Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

โควต้า มข. กับ BMAT

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
  ผมได้รู้จักคำว่า BMAT มาจากนักเรียนที่ผมสอนอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เข้าใจสักทีว่ามันคือการสอบอะไร ต่อเมื่อได้มาดูในรายละเอียดทำให้รู้ว่าเป็นการสอบที่มาทดแทน โควต้า ในอดีต ย้อนยุคกลับไปเราใช้ระบบเอนทรานซ์ สอบข้อสอบส่วนกลางแข่งกันทั้งประเทศอันนี้ลองถามดูได้จากรุ่นพ่อของเราที่สอบไป มีการสอบครั้งเดียวตัดสินกันไปเลยว่าใครดีใครอยู่ แต่เมื่อมาถึงยุค KKU(มข.)การรับนักเรียน ม.6 เข้ามาคิดว่าหากเราเลือกเด็กโดยการสอบแบบเตรียมอุดม เรียงคะแนนจากมากไปน้อย เด็กอีสานคงไม่มีโอกาสที่จะได้เรียน มข. เพราะคนเก่งจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วไปและหนาแน่นอยู่ส่วนกลางปริมณฑล ทางมหาลัยจึงเลือกระบบโควต้าภาคอีสาน ในยุคผมปี 2000 เอาคะแนน Ent มาสมัคร ผมจำไม่ได้ว่าประมาณสัก 100 คน อีกราว 60 คน สอบมาจากทั่วประเทศ ผลคือ เด็กภาคอีสานโรงเรียนดังๆก็ได้เข้าไปเรียนแพทย์ มข.กัน แบ่งเค้กกันไป ในส่วนกลางก็มีมาซึ่งล้วนเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง จากนั้นก็เป็นยุคทองของติวเตอร์คือการสอบ Ent คือชีวิตของ นร.ม.6 ทุกคน ต้องทำให้ดีที่สุด ต่อมาผู้ใหญ่เห็นว่าเด็กไทยมีความเครียดจึงพยายามจะดึงเอา GPA เข้ามาเกี่ยวด้วยมีการสอบ O-net และ A-net มีการให้อัตราส่วนคะแนน GPA 10-20% เอาคะแนนแต่ละวิชามาคิดถ้าเป็นหมอก็ 7 วิชา ก็มีปัญหากันอยู่พักใหญ่เพราะมาตรฐานการศึกษายังต่างกัน การเข้าถึงการศึกษาที่ต่างกัน ก็มาถึงยุคที่แพทย์ มข.และอื่นๆ(ประมาณ 10 ปีก่อน)เลือกทำข้อสอบโควต้าขึ้นมาเอง ต้องไปสอบกันตามที่แต่ละมหาลัยกำหนด มช.ก็มี มศว. ก็มี หลายๆที่มีหมด ทำให้เด็กยิ่งเครียดกว่าเดิมเพราะต้องออกสอบหลายที่ ข้อสอบก็ยากๆทั้งนั้น ผู้ใหญ่ก็เห็นถึงความวุ่นวายก็เลยให้ยกเลิกการสอบโควต้าแบบนี้ จะได้ไม่ต้องเดินทาง ทางแพทย์ มข.และทุกมหาลัย ในประเทศจึงผุดไอเดีย รอบ port-BMAT ขึ้นมาซึ่งพึ่งผ่านไป 2 ครั้งนี่เอง ครั้งที่ 1 2561 ครั้งนี้ 2562 โดยรับเป็น MDX 44 คน MD02 76 คน อันแรกทั่วประเทศ อันที่สองภาคอีสาน เมื่อดูรายชื่อจากคนที่ได้MDX ก็จะกระจายไปที่โรงเรียนดังๆอีกเช่นเคย แต่มีชื่อโรงเรียน inter แทรกเข้ามากขึ้น ต่างจากยุคของผมปี 2000 ซึ่งไม่ค่อยได้ยินชื่อโรงเรียนเหล่านี้ ในส่วนของ MD02 ก็กระจายกันตามโรงเรียนที่มีชื่อเสียงอีกเช่นเคย แต่ต้องยอมรับว่า 2 ปีที่ผ่านมาเด็กที่มาแบบ inter ได้เปรียบเพราะข้อสอบ 2 part หลักของ BMAT มาตามมาตรฐานของมหาลัยเคมบริด เป็นเนื่อหาแบบฝรั่ง เมืองนอกข้อสอบส่วนใหญ่ของคณิตความยากไม่เกิน Grade 10 วิทย์ก็เช่นกันไม่ยากเท่าวิชาสามัญ แต่ติดตรงค่าสอบที่แพงเอาการ ภาษาอังกฤษเด็กอีสานก็แน่นเป็นบางคน คนที่ได้ต้องเป็นเด็กที่ออกไปทาง inter-science ผมเป็นคนอีสานคนหนึ่งจึงอยากแนะนำน้องๆ รุ่นใหม่ว่าเราคงต้องพยายามหาหนังสือ หลักสูตร inter เหล่านี้มาแทรกเข้ากับการเรียนในชั้นแล้วเพราะพวกเรามักเรียนอังกฤษแยกกับวิทย์ เห็นว่าปีแรกตั้งค่าคะแนนไว้ BMAT ไว้สูง 5.0 คนได้น้อยมาก ก็เลยลดลงมาเป็น 4.5 ในปีที่สอง ซึ่งก็ยังได้เด็กไม่ครบ 76 คน ขาดไปนิดหน่อย ทุกคนก็ติดตามผลกันได้
วันนี้ผมมีตัวอย่างข้อสอบคณิต BMAT มาให้ 6 ข้อ(เรียบเรียงเป็นไทยแล้ว)ลองทำดูนะ
1)โยนเหรียญ 4 เหรียญ โอกาสที่จะออกหัว 2 เหรียญก้อย 2 เหรียญ เป็นเท่าไร
2)การพนันรูเลต ซึ่งเล่นในกาสิโน มีการหมุนลูกบอลให้ลงหมายเลข 0-36 จงหาความน่าจะเป็นที่จะออกเลขซึ่งหารด้วย 2 หรือ 3 ลงตัว
3)ลูกเต๋าลูกหนึ่งมีความน่าจะเป็นที่จะออก 6 แต้มเป็น 2 เท่าของหน้าอื่น จงหาความน่าจะเป็นที่โยน 2 ครั้งได้แต้มรวม 12 แต้ม
4)ไพ่สำรับหนึ่ง 52 ใบ หยิบมาทีละใบจำนวน 2 ใบ โดยไม่คืน จงหาโอกาสเป็นคิงส์ทั้ง 2 ใบ
5)บอลทั้งหมด 10 ลูกเป็นดำหนึ่งลูก ที่เหลือเป็นสีขาว นำมาวางเป็นแถวตรง โอกาสที่ลูกสุดท้ายเป็นสีดำเป็นเท่าไร
6)กล่องเหลือง 8 อัน แดง 12 อัน หยิบมาทีละอันตั้งเป็นชั้น 3 ชั้น โดยไม่คืน ครบ 3 อัน โอกาสที่จะมีสีแดงอยู่ 2 อันเป็นเท่าไร 
   ผมขอสรุปจำนวนการรับ แพทย์ มข. จากการอ่านมาจากประกาศแล้วสรุปดังนี้ครับ
รอบที่ 1 port-BMAT แบ่งเป็น MDX 44 คน MD02 76 คน
รอบที่ 2 โควตาอีสาน มี 001 36 คน CPIRD 96 คน Inclusive 16 คน 
ทั้ง 3 แบบเอาคะแนนวิชาสามัญ แบบแรกสมัครได้ทุกจังหวัด แต่ CPIRD และ Inclusive รับเพียง 12 จังหวัดแบ่งเป็น 3 ศูนย์ คือ ขอนแก่น42+6 อุดร27+5 สารคาม27+5
รอบที่ 3 กสพท. 20 คน มาจากทั่วประเทศ
อันนี้ผมขอวิจารณ์CPIRDรอบที่สองนะครับ ว่าเราเน้นกำหนดจำนวนเด็กในแต่่ละเขตก็มีข้อดีแต่จำนวนที่กำหนดหากมีการคลาดเคลื่อนจะทำให้เด็กที่ควรเป็นหมอเสียโอกาส เช่น ถ้ามีคนที่เหมาะเป็นแพทย์ 50 คน อยู่โซนขอนแก่น 30 คน อยู่โซนอุดร  16 คนอยู่โซนสารคาม ตัวเลข 42/27/27 อาจเป็นตัวเลขที่ไม่เหมาะสม การเรียงคะแนนจากมากไปน้อยในกลุ่ม CPIRD อาจดีกว่า เหมาะกว่าเพราะว่ากันตามความสามารถคับและเป็นการกระตุ้นให้ทุกคนแข่งขันกันเช่นในอดีต
อนึ่งผมเป็นคนอุบล ไม่มีสิทธิ์อะไรใน CPIRD และ Inclusive ก็มีแค่รอบ 001 และ กสพท. แล้วคิดว่าผมจะสอบติดไหมล่ะ แต่ถ้าคุณอยู่อุบลและศีรษะเกษ ก็อย่าท้อเรายังมีโควต้าจาก ม.อุบล ประมาณจังหวัดละ 25 คนครับ  
   หากเป็นเด็กอุบล ศรีษะเกษก็ต้องเปลี่ยนมาตั้งใจเรียนแนว inter-science ที่ผมเสนอ เพื่อรอบ MD02 และ โควต้า 001 ถ้าไม่ได้ก็ โควต้า แพทย์ ม.อุบล คับ หวังว่าเราเด็กอีสานใต้จะดึงความ inter ออกมาจากตัวเองให้ได้นะ

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น