จุดเริ่มต้มของการเขียนนิยายของเเต่ละคนเป็นเเบบไหน
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
27 ความคิดเห็น
เจอลูกลิงนางหนึ่งครับ ที่มีผมสีน้ำตาลและดวงตาสีฟ้า ที่มีสกิล [Flag master Lv.9999]
เป็นการเริ่มต้นที่เเปลกดีเหมือนกันค่ะเเต่ก็ดูตะมุตะมิดีเหมือนกัน555
เคยมีความคิดว่า อยากจะมีหนังสือเป็นของตัวเองเมื่อคิดได้ดังนี้ เลยเขียนออกมา
ตอนนี้ก็เขียนจบจนออกมาเป็นอีบุ้คแล้ว ก็รู้สึกภูมิใจมาก แล้วก็อยากเขียนต่อไปเรื่อยๆ
เราว่ามันเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งนะ เพราะกว่าจะแต่งจบเรื่องนึงก็ต้องใช้ทั้งเวลา ความเอาใจใส่ ความอดทน และความรัก เมื่อคุณทำมันสำเร็จแล้วมองย้อนกลับไป คุณจะรู้เลยว่า ตัวคุณเองน่าภาคภูมิใจแค่ไหน
ว้าวยินดีด้วยนะคะ เราเองก็อยากมีความรู้สึกเเบบนั้นเหมือนกันว่ามันจะภูมิใจสักเเค่ไหนกันเชียวถ้าจบไปสักเรื่อง เเต่ก็คงอีกนานเลยค่ะลงไหอยู่หลายใบในTT
หยุดดองไดแล้วค่ะ เดี๋ยวมันจะเน่า
สู้ๆ นะคะ เราว่าทุกคนยังมีไฟอยู่ ถ้ามันใกล้มอด ก็หาเชื้อไฟมาใส่เสีย
จะได้ไม่มีของดองเพิ่มขึ้นทุกวัน
เริ่มแรกมาจากการอ่านก่อนค่ะ อ่านแล้วมีความสุข สนุกไปกับเรื่องที่นักเขียนเล่าออกมาผ่านตัวอักษร
เราก็เลยอยากจะลองสร้างเรื่องของตัวเองที่ทำให้คนอื่นเขาสนุกและเอนจอยได้เหมือนกัน อยากจะเล่าเรื่องที่เราคิดและจินตนาการขึ้น อยากให้คนอ่านเห็นโลกในมุมมองของเรา
เป็นการเเบ่งความสุขเล็กๆให้คนอื่นสินะคะ
ใช่ค่ะ อยากให้เค้ามีความสุข และอยากแชร์ความคิดของเรา
ดูหนัง ฟังเพลงค่ะ และอยากมีนิยายเป็นของตัวเองด้วย อยากลองทำสักครั้งหนึ่ง ในชีวิต อ่านมาตั้งเยอะแล้วหนิเนาะ
ประสบการณ์ชีวิตสินะคะ
ใช่ค่ะ ประสบการณ์ชีวิตล้วนๆ บางทีก็จำวิธีเขียนของคนอื่นมานะคะ ยอมรับเลย ว่าเราก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะเริ่มยังไง
มันล้นเลยต้องเขียน
จิตนาการมีมากเกินไปไม่สามารถเก็บมันไว้ได้อีกเเล้วววว
อยากเห็นอะไรที่มันแตกต่างอะครับ ไม่เคยเห็นทหารWW2ไปต่างโลก ไม่เคยเห็นนิยายแฟนตาซีมีค้อนกับเคียวติดอยู่บนปก เลยอยากลองแต่งดูครับฮ่าๆ
ค้อนกับเคียว....หิหิ ของผมก็คงเป็น.....กางเขนเหล็กละมั้ง :)
อยากหาเเนวใหม่ๆบ้างสินะคะ
ตอนแรกผมอยากทำอนิเมะ การ์ตูนflash 55 ตอนนั้นไฟแรงไปเลยคิดเนื้อเรื่องไว้เต็มหัวหลายเรื่องโดยยังไม่รู้ถึงความโหดของการทำอนิเมะ สุดท้ายก็ล้มเลิก แต่เนื้อเรื่องที่คิดไว้แล้วจะทิ้งก็ไม่อยากทิ้ง เลยเอามาทำนิยายเลย ผลลัพธ์คือเน่ามาก เหนือกว่านั้นคือกลายเป็นคนติดนิยายเฉยเลยจากคนไม่เคยแตะนิยายเลย
เข้าใจเลยค่ะเราเองเคยมีความรู้สึกอยากทำการ์ตูนเหมือนกัน เเต่คิดไปคิดมามันคงยากเกินไปค่ะ555
ขออนุญาตแปะเป็นลิงค์เพราะ...ยาว ^^
อีกอย่างคำถามแบบนี้เจอบ่อย เลยทำลิงค์ไว้ดีกว่า ....//ไม่ได้ขายของนะคะ อิอิ
เป็นจุดเริ่มต้นที่ดูไม่มีไรมาก เเต่เป็นเเรงบันดาลใจได้เยอะเลยค่ะ
จุดเริ่มต้นการเขียนหรอ.... ผมไปดูสารคดีนาซีมาแล้วเขาอธิบายเรื่องความผิดพลาดต่างๆในการวางแผนการรบของนาซี เราเลยคิดว่าถ้าเราสามารถย้อนเวลาไปช่วยทำให้นาซีชนะสงครามจะเป็นยังไง
เพราะความอยากรู้เป็นเหตุสินะคะ
ต่อจากคห.1
คือความจริงประทับใจในนิยายมากๆแบบเหมือนคนที่ไม่ชอบนิยายมาก่อนขนาดเพื่อนเอาSAOมาให้ผมอ่าน2-3บรรทัดก็หลับแล้ว จนไปได้อ่านนิยายเรื่องแรก(ยังไม่ขายเลยมีแปลในเว็บ)คือมันอ่านง่ายๆมากๆไม่บรรยายมากเกินไปแต่ก็ไม่น้อยเกินไปคือมันทั้งอบอุ่น ตลกซาบซึ้งกินใจแถมตอนจบทำเอาเหวอมากแบบว่าเห้ยมันไม่ได้อลังการเริ่ดมากอะไรแต่มันทำเอายิ้มไม่หุบเลย คือนิยายมันดีขนาดนี้เลยเหรอ????
แต่ปัจจุบันนะก็คิดดูๆแล้วสาเหตุที่หลังจากนั้นที่อ่านฮาเร็มต่างโลกแล้วเบื่อก็คงเพราะครั้งแรกเนี่ยแหละรู้อีกทีก็ผุดหัวไม่ขึ้น..
ดีใจด้วยนะคะ ที่คุณริเริ่มจากตรงนี้นี่เอง ยินด้วย
ความสุขเล็กๆคือจุดเริ่มต้นของคุณสินะคะ
สนองนี๊ดตัวเองค่ะ
อารมณ์นี้เข้าใจเลยค่ะ
อยากเลือกตั้งครับ
เฮ้ย! มาจากไหนน่ะ?! #คุณอึ่งอ่าง5555
nani!!!!!! ริวจะไม่ยุ่ง
เอ้า ผมมาผิดเรื่องเหรอ สงสัยจะหมกมุ่นไปหน่อย
แก้ใหม่ๆ
-อยากดูหนังครับ
-แต่หนังเรื่องนี้ไม่มี เลยต้องสร้างเอง
-ผมสร้างหนังทั้งเรื่องไม่ได้และไม่เป็นครับ เลยทำได้แค่เขียนบท
-ผมเขียนบทแล้วมันยังไม่โดนและไม่เตะตานายทุนมากพอ เลยมาเขียนนิยายเพื่อสร้างฐานแฟนคลับครับ
อนาคตนี่อยากเป็นคนเขียนบทรึป่าวคะเนี่ย555 เเต่ถ้าอยากเป็นก็สู้ๆละกันนะคะ
คงจะยากหน่อยครับ
ปัญหามีอยู่ว่า วงการหนังไทยมันยังไม่เวอร์วังอลังการมากพอ
ใน1ปีมีหนังฉายอยู่เพียงกี่เรื่อง ซึ่งในแต่ละปีมีบทภาพยนตร์งอกออกมามากกว่าไม่รู้ตั้งกี่เท่า
เขียนดีแต่ทุนสูง ก็ไม่เอา
เขียนดีแต่สร้างยาก ก็ไม่เอา
เขียนดีแต่ไม่ใช่แนวตลาด ก็ไม่เอา
เขียนดีแต่นำเสนอไม่ได้ ก็ไม่มีคนรู้จักหรือสนใจจะนำมาทำ
ส่วนใหญ่ผู้กำกับมักจะเขียนบทเองหรือเอาจากคนรู้จัก แย่งงานคนเขียนบท ประหยัดเงิน
จะสังเกตได้เลยว่า หนังไทยบางเรื่องเนื้อเรื่องแย่มาก แต่กลับได้ทำเป็นหนัง ก็เพราะเหตุผลข้างบนนั่นแหละ ส่วนบทหนังดีๆ ไปอยู่ไหน ก็อยู่กับพวกที่เขาไม่เอานั่นแหละ
ถ้าจะเขียนบทภาพยนตร์เพื่อทำเป็นหนังที่มีโอกาสได้สร้างเพียงน้อยนิด สู้เขียนนิยายให้ได้ตีพิมพ์จะไม่ดีและง่ายกว่ารึ ที่ผมลองเขียนบทภาพยนตร์นั่น ก็แค่อยากจะดูหนังเท่านั้นเอง
เริ่มเเรกมาจากการที่ได้อ่าน ดู หรือฟัง นี่เเหละครับ เวลาเสพก็จะเริ่มเอาไปจินตนาการต่อจนล้นสมองสุดท้ายก็ต้องปล่อยออกมา
พอผ่านไปสักพักผมก็เคยสงสัยเหมือนกันว่า "นี่ฉันคิดเรื่องเเบบนี้ขึ้นมาได้ไงเนี่ย"
จิตนาการมันห้ามกันไม่ได้เนอะ555
ของเราคงจะแนวหน่อยๆ ค่ะ
เขียนนิยาย เพราะวาดมังงะมันไม่เร็วทันใจ
(การวาดใช้เวลามากกว่าค่ะ)
แต่สุดท้าย...ด้วยงานการ ก็พาเข้าน้องไหดองไปหมดค่ะ เอิ๊กๆๆๆ
ว้าวคุณวาดมังงะด้วยหรอคะ เราเองก็อยากทำบ้างจังเเต่ว่ากว่าจะวาดคนได้คนหนึ่งมันก็กินเวลาไปเยอะเเถมออกมาหน้าตาเเปลกๆอีก เเต่ไม่เป็นไรยังไงก็สู้ๆค่ะพยายามขุดไหขึ้นมาให้ได้นะคะ
ค่ะ มังงะกินเวลาเยอะมาก ดูจากภาพนี้จากมังงะเราก็พอรู้ค่ะ เอิ๊กๆ (ขออนุญาตแปะนะคะ)
แค่แปะสกรีนโทนก็...
ในขณะเดียวกันถ้าเขียนนิยายอธิบายฉากนี้ อาจจะแค่ย่อหน้าเดียว พิมพ์ 10 วินาที
แต่มังงะหน้านี้ ตั้งแต่ร่าง จนแปะสกรีนโทน ใส่ตัวอักษรเสร็จ ก็ปาไป 10 + ชั่วโมงแล้วค่ะ
ปัจจุบัน น้องมังงะเข้าไหดองไปจะครบปีแล้วค่ะ =='
ลายเส้นน่ารักจังเลยค่ะ เห็นเเล้วอยากลักหนูน้อยกลับบ้า---เเค่กๆ
ว่างค่ะ-- หยอก เรียกว่าหาเป้าหมายในการอยู่ต่อดีกว่า555
การอยู่เเบบชิวๆในชีวิตมันคงธรรมดาไปใช่ไหมคะ555
จากที่คิดว่าอ่านตำราเรียนแล้วเข้าใจยากจัง ทำไมเขาไม่เขียนตำราให้เป็นนิยายกันนะ จะได้ทั้งความรู้และความบันเทิงไปเลย
เริ่มเขียนนิยายเพราะหัวร้อนจากการดูเมะที่สร้างมาจากนิยายเรื่องหนึ่งแล้วค้างอย่างหนักค่ะ เลยต้องมาระบายอารมณ์เล่นผ่านตัวหนังสือ
แต่ปัจจุบันกลับแต่งเป็นจริงเป็นจังไปแล้ว
พอดีว่าชอบอ่านนิยายสยองขวัญ (เฉพาะฉาก 18+ เลือดสาดเท่านั้นแหละ) แต่เดินผ่านแผงนิยายแนวแฟนตาซีแล้วเห็นว่ามีแต่แนวซ้ำๆ กัน เลยคิดว่าอยากเขียนนิยายแฟนตาซีที่แตกต่างจากตลาดในตอนนั้นขึ้นมาครับ ตอนนั้นความรู้เรื่องการเขียนนิยาย หรือแม้แต่นิยายเขียนกันยังไงแทบจะเป็น 0 เลย
เขียนตามเพื่อนครับ แต่สรุปมาไกลกว่าเพื่อน...
ไม่ได้ล้อเล่นนะครับ แต่คือตอนแรก ๆ ก็เขียนแนวแบบที่เพื่อนเขียน อ่านแบบที่เพื่อนอ่าน พอเริ่มหาแนวทางได้ก็คือไกลจนคุยกับมันไม่รู้เรื่องแล้ว 5555
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?