การสลับมุมมองของตัวละคร
ตั้งกระทู้ใหม่
แบบ ตอนนึงเป็นเนื้อเรื่องฝั่ง A ตอนนึงเป็นเนื้อเรื่องฝั่ง B แบบนี้จะ work ไหมอ่ะ
แล้วก็ปกติเวลาแต่งนิยาย บทบรรยายกับบทพูดอันไหนสำคัญกว่ากันครับ หรือว่าควรทำให้เท่ากัน
12 ความคิดเห็น
ผมก็เคยทำเหมือนกันครับ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีเว้นบรรทัดซักสามบรรทัดแล้วเริ่มเรื่องของอีกตัวละครนึง หรือไม่ผมก็แนะนำให้แบ่งตอนของแต่ละตัวละครไปเลย
บทพูดกับบทบรรยายอันไหนสำคัญกว่ากัน? สำคัญทั้งคู่น่ะแหละครับ ละเลยอันใดอันหนึ่งไม่ได้แต่จะให้ความสำคัญกับอันไหนมากกว่าก็เป็นเอกลักษณ์ของนักเขียนเอง
ความจริงผมก็ยังใหม่อยู่ ฟังหูไว้หูก็ได้ครับ
ว่าแล้วก็ฝากนิยายหน่อย อิอิ https://my.dek-d.com/Noirgard/writer/view.php?id=1902587
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
เราทำแบบมีความคิดของทั้งสองฝ่าย
แบบเป็นความคิดภายในใจ
ไม่รู้ตอบคำถามคุณได้ไหม
https://my.dek-d.com/Tdeuy/writer/viewlongc.php?id=1902574&chapter=20
ลองเข้าไปดูค่ะ เราแต่งประมาณนี้ เป็นตอนที่จะได้เห็นว่าแต่ละตัวละครมีความรู้สึกในใจอย่างไร
เราทำอยู่ครับ คิดว่าเวิร์คใช้ได้(อย่างน้อยก็จบภาคแรกได้นะ) แต่ต้องอาศัยการวางแผนดีๆ ว่าจะเล่าอะไรก่อนหลัง จังหวะไหนคือจังหวะที่ควรตัดข้ามไปอีกฝั่ง
ส่วนเรื่องบทบรรยายกับคำพูด อันนี้น่าจะแล้วแต่สไตล์ของนักเขียนแต่ละคนล่ะครับ
ครึ่งหนึ่งพระเอก ครึ่งนึงนางเอก แล้วแต่ว่าในบทนั้นๆ ความคิดของใครสำคัญต่อเนื้อเรื่อง มีผลต่อเนื้อเรื่องจริงๆ
บทนี้ส่งไปทางพระเอกมากกว่าก็จะเป็นมุมมองพระเอก แล้วค่อยตัดมานางเอกที่สำคัญรอง
สำคัญทั้งหมดเลยค่ะ ทั้งบรรยายและบทพูด สองอย่างนี้ มันต้องใช้คู่ควบกันค่ะ
เอาตามที่คนอื่นแนะนำนั่นแหละครับ
แนะนำเพิ่มเติม เผื่อไว้หากนักอ่านบางคนอาจจะไม่เข้าใจ
ถ้าเป็นในเว็บ และถ้าอยากให้ชัดเจนขึ้น เราสามารถปรับแต่งสีตัวอักษรได้ครับ เคยมีนักเขียนท่านหนึ่งที่เคยทำอะไรราวๆ นี้อยู่ ซึ่งนิยายเรื่องที่ว่าน่าจะมีอยู่2มิตินะ มิติหนึ่งใช้สีหนึ่ง อีกมิติก็ใช้เป็นอีกสีไป เพื่อแบ่งแยกให้ชัดเจน
ว่าแล้วก็แอบเนียนแปะลิงค์นิยายของตัวเองเหมือนคนอื่นบ้างดีกว่า
ล้อเล่นน่ะ
ยาวจัง....
เราเคยทำค่ะ เราไม่ชอบหรือเอาจริงๆจะว่าขี้เกียจก็ได้ค่ะ เราไม่ชอบเวลาต้องสลับตัวละครแบบว่าสลับไปสลับมาในระหว่างหนึ่งตอนเพราะเราปรับอารมณ์ของแต่ละคนไม่ทันค่ะ ฮ่าๆๆ แล้วอีกอย่างก็อาจจะทำให้คนอ่านปรับอารมณ์ตามไม่ทันเหมือนกัน เราเลยแยกเป็นตอนของแต่ละคนค่ะ
ดูว่าตอนนี้ตัวละครไหนออกมาดำเนินเรื่องเยอะสุดก็จะหยิบเอาคนนั้นมา อย่างเราแต่ง เป็นคู่พระนาย แต่งสลับกันไปมาโดยเขียนกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าบทนี้เป็นมุมมองของใครเผื่อนักอ่านจะงง ซึ่งเราว่ามันก็เวิร์คดีนะ
ส่วนเรื่องบทพูดกับบทบรรยาย สำหรับเราคิดว่ามีความสำคัญทั้งคู่นะ ถ้าบทพูดไหลลื่น เนื้องเรื่องก็จะไหลลื่น น่าติดตาม แล้วตัวละครก็จะดูมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิมล้านแปดพันเท่าเลยค่ะ ส่วนเรื่องบทบรรยายจะทำให้นักอ่านนึกภาพสถานการณ์หรือเหตุการณ์ ณ ตอนนั้นได้ดีค่ะ ถ้าบรรยายดีก็จะทำให้คนอ่านอินมากขึ้น แต่งดราม่าคนอ่านก็คงนอนร้องไห้ไปเลยประมาณนี้ค่ะ
แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเทคนิคไหนก็แล้วแต่นักเขียนค่ะ บางคนเน้นฝั่งใดฝั่งหนึ่งมากกว่าก็กลายเป็นเอกลักษณ์ของนักเขียนคนนั้นไป แต่สำหรับเราเราว่าเขียนแบบที่เราสบายใจจะดีที่สุด เพราะถ้าเราไม่ชอบงานของเรา งานของเราก็ไม่สนุกนะซี้
ของเรา..ก็เป็นแบบสะท้อนมุมมองของตัวละครทั้งคู่ค่ะ ให้ไดอะลอคบทสนทนาเดียวกัน...
คนอ่านจะเข้าใจความรู้สึกของตัวละครด้วย....
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และอารมณ์ตัวละครค่ะ
ถ้าเขาเครียดหรือกำลังครุ่นคิด ก็ต้องบรรยายเยอะหน่อย เอาให้รู้ไปเลยว่าคับข้องใจแค่ไหน
หรือพระนางในบางนิยายเน้นฉากรัก ก็จะบรรยายความรู้สึกเวลาไว้อยู่ใกล้ สปาร์ค ใจเต้น ประมาณนี้
ยกตัวอย่างในนิยายเรา นางเอกกำลังโดนข่มขู่ บทจะบรรยายเพียงอารมณ์ของนางเอกคนเดียว เพราะคนที่พูดจาข่มขู่ถูกสร้างให้เป็นบุคคลลึกลับ
“คุณ คุณเป็นใคร”
เขาไม่สนใจคำถามเสียงเบาหวิวนั้น ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู “ผมมีเวลาไม่มากแล้ว ถ้าคุณไม่เชื่อว่าผมจะระเบิดเหยื่อสองคนนั้นจริงก็ลองดู ผมจะเริ่มนับถอยหลัง เอาล่ะ สิบ เก้า แปด…”
“คุณมันบ้า ฉันจะไปแจ้งความ” ร่างบางผุดลุกเดินหนีแต่ทางนั้นไม่ได้หวั่นสักนิด
“ห้า สี่ สาม…”
ตากลมไหวระริกเหลือบมองสองยายหลานอีกครั้ง
“สอง…”
ฮานะชะงักเท้าพร้อมเสียงหัวใจที่หยุดไปชั่วขณะ
"หนึ่ง"
...“ฉันยอมแล้ว”
ติดตามต่อได้ใน https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1900230 มีตัวอย่างดีๆอีกเพียบ
- ตอนนึงเป็นเนื้อเรื่องฝั่ง A ตอนนึงเป็นเนื้อเรื่องฝั่ง B แบบนี้จะ work ไหมอ่ะ อยู่ที่ว่าคุณเจ้าของกระทู้จะเขียนออกมาดีหรือเปล่า ถ้าเขียนออกมาดี ไทม์ไลน์ไม่สับสนก็โอเค
- ปกติเวลาแต่งนิยาย บทบรรยายกับบทพูดอันไหนสำคัญกว่ากันครับ หรือว่าควรทำให้เท่ากัน สำคัญเท่าๆ กันค่ะ
หลักการเขียนมันไม่มีกฎตายตัวครับ ประเด็นจริงๆ มันอยู่ที่ "เขียนยังไงให้อ่านแล้วเข้าใจ"
ไม่ว่าจะเขียนแบบห้วนๆ หรือแบบเจาะลึกความรู้สึก หรือว่าบรรยายจนละเอียดยิบ ทุกอย่างใช้ได้หมด ขอเพียงให้อ่านแล้วเข้าใจก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ
ถ้าเป็นไปได้ เขียนในแบบที่ตัวคุณถนัดจะเป็นเรื่องดีกว่า เนื่องจากเราจะไม่รู้สึกอึดอัดครับ แล้วจะทำให้เราเขียนได้ไหลลื่นด้วย
ลองเขียนเปลี่ยนมุมตัวละครเอกแต่ละตัวตอนขึ้นบทใหม่อะไรประมาณนั้นอาจจะช่วยได้นะคะ สลับ ๆ กันไป
บทบรรยายกับบทพูดนี่เรามองว่าบทพูดนะคะ เพราะบทพูดเป็นการนำเสนอตัวละคร (characterisation) แบบเร็วที่สุด ซึ่งถ้าทำได้ไม่ดีก็เท่ากับว่า characterisation ไม่ดี และอาจพังทั้งเรื่องได้เลยค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?