Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แนะนำวิทยาลัยโลกคดีศึกษาหรือ School of Global Studies แบบจัดเต็ม! [GSSE]

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


วิทยาลัยโลกคดีศึกษา หรือ School of Global Studies (ใช้คำว่าวิทยาลัย แต่เปรียบเสมือนกับคณะ หรือ Faculty) ส่วน GSSE ย่อมาจาก Global Studies and Social Entrepreneurship ชื่อภาษาไทยคือ โลกคดีศึกษาและการประกอบการสังคม เป็นชื่อหลักสูตรที่เปิดสอนโดยบูรณาการการศึกษาวิวัฒนาการของโลกและการประกอบการธุรกิจเพื่อสังคม หรือที่เรียกกันว่า “Social Business” นั่นเอง
 

                     
 

GSSE เป็นหลักสูตร International program เนื่องจากทางวิทยาลัยฯมองเห็นการแก้ไขปัญหาสังคมในเชิงธุรกิจและมองภาพปัญหาสังคมกว้างระดับนานาชาติ อีกทั้งปรากฏการณ์ทั้งหลายภายใต้ขอบเขตของโลกาภิวัตน์ ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาการแขนงใดแขนงหนึ่ง จึงเป็นการผนวกศาสตร์ของ จิตวิทยา การบริหาร และรัฐศาสตร์ (โดยเฉพาะด้านการระหว่างประเทศ) ซึ่งการเรียนการสอนจะแบ่งได้เป็นสองส่วน คือ

1. Global Studies = ในปีที่1-2 เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสังคมในระดับชุมชน เพื่อเข้าใจปัญหาสังคมระดับท้องถิ่น และได้เพิ่มพูนประสบการณ์ ทักษะการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย และพัฒนาตนเอง สัมผัสชุมชนต่างๆในมุมที่อาจไม่เคยเห็น และได้พัฒนาโครงงาน (Project) เพื่อชุมชนมากมาย นอกจากนี้เรายังได้เข้าใจปัญหาสังคมและบริบทของโลกในระดับนานาชาติ เพื่อเห็นความเชื่อมโยงของหลายปัจจัยระหว่างประเทศ และจะได้เรียนรู้เหตุการณ์ต่างๆในโลกว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร อาทิ สภาวะและสถานการณ์โลก, โลกาภิวัฒน์, นโยบายระหว่างประเทศต่างๆ, ความมั่นคงของมนุษย์, มาตรการต่างๆ ที่ใช้ในองค์กรหรือหน่วยงานระหว่างประเทศ, ผู้ลี้ภัย เป็นต้น

2. Social Entrepreneurship = ในปีที่ 3-4 เราจะได้เรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคม ซึ่งการทำธุรกิจเพื่อสังคมนี้ จะเป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการได้กำไร และในขณะเดียวกันก็คืนผลประโยชน์ให้กับสังคมอีกด้วย และจะได้นำความรู้ทางด้านธุรกิจ เช่น บัญชี การเงิน การตลาด เข้ามาช่วยแก้ไข้ปัญหาสังคม นั่นคือการใช้ธุรกิจเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาสังคมนั่นเอง จะได้โอกาสทำความรู้จักกับหน่วยงานธุรกิจเพื่อสังคมต่างๆมากมาย อีกทั้งนักศึกษายังมีโอกาสเลือกในสิ่งที่ตนสนใจเพื่อฝึกทักษะ การพัฒนานโยบาย เทคโนโลยี หรือ นวัตกรรม ทั้งนี้อาจารย์ยังให้คำปรึกษาและเปิดโอกาสให้นักศึกษาสร้างนวัตกรรมและฝึกฝนฝีมือเพื่อเตรียมความพร้อมกับการทำงานในชีวิตจริง นำความสามารถในฐานะผู้ประกอบการมาใช้ริเริ่มอย่างหลากหลายในการปฏิบัติงานด้านนวัตกรรมสังคม พัฒนาศักยภาพและสมรรถนะจากการปฏิบัติงานและประการณ์จริง  รวมทั้งเข้าใจการผลิตนวัตกรรม การดำเนินการ การเชื่อมนวัตกรรมทางสังคมให้ทันโลกาภิวัตน์ ความมั่นคงและสุขภาวะของมนุษย์

 

บรรยากาศการเรียน เป็น active learning เน้นการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในชั้นเรียน ซึ่งเปิดกว้างและรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน อีกทั้งเน้น skill ที่สามารถเอาไปใช้ได้ในชีวิตจริง เช่น 21st Century Skill (Creativity, Leadership, Communication เป็นต้น)

โดยสิ่งที่สำคัญคือ GSSE เป็นหลักสูตรที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง หรือ hands on experience learning และการพัฒนาทักษะทำให้นักศึกษาได้เปรียบในโลกการทำงาน เช่น ทักษะการพูดที่ดี การฝึก active listening การจัดลำดับความคิด การพัฒนา Emotional intelligence เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการทำงานและการใช้ชีวิตต่อไปในสังคม โดยการเรียนการสอนของเราจะมีอาจารย์เป็นชาวต่างชาติเกือบทั้งหมด ทำให้การเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ 100% และเน้นการทำ Project เป็นกลุ่ม วิธีการเรียนการสอนที่ใช้ในหลักสูตรนี้จะส่งเสริมให้เราคิดนอกกรอบคือเรียนรู้จากประเด็นปัญหาที่การบูรณาการ ด้วยการค้นคว้าหาความรู้ในแง่มุมต่างๆ ทำงานกับเพื่อนที่มีแนวคิดและมุมมองที่ต่างกันทั้งในการวิเคราะห์และในทางทฤษฎี ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง และแนวคิดด้านอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่นี่มีการฝึกงานทุกปีตั้งแต่ปี 1 โดยทุกปีจะมี theme เช่น ปี 1 เน้นลง community, ปี 2 เน้นฝึกงานที่ international organization, ปี 3 เน้นเป็น cooperates บริษัทต่างๆ และสามารถเลือกฝึกได้ตามความสนใจ ซึ่งเป็นการให้เราได้ลองในสิ่งที่ชอบ ถ้าลองแล้วไม่ชอบก็ตัด Choice ได้ ทำให้เราค้นพบตัวเองเร็วว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร และการทำงานแบบไหนและในบริษัทใดถึงจะเหมาะสมกับเรา


จบไปแล้วทำได้ทุกอย่าง อยู่ที่ว่าจะเลือกเป็นอะไร (cliche แต่จริง) ตอนเรียนในคณะ เราได้เรียนหลากหลายวิชา อยู่ที่ว่าเราต้องการลงลึกเฉพาะทางไปในไหนเรื่องใด โดยตัวหลักสูตรออกแบบมาให้เรามีความรู้เชิงกว้างมากกว่าเชิงลึกอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราไปเรียนต่อเชิงลึกในด้านที่เราสนใจ เราจะเป็นคนที่มีความรู้ในลักษณะตัว T นั่นคือรู้หลายด้าน และรู้ด้านเฉพาะทางด้วย เพื่อจะนำความรู้ในศาสตร์ต่างๆมาผนวกรวมกันและสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง ซึ่งเรียนจบแล้วก็สามารถทำอะไรได้หลายๆอย่าง เช่น


1. Cooperates บริษัทเอกชน : เจ้าหน้าที่ประจำหน่วย CSR แต่ตอนนี้นโยบายตลาดหลักทรัพย์กำหนดให้ทุกบริษัทที่จดทะเบียน "ต้องมี" หน่วย sustainable development  เพราะทุกบริษัทต้องการคนที่มีความรู้ด้าน สังคม+ธุรกิจ นอกจากนี้เราสามารถทำหน่วยงานอื่นที่เป็นเบนไปทางธุรกิจก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจ นักปฏิบัติการเชิงการสื่อสาร นักพัฒนาองค์กร นักออกแบบนวัตกรรม หรือแม้กระทั่ง consultant ก็ดี

2. องค์กรระหว่างประเทศ UN, Unicef, NGO, NPO, IGO องค์กรทางสังคมทั้งไทยและต่างชาติ : ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นว่าตรงนี้เราได้ในเรื่องของภาษาแน่นอน อีกทั้งเรามีความเข้าใจใน technical terms ต่างๆ แล้วก็เข้าใจใน context ของโลก (ซึ่งได้จากสิ่งที่เรียนมานั่นคือพาร์ท global studies นั่นเอง)


3. SE - Social Enterpreneurship : เราสามารถสร้างธุรกิจเพื่อสังคมของตัวเองไปเลย หรืออาจเป็น consult ให้ SE ต่างๆก็ได้ เพราะด้วยความที่เป็น concept และ trend ใหม่ที่เข้ามาได้ในระยะนึง ผู้ประกอบการบางส่วนอาจจะยังขาดความชำนาญหรือ expertise ไม่ว่าจะเป็นส่วนของธุรกิจหรือส่วนของสังคมเองก็ตาม ดังนั้นการที่เรามีความรู้ตรงนี้จะช่วยให้เราทำธุรกิจได้ประสบความสำเร็จเองแล้ว เรายังสามารถเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำผู้ประกอบการอื่นๆได้เช่นกัน


4. ธุรกิจของตัวเอง (แบบไม่ต้องเพื่อสังคม) อันนี้ก็ย่อมได้


5. Scholars, researchers เป็นนักวิชาการ นักวิจัย ศึกษาต่อเป็นอาจารย์ก็ได้


6. อื่นๆที่สนใจ





สำหรับน้องๆที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มในเว็บไซต์ http://sgs.tu.ac.th หรือติดตามข้อมูลข่าวสารใน https://www.facebook.com/SGSThammasat/

- รายละเอียดรอบการรับสมัคร https://sgs.tu.ac.th/ba-admissions-schedule/

- คุณสมบัติผู้เข้าเรียนhttps://sgs.tu.ac.th/ba-requirements/

- สมัครออนไลน์ http://bit.ly/gsse-dekd

สอบถามข้อมูล โทร. 086-788-8064, LINE ID : gsseadmission


 

แสดงความคิดเห็น

>