Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[รัฐศาสตร์ The Series!!] รีวิว "คู่มือนักการทูต!!" ฉบับไม่สร้างภาพ!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
"คุณอยากเป็นนักการทูตใช่ไหม!?"

เชื่อว่าแทบจะร้อยทั้งร้อยของคนที่จบคณะรัฐศาสตร์สายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมา รวมทั้งอีกหลายสาขาก็คงจะเห็น "นักการทูต" เป็นอาชีพในฝันกันทั้งนั้น แต่จริงๆแล้วอาชีพ "นักการทูต" ทำงานเกี่ยวกับอะไร แค่ใส่สูทผูกเนคไท นั่งจิบไวน์ใส่รองเท้าขัดมัน ภายใต้บรรยากาศหรูหราของงานเลี้ยงที่ประดับประดาไปด้วยธงทิวปลิวไสวอย่างนั้นหรือ???

หลายคนบอกว่าอยากเป็น...แต่พอลองให้นึกดูจริงๆ ก็คงตอบอะไรไม่ได้มากไปกว่าภาพฝันที่ตัวเองจะได้ผูกเนคไทหรือใส่รองเท้าส้นสูงจูงกระเป๋าเดินทาง แล้วไปนั่งกลางงานที่มีโต๊ะที่ติดธงชาติ จากนั้นก็ถ่ายรูปลงเฟสให้เป็นที่ชื่นหน้าชื่นตาของวงศาคณาญาติของตน

ในครั้งที่แล้วพี่ได้เขียนรีวิว "5 สายอาชีพชาวสิงห์ฉบับไม่ง้อราชการ!!" แต่ในครั้งนี้พี่จะขอ "เจาะลึก" ให้น้องๆ ได้เห็นถึงภาพการทำงานของชีวิตจริงภายใน "กระทรวงการต่างประเทศ" พร้อมเจะลึก Skill พิเศษสำหรับผู้ที่อยากมีความเจริญก้าวหน้าสายการทูตแบบก้าวกระโดด!!!


 
ยินดีต้อนรับ!!!


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


"ยินดีด้วย" ขณะนี้น้องสอบผ่านทั้งภาค ก ข และ ค และได้บรรจุเป็น "นักการทูตปฏิบัติการ" สมความตั้งใจเรียบร้อยแล้ว น้องและเพื่อนร่วมรุ่นต่างมีความยินดีที่จะก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ของการการเป็น "ผู้แทนประเทศ" น้องจะได้เดินทางไปดูงานตามสถานกงสุล สถานทูตไทยประจำประเทศต่างๆ น้องจะได้รับการอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับมารยาทและการปฏิบัติงานด้านการทูตอย่างครบครัน 

และแล้ววินาทีนั้นก็มาถึง...

วินาทีที่น้องและเพื่อนๆ จะได้ตั้งหน้าตั้งตาลุ้นกันอย่าง "ตัวโก่ง" ว่ากรม / กองแรกที่พวกน้องจะได้ลงคือที่ไหน แน่นอนว่าทุกคนต้องอยากให้ "ก้าวแรก" ของตัวเองเป็นก้าวที่สวยหรู แต่กรม / กองที่สวยหรูไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน!!! คะแนนที่สอบได้เข้ามาของน้องอยู่อันดับที่เท่าไหร่ น้องได้ "สร้างความประทับใจ" ไว้ในการเขียนและการแสดงทัศนคติในการสัมภาษณ์ในรอบที่ผ่านมาเอาไว้ยังไงบ้าง นี่แหละคือตัวตัดสิน...!!!

น้องอาจจะได้เจอกับความภาคภูมิใจว่าตัวเองได้เริ่มงานในกรม /กองที่ตัวเองใฝ่ฝัน หรืออาจจะต้องมองเห็นเพื่อนๆ ได้จับงานใหญ่ในเวที "การทูตพหุภาคี" ในขณะที่ตัวเองนั่งทำบัญชีอยู่ที่สำนักงานสายสนับสนุน ซึ่งนี่ก็คือ "ก้าวแรก" ที่อาจจะหอมหวานหรืออาจจะเจ็บปวด แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร นี่ก็เป็นเพียง "ก้าวแรก" สู่สายอาชีพนักการทูต ยังมีก้าวอีกหลายก้าวที่น้องจะต้องไปต่อใน "กระทรวงการต่างประเทศ"


หนังสือราชการ - น้องเก่งแค่ไหน!!?

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

เรื่องนี้คนที่ไม่อยู่ในแวดวงราชการอาจจะไม่เข้าใจ แต่สำหรับคนที่อยู่ในวงราชการมานานจะรู้และเข้าใจเป็นอย่างดีว่า หนังสือราชการฉบับหนึ่งนั้นนอกจากจะมีความสำคัญที่จะให้ผิดพลาดไม่ได้เพราะเป็นผลประโยชน์ของชาติแล้ว ยังมีความสำคัญในแง่ของการเป็นภาพลักษณ์ของหน่วยงานและผู้บังคับบัญชาของเราที่จะต้องเป็นผู้ลงนามในหนังสือฉบับนั้นๆ ด้วย

สำหรับหลายคนที่สอบเข้าได้เป็น "นักการทูต" ได้อย่างที่ตั้งใจ และพกความมั่นใจมาเกินร้อยเพราะตัวเองมีภาษีในเรื่องของภาษาที่ 3 ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส จีน เยอรมัน รัสเซีย ฯลฯ อาจจะสะดุดหัวคะมำเอาได้ง่ายๆ เมื่อต้องมาเจอกับด่านนี้ เพราะไม่ว่าน้องจะจบมาด้วยเกรดที่สวยหรูจากมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีชื่อเสียงมุมไหนของโลก ถ้าน้องไม่สามารถผ่านด่านหนังสือราชการไปได้ อนาคตน้องก็อาจจะไปได้ช้ากว่าคนอื่น

นั่นเป็นเพราะถ้าหากหนังสือราชการที่ผ่านการยกร่างด้วยมือของน้องเกิดความผิดพลาดขึ้นบ่อยๆ มันจะไม่ได้กระทบเฉพาะผลประโยชน์แห่งชาติที่น้องจะต้องรักษา แต่มันยังกระทบถึงหน้าตาของผู้บังคับบัญชาที่เป็นผู้ลงนามในหนังสือฉบับนั้น และยังเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของน้องในกระทรวงอีกด้วย!!!


จัดซื้อจัดจ้าง - น้องเคยทำไหม!!?



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ จัดซื้อจัดจ้าง

 


หลังจากที่น้องเขียนหนังสือราชการจนคล่องแล้ว กระบวนการที่น้องจะต้องเรียนรู้ต่อไปก็คือการ "จัดซื้อจัดจ้าง" สมมติว่าน้องมีงานเลี้ยงรับรองที่จะต้องจัดภายในสัปดาห์หน้า น้องจะต้องร่างบันทึกที่มีความยาว 4-5 หน้า บรรยายถึงวัตถุประสงค์ที่จำเป็นจะต้องมีการจัดงานนั้น โดยจะต้องมีเนื้อหาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงฯ รวมถึงแสดงรายการค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดพร้อมด้วยเอกสารแนบ แล้วรีบส่งไปยังผู้มีสิทธิอนุมัติงบประมาณ

ระหว่างที่รอการอนุมัติอยู่นั้น น้องจะต้องเตรียมตัวประสานงานทั้งหมดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นร้านดอกไม้ ร้านของชำร่วย organizer ฝ่ายอาคารสถานที่ วงดนตรี ร้านอาหาร ยานพาหนะ สั่งซื้อไวน์ จองที่พักโรงแรม ฯลฯ โดยจะต้องพยายามรวบรวมใบเสนอราคาให้ทันก่อนที่งบจะได้รับการอนุมัติ ซึ่งระหว่างนั้นก็จะต้องพยายามหาทาง "โน้มน้าว" ให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงหันมาให้ความสนใจโครงการของน้อง...ก่อนโครงการอื่นๆ!!!

การเตรียมการทั้งหมดนี้อาจจะทำให้น้องแทบคลั่งถ้าหากว่ามีคำสั่งเลื่อน หรือเปลี่ยนแปลงในวินาทีสุดท้าย อาจเป็นความประสงค์ของแขกที่จะมาเยือน หรือเลื่อนเพราะผู้บังคับบัญชาไม่สะดวก หรือไม่ก็หนังสือของน้องถูกตีกลับเพราะทำไม่ถูกต้องตามกฎ เช่น ตีนครุฑที่หัวกระดาษไม่ตรงกับเลขที่จ่าหน้าหนังสือ...เป็นต้น!!! 

ยังไงก็แล้วแต่ น้องก็ต้องเตรียมงานให้ทันตามกำหนดอยู่ดี...!



 
น้องเป็นคนละเอียดขนาดไหน!!?



รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


 

การจะเป็นนักการทูตที่ดี นอกจากจะต้องมีฝีไม้ลายมือในการเขียนหนังสือราชการให้ถูกใจผู้ใหญ่ และการประสานงานภายใต้กรอบเวลาที่จำกัดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ "ความละเอียดอ่อน" ละเอียดถึงขนาดที่ว่าต้องดูว่าการวางช้อนส้อมและตำแหน่งแก้วไวน์บนโต๊ะอาหารถูกต้องหรือไม่ ละเอียดขนาดที่ว่าต้องดูตำแหน่งการวางแจกันดอกไม้ให้อยู่กึ่งกลางโต๊ะอาหารโดยที่ผ้าไม่ยับและธงชาติของประเทศต่างๆ ถูกจัดวางในตำแหน่งที่ถูกต้องพร้อมป้ายชื่อแขก

ละเอียดถึงขนาดที่ในขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารเราจะต้องคอยยืนคุมเด็กเสิร์ฟและนับจำนวนเครื่องดื่มและไวน์ว่ามีเหลือตลอดงานเพียงพอสำหรับให้ทุกคน ละเอียดจนกระทั่งต้องคอยดูว่าลำดับพิธีการในงาน วงดนตรี การแสดงทุกอย่างเป็นไปตามที่กำหนด รวมถึงต้องจดบัญชีค่าใช้จ่าย เก็บรายการใบเสร็จเพื่อนำไปเบิกเงินคืน หรือเพื่อนำไปสมานแผลที่ถูกกรีดเข้าเนื้อสำหรับงบที่เบิกไม่ทันก่อนหน้านี้!!!

จำไว้ว่ามีแต่นักการทูตที่ละเอียดที่สุด หัวไวที่สุด และรอบคอบที่สุดเท่านั้นที่จะมีผลงานเข้าตาท่านปลัด ท่านทูต ท่านรัฐมนตรี เพื่อให้ท่านเหล่านี้มีเมตตาส่งเสริมสนับสนุนให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานสืบไป!


 
น้องมีความอดทนสูงไหม!!?



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ wine diplomacy

 


บ่อยครั้งที่คนในอาชีพนักการทูตต้องอดทนกับ "แขก" ที่ทำตัวให้ไม่น่าอดทนเท่าไหร่นัก! ชาวต่างชาติที่น้องจะต้องติดต่อด้วยล้วนเป็น "ผู้มีเกียรติ" และยิ่งเขารู้ว่าเขามีเกียรติมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่ง "เรียกร้อง" มากเท่านั้น ยิ่งถ้าหากเป็นแขกที่เชิญมาในกรณีที่เราต้องการให้เขาช่วยปกป้องผลประโยชน์บางอย่างของไทยบนเวทีโลก เขาก็ยิ่งรู้ว่าเขามี "พลังต่อรอง" ในมือที่สูงกว่าและย่อมจะต้องเรียกร้องการบริการที่ดีที่สุดต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย

ในขณะที่ "ทหาร" มีหน้าที่จับปืนยืนหน้าดุเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติในทาง "บู๊" แต่ "นักการทูต" คือคนที่ต้องจับแก้วไวน์และ "Smile"  (ส่งรอยยิ้ม) ให้กับทุกๆ ข้อเรียกร้องเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติบนเวทีระหว่างประเทศ ไม่ว่าบุคคลที่เป็นผู้แทนของชาตินั้นอาจจะมีบุคลิกลักษณะที่ไม่ทำให้รู้สึกอยาก "พินอบพิเทา" หรือ "ส่งยิ้ม" ให้เท่าไหร่ก็ตาม

ด้วยความที่งานของนักการทูตไม่ใช่การรักษาเพียงแค่ความสัมพันธ์ของคน 2 คน แต่เมื่อแต่ละคนต่างรับบทเป็น "ผู้แทนระดับชาติ" ระดับความอดทนย่อมต้องมีสูงกว่าการรักษาความสัมพันธ์ในระดับธรรมดาๆ ทั่วไป และจงจำไว้ว่าในทุกย่างก้าวของการปฏิบัติหน้าที่นั้นมี "ผู้ใหญ่" คอยให้คะแนนอยู่ คนที่มี "วุฒิภาวะ" สูงกว่าเท่านั้นที่จะได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ให้ทำหน้าที่ๆ มีความสำคัญในอนาคต


น้องวิ่งได้เร็วขนาดไหน!?



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ diplomatic vehicle
  

บ่อยครั้งที่บุคคลในอาชีพนักการทูตต้องทำงาน "อึด" ยิ่งกว่าหน่วยรบพิเศษ ตั้งแต่ต้องเตรียมรถเข็นไปขนกระเป๋าทูตมาจากสนามบินตอนเช้า แล้วรีบวิ่งสวมสูทไปรอรับแขกพิเศษที่ห้องวีไอพี จากนั้นก็กุลีกุจอพร้อมกับพานและพวงมาลัยต้อนรับลงมารอขบวนรถตู้ที่จะต้องรับทูตไปที่โรงแรม ไหนจะต้องตามหาคุณตำรวจที่บอกว่าจะมานำขบวนให้แล้วหายหน้าไปอีก ภายใต้เสื้อสูทที่ดูโก้หรูนี้น้องอาจมีเวลาจิบไวน์ดูดีอยู่แค่ 15 นาทีเท่านั้น

อีก 23 ชั่วโมงที่เหลือจากนั้นน้องจะต้องวิ่งเป็น "คนบ้า" เพื่อลากกระเป๋า คุมวินรถตู้ ดูทางในรถตำรวจนำ และปล้ำกับของชำร่วยจำนวนหลายสิบกระสอบเพื่อเตรียมไว้มอบ "สร้างความประทับใจ" ให้กับแขกผู้มาเยือน 

ที่ "กระทรวงการต่างประเทศ" ถนนศรีอยุธยามีฟิตเนสห้องเล็กๆ อยู่ข้างสระว่ายน้ำข้างบนโรงอาหาร ไว้ให้บรรดานักการทูตได้ฟิตซ้อมร่างกายเพื่อภารกิจเหล่านี้โดยเฉพาะ เพราะว่างานแบบนี้ "อ่อนแอก็แพ้ไป" ใครที่คิดว่ามาเป็นนักการทูตแล้วจะไม่ต้อง "ออกเหงื่อ" ก็เตรียมตัว "ม้วนเสื่อ" กลับบ้านไปได้เลย เพราะว่าที่กระทรวงการต่างประเทศ...คุณต้องเป็นได้ทุกอย่าง!

นี่ยังไม่นับตอนที่โดนผู้ใหญ่สั่งให้ขึ้นไปเต้นระบำโชว์แขกบนเวที เพราะวงดนตรียังมาไม่ถึงนะ!!!

 


น้องมี "บารมี" มากแค่ไหน!?



รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


"ยินดีด้วย" ในขณะนี้น้องได้ก้าวมาถึงช่วงปีที่ 4-5 ของการทำงานแล้ว ในช่วงที่ผ่านมาน้องได้ฝึกปรือวิทยายุทธ์ทั้งการเขียนหนังสือราชการ การประสานงาน การจัดซื้อจัดจ้าง การฝึกความอดทน และการได้ฟิตร่างกายมาในทุกรูปแบบแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่น้องได้ผ่านการ "rotate" เปลี่ยนกรม / กอง มาแล้วครั้งหนึ่งจนพร้อมที่จะสยายปีกสู่โลกภายนอกแล้ว

และแล้ววินาทีนั้นก็มาถึง...

วินาทีที่น้องและเพื่อนร่วมรุ่นจะต้องมาลุ้น "ตัวโก่ง" กันอีกครั้งว่าใครจะได้ไปประจำที่ประเทศในฝัน หรือใครจะต้องไปทุรกันดารอยู่ที่ไหน "คะแนน" ที่น้องได้สั่งสมมาทั้งหมดประกอบกับ "บารมี" ของผู้หลักผู้ใหญ่ที่น้องได้มีโอกาสไปฝากตัวรับใช้ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาจะเป็นตัวตัดสิน หลังจากนั้นก็จง "บิน" ไปสู่ที่ชอบๆ ตามทางฝันของตนเถิด...!!!

----------------------------------------

พี่หวังว่าบทความของพี่คงเป็นแรงบันดาลใจให้น้องหลายๆ คนที่กำลังเตรียมสอบเข้าคณะ "รัฐศาสตร์" โดยเฉพาะสายวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมุ่งมั่นที่จะทำความฝันให้เป็นจริงต่อไป รวมทั้งหากใครที่กำลังรอลุ้นว่าตัวเองจะได้เข้ารอบสุดท้ายไปสู่การเป็น "นักการทูต" ในการเปิดสอบของกระทรวงการต่างประเทศในรอบนี้หรือเปล่า ก็จะได้มองเห็นหน้าที่การงานในอนาคตของตนเช่นกัน!!!

//The Chariot

สุดท้ายนี้ ถ้าน้องอ่านบทความของพี่แล้วเกิดความฮึดสู้! ต้องการที่จะมุ่งไปสู่เป้าหมายคือความเป็น "สิงห์"! พี่ก็จะขออาสาเป็นคนติดอาวุธ / ขับรถม้า / พาน้องเข้าสนามสอบเพื่อไปให้ถึงเส้นชัยด้วยกันนะครับ!! มาเจอกันที่ "รัฐศาสตร์หัวหมอ" กันเถอะ!!



อยากดูสาระดีๆเพื่อชาวว่าที่รัฐศาสตร์ต่อก็คลิกได้เลย!
https://www.facebook.com/RudtasadHuaMor


 

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น