รวมข้อมูล + รีวิวเว็บเขียนขายนิยาย 4 เว็บบอกข้อดี-ข้อเสียต่างๆจ้า
สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนงับ
เนื่องจากเห็นหลายกระทู้ถามกันเยอะเลยว่า เออถ้าอยากลงนิยายขายควรเอานิยายไปขายที่ไหนดี
หรือมีเว็บอะไรที่น่าสนใจเอานิยายไปลงบ้าง พูดกันจริงๆตอนนี้ก็มีเว็บเปิดใหม่เยอะแยะ
การนำงานไปกระจายตามที่ต่างๆ ก็เป็นอะไรที่นักเขียนยุคใหม่อย่างๆเราควรทำเพื่อกระจายงานสู่นักอ่านหลายๆกลุ่มอันนี้ในความคิดเรานะ(ถ้าไม่ขี้เกียจ อิอิ)
แต่ส่วนใครจะสะดวกลงที่ไหนหรือวางแผนการลงยังไงอันนี้ก็ส่วนบุคคลจริงๆ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกลงนิยายของนักเขียนทุกคนๆ
ว่าแล้วก็มาเข้าสู่รีวิวของเรากันเลยดีกว่าจ้าาา
โดยเว็บที่เราจะขอรีวิวในวันนี้ได้แก่
Dek-d Fictionlog ReadAWrite Tunwalai
แบ่งการรีวิวเป็นข้อดี ข้อเสีย และระบบการขายค่า
1. Dek-d.com
https://www.dek-d.com/home/writer/
เว็บไซต์ในตำนานของเราชาวนักเขียนนักอ่านนิยาย บอกเลยว่าเราสิงอยู่ในเว็บนี้ตั้งแต่อายุ 10+ กว่าจนตอนนี้..(เท่าไหร่ไม่บอกเดี๋ยวรู้ว่าแก่อิอิ)
ข้อดี : ฐานคนอ่านเยอะมากกก นิยายหลากหลายมากจะแนวไหน จะ How to ความรู้ก็มีคนอ่านเพราะว่าเป็นเว็บเจ้าเก่าเจ้าเก๋าอยู่มานาน community ของผู้ใช้แข็งแรงมาก เราสามารถได้ฐานแฟนจากเด็กดีเยอะมาก สามารถปรับแต่งหน้านิยายได้ตามใจ จะใส่เพลงแต่งโค้ดอะไรทำได้หมด ระบบอ่านในแอปค่อนข้างดี ดีมากๆเลยแหละ สำนักพิมพ์หลายเจ้าชอบมาตกนิยายจากเด็กดีไปตีพิมพ์ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเขียนที่มองหาโอกาสในการตีพิมพ์ค่า เรื่องการลงนิยายเราสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบเลย จะปรับBG ใส่รูป ใส่เพลงได้ตามใจส่วนตัวเรามองว่าเด็กดีน่าจะอิสระในการปรับแต่งทุกอย่างเองที่สุดแล้ว
ข้อเสีย : ด้วยความที่คนเยอะก็อาจจะเรื่องเยอะ จากการสังเกตของเรา+วนเวียนอยู่ในบอร์ดมานานทำให้เห็นว่าเด็กดีสามารถเกิดดราม่าระหว่างนักเขียนกับนักอ่านได้ง่ายมากๆ หลายคนก็อาจจะเจอจนอิหยังวะแล้วบอกลากันไป ส่วนใครที่ไม่เคยเจอถือว่าโชคดีมากๆๆ เรื่องการลงนิยายไม่สามารถลง NC ได้มีการแบนแบบเข้มข้นจริงจังมาก(นักเขียนหลายคนจึงนิย,นำ nc ไปลงในเว็บอื่น) และเนื่องจากนิยายในเว็บเยอะมากมีโอกาสที่นิยายจากนักเขียนหน้าใหม่ที่ยังมีฐานแฟนไม่เยอะถูกดูดจมหายไปในเว็บค่อนข้างง่าย วิธีแก้คือเราต้องโปรโมตจากภายนอกเองเยอะขึ้นนั่นเองจ้า
ระบบขาย : ด้วยความที่เรายังไม่เคยลงขายในเด็กดีเพราะเขียนยังไม่จบซักเรื่องเลยยังไม่ได้ตั้งใจขายจริงจัง ข้อดีคือเด็กดีสามารถเปิดให้แพคขายเป็นชุดๆได้ ถือว่าดีมากๆสำหรับนักอ่านและนักเขียนในการกำหนดตอนที่อยากขายได้ และซื้ออ่านรวดเดียวจบ ส่วนแบ่งก็ค่อนข้างโอเคเลยอยู่ที่ 70% จากรายได้ค่ะน่าจะเยอะที่สุดแล้ว(ไม่แน่ใจเรื่องหัก payment gateway นะคะอาจจะมีหักอีกนิดหน่อยรึเปล่าวานผู้เคยคำนวณบอกได้ค่า) ข้อเสียคือต้องเขียนให้จบก่อน!
2. Fictionlog.co
เว็บไซต์เจ้าใหม่พึ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ถือว่าได้รับความนิยมมากสำหรับนักเขียนที่อยากขายนิยาย โดยที่ฐานแฟนส่วนใหญ่ตอนนี้เท่าที่สังเกตจะเป็นแนวรัก วายและแฟนตาซีค่า ส่วนหมวดอื่นๆอาจจะได้ความนิยมไม่เท่า 3 หมวดก่อนหน้านี้เท่าไหร่ค่ะ
ข้อดี : สามารถลงเขียน และลงขายนิยายทั้งแบบบทและ Ebook ได้ค่ะ เขียนไปขายไปได้พอเขียนจบก็สามารถขายได้ทั้งแบบปลดล็อคบท หรือจะเอาไปลงเป็น Ebook ในเว็บอีกก็ได้ ที่ดีเลยคือไม่ต้องเขียนจบก็ขายได้ สังคมในเว็บค่อนข้างโอเคนะ นักอ่านน่ารัก ไม่ค่อยดราม่า มาคอมเม้นกันจริงจังมากนักเขียนที่อยากได้ฟีดแบคเยอะๆน่าจะชอบกัน มีระบบตั้งเวลาลงนิยายได้ซึ่งเป็นสิ่งที่เราชอบมากกกกก ซึ่งเวลาลงนิยายก็สามารถเลือกได้ว่าจะเปิดนิยายเป็นเหรียญฟรีหรือจะตั้งขายอันนี้แล้วแต่นักเขียนเลย จากประสบการณ์ตอนลงเองก็ขายได้พอเอามาซื้อข้าวกินช่วงสิ้นเดือนได้อยู่นะ 5555 มีทีมบ.ก.คอยดูแลนักเขียน ปรึกษาเรื่องงานเขียนได้ผ่านทาง Facebook เพจของทีมบ.ก. ชื่อ Web Fiction Academy ค่ะโดยนิยายเล่มไหนที่น่าสนใจก็จะถูก Pick ขึ้นหน้าเว็บมีโอกาสที่จะได้ฐานคนอ่านเพิ่มขึ้นเยอะเลยจากการช่วยเหลือของทีมบ.ก.ค่ะ
ข้อเสีย : เว็บนี้ปรับแต่งใดใดได้ค่อนข้างน้อย ออกแนวเป็นสำเร็จรูปมาแล้ว ใส่รูปได้ แต่ใส่เพลงกับใส่ลิงค์ยังไม่ได้ค่า เวลาแก้ตอนจะค่อนข้างยุ่งยากหน่อยตอนแก้ตอนเพราะเค้าถือว่าคนอ่านซื้อไปแล้วเลยต้องรอทีมงาน Approve ก็อาจจะไม่ทันใจกันซะหน่อย นักเขียนไม่สามารถตอบรีวิวนักอ่านได้ แอบเซงหน่อย บางทีใครที่รีวิวไม่ดี มาป่วนเราก็ดีเบตกลับไม่ได้อ่ะ มันนอยตรงนี้แหละ เรื่องยอดวิวเราว่าน้อยกว่าเว็บอื่นๆนะอาจเพราะเค้าเป็นระบบเหรียญแหละ นักอ่านต้องสมัครสมาชิกก่อนถึงจะปลดล็อคเหรียญได้ฮะ ทั้งเหรียญฟรีและเหรียญเติม ยอดเลยค่อนข้างน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเว็บอื่นฟรีอื่นๆค่ะ
ระบบขาย : ระบบขายของเว็บนี้ชัดเจนมากคือขายได้เป็นบทๆไม่ต้องแพ็กขาย ไม่ต้องจบเล่มเขียนไปขายไปได้ โดยเราต้องเขียนให้ครบ 6 ตอนก่อนถึงจะเริ่มเปิดขายได้ค่ะ ถ้าจะแพ็กขายก็ต้องรอจบเล่มแล้ว เค้าจะมีให้เลือกลด 5-10% ถึงจะสามารถแพ็กขายแบบกดซื้อแบบรวดเดียวได้ค่ะ เรื่องส่วนแบ่งอยู่ที่ 50% หักค่าบริการ 30 บาท ซึ่งนักเขียนจะเบิกได้เมื่อมียอดเกิน 500 บาทขึ้นไปจ้า ส่วน Ebook ก็ใช้ระบบเหรียญเหมือนกันข้อดีคือเงินเข้านักเขียนแบบหน่วยเดียวเลย ไม่ต้องมีหลายกระเป๋าไรให้วุ่นวายคับโผมม อีกอย่างคือ Ebook เราสามารถปรับแต่งการลดราคาต่างๆเองได้ ปัจจุบันสามารถลดได้อยู่ที่ 5-10% เหมือนกันกับแบบขายตอนค่า ถือว่า all in one ในเว็บเดียวเลยสะดวกมากค่ะ
3. ReadAWrite.com
เว็บลูกของ Mebmarket เว็บอีบุ๊คเจ้าใหม่ที่ออกเว็บลูกมาเปิดคอมมูนิยายรายตอนค่า
ข้อดี : เว็บนี้คือขอชื่นชมว่าออกแบบฟังก์ชันหลายๆอย่างมาเพื่อเอาใจนักเขียนสุด โดยเฉพาะเมนูตรวจคำผิด เราว่ามันดีมากๆเลยนะสำหรับนักเขียนมือใหม่ที่เรื่องภาษายังไม่เป๊ะดี จัดหน้านิยายได้ง่ายมีออกแนวว่าเค้าช่วยเราจัดหน้ามาแล้ว เราเลยไม่ต้องทำอะไรต่อเยอะ ใส่ลิงค์ ใส่รูปได้มีระบบการรีพอร์ตสามารถซ่อนคอมเมนต์ที่ไม่พึงประสงค์ของนักอ่านได้ ทำให้นักเขียนสามารถจัดการ Toxic ต่างๆในหน้านิยายของตัวเองได้ดีค่ะ เว็บนี้ดีสำหรับคนเขียนนิยายรักและนิยายยูริ ที่ปกติหาอ่านได้ไม่ง่ายนักแต่ใน ReadAWrite จะเจอเพื่อนนักเขียนชาวยูริเต็มไปหมดเลย ดังนั้นนักอ่านส่วนใหญ่ในเว็บจึงเป็นผู้หญิงค่ะ ในเรื่องของยอดวิวจะมองว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสียก็ได้นะ เพราะว่ายอดวิวขึ้นง่ายมากๆส่วนตัวมองว่ามันแอบปั่นได้ค่อนข้างง่าย อันนี้แล้วแต่คนนะถ้าใครอยากได้ข้อมูลจริงๆอาจจะดูจากยอดวิวได้ยากหน่อย อีกอย่างที่ดีมากๆสำหรับเว็บนี้คือหน้า Profile นักเขียน ที่สามารถทำกระทู้ประกาศแจ้งข่าวอะไรได้ง่ายชอบมากๆฮะ
ข้อเสีย : คือนักอ่านคอมเมนต์จริงจังกันน้อยง่ะ :( ถือเป็นข้อเสียปะ เพราะว่าเว็บมีสติกเกอร์ให้คอมเมนต์นักอ่านเลยเม้นเป็นสติกเกอร์กันเยอะ กว่าจะได้ฟีดแบคแต่ละทีก็ลุ้นๆกันหน่อย ที่สำคัญเลยเว็บนี้ไม่เหมาะกับกลุ่มนิยายแฟนตาซีหรือนิยายแนวผู้ชายเท่าไหร่ คือเรามองว่ากลุ่มเป้าหมายเค้าชัดเจนนะว่าเป็นเว็บผู้หญิงซึ่งมันก็ผู้หญิงจริงๆ จึงเหมาะกับนิยายรักมากกว่าค่า และอีกอย่างนึงคือเรามองว่าเว็บไม่ใช่เว็บขายนิยายขนาดนั้นนะในความรู้สึกเรา เค้าดูค่อนข้างเน้นไปทางการ donate (ระบบ donate น่ารักมาก) แต่ด้วยความที่เค้าเชื่อมกับ Meb เลยทำให้มีฐานในการขาย Ebook ที่ดีและสะดวกมากๆอยู่ค่ะ
ระบบขาย : มีทั้งแบบขายตอนโดยส่วนแบ่งอยู่ที่ 70% และระบบโดเนตอยู่ที่ 90% ค่ะโดยการแบกรับเรื่องการหัก Payment Gateway ต่างๆจะอยู่ที่นักเขียนค่ะ คิดเป็นยอดสุทธินักเขียนจะได้จริงๆอยู่ที่ 60% กว่าๆคับป๋ม โดยที่ระบบการโดเนตของเว็บเป็นอะไรที่น่ารักมากๆ โดยเปรียบการโดเนตเหมือนการเลี้ยงขนมนักเขียนซึ่งแต่ละเมนูก็ต้องใช้เหรียญตามจำนวณที่ต่างกันไปค่า น่ารักมากๆ
4. Tunwalai.com
เว็บไซต์ยอดฮิตสำหรับคนรักนิยายรักแนวผู้ใหญ่ แสบซ่าถึงใจทะลุทรวง
ข้อดี : ใครที่เป็นสาย nc ต้องรักเว็บนี้แน่นอนเพราะว่าไม่มีเซนเซอร์ nc ให้ปวดหัวจริงๆส่วนใหญ่นิยายในเว็บก็จะเป็นแนว nc เลยแหละซึ่งถ้าว่ากันจริงๆเรามองว่า nc ขายแบบออนไลน์ง่ายนะเพราะจะให้ถืออ่านเป็นเล่มบนบีทีเอสคงจะลำบากหน่อย 55555 ข้อดีที่ชัดๆแล้วนอกจากแนวนิยายคือเรื่องฐานแฟน เว็บธัญมีฐานคนอ่านค่อนข้างเยอะไม่แพ้เด็กดีเลยด้วยความที่เค้าเป็นเว็บบอร์ดมาก่อน นักอ่านสามารถสนับสนุนนักเขียนได้หลายทางไม่ใช่แค่จากนิยายเท่านั้น แต่นักเขียนยังสามารถได้ดาวซึ่งมาจากการกดของนักอ่าน พอสิ้นเดือนเราก็เอาไป Top-up ค่าขนมของเราเพิ่มได้อีกค่ะ
ข้อเสีย : ระบบกุญแจที่แจกกระหน่ำเลย เลยทำให้นักเขียนหลายคนได้รายได้ไม่ดีเท่าที่ควรเพราะว่าจริงๆมันเป็นระบบที่ support นักอ่านแต่ไม่ support กับนักเขียนอย่างเราๆเท่าไหร่ เพราะตอนที่เราตั้งเหรียญจะสามารถถูกปลดล็อคด้วยกุญแจที่นักอ่านหาเก็บฟรีจากการดูโฆษณาหรือหมุนกงล้อในเว็บไซต์ได้ค่ะ อีกข้อนึงที่คล้าย ReadAwrite คือไม่เหมาะกับนิยายแนวผู้ ชายเช่นแฟนตาซี หรือกำลังภายในเพราะฐานคนอ่านส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แต่ถ้าเป็นแนวแฟนตาซีที่มี nc ก็พอได้อยู่ค่ะ
ระบบขาย : ส่วนเรื่องส่วนแบ่งรายได้เอาจริงค่อนข้างคำนวณยากเพราะทางเว็บไซต์ไม่ใช่บอกเป็น % ชัดเจน แต่ก็พอคำนวณได้คิดเป็น 30% ค่ะถือว่าน้อยที่สุดเลยถ้าเทียบกันทั้ง 4 เว็บแต่แลกกับฐานแฟนที่ใหญ่มากๆ แล้วก็มีระบบสนับสนุนนักอ่านค่อนข้างเยอะ ทำให้มีฐานแฟนนักอ่านเยอะมากๆ ที่สำคัญที่นอกจากยอดขายยังมียอดสนับสนุนนักเขียนหรือการให้ดาว โดย 200 ดาวคิดเป็น 1 บาทเป็น Top-up ที่เราจะได้เพิ่มนอกจากการขายนิยายค่ะ
เรียงอันดับเรื่องส่วนแบ่งรายได้(ไม่นับโดเนต)
Dek-d > ReadAWrite > Fictionlog > Tunwalai
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 4 เว็บที่เราเอามาฝากใครชอบเว็บไหนลองลงเว็บไหนแล้วเป็นยังไงมาแชร์กันได้นะคะ ถ้าให้เราแนะนำ เราว่าลงไปทุกเว็บเลย 5555
เพื่อดูฐานและกระจายนิยายของเราไปสู่คนอ่านหลายๆกลุ่ม เพราะแต่ละเว็บก็มีฐานแฟนที่แตกต่างกันไป ถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้นิยายของเราได้สู่สายตานักอ่านมากขึ้น มีโอกาสได้รีบฟีดแบคจากนักอ่านที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อที่เราจะได้นำมาพัฒนาผลงานของเราในอนาคตต่อไปค่ะ
ถ้ามีเวลาก็ลองดูนะคะเพื่อการพัฒนางานของเราต่อไปในอนาคต
16 ความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับการรีวิวค่ะ.. ตอนนี้ไปที่รีดด้วย....การตอบรับพอได้...เดี๋ยวคงต้องไปแอบดูอันอื่นบ้าง ของธันนี่nc มากจริงๆ ไม่กล้าสู้เลย สุดท้ายชอบเด็กดีที่สุดค่ะ :-)
เราเขียนลงสองเวบนะ เด็กดี กับ รีดอะไรท์
แต่ถ้าระบบขายแบบติดเหรียญ เราเปิดเฉพาะของรีดอะไรท์ เพราะทำอีบุ้คด้วยแหละ มันเชื่อมถึงกันได้
ส่วนเรื่องฐานแฟนคลับ อันนี้ก็แล้วแต่ว่าเรื่องที่เขียนจะถูกจริตนักอ่านมากเพียงใด
เราไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่
เรื่องคอมเม้น ในเด็กดีก็ไม่ค่อยคอมเม้นเท่าไหร่ ก็มีบ้าง หรือเขาขี้เกียจกันก็ไม่อาจรู้ได้
ส่วนที่รีดอะไรท์ ก็คล้ายๆ กัน
ผมเคยโดน ในแต่ละเรื่องนี้ยอมรับ คอมเม้นผมมีแค่1คนเอง หมดกำลังใจจะแต่งต่อจริงๆ
รวบรวมข้อมูล และสรุปเขียนอธิบายได้ดีครับ
ผมไปลงทั้ง 3 เว็บแล้ว (ยกเว้นธัญวลัย)
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยว่า Dek-D กระแสตอบรับด้านคอมเม้นนั้น เยอะกว่าที่อื่นจริงๆ และการคอมเม้นโต้ตอบ แลกเปลี่ยนความเห็นกันนั้น Dek-D ก็ดีกว่าแหละนะ =3=
อาจเป็นเพราะนิยายของผมมันแหวกกระแสมากไปนิด เน้น Yuri มากไปหน่อย ทำให้คนคอมเม้นน้อยอยู่แล้ว พอไปลงเว็บอื่น ก็ยิ่งน้อยลงไปอีก ฮ่าๆๆ
ส่วนเรื่องระบบขาย ผมอยากให้ Dek-D มีระบบ Donate / E-Book บ้างจังเลยนะ แต่คิดในแง่ผู้พัฒนา-ดูแลเว็บ คงจะเหนื่อยกันมากๆแน่ เพราะมันไม่น่าจะทำได้ง่ายเลย ไหนจะระบบป้องกันการคัดลอกเนื้อหานิยายไปทำ PDF เถื่อนขายอีก ที่ต้องพัฒนามากขึ้นหากมีการขายเป็น E-Book จริงๆ
เมื่อปีก่อน ตอนกิจกรรม Dek-D Writer Charity เพื่อมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก ผมได้เข้าร่วม และพูดคุยเรื่องการอ่านนิยายบนเว็บด้วยล่ะ ทางทีมงานก็ถามนักเขียนว่า อยากให้อ่านนิยายบนเว็บสำหรับตอนที่ขาย Package ไหม ผมก็ตอบว่าอยากให้อ่านบนเว็บได้เหมือนกันนะ แต่ปัญหาคือ. . . เสี่ยงต่อการถูกก็อปเนื้อหาไปทำไฟล์ pdf เถื่อนนี่แหละ
เพราะเดี๋ยวนี้ มีโปรแกรมเจ๋งๆ แปลง"รูปภาพ" ให้กลายเป็น "อักษร" ได้แล้ว
//แปะลิงค์
https://www.it24hrs.com/2018/convert-image-to-text-with-google-docs/
(จริงๆเมื่อปีที่แล้วที่ผมเจอข่าววงการ It เป็นอีกโปรแกรมนะ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าทำใน google doc ได้แล้ว)
ซึ่ง. . . Dek-D แม้จะป้องกันการ "คลิกขวา" หน้านิยายสำหรับการคลุม>copy>paste แต่ยังสามารถแคปหน้าจอเป็นรูปภาพได้อยู่ คนที่คิดจะ "ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของนักเขียน" ก็ทำได้ไม่ยากเลย ถ้าคิดจะทำจริงๆ
ไหนจะโปรแกรมแปลง PDF ให้เป็นอักษรได้ที่มีมานานแล้วอีก. . .
ทำให้ผมคิดว่ายังเสี่ยงเกินไปสำหรับการอ่านนิยายที่ขายแพคเกจบนเว็บ (แม้มือถือจะแคปจอ เอาภาพหน้านิยายมาแปลงเป็นอักษรได้ก็ตาม แต่จอเล็กแบบนั้น แคปกันมือหงิก หลายสิบภาพต่อตอนแน่ แต่ก็. . . ถ้าคิดจะทำจริงๆ คงมีคนทำแหละ มนุษย์น่ะ ถ้าพยายามทำอะไรไม่ว่าจะเรื่องถูกหรือผิด ก็ทำได้อยู่แล้ว)
ส่วนเรื่อง E-Book ถ้าจะวางขายบน Dek-D คงต้องมีการอัพฐานข้อมูลสำหรับเก็บไฟล์ และจัดการเซิฟเวอร์กันยกใหญ่แน่ถ้าจะทำจริง ดังนั้นแล้ว. . . การวางขาย E-Book ในเว็บอื่นแล้วนำลิงค์มาแปะหน้านิยายตัวเองใน Dek-D ก็เป็นวิธีที่ดีอยู่นะสำหรับตอนนี้ -3-
ของคุณได้คอมเมนต์ในเด็กดีเยอะ แต่ของเราแทบกราบเท้าอ้อนวอนค่ะ 555
เห็นด้วยเลยค่ะเรื่องการทำระบบกันก๊อปหลายเจ้าก็ยังไม่รอด น่าจะต้องรอกันอีกยาวๆเลย
เราลงทั้ง 4 เว็บเลย 5555
ทุกเว็บล้วนมีความแตกต่างที่เรารับรู้และรับได้ ถือว่าปิดข้อเสียของกันและกัน
ธัญวลัย NC เด็กดีรักใสๆ ค่ะ ^^
เรื่องคอมเมนต์นี่คงพูดตามตรงเลยว่าเด็กดีน้อยสุด
ส่วน ReadAWrite ส่วนมากนักอ่านจะเมนต์สติ๊กเกอร์ แต่ก็สื่อถึงอารมณ์ที่ได้อ่านตอนนั้น เอาเป็นว่ายอมรับได้ (สำหรับเราคอมเมนต์เว็บนี้เยอะสุดแล้ว)
ธัญวลัย จะได้คอมเมนต์ฟีดแบคเป็นตัวหนังสือกลับมา ซึ่งเราชอบมาก แบบว่าเข้าถึงอารมณ์คนอ่านได้ดีมาก
Fictionlog ก็พอมีบ้าง แต่ลักษณะเว็บจะปรับแต่งอะไรไม่ค่อยได้ค่ะ
ส่วนจำนวนคนอ่าน คงขึ้นกับฐานแฟนคลับด้วยมั้ง เราก็ไม่รู้เหมือนกัน เว็บหนึ่งดี เว็บหนึ่งอาจไม่ดี เราก็เลยลงทั้งสี่เว็บค่ะ
คงอยู่ที่นิยายเราถูกจริตกับคนอ่านในเว็บไหนด้วย บางคนมือเก๋าเว็บหนึ่งแต่เป็นมือใหม่ของอีกเว็บก็ต้องเริ่มแนะนำตัวกันใหม่เก็บฐานแฟนกันใหม่ 55555
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
กำลังคิดจะไปลงกับ ReadAWrite พอดีเลยค่ะ
ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อนาคตตามการอัปเดตของแต่ละเว็บไซต์ ถ้ามีไรอัปเดตจะมาทำอีกนะคะ ><
ขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับนักเขียนหน้าใหม่ อยากลองฝีมือตัวเอง 555
สำหรับ readawrite ก็อย่างที่จขกท.บอก มียอดวิวดีมากๆ ใน 2 สัปดาห์ได้ยอดวิว 1,000
จนเจ้าตัวยังช๊อคไม่หาย 555 เราไม่ได้ปั่นไม่ได้เปิดดูเอง แต่ก็อย่างที่ว่าเพจนี้ไม่ค่อยมีคนเม้นท์เท่าไหร่
จะแอบกรี๊ดทุกครั้งที่มีคนเพิ่มนิยายเราเข้า shelf ของเขา ฟินๆยิ้มได้ทั้งวัน (เพี้ยนเนอะ ^^)
สำหรับเพจอื่นๆ จะลองเอาไปวางมั่ง อยากรู้ความเห็นของแต่ละที่ 555
อาจจะเจ็บตัวกลับมา อาจจะหงอยกลับมา ...แต่ก็ดีกว่าไม่ลองอะไรเลยเนอะ ^^
ขอบคุณมากๆค่า
ลองดูก็ไม่เสียหาย ดีซะอีกเป็นการเพิ่มโอกาสให้นิยายของเรา สู้ๆค่ะ
เนี่ย...หมดเวลาไป 1 ชม. กับการลงอีก 2 เว็บ 555
เปิดโลกแห่งตัวอักษร... ^^
ขอถามระบบ donate ของ ReadAWrite หน่อยค่ะ
คือถ้าเราเปิดระบบนี้ แล้วเราต้องเปิดทุกเรื่องเลยรึเปล่าคะ
หรือบางเรื่องเปิดระบบ บางเรื่องปิดไว้ได้คะ
กดเข้าไปดูรายละเอียดเลยค่ะ มันเปิดได้ปิดได้ด้วยตัวของคุณเอง
ของเราก็เปิดนะ เพราะเราทำขายรายตอนด้วย มันเชื่อมกัน
ขอบคุณค่ะ:)
เราลงใน Fictionlog ค่ะ บางทีเค้าก็จะเสนอทำปกนิยายให้เราด้วย (แต่พอดีเราจ้างวาดไปแล้วT^T) ทีมบก. น่ารัก ดูแลดีมากๆ ขนาดเราเป็นแค่นักเขียนตัวเล็กๆ ยังส่งของมาสวัสดีปีใหม่เลยง่าาา
ดีมากๆเลยค่ะ ต้องยอมรับเลยว่าหลายเรื่องในเว็บทำปกดีมากๆ ดีใจกับคุณด้วยนะคะ ><
รอดูคุณมิรันเก็บกระทู้นี้เข้าคลังของตัวเอง
ที่เว็บ readawrite นั่น ผมว่าเขาทำออกมาเพื่อให้นักอ่านทดลองอ่านเป็นรายตอนก่อนมากกว่า ส่วนใหญ่ถ้าติดราคาแล้ว ไม่ค่อยมีคนไปควักตังค์ซื้อเท่าไร แต่กลับกดลิงก์ไปซื้อแบบรูปเล่มแทนมากกว่า ส่วนเรื่องการจัดอันดับ ผมเขียนอยู่ในหมวดแฟนตาซี อยากหัวเราะฮ่าๆ ให้ลั่น แค่มีคนเข้าชมประมาณ 7000 กว่าคน ก็ขึ้นไปถึงอันดับประจำหมวดที่ 9 ได้แล้ว โอ้ได้คำตามความฝันให้เป็นจริงซะที ฮือๆ นิยายติดอันดับ
สำหรับที่ธัญวลัย... ลืมบอกรายละเอียดของกุญแจไปนะ เขาจะบังคับให้นักเขียนหน้าใหม่เปิดเป็นระบบบริจาค เมื่อก่อนถ้าอยากได้สิทธิ์ติดเหรียญอย่างเดียว หรือเรียกว่าเป็นนักเขียนเหรียญทอง ต้องทำยอดให้กับทางเว็บไซต์ 15 ล้านเหรียญ ก็คงประมาณ 2 แสนบาท ต่อมาปรับเปลี่ยนใหม่ เหลือแค่ 10 ล้านเหรียญ ก็ประมาณ 1 แสน กับอีก 5 หมื่นบาท แต่ตอนนี้ปรับเปลี่ยนใหม่... ใครทำยอดให้กับทางเว็บไซต์ถึง 1 ล้านเหรียญ ก็ประมาณ 1 หมื่น กับอีก 5 พันบาท ก็สามารถเป็นนักเขียนเหรียญทอง ติดเหรียญได้ตามใจชอบแล้ว คิดว่าน่าจะเพิ่งรู้ตัวว่าเว็บมันโล่งๆ พิกล จึงลดความยากลำบากลงมาให้นักเขียนได้เอื้อมมือถึงได้ง่ายหน่อย เว็บนี้มันไม่สามารถแก้ไขนิยายด้วยตัวเองได้ แถมปัญหาของมันตรงส่วนนี้ยังไม่มีกล่องยื่นเรื่องเหมือนทาง fictionlog จึงลำบากมากกับการแก้ไข อ้อ มันยังมี 7 วันมหัศจรรย์ ให้สำหรับนักเขียนได้หายใจด้วย หมายถึงบังคับให้จ่ายเงินในกรณีที่นักเขียนต้องการขายนิยาย แต่เมื่อครบเจ็บวัน ตัวนักอ่านก็จะใช้กุญแจแห่งโซโลม่อนมาไขได้เหมือนเดิม ซึ่งสำหรับเว็บธัญวลัยแห่งนี้ มันน่าจะเหมาะสำหรับนิยายแปลของทางเว็บไซต์เองที่เอามาลงให้อ่านฟรี และเหมาะสำหรับนักอ่าน แต่มันไม่เหมาะสำหรับนักเขียนอิสระ เนื่องจากกฎที่บังคับให้เราเปิดเป็นระบบบริจาคนั่น มันทำให้ตัวนักเขียนไม่มีรายได้อะไร ตรงข้ามจากเว็บไซต์ที่ได้จากการให้คนไปดูโฆษณาแล้วแลกกับกุญแจ แต่ถ้าทางเว็บไซต์มันปรับเปลี่ยนใหม่ให้มีระยะเวลาจำกัดในการใช้กุญแจ จะเป็นเรื่องดีมาก อย่างเช่น ตอนหนึ่ง สามารถใช้กุญแจเพื่ออ่านได้ 30 นาที ถ้าต้องการอ่านซ้ำ ก็แค่ไปหากุญแจมาไขอีก แล้วถ้าเป็นไปได้ มันน่าจะเอาเงินเข้าสู่ส่วนกลางให้เยอะหน่อย เพราะเมื่อแบ่งหารกับนักเขียนท่านอื่น แทบไม่ได้อะไรเลย เนื่องจากกุญแจครบทุกๆ ประมาณ 300 ดอก (เทียบเท่ากับนักอ่าน 100 คน ที่ใช้กุญแจ) ตัวนักเขียนจะได้เงินแค่ 0.50 สตางค์ จนไปถึง 1 บาท โดยประมาณ
บรรยายซะเห็นภาพเลยค่ะ เราอยู่ในยุคนักเขียนเหรียญทอง 15 ล้านเหรียญ (เงินที่ได้จริงคือ 75,000 บาทค่ะ)
ตอนนั้นนี่แบบรู้สึกดีมาก อะไรแบบนี้ ไปๆ มาๆ เริ่มคิดเริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นว่าไม่ติดรงติดเหรียญอะไรสักอย่างเพราะไม่ชอบระบบกุญแจทีได้เงินก็เหมือนไม่ได้ ไม่แฟร์สำหรับเรามาก
ช่วงหลังเราเอาไว้ลงนิยายโปรโมทเฉยๆ ส่วนเนื้อหาจริงคือขายเป็นอีบุ๊ก แต่มีการตัดจบแบบแฮปปี้ทั้งคนอ่าน คนเขียนและคนซื้อ เรื่องไหนฟรีก็ฟรีไปเลย
เราจะบอกว่า รายได้เราเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ จากห้าพัน/เดือน แทบกระอักเลือดอัพแล้วอัพอีก จนตอนนี้อัพแบบสบายๆ แต่รายได้จากการขายเพิ่มเป็นหลักหมื่นกว่าเกือบสองหมื่น และสองหมื่นกว่าในบางเดือน สำหรับนักเขียนที่ไม่ได้โด่งดังอย่างเรา แค่นี้ก็พอยิ้มได้ใช่ไหมคะ
และตอนนี้เหมือนว่าธัญจะรู้ตัวว่านักเขียนเริ่มเซย์โนกับระบบติดเหรียญ จึงได้มีระบบขายอีบุ๊กที่รายได้ของนักเขียนพอๆ กับอีกเว็บหนึ่ง แต่ข้อเสียคือ... กว่าจะลงอีบุ๊กได้ ถ่างตาแล้วถ่างตาอีกค่ะเพราะใช้ได้แค่ในแอพเท่านั้น ลงในคอมพิวเตอร์ยังไม่ได้ T^T
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีนักเขียนในยุคนั้นอยู่นี่ด้วย ฮ่าๆ สวัสดีครับ
เมื่อประมาณ 3 วันที่แล้ว ทางเว็บไซต์ส่งอีเมลมาเชิญชวนให้ไปวางขายอีบุ๊กด้วย
ผมตอบกลับไปในใจเลยว่า "ไม่จ้า"
ส่วนเรื่องทางเว็บให้โอกาสนักเขียนเหรียญทองอะไรนั่น ผมว่าตอนนี้มันช้าเกินไปมากแล้วที่จะดึงนักเขียนที่มีผลงานประจำกลับมา แต่มันก็ดีไปอย่างหนึ่ง เพราะวิธีการของเว็บมันเป็นการขับไล่นักเขียนและนักอ่านไปโดยไม่รู้ตัว เนื่องด้วยทางเว็บธัญวลัยไปบวกราคาแพงขึ้นกับนักอ่าน ทำให้นิยายตอนหนึ่งที่ติดราคา 3 บาท แต่พอเอาเข้าจริงมันราคาเท่ากับ 5 บาท ดังนั้นนี่จึงเป็นการให้โอกาสนักเขียนเหมือนกัน เพราะตัวนักเขียนก็เขียนเชิญชวนให้ไปซื้อที่อื่นแทน เช่นทางเว็บ readawrite ซึ่งให้ค่าตอบแทนสูงเทียบเท่าวางขายอีบุ๊ก ประมาณ 72 % มั้งถ้าผมจำไม่ผิด แถมระบบรับบริจาคที่เรียกว่าโดเน็ท มันให้ถึง 96 % ซึ่งเยอะมาก สำหรับฝ่ายนักอ่านก็ได้อ่านนิยายตามเท่าจำนวนเงินที่เติมไป ไม่มีลดมูลค่าลงจนน่าใจหาย
เราลงที่ Fictionlog กับ Readawrite แต่แบบลงที่ fic ก่อน เพิ่งลองเล่นรี้ด
สำหรับ fic ค่อนข้างจะมินิมอลนิดหนึง 555 ไม่มีลูกเล่น ลงเพลง เปลี่ยนตีมไม่ได้ แต่เราชอบนะ แบบโฟกัสที่ลงเรื่องไปเลย ไม่ต้องกังวลอะไร แล้วค่อนข้างมีโอกาส เหมือนจะมีทีมงานคอยดู สำรวจเว็บ ตอนเราลงแรกๆ ก็มีทีมงานทักมาว่ามี potential ช่วยโปรโมตให้แบบช่องทางต่างๆ แบบเว็บจะมีแบนเนอร์ใหญ่ๆ ข้างบน มีลิสต์เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เขาก็ช่วยเอาไปแปะให้ ดีใจมากเลย TT
ระบบตั้งเหรียญก็ใช้ค่อนข้างง่าย ตั้งง่าย นักอ่านก็เมนต์ดี มันจะมีฟังก์ชั่นรีวิวนิยาย นักอ่านบางคนก็รีวิวให้เราจริงจังมากกกก น่ารัก (จนเราที่ตั้งเหรียญไปแอบกดดันเลย)
ส่วนรี้ดเพิ่งเริ่มเล่น เลยตื่นตาตื่นใจมาก ดูน่ารักมุ้งมิ้งมาก มีฟังก์ชั่นในการช่วยหลากหลาย ที่ชอบมากตอนนี้ก็คงระบบโดเนต มันน่ารักแล้วก็รู้สึกไม่กดดันดี มีระบบเรตติ้งให้หัวใจ ช่วยให้เรารู้สึกว่าเออ ยังมีนักอ่านอยู่นะ 555 คอมเม้นต์ก็มีมาเรื่อยๆ แต่จะเป็นสติ๊กเกอร์มากกว่า ก็แอบไม่ชินนิดหน่อย แต่มีคนอ่านเราก็ดีใจแล้ว
ธัญนี้ยังไม่กล้าลง ส่วนเด็กดีมันกว้างใหญ่มหาศาลมาก จนเราไม่รู้จะเริ่มยังไง (แบบเคยลงนะสมัยก่อน แต่ก็อยู่คนเดียวอย่างเหงาๆ เลยไม่ได้ลงแล้ว TT)
สำหรับนักอ่านเราว่าข้อเสียใหญ่ๆของรีดอะไรท์คือการเติมเงินที่ยุ่งยากมากจนหมดอารมณ์อ่านกลับไปอ่านเด็กดี ฟิคชั่นล็อกไม่ก็ธัญวลัยดีกว่า อยากเสียเงินให้นักเขียนเเต่วิธีการยุ่งยากมาก
ทำ2เดือนนี้นักเขียนได้เงินเดือนยากจัง
ตอนนี้โอเคกับพี่รี๊ดพอตัวครับ ตอนนี้จะเปิดให้สายฟรีได้เข้าชม แต่อีกไม่นาน คงต้องเป็นเรื่องของธุรกิจแล้วครับ...
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?