไว้ แล้วไปให้ถึง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?