Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว สอบสัมภาษณ์สถ.มธ. ปี 62

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 
สวัสดีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนนะครับ ขอแนะนำตัวเองก่อนเลยว่าผมเป็นเด็ก 62 คนหนึ่งที่มีสิทธิสอบสัมภาษณ์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขา ภูมิสถาปัตยกรรม 

ตอนแรกผมขอบอกก่อนเลยว่าเป็นคนรู้ตัวเองช้ามาก (รู้ตัวตอนม.6 เทอม 2 แฮร่) แล้วหลังจากรู้ตัวเองก็ตะบี้ตะบันไปติวแบบโหดเหี้ยม จนกระทั่งเว็บของมธ. ประกาศออกมาว่ามีสิทธิสัม (ตอนนั้นจำได้ว่าดีใจจนร้องไห้ ว้อท ?)

วันที่ 11 ม.ค. 62 วันสอบสัมภาษณ์

พอไปถึงที่คณะก็เจอคนเต็มไปหมดเลย 
ไอใจเราก็เริ่มหวั่น ๆ แล้วแต่ก็ได้บอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไรเราอุตส่าห์ลิสต์คำถามมาเกือบ 20 คำถาม
เราก็นั่งรอทำสมาธิอยู่คนเดียวจนกระทั่งถึงเวลาแปดโมงครึ่ง ถึงได้ไปตรวจเอกสาร
พอตรวจเอกสารเสร็จปุ้บ ก็รอพี่เขาเรียกเพื่อไปทำงานต่อในส่วนของ sketch design


 Sketch Design Part / สอบข้อเขียน (อันนี้ข้ามได้ฮะ อาจจะไม่สำคัญเท่าไหร่)

โจทย์ของสาขาภูมิ คือ ให้เราวาดแปลนบ้านขนาด 10 x 10 ตร.ม. ในเวลา 1 ชั่วโมง
โดยมีพระเอกของเราคือต้นจามจุรีนั้นเอง (ตอนนั้นคืองงมากว่าทำไมไม่เป็นต้นยูงทองฟะ)
ด้วยความที่ตัวผมเองพึ่งจะเริ่มติวถาปัตย์ได้ไม่นานเลยไม่รู้ว่าจะกะขนาดเท่าไหร่ดี 
จนกระทั่งมองไม้บรรทัดในมือ 
เอาวะ 10 เมตร ก็ยาว 10 เซน นี้แหละ (น้อง ๆ อย่าเอาเป็นตัวอย่างนะครับดูโง่มากเลย5555)
ระหว่างที่กำลังวางแปลนบ้านอยู่ดี ๆ อาจารย์ที่สัมภาษณ์ก็แวะเข้ามาทักทายบอกว่าอย่าเกร็ง ทำขำ ๆ 
ไอเราก็อ่อขำ ๆ จริงเปล่าน้าจารย์อย่ามาขี้จุ๊เบเบ๊ ขี้จุ๊ตัลลาล้าผมนะ
จนผมวาดแปลนบ้าน ลงสีอะไรเรียบร้อยหมดแล้ว เวลายังเหลืออยู่ก็เลยแอบมองเพื่อน ๆ ที่เขายังวาดไม่เสร็จ
ไอชห !!!   
คนอื่น ๆ วาดตีฟ(ตีฟ หรือ perspective คือ ภาพทัศนียภาพที่เด็กติวถาปัตย์จะคุ้นเคยอย่างดี) กันอย่างดิบดี มีแค่เราคนเดียวที่วาดแปลน ไม่ได้ละ เราจะน้อยหน้าไม่ได้
ผมก็เลยวาดตีฟตามคนอื่นกลัวว่าเราจะทำผิดเลยวาดส่ง ๆ ไป
บุญมีแต่กรรมบังครับ
หมดเวลาพอดี ตอนนั้นนี้วาดบ้านกับต้นไม้เป็นแบบงานเด็กอนุบาลเลย (น้อง ๆ ที่ไปสัมภาษณ์อย่าลืมพกนาฬิกาไปด้วยนะครับจะได้รู้ว่ามีเวลาทำไหม อย่าพลาดเหมือนพี่ พี่เจ็บมาเยอะ TT)
ก็เลยจำใจส่งงานไปแบบเละ ๆ แบบนั้น ตอนนั้นคือโกรธตัวเองมากอยากจะเอาหัวโขกกับกำแพงให้ตายไปเลย


* สัมภาษณ์ Part *

จำได้ว่าระหว่างรอสัมภาษณ์ทุกคนดูยิ้มแย้มเป็นอย่างมาก
แต่พอทุกคนออกมาจากห้องสัมเท่านั้นแหละ สีหน้ากลับตาลปัตรกันหมดเลย
ไอเราก็ใจฟ่อแล้ว ได้แต่บอกกับตัวเองว่า เอาวะ!! นี้มันที่ของเรายังไงเราก็ต้องทำได้
พอเราถึงหน้าห้องสัม
สติก็ล่องลอยแบบเพลงของ the toys เลยตอนนั้นก็เปิดประตูเข้าไปแบบไม่ขออนุญาตใครเลย ตอนนั้นก็ได้แต่ด่าตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเองไม่รู้จักเคาะประตูห้ะ ? 

ก็ไปถึงเจออาจารย์สามคนผู้ชายหมดเลย
ผมก็เลยขออนุญาตนั่ง อ.ก็พูดเชิญครับ ๆ
ผมก็แนะนำตัวไปตามสเต็ป ชื่ออะไร มาจากไหน เรียนที่ไหน สายอะไร 

อ.ก็ถามต่อว่า " อะไหนลองพูดถึงตัวคุณมากกว่านี้อีกหน่อยสิ "
ผมก็เลยเล่าว่า มีความสามารถพิเศษอะไร มีพี่น้องกี่คน พ่อแม่ทำงานอะไร งานอดิเรกชอบทำอะไร

พอพูดจบอาจารย์ก็ยื่นแฟ้มพอร์ตของผมกับงาน sketch design แล้วให้เราพรีให้เขาฟัง 
จนอาจารย์สงสัยว่าทำไมงานใน sketch design กับในพอร์ตถึงเส้นไม่เหมือนกันเลย
เรานี้ใจแตกสลายเหมือนอกหักครั้งแรกเลยครับผ๊มมมม
เราก็เลยตอบไปว่า "วาดไม่ทันครับจารย์ ตอนแรกตัดสินใจจะวาดแค่แปลน เห็นคนอื่นเขาวาดตีฟเลยวาดตีฟตาม แล้วก็หมดเวลาพอดีเลยส่งแบบไม่สมบูรณ์ครับ "
จารย์ก็พูดมาว่า " อ่าวถ้าสมมติอาจารย์ให้งานเราส่งภายใน 1 วันเราจะทำส่งทันเหรอ " 
เราก็ตอบไปอย่างมั่นใจว่า " ทันแน่นอน ขนาดรายงานทำ 5 นาทีก่อนพรีเซนต์ยังเคยทำมาเลย "
อาจารย์ก็ขำคิ้กคาก ตอนนั้นก็งงว่าขำทำไม หรือว่าเราหน้าจริงจังเกินไป หรือ เราเผลอปล่อยหน้าเด๋อ ๆ ใส่
เราก็เลยพรีพอร์ตเราต่อว่าวาดอะไรบ้าง โลเคชั่นจากสถานที่นี้อยู่ตรงไหน (เราวาดตีฟล้วนในพอร์ต)

แล้วอาจารย์ก็พูดขึ้นมาว่า " เราอะเป็นคนโลกแคบนะ หัดเปิดโลกให้กว้างกว่านี้อีกหน่อย รู้จักแอพ Pinterest ไหม ลองไปหารูปวาดเล่น ๆ เอา อีกตั้ง 7-8 เดือนกว่าจะเปิดเทอมถึงตอนนั้นถ้าเธอยังฝึกจูนเส้นอยู่ก็คงสวยแล้วละ เพราะว่าเธอก็ลงสีสวยอยู่แล้วเหลือแค่เส้นที่ต้องปรับนิดหน่อยเอง "

ตอนนั้นเราอยากร้องไห้มาก หน้าสั่นไปหมดแล้ว สติไม่รับรู้อะไรแล้ว เหมือนโดนบัวขาวมาจระเข้ฟาดหางใส่ที่ท้ายทอย 

อาจารย์ไม่รอช้าถามต่อว่า " ทำไมถึงอยากเข้าที่นี้ละ "
เราก็ตอบไปทำนองว่า เป็นคนชอบออกแบบ ชอบต้นไม้ และอยากเข้ามธ.มาก ตอนแรกไม่ได้สนใจถาปัตย์เท่าไหร่อยากเรียนนิเทศมากกว่าแต่ไป ๆ มา ๆ ดันเบื่อนิเทศซะงั้น เลยมาหาข้อมูลใหม่เลยเจอสาขานี้ก็ตรงกับใจที่ค้นหามานานเลย ประมาณเนี้ยะ

อาจารย์ไม่รอช้าขยี้คำถามต่อเลยว่า เอ้าทำไมถึงเบื่อนิเทศล่ะ ? นิเทศไม่ดีตรงไหน ? สถาปัตย์กับนิเทศต่างกันยังไง ? แล้วทำไมถึงอยากเรียนที่มธ. ละ ค่าเทอมแพงนะพ่อแม่รู้รึเปล่า ?
ตอนนั้นคืออยากจะเข้าไปบีบคอตัวเองแล้วเขย่า ๆ มาก ๆ -จะพูดไปทำไมวะไอง้าววววว

จนมาคำถามสุดท้ายที่อาจารย์ถามว่า " มีอะไรจะถามอาจารย์ไหม "
ตอนนั้นวิญญาณชาวบ้านบางระจันคงเข้าสิงผมเลยถามจารย์ไปว่า " แล้วผมจะติดที่นี้ไหมครับ "  
อาจารย์เลยบอกว่า " ผมก็พูดอะไรไม่ได้หรอก แล้วถ้าคุณมาเป็นผมเนี้ย คุณคิดว่าอะไรที่ผมจะต้องรับเด็กคนนี้เข้าศึกษาต่อ "

ในใจผมตอนนั้นคือพร้อมลาตายทุกเมื่อแล้ว เลยตอบไปอย่างสุดแรงที่มีว่า " ก็เป็นเพราะแอตติจูด กับ ความพยายามที่จะเข้ามาเรียนที่นี้แหละครับ " 
อาจารย์ก็พูดว่าตามนั้นแหละ ไม่มีอะไรแล้ว ไว้เจอกันนะครับ 
ผมนี้นอนตายอย่างสงบหน้าห้องสัมภาษณ์เลยครัยคุณกิตติ เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงอยากจะร้องไห้กัน


อยากจะฝากถึงน้อง ๆ รุ่นต่อไปว่า ถ้าเราเตรียมพอร์ตมาอย่างดี
เตรียมคำพูดมาดี
แล้วพยายามมีสติ
ยังไง๊ยังไงก็ติดสอบติด 

ส่วนเพื่อน ๆ ที่มาสัมภาษณ์ด้วยกันวันนั้นก็ขอให้ติดทุกคนนะ(รวมถึงเราด้วย TT) ไม่ต้องเครียด ๆ แล้ววันที่ 28 นี้มาลุ้นผลด้วยกันเต๊อะ


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นวิทยาทานให้กับคนรุ่นต่อ ๆ ไปที่จะสอบสัมภาษณ์ที่นี้หรือที่อื่นเป็นแนวทางในการเตรียมตัวเนอะ อยากถามอะไรก็ถามได้เลยนะครับ ถ้าผมตอบได้ก็จะพยายามตอบ เป็นกลจ.ให้ฮะ 






 

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

TheUniQ 23 ม.ค. 62 เวลา 16:58 น. 1

จะบอกว่า งานของแลนเยอะมากก เราเรียนอยู่สถหลัก แต่เพื่อนแลนคือ อ.สั่งงานวันนี้ ส่งพน ยกคลาสแต่สั่งงานเพิ่มอย่างเยอะ ที่นี้เรียนสนุก เสรีมาก มาเป็นเด็กถาปัต มธด้วยกันน้า

1
bualoijaopuenyak 23 ม.ค. 62 เวลา 21:20 น. 1-1

อยากเป็นมากเลยครับ แต่ไม่รู้อาจารย์จะยอมไหม 55555

0
seabeach123 29 เม.ย. 62 เวลา 16:29 น. 2

ติวที่ไหนครับตอนนั้น คือเพิ่งรู้ตัวว่าอยากเรียนสถาปัตย์ในระดับนึงแล้ว อยากได้คำแนะนำครับ

0