Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

600 สู่ 750 SAT MATH อ่านเอง พร้อมเทคนิค!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ เราเป็น Dek 62 นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนน้าาาา                                                 
นี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกของเราเลย ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ดีๆที่ผ่านมาของเราให้กับน้องๆรุ่นต่อไปนะคะ อาจจะยาวหน่อยนะ แต่อยากให้อ่านให้จบ เพราะมันจะเป็นประโยชน์กับน้องๆมากๆเลย ก่อนอื่นอยากบอกเลยว่า เราไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง และเป็นคนที่พื้นฐานเลขไม่แน่นอย่างมาก เพราะตอนมัธยมต้นไม่ตั้งใจเรียน ไม่ขยันเลยด้วย ดังนั้น เราจึงต้องมาเริ่มใหม่หมด เพราะ SAT MATH ดันเอาความรู้เกือบทุกเรื่องของม.ต้นมาออกซะงั้น ให้ตายเถอะ!

แต่เชื่อสิว่า  เด็กไม่เก่งอย่างเรายังผ่านมันมาได้เลย ทำไมพวกแกจะทำไม่ได้หล่ะ
เราเริ่มเตรียมตัวช่วง ม.5 ในเดือนกรกฎาคม และเราลงสอบครั้งแรกคือรอบ October 2017  เราลองทำแบบฝึกหัดของ Collegeboard(เรียกสั้นๆว่า CB เป็นสถาบันออกข้อสอบและจัดสอบSAT) เล่ม official มี 8 practice tests ซึ่ง3ใน8นั้นเป็นข้อสอบจริงๆที่ปล่อยออกมาสอบ  รอบก่อนๆ เล่มนี้จึงค่อนข้างตรงและใกล้เคียงกับข้อสอบจริงมากที่สุด!!! (เป็นเล่มที่ MUST BUY & MUST DO) เราเริ่มด้วย practice 1 (เป็นชุดที่ง่ายที่สุดในcollegeboard) เราได้ part no-cal 9/20 (น้อยแบบน้อยมากกกกกก เราก็คิดนะว่าขนาดข้อสอบชุดที่ง่ายที่สุดยังได้น้อยขนาดนี้เลย ถ้ายากจะเป็นยังไง) เพราะถ้าอยากได้700+ partนี้ควรเป็นpartที่ได้คะแนนเต็ม ส่วน part cal  เราได้ 16/38 (รู้ตัวทันทีว่าไม่รอด แต่เราก็คิดว่ามันเป็นครั้งแรก เรายังไม่เคยอ่านเลย เลยคิดเข้าข้างตัวเองว่า ถ้าเราตั้งใจอ่าน ทำแบบฝึกหัดเยอะๆ คะแนนก็คงจะขึ้น) รอบนี้เราก็ทำแค่ CB กับ Khan Academy ไม่ได้ฝึกอะไรมาก ยังมีความชิวๆ เพราะตั้งใจไปลองสนาม ปรากฎผลออกมาได้ 600 ตอนนั้นก็ค่อนข้างภูมิใจนะ เพราะเป็นครั้งแรก เลยยังไม่ค่อยกดดัน
 

(เราอยากแนะนำให้น้องๆรีบๆเตรียมตัวนะ ยิ่งมีเวลาสอบเยอะยิ่งได้เปรียบ แต่ละรอบยาก-ง่าย และcurveคะแนนไม่เท่ากันด้วย ให้ดีก็คือเตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสนาม อย่าประมาท!) 

สำหรับรอบต่อมา December 2017 เราฝึกเลขมาพอสมควรเลย รอบนี้เราได้ 680 (1เดือนกว่าๆเพิ่มมา80คะแนน) เราก็ยืนหยัดที่จะอ่านเองต่อ  (อยากแนะนำว่าตอนสอบให้มีสติอยู่เสมอ อย่าลน ถ้าลนทุกอย่างจะพัง) จากรอบนี้ไปถึงรอบ March 2018 มีเวลาประมาณ3เดือน เราคาดหวังกับรอบนี้มากกกก เพราะมีเวลานาน เราจึงทุ่มให้กับ math เยอะมากๆ ขยันที่สุดในชีวิต อ่านอย่างบ้าคลั่ง ตื่นมาก็หยิบมาทำเลย5555 ซื้อหนังสือมาเยอะมาก ทำในเว็บเพิ่มด้วย ทำที่โรงเรียนทุกวัน ไม่ลงไปทานข้าว ในรถก็ทำ กลับบ้านมาจากโรงเรียนก็ทำตลอด เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ไปไหน นั่งทำเช้ายันเย็น จำได้ว่าตอนไปทัศนศึกษาเราก็เอาไปนั่งทำในรถด้วย บ้าจริง555 เรากดดันตัวเองมากๆ คิดว่าต้องทำให้ได้ ต้องได้700+ ต้องคะแนนถึงภายในรอบนี้ให้ได้ แต่จริงๆก็แอบท้อและร้องไห้อยู่บ่อยๆเพราะกลัวทำไม่ได้ตามหวัง ส่งผลให้เราลนและกดดันมากตอนทำข้อสอบ ทำไม่ทัน ข้อง่ายๆก็ผิด บวกเลขยังผิดเลย ผลออกมาได้ 690 (มันอาจดูเยอะ แต่เรากลับคิดว่า3เดือนมันไม่ควรจะเพิ่มแค่10คะแนน!! เทียบกับความทุ่มเท และความคาดหวังมากๆของเราที่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ตามที่หวังเอาไว้) คาดหวังมาก ก็ผิดหวังมากเช่นกัน (สารภาพว่าร้องไห้หนักมาก ท้ออยู่หลายวัน ซึมไปเลย คิดว่าความพยายาม3เดือนของเราเหมือนไร้ค่า เสมือนทุกอย่างที่ทำมามันสูญเปล่าหมดเลย แต่มีเพื่อนคนนึงพูดกับเราว่า ความพยายามที่ผ่านมามันไม่สูญเปล่าหรอก เพราะความรู้ที่เราได้มา มันจะอยู่ติดตัวเราไปตลอด ยังไงมันก็เป็นประโยชน์ ขอให้อย่าเพิ่งท้อ ให้สู้ต่อไป เราเองก็เครียดมากๆ คิดกับตัวเองไว้ว่าในรอบต่อไป May 2018 เราจะไม่พลาด รอบนี้เราตั้งใจกว่าเก่า แต่เราเลือกที่จะไม่กดดันตัวเอง ทำแบบฝึกหัดอย่างมีความสุข ไม่รีบ ค่อยๆทำจนกว่าจะเข้าใจ เอาทุกข้อมาทวนซ้ำใหม่อีกรอบ ทำซ้ำไปเรื่อยๆ เรื่องไหนผิด ก็จะไปหาโจทย์เฉพาะเรื่องนั้นมาฝึกสกิล ทำจนกว่าจะแม่น และเตรียมใจไปสอบแบบสบายๆ คิดแค่ว่าก็เหมือนเปลี่ยนสถานที่ทำ sat จากที่บ้านเป็นโรงเรียน เลยชิวๆ ผลออกมาดีเกินคาด เราได้ 750 !!! ตอนนั้นรู้สึก shock มาก ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ แอบหวังแค่ให้แตะ700นิดๆ เราเลยดีใจมากกก รู้สึกว่าความพยายามทั้งหมดมันสำเร็จแล้วอะ ถึงแม้คะแนนนี้มันจะไม่ได้สูงมากในความคิดของคนอื่น แต่สำหรับเรามันคือเยอะมากๆๆ เพิ่มขึ้น150คะแนนจาก600ไป750ด้วยการอ่านเองเป็นอะไรที่เราโครตภูมิใจอะ กับคำพูดที่ว่า ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ มันจริงๆนะ ขอแค่เชื่อมั่นในตัวเองว่าเราทำได้ และใจสู้ก็พอ! เอาจริงๆแอบเสียดาย รอบนี้เราฝนผิดไป1ข้อ ควรได้ 770 crying กาผิดชีวิตเปลี่ยน หายไป20คะแนนเลย เพราะฉะนั้นอย่ารีบจนเกินไป อย่าลืมเช็คว่าฝนถูกมั้ยด้วย


เราค้นพบแล้วว่า การสอบ sat ที่ดีคือต้องไม่เครียด เราแนะนำว่า1วันก่อนสอบไม่ควรทำแบบฝึกหัดอะไรเลย ควรทำใจว่างๆ หยิบโจทย์(แนะนำเอาพวกข้อที่เราผิดบ่อยๆ) มาทวนๆเล็กน้อย ทำตัวเองให้ผ่อนคลายที่สุด และนอนไวๆเพื่อเตรียมตัวสอบในวันต่อไป (ดีกว่าการอ่านจนถึงดึก นอนแค่4-5ชม.ไปสอบ เราจะง่วงและนึกอะไรไม่ออกด้วยนะจ้ะ) ไม่ต้องเสียดาย1วันนี้หรอก เราเตรียมตัวทุ่มเทเป็นเดือนๆ เราควรให้รางวัลตัวเอง1วันก่อนสอบนะ (วิธีนี้เราก็ถูกรุ่นพี่แนะนำมาอีกทีล่ะ มันเวิร์คมากก) นอนให้พอ กินให้อิ่ม สำคัญมากๆนะ

เราภูมิใจมากที่เราผ่านตรงนั้นมาได้ เพราะเราไม่เคยขยันขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต555555 ช่วงเวลาอ่านหนังสือเป็นอะไรที่เฟลมากนะ เพราะเราอ่อนมากๆในขณะที่เพื่อนรอบข้างเราเก่ง เวลาฝึกทำด้วยกัน เราก็มักจะคะเเนนรั้งท้ายตลอด เเละเราก็ชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบคนอื่นด้วย แบบคิดว่าทำไมเพื่อนทำได้ ทำไมเราทำไม่ได้ ทำไมยังได้แค่นี้ ตอนนั้นรู้สึกเเย่เเบบมากๆ เเอบไปร้องไห้คนเดียว เฟลกับชีวิต ละก็ผิดหวังกับตัวเองทุกๆอย่าง จนสุดท้ายเราก็ค้นพบว่า "คนที่เราควรจะเปรียบเทียบด้วย ก็คือตัวเราเอง" คนเรามันพื้นฐานไม่เท่ากันอะเนอะ อย่าคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ หรือโทษว่าตัวเองโง่ ตราบใดที่เรายังไม่ได้ลองพยายาม ไม่ต้องไปสนใจว่าคนอื่นจะได้คะแนนเท่าไหร่ ยิ่งเราเปรียบเทียบ เรายิ่งท้อ ยิ่งหมดกำลังใจและผิดหวังกับตัวของเราเอง แค่เราทำในจุดของเราให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามของเราหรอกนะ และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง อย่างน้อยเราจะได้ภูมิใจว่าเราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว

-เหตุผลที่เราเลือกอ่านเอง และไม่เรียนพิเศษ (ความเห็นส่วนตัวนะคะ)

เราไม่ปฏิเสธว่าการอ่านเองมันค่อนข้างที่จะไปช้ากว่าการไปเรียน เพราะเราต้องแบ่งเวลาดีๆ ทุ่มเท และขยันมากๆ เพราะเนื้อหามันก็ไม่ใช่น้อยๆเลย แต่ถึงเราจะไปช้า เราก็ช้าอย่างมีคุณภาพ เราคิดว่าการที่เราเรียนรู้เอง เข้าใจเอง มันทำให้เราจำได้มากกว่าเวลาที่มีคนมาบอก หรือมีคนเฉลย อย่างเวลาเราทำแบบฝึกหัด ถ้าเราอยู่ที่เรียนแล้วเราทำข้อนั้นไม่ได้ เราก็อาจจะถามเพื่อน เว้นไว้ หรือรอครูเฉลย และจดตามครูบอก พอกลับบ้านไปก็อาจจะไม่ได้นำมันมาทวน เพราะคิดว่าเรียนแล้ว ถือว่าอ่านแล้ว แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดมาก เพราะประสิทธิภาพของการเรียนรู้คือเราต้องเข้าใจมันจริงๆ ต้องคอยทบทวนเนื้อหาที่เรียนมาตลอด ถ้าเอาแต่เรียนเยอะๆแล้วไม่เข้าใจ มันถือว่าไร้ประโยชน์นะ แต่ถ้าคนที่ทั้งเรียน และกลับบ้านมาทวน อ่านเพิ่ม และอ่านเองต่อ คนนั้นจะยิ่งไปได้ไกลและเร็วมากๆ แต่คนส่วนใหญ่มักจะไม่เป็นแบบนี้(รึเปล่า) แต่สำหรับเรา เวลาอ่านเองแล้วทำข้อไหนไม่ได้ เราก็จะพยายามคิดหาวิธีทำจนกว่าจะทำได้ หาเนื้อหาอ่านในหนังสือ ในเน็ต หรือวีดีโอต่างๆ และพยายามทำต่อ ลองพลิกแพลง เปลี่ยนวิธีคิดต่างๆนาๆ พอทำได้แล้วมันจะจำได้ไปตลอดเลยนะ เพราะเราเป็นคนหาเอง พิสูจน์เอง เราก็จะแม่นเรื่องนั้นไปเลย และมันเวิร์คมาก เวลาเราเจอข้อคล้ายๆแบบนี้อีก เราก็จะทำได้ เราเลยสนุกที่จะอ่านเอง เรียนรู้โจทย์ใหม่ๆ เพราะจริงๆแล้วpatternมันซ้ำๆเดิมๆ เป็นเรื่องเดิม แค่อาจจะดัดแปลงโจทย์ไปบ้าง บางทีถ้าเราทำไม่ได้จริงๆ แบบไม่สามารถไปต่อได้ เราก็จะตัดสินใจถามเพื่อน เราโชคดีที่เรามีเพื่อนคอยอธิบายให้เราตลอด ตั้งแต่เราไม่เข้าใจอะไรเลย จนถึงตอนนี้ จาก600มา750 เค้าก็ยังอยู่ข้างๆคอยอธิบายข้อที่เราไม่เข้าใจให้ตลอด แต่!!! สิ่งสำคัญที่สุดในการทำ Sat math คือ เวลาผิดข้อไหน ต้องทำจนกว่าจะเข้าใจ อย่าหลอกตัวเอง เพราะนั่นเป็นสิ่งที่จะทำให้เราทำไม่สำเร็จ เวลาเราทำผิด เราจะใช้เวลากับข้อนั้นนานมาก ถ้าไม่เข้าใจก็จะไม่ทำชุดใหม่เด็ดขาด จะนั่งจ้อง นั่งหาวิธีจนกว่าจะเข้าใจ
การเรียนรู้ด้วยตัวเองสำหรับเราจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย และเราพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับมัน เพราะการสอบเข้ามหาลัยมันเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวในชีวิต ที่สำคัญ ไม่มีคำว่าสายเกินไปหรอก ถ้าเราคิดจะเริ่ม เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง แล้วพูดกับตัวเองว่า รู้งี้ตอนนั้นขยันดีกว่าหรือ ถ้าตอนนั้นขยัน ตอนนี้คงไม่เป็นแบบนี้เพราะฉะนั้น จงใช้เวลาอันมีค่าให้คุ้มค่าที่สุด ลุยยยยยย!!!!

heart
สรุปการอ่านด้วยตัวเองสั้นๆheart

1). มุ่งมั่นและเปิดใจ คอยกระตุ้นตัวเองอยู่เสมอ

2).วางแผนการอ่านแต่ละวันอย่างละเอียด (ทำplanner&schedule) พออันไหนทำเสร็จก็ให้ขีดทิ้ง เราจะได้มีกำลังใจว่าเราทำได้และทำสำเร็จ

3). จงเริ่มอ่านจากเนื้อหา ทำแบบฝึกหัดจากง่ายไปยาก พื้นฐานสำคัญ ต้องทำให้แม่นก่อน (ข้อสอบจริงอย่าเพิ่งใช้ ให้เก็บไว้ใช้ตอนเราเริ่มเก่ง จะได้วัดคะแนนได้)

4). พยายามทำข้อที่ทำไม่ได้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่ารีบเปิดดูเฉลย

5). จดสูตรที่ตัวเองไม่รู้ลงในสมุดโน้ตเล็กๆเพื่อเตือนความจำ จดเองจะได้จำได้เอง

***6). อย่าหลอกตัวเองว่าเข้าใจ (ข้อนี้สำคัญมาก)

6.1.เวลาไม่เข้าใจ อย่าปล่อยผ่าน ทำยังไงก็ได้ให้เราเข้าใจ
6.2.จงจำไว้ว่าข้อที่มั่วถูก ผิด เราต้องหาวิธีคิดที่เราเข้าใจจริงๆให้ได้
6.3. ต้องรู้ว่าผิดเพราะอะไร (ทำไม่เป็น/ไม่รู้สูตร/สะเพร่า) เเล้วเเก้ให้ได้

7). อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เปรียบเทียบกับตัวเองเท่านั้น!!

8). อย่าใจร้อน ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แรกๆอาจจะผิดเยอะหน่อย แต่เราจะเรียนรู้จากความผิดพลาด

9).หมั่นฝึกสกิลอยู่เสมอ เรื่องไหนที่ทำผิดบ่อยๆ ควรไปหาโจทย์เรื่องนั้นมาทำให้คล่อง(เจาะตามเรื่อง) จะได้เข้าใจจริงๆและไม่ผิดอีก - แนะนำ Khan Academy, Uworld และ Panda เล่มแยกเรื่อง

10). เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ >> “ทำเยอะแต่ไม่เข้าใจ กับ ทำน้อยแต่เข้าใจทุกข้อ” มันต่างกันนะ คิดดีๆ อย่าคิดแต่จะทำเยอะๆ เพราะถ้าเราไม่เข้าใจ ทำเยอะแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์

11). หาใครสักคนเป็นผู้รู้คอยอธิบายเวลาที่ไม่เข้าใจจริงๆ – แนะนำแอดมินเพจ learning cafe เพราะตอบไวและละเอียดมาก แอดมินเค้าจะคอยกระตุ้นให้เราขยันมากขึ้นด้วยแหละ555

12). อย่าท้อนาน ล้มแล้วต้องลุก แล้วในอนาคต เราจะขอบคุณสิ่งที่เราตั้งใจในวันนี้

สุดท้ายนี้เราก็ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบนะคะ เราเล่ายาวมากๆเพราะอยากเก็บไว้อ่านเอง และก็อยากแบ่งปันให้กับรุ่นน้องต่อๆไปด้วย เราเชื่อว่าทุกคนทำได้ ไม่ว่าจะเลือกอ่านเอง หรือเรียนพิเศษ ขอแค่มีความตั้งใจ ปฏิบัติตาม12ข้อที่เราแนะนำ ความฝันก็จะไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะheart   ถึงแม้มันจะเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างยาก และใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ผลลัพธ์ของมันทำจะทำให้เราภูมิใจ และคิดว่ามันคุ้มค่ามากๆที่สักครั้งในชีวิต เราได้ทุ่มเทให้กับอะไรบางอย่างที่จะนำเราไปสู่เส้นทางแห่งความฝัน ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองรัก และประสบความสำเร็จในที่สุด


และตอนนี้เราก็สอบติด COMMARTS CU (Early Admission ตัวจริง) ตามที่หวังแล้วค่ะ ดีใจมากๆๆ ตอนผลออกก็คือร้องไห้เลย รู้สึกว่า hard work pays off มากๆ ก็คงต้องขอบคุณตัวเองที่วันนั้นท้อแล้วยังลุกขึ้นมา ไม่งั้นก็คงไม่สำเร็จ ใครมีความฝันก็ทำมันให้เต็มที่นะ แล้วเราจะรู้สึกขอบคุณตัวเอง ให้นึกถึงวันที่ประกาศแล้วมีชื่อเรา มันเป็นอะไรที่แบบ ตื้นตันใจมาก รู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำมามัน worth the effort มากๆ หายเหนื่อยเลยทันที

ขอฝากเอาไว้ว่า :
อย่าคิดว่าเราทำไม่ได้ ถ้าเรายังไม่ได้ลองพยายาม

ใครมีคำถามอะไรหรืออยากคุยกับเรา ทัก direct IG : first_tara ได้เลยนะคะ ยินดีเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำทุกคนเลยยยย สู้ๆนะ

ปล. ฝากกระทู้รีวิวการเตรียมตัวสอบเข้า Commarts CU >> http://www.dek-d.com/board/view/3954882/ << เเละกระทู้รีวิวสัมภาษณ์ Commarts CU / Bascii CU / BBA TU >> http://www.dek-d.com/board/view/3945650/ << ของเราไว้ด้วยน้าาา หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆมากๆ

​​

แสดงความคิดเห็น

>

13 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

dek63 3 ก.พ. 62 เวลา 19:23 น. 2

แงงงงง ขอบคุณที่เขียนกระทู้นี้มากๆเลยนะคะ T_T เราเป็นdek 63 ที่อยากเข้าcomm arts เหมือนกัน และต้องการคำแนะนำบางอย่างมากๆ รบกวนแอดมาหน่อยนะคะ ;—; id :pawe_ptp

1
บุคคลทั่วไป 3 ก.พ. 62 เวลา 21:53 น. 3-1

ควรสมัครสอบไว้ล่วงหน้าเลยนะ ปกติเต็มเร็ว รอบMarchยังเหลือที่อยู่นะ สมัครไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากันว่าจะอ่านทันมั้ย ระวังสมัครไม่ทันเด้อ

0
f.moment 4 ก.พ. 62 เวลา 01:21 น. 3-2

เเงงงง อยากให้รีบเตรียมตัวนะ จริงๆก็ทันเเหละ เเต่ต้องฟิตเเละตั้งใจมากๆเลย สู้ๆนะคะ ทักไปเเล้วน้า

0
คุณครับ 3 ก.พ. 62 เวลา 21:51 น. 4

สอบครั้งแรกได้ 740 ค่ะ เตรียมตัวไม่ถึงเดือน ตอนแรกก็คิดว่าเยอะแล้ว แต่พอดูคะแนนที่เค้ายื่นกันรอบแรกนี่คิดว่าคะแนนแค่นี้ไม่พอคนอื่นเค้าได้กันเยอะแยะ จะสอบอีกรอบมีนานี้ค่ะ ตอนนี้เพิ่มเริ่มเตรียมตัวสอบอีกรอบนึง อยากได้เทคนิคทำให้ได้เกือบเต็มเลยค่ะ อยากเต็มด้วยซ้ำแต่ไม่น่าทำได้อ่ะ ฮืออออ ตอนนี้ก็เหลือเวลาไม่มากแล้ว อยากได้ซัก770

1
f.moment 4 ก.พ. 62 เวลา 00:38 น. 4-1

อยากเข้าคณะอะไรคะ ถ้า commarts เท่านี้ก็พอเเล้วน้าา ไปปั่นอังกฤษให้ได้เยอะๆเเทน เเต่ถ้าเป็นคณะอื่น เราเเนะนำให้ฝึกทำเลขเยอะๆตาม 12 ข้อที่เราเเนะนำไปเลย ละก็เวลาผิดก็ต้องรู้เสมอว่าผิดเพราะอะไร เเละก็ต้องเข้าใจจริงๆให้ได้ ห้ามปล่อยผ่านเด็ดขาดเลย เเต่ก่อนยื่นอยากให้ไปดูว่าที่ได้ 740 ข้อที่ผิดไปเพราะอะไรทำไมถึงผิด ผิดเรื่องไหนเยอะๆก็ให้เอาโจทย์เรื่องนั้นมาฝึกทำให้เเม่นเลย เเต่ถ้าเป็นเพราะสะเพร่า อันนี้ก็ต้องควบคุมตัวเองตอนสอบให้มีสตินะ555 มาไกลมากเเล้ว ได้ขนาดนี้ ถ้าสู้ต่อไม่ไกลเกินเอื้อมเเน่นอนค่ะ สู้ๆนะคะ

0
f.moment 4 ก.พ. 62 เวลา 00:57 น. 5-1

เราเเบ่งเวลาจริงจังมากกก555 ก็คือทุกคืนก่อนนอนจะคิดเลยว่าวันต่อไปจะอ่านอะไร จะทำชุดไหนบ้าง เเล้วก็จะเขียนลงในสมุดplanner ซึ่งเราจะทำ SAT MATH ทุกวันนะ วันละเซ็ตไรงี้ เพื่อความสม่ำเสมอเเละจะได้ชินด้วย ลองลงมาคือ writing ส่วน reading เราทำน้อยสุดเลยเพราะกินพลังมากๆ555 ถ้าเป็นช่วงที่อยู่บ้านทั้งวัน เราจะทำ verbal ตอนเช้าเลย เพราะมันจะไม่ค่อยง่วง พอทำเสร็จก็จะนั่งทวนใหม่หมดอีกรอบจนถึงช่วงบ่ายๆ อย่าลืมพักด้วยนะ สำคัญมาก อย่าฝืนอ่านต่อกันยาวๆ เพราะมันจะไม่รู้เรื่องเเละเสียเวลามาก ตอนบ่ายเราจะทำเลข+ทวนถึงเย็นๆ ส่วนกลางคืนจะทำ writing+ทวนค่ะ การทวนสำคัญมากๆเลย อย่ามัวเเต่ทำอย่างเดียว ทุกครั้งต้องเอามาทวนด้วยน้าา ถ้าเป็นเวลาไปโรงเรียน เราจะทำเลขที่โรงเรียนอะ ตอนพักไรงี้ ส่วนกลับบ้านมาก็จะลุย verbal เลย เราอยากเเนะนำให้ไปอ่านที่ TK Park Central World มันเงียบเเละมีสมาธิมากกกก เอาใจช่วยนะคะ ลองเเบ่งดูว่าเเบบไหนที่เหมาะกับเรา เเต่การเขียนใน planner เป็นอะไรที่ช่วยมากเลย เพราะเราจะได้รู้ตัวเองด้วยว่าทำได้มั้ย เเบ่งเวลาเป็นช่วงๆเลย หรือกำหนดเวลาเป๊ะๆเลยก็ได้นะ จะได้เเบบช่วยกระตุ้นให้เราอ่านให้ทันไรงี้ เเต่ไม่ต้องรีบนะ เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ555 สู้ๆนะคะ

0
susunatukkon 12 ก.พ. 62 เวลา 10:07 น. 5-2

ถ้าเราตั้งไว้3วัน+ทำจัดเวลา 1ชุดเพื่อเช้คว่าสกิลที่ไปแยกทำมันดีขึ้นมั้ย แล้วต่อด้วยwritting อีก3วะน แยกสกิลที่ชอบผิด+จัดเวลาทำ1ชุด แล้ววันที่7 จัดเวลาทำเลข+ไวทติ้ง แล้วก้ทวน แล้วต่อด้วย รีดดิ้งวันต่อไป โดยทุกวันฝึกอ่านบทความอยู่แล้ว แบบนี้ได้มั้ยค่ะ เราสอบรอบมีนานี้แร้ว กลัวไม่ทันมากๆ

0
แมววน้อยย 3 ก.พ. 62 เวลา 22:11 น. 6

อยากทราบการทำโจทย์อิ้งอ่ะค่ะบางครั้งมันยาวแปลไม่ออก แล้วก็พาท writing grammarอ่ะค่ะ ควรทำยังไงดีคะเพราะออ่นมากเลยย จะสอบรอบ March นี้แล้วค่ะ อยากรู้ว่าควรแบ่งเวลายังไงดีสอบปลายภาคที่โรงเรียน22นี้ค่ะ

1
f.moment 3 ก.พ. 62 เวลา 23:11 น. 6-1

เราเเนะนำว่าในส่วนของ sat verbal ควรทำพาร์ท writing ให้ได้เยอะๆเลย เพราะมันจะช่วยฉุดคะเเนนมากๆ อยากให้เเม่นในส่วนของเรื่อง punctuation(พวก . ; : , - ) เพราะออกทุกรอบเเละค่อนข้างที่จะออกหลายข้อเลย รวมถึงพวก subject verb agreement / pronoun / parallelism / possessive / combine sentense / concise เพราะเป็นตัวทำคะเเนนเลย ส่วนพวกข้อ idea add/delete อันนี้ต้องฝึกเรื่องการจับประเด็น ถ้าอยากฝึกในส่วนนี้ก็ให้อ่านพวกบทความภาษาอังกฤษเยอะๆ จะช่วยมากๆเลย ส่วนในเรื่องการเเบ่งเวลา ตอนนั้นเราค่อนข้างที่จะเทที่ร.ร.ระดับนึง เเต่พยายามไม่ให้มันเเย่เกินไป เวลาพักกลางวันที่ร.ร.เราก็จะนั่งทำ ไปทำที่ห้องสมุดบ้างไรงี้ กลับจากโรงเรียนก็ทำๆๆ ในช่วงสอบ ที่โรงเรียนเราจะมีวันหยุดอ่านหนังสืออะ เราก็จะเเบ่งครึ่งวัน เเบบตอนเช้าทำ SAT (เฉพาะสมองจะตื่น5555) ช่วงบ่ายๆเย็นๆก็อ่านสอบ กลางคืนก็ทำ SAT ใหม่ เเละก็ทวนๆที่สอบด้วยอะ ประมาณนี้ๆ เราพยายามทำต่อเนื่องทุกวัน คือไม่ต้องทำเยอะ เเค่ทำสม่ำเสมอก็พอ สู้ๆน้าาา

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของ

Fufy 5 ก.พ. 62 เวลา 19:12 น. 9

พี่ครับ นอกจากสอบSat พี่ต้องสอบไรอีกบ้างอะคร้บ ยื่นรอบนี้แล้วก็ เตรียมตังกับข้อสอบที่เหลือยังไงบ้างอะครับ

ผมจะวางแผนอ่านหนังสือหรือเตรียมตัวไรงี้อะครับ Id: foofoofu

1
f.moment 5 ก.พ. 62 เวลา 20:26 น. 9-1

Commarts รอบนี้ใช้เเค่ SAT ค่ะ เเต่ว่ารอบ2จะมีข้อเขียนด้วย เเอดไปเเล้วน้าา

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

นำรูปถ่าย หรือข้อมูลของผู้อื่น ที่มิได้เป็นบุคคลสาธารณะมาลง โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม หรือมีลงเบอร์โทรศัพท์/ที่อยู่จริง

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

นำรูปถ่าย หรือข้อมูลของผู้อื่น ที่มิได้เป็นบุคคลสาธารณะมาลง โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม หรือมีลงเบอร์โทรศัพท์/ที่อยู่จริง

f.moment 23 ก.พ. 62 เวลา 22:11 น. 12-1

หลักๆ3อย่างที่เราใช้คือ collegeboard 8 practices, panda 2 เล่ม (เล่มadvanced guide กับ 10practices) เเละข้อสอบจริงจากเพจ learning cafe เลยค่ะ 3อย่างนี้ทำวนซ้ำๆทุกรอบเลย เเต่ถ้าจะฝึกสกิลเเยกตามหัวข้อ เเนะนำเว็บ uworld เลยค่ะ ดีมากๆ ทำก่อนสอบช่วยมากเลย โจทย์ค่อนข้างตรงเเละไม่หลุดเเนวมากด้วยค่ะ ลองดูนะคะ


0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ซื้อขาย / แลกเปลี่ยน คอร์สกวดวิชา กรุณาไปที่ www.dek-d.com/education/tutorcenter