Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ขอบคุณครับ ขอบคุณอย่างยิ่ง..55555555

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตรง ๆ เลยนะครับ..กระทู้นี้มิได้ต้องการถามสิ่งใด เพียงต้องการขอบคุณคนฝึกขีดเขี่ย นนิยายผู้
หนึ่งที่กรุณามอบคำจำกัดความให้บรรดาชาวรีดเดอร์ว่า ผู้อ่านนิยายคือคนโง่คือเด็กคนหนึ่ง ไว้
ภายในคอมเม้นท์ของท่าน และผู้หัดขีดเขี่ย นนิยายอีกสองคน ที่ได้แสดงความคิดเห็นไปในวิถี
เดียวกับผู้คอมเม้นท์โดยการกดถูกใจ..

ปล.ขอขอบคุณทั้งสามท่านด้วยความจริงใจอย่างยิ่งจริง ๆ ที่กรุณาบอกให้พวกเราเหล่ารีดเดอร์
รู้ว่า ผู้ฝึกหัดขีดเขี่ย นนิยายเฉกเช่นคุณ คิดอย่างไรกับคนที่อ่านนิยายของพวกคุณ..บายล่ะครับ

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

ปล่อยอึ่ง 22 ม.ค. 62 เวลา 21:34 น. 2

ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ เดี๋ยวเขาจะเขินซะเปล่าๆ



อ้อ มันมีผู้ฝึกหัดขีดเขี่ยอยู่คนนึง มันไล่กดถูกใจไปทั่วเลยล่ะ ไม่สนใจหรอกว่าเขาจะคอมเมนท์อะไรมา ถ้าไม่กดคือมันจะตายให้ได้ อ้อ ไม่ได้สิ บอกแบบนี้ไม่ได้ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นข้ออ้างเพื่อหนีเอาตัวรอด


อย่างคำว่า 'ขอบคุณ' ของคุณเนี่ย มันหมายถึงขอบคุณจริงๆ หรือเปล่าครับ แล้วทีนี้ การกดถูกใจของผู้ฝึกหัดขีดเขี่ยเนี่ย มันหมายถึงถูกใจจริงๆ ป้ะ อันนี้มันน่าคิดนะ ผมขอเดาว่า คุณน่าจะรู้จักหรือเข้าใจความหมายของคำว่า 'ประชด' ดีกว่าใครๆ ก็ไม่ได้อีกแหละ เดี๋ยวมันจะไปขัดแย้งกับการไล่กดถูกใจไปทั่วของผู้ฝึกหัดขีดเขี่ยคนหนึ่งเข้า


เอ จะว่าไปแล้ว ผู้ฝึกหัดขีดเขี่ยคนนั้นนี่ จริงๆ แล้วเขาเคยใส่ใจเหล่านักอ่านของเขาบ้างไหมนะ ทุกๆ ครั้งก็จะเห็นแต่เขาพูดถึงแต่เรื่องนิยายของตัวเองทั้งนั้นเลยนี่นา ไม่เห็นแวะไปพูดคุยเรื่องอื่นบ้างเลย หรือเพราะเขาคิดว่าเหล่านักอ่านของเขาคือเด็กหรือคนโง่จริงๆ หว่า หรือบางทีอาจไม่มีค่าพอให้ต้องสนใจเลยก็ได้ แหม อยากให้ผู้ขีดเขียนคนนั้นมาเห็นกระทู้กระทู้นี้บ้างจัง เผื่อเขาจะสำนักอะไรดีๆ ได้บ้าง บางทีอาจจะแยกแยะอะไรได้ด้วย แยกแยะน่ะ แยกแยะ


ถามหน่อยครับ ต้องการอะไร

7
พี่ตุลา 23 ม.ค. 62 เวลา 17:00 น. 2-3

ผมน่าจะเป็นคนเดียวที่อ่านเเล้วงง #ตั้งสติเเล้วกลับไปอ่านใหม่

0
พี่ตุลา 23 ม.ค. 62 เวลา 19:54 น. 2-5

ผมหมายถึงกระทู้ พอเลื่อนลงมาเเล้วอ่านเจอคอมเม้นคุณก็เเบบ เฮ้ย เราอ่านพลาดอะไรไป.. #อย่าถือสาผมเลยผมเเก่เเล้ว

0
yurinohanakotoba 22 ม.ค. 62 เวลา 22:06 น. 3

บริบทของคำพูดนั้น เหมือนคำว่าลูกค้าคือพระเจ้านั่นละครับ คือให้ผู้ให้บริการคิดว่าลูกค้าคือพระเจ้า แต่ไม่ใช่ลูกค้ามายึดตนว่าเป็นพระเจ้า

เช่นเดียวกัน ตำราบางเล่มจะสอนให้ผู้เขียนคิดว่าผู้อ่านไม่รู้เรื่องอะไร เราต้องบรรยายให้ละเอียดที่สุด ไม่ได้ให้ผู้อ่านไปยึดว่าถูกนักเขียนมองว่าตัวเองเป็นเด็กน้อยเลยต้องบรรยายละเอียด ๆ

เจ้าของกระทู้ต้องอ่านหนังสือให้มาก ๆ นะครับ รู้จักคำว่า Read between the lines ไว้บ้างจะได้มาปล่อยไก่แบบนี้

1
NIGHTMARES.. 23 ม.ค. 62 เวลา 13:11 น. 3-1

5555555..ถูกต้องครับบริบทคือ ถ้อยคำหรือข้อความที่ช่วยให้เข้าใจความหมายของคำได้กระจ่าง

ขึ้น และนวนิยายก็คือสิ่งสมมุติที่เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมไม่มีผู้อ่านคนใด

สามารถล่วงรู้รายละเอียดภายในความนึกคิดของผู้เขียนได้ เพราะเกินขอบเขตความสามารถมนุษย์

ปุถุชนทั่วๆไป ไม่ใช่ความโง่เขลาแต่อย่างใด และหากผู้เขียนคนใดจะเปรียบเปรยคนอ่านเป็นผู้ไม่รู้

เพราะสาเหตุนี้ก็ไม่ผิดแต่อย่างไร หรือคนอ่านจะเปรียบคนเขียนเป็นผู้ไม่รู้บ้างก็ได้เช่นกัน เพราะผู้

เขียนย่อมไม่สามารถล่วงรู้ความคิดของคนอ่านเฉกกัน อีกทั้งความหมายของมันก็ไม่ได้หยาบคาย หรือไม่เหมาะสมต่อการใช้อีกด้วย ถือว่าเป็นคำที่อยู้ในขอบเขที่พอจะรับได้ครับ..

หากแต่การกล่าวอ้างถึงหลักการของนักเขียนที่ดี คือให้คิดว่า ผู้อ่านคือคนโง่คือเด็กที่ไม้รู้อะไรเลย

จึงจะสามารถบรรยายรายละเอียดต่าง ๆ ให้คนอ่านเข้าใจได้ออกสื่อสาธารณะโดยไม่คำนึงถึงความความรู้สึกของผู้อ่าน ไม่ใส่จะใจว่าคำที่นำมาใช้นั้นเหมาะสมหรือไม่แม้แต่น้อย ไม่แม้จะให้ความสน

ใจต่อความแตกต่างระหว่างคำ ผู้ไม่รู้ กับ "คนโง่" ว่าต่างกันอย่างไร คำใดควรใช้คำใดไม่ควรอย่าง

ไร สิ่งนี้หรือคือสิ่งที่คุณเรียกว่าบริบท เรียกว่าถ้อยคำหรือข้อความ ที่ช่วยให้เข้าใจความหมายของ

คำกระจ่างขึ้น?

55555..สงสัยเหลือเกินสงสัยจริง ๆ ว่า ผู้ที่ไม่เข้าใจแม้แต่ความเหมาะสมไม่เหมาะสมในการใช้คำ

ไม่เข้าใจแม้กระทั่งสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญ ต่อความเข้มแข็งหรืออ่อนแอในการบรรยายนั้น ก็คือระดับของความเข้าใจต่อสิ่งที่ตนกำลังขีดเขียน ระดับความแข็งแรงของสติปัญญาและทักษะต่าง ๆ ของตัวผู้เขียนเองต่างหากคือปัจจัยสูงสุด ต่อการสร้างความแข็งแกร่งในการบรรยาย หาใช่การมัวมโนถึงความโง่ของคนอ่าน ซึ่งไม่มีผลต่อความเข้าใจ ต่อระดับสติปัญญา และความแข็งแรงของทักษะ

ต่าง ๆ ของผู้ที่มัวแต่มโนว่าคนอ่านโง่ เราจะเขียนให้คนโง่อ่าน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่างไรเลยแม้แต่น้อย

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณคห 3 อย่างยิ่งครับสำหรับคำแนะนำ และเช่นกันครับคุณก็ควรจะใช้สมองขบ

คิดอะไร ๆ ให้มากอีกนิดนะครับ หาไม่เจ้าสมองมันอาจเข้าใจผิดว่ามันเป็นเพียงเครื่องประดับโพลงกระโหลกเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้มันหยุดทำงานไปเป็นการถาวร ตลอดไปเลยก็เป็นได้นะครับ...บาย

0
S3RS 22 ม.ค. 62 เวลา 22:11 น. 4

「ให้คิดว่าผู้อ่านคือคนโง่คนหนึ่ง ผู้อ่านคือเด็กเล็กๆคนหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเลย」


เป็นแนวคิดในการเขียน ว่าให้เขียนราวกับเขียนให้เด็กหรือคนโง่ฟัง

ไม่ใช่เขียนให้คนโง่อ่าน หรือนักอ่านเป็นคนโง่


แต่ก็ไม่ใช่ว่านักอ่านทุกคนจะไม่โง่หรอกครับ ตัวอย่างของนักอ่านโง่ๆก็มีให้เห็นเว็ปนี้เช่นกันครับ


[ บางครั้งก็ควรให้เกียรติผู้อื่น - นี่เป็นคำพูดที่ผมบอกกับตัวเองครับ เพราะผมเองก็หยาบคายเหมือนกัน ]

[ Я не не могу понимать, почему ты такой идиот. ]

0
Nice Lie 23 ม.ค. 62 เวลา 03:22 น. 5

ผมเสียใจที่เราได้เห็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากแค่ไหน


- จงเขียนโดยให้คิดว่าผู้อ่านคือคนโง่คนหนึ่ง คือเด็กที่ไม่รู้อะไรเลย -

ประโยคดังกล่าวมิได้กล่าวว่าใครโง่หรือเป็นแค่เด็ก ความหมายที่แท้จริงของมันคือ จงเขียนนิยายที่แม้แต่เด็กหรือคนโง่ก็สามารถเข้าใจได้ นิยายที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าใจหรือจินตนาการถึงมันได้


ไม่ว่าคุณจะมีจุดประสงค์อะไรก็ตาม

การทำแบบนี้ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเลย

แต่ถ้าคุณเข้าใจว่าเขาด่าจริง ก็เป็นตัวอย่างที่ดีว่าทำไมต้องเขียนให้ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าใจได้


ความคิดเห็นนี้แยกระดับความเข้าใจเป็นสองระดับ ถ้าเข้าใจอีกความหมายหนึ่งของความคิดเห็นนี้ก็คงมีจุดประสงค์อื่นแล้วล่ะ

0
Alex_อเล็กซ์ 23 ม.ค. 62 เวลา 08:50 น. 6

คำว่า 'โง่' ในที่นี่ถูกนำมาใช้ในการเปรียบเทียบค่ะคุณ ไม่ได้นำมากล่าวว่านักอ่านแต่อย่างใด


แน่นอนว่าไม่ได้มีแต่อัจฉริยะที่จะเข้ามาอ่านนิยาย บางททีก็มีคนที่จินตนาการตามไม่ทันและไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับนิยายมันก็มี


นักเขียนเราต้องคำนึงถึงการมีอารมณ์ร่วมของนักอ่านด้วยเพื่อนให้พวกเขา(นักอ่าน)เข้าใจตามเนื้อเรื่อง ได้สนุกตามเนื้อหาของนิยายที่ดำเนินอยู่


โดยให้คิดซะว่าหากมีเด็กน้อยหรือคนโง่เข้ามาอ่านนิยายเรา เขาเหล่านั้นก็สามารถที่จะเข้าใจถึงอารมณ์ในนิยายผ่านการบรรยายของเรา(นักเขียน)ค่ะ หากคิดว่าคนสองกลุ่มนี้อ่านเข้าใจ นักอ่านคนอื่นธรรมดาทั่วไปก็ย่อมที่เข้าใจถึงอารมณ์และเหตุการณ์ผ่านการบรรยายของเรา(นักเขียน)ได้โดยง่ายเช่นกัน


ทั้งนี้ไม่มีใครคิดจริงๆหรอกว่านักอ่านเป็นคนโง่




0
คนที่ผ่านมา 23 ม.ค. 62 เวลา 13:01 น. 7

มันก็แค่คำเปรียบเทียบเท่านั้นค่ะ ความหมายง่ายๆก็คือ จงเขียนนิยายออกมาให้คนอ่านเข้าถึงและเข้าใจมากที่สุดนั่นเองค่ะ โอเค๊?

0
เด็กหล่ายดอย 23 ม.ค. 62 เวลา 14:30 น. 8

ผมไม่เข้าใจความต้องการของ จขกท. แต่คิดว่าคนที่ท่านกล่าวถึงน่าจะเป้นผมเอง ครั้งแรกจะขออธิบายเพื่อเป็นแสงสว่างนำทางชีวิตของท่านให้พ้นจากโคลนตม แต่พอได้อ่านคอมเม้นของเพื่อนๆนักเขียนหลายท่านที่อธิบายออกมา ทำให้ผมรู้ว่านักเขียนชั้นเลิศยังมีอยู่มากมายในเว็บเด็กดีเพราะทุกท่านได้อธิบายออกมาตามความหมายที่แท้จริงของประโยคแล้วครับ ดังนั้นผมจึงไม่ขออธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก

1
เด็กหล่ายดอย 23 ม.ค. 62 เวลา 21:03 น. 8-1

เผื่อว่าบางคนที่เข้ามาอ่านอาจไม่เข้าใจว่า ประโยคที่ จขกท.นำมาเป็นประเด็นนั้นมาจากไหนกัน ผมจะขอนำลิงด์กระทู้ที่ผมได้ เขียนตอบมาแสดง ให้ทุกคนได้เข้าไปดูและอ่านดุครับ เพื่อให้ทุกท่านได้ลองวิเคราะห์ดูว่าสิ่งที่ผมพูดนั้น ผมหมายถึงสิ่งใดกันแน่


https://www.dek-d.com/board/view/3903387/1/?comment=6


0
Nyx 24 ม.ค. 62 เวลา 19:41 น. 9-2

นี่เป็นภาษาจีน ใช้กันอยู่บ้างในข่าวการเมือง แปลตรงตัวคือกินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำ (หรือไงวะ ? - ตรงนี้ผมเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจ) ส่วนตัวผมหมายถึง "เรื่องไม่เป็นเรื่องเนี่ยขยันทำนักแหละ" ซึ่งนักการเมืองหรือนักเคลื่อนไหวบางคนก็เป็นซะแบบนี้จริง ๆ

0