ควบคุมความเร็วในการดำเนินเรื่องอย่างไร
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
9 ความคิดเห็น
ต้องถอยมาดูมุมกว้างครับ ปรับตั้งแต่โครงเลยว่าจะเน้นตรงไหน จะเร่งตรงไหน
จะทำให้เราเห็นอะไรชัดขึ้น และกระทบกับการเดินเรื่องน้อยกว่าเลือกปรับภายในตอนครับ
จำลองตัวเองเป็นผู้กำกับดูสักรอบก็ได้ครับ
หลับตานึกการเดินเรื่องดูว่าในภาพรวมนั้น ตอนต่อตอนตั้งแต่ช่วงหนึ่งไปถึงอีกช่วงหนึ่ง (ถ้าเป็นละครหรือซีรีย์ก็สมมติว่าฉายไปจนกว่าจะตัดโฆษณาสักเบรคทำนองนั้น)
แล้วมาพิจารณาว่าใช้ได้หรือยัง กระชับดีไหม ช้าไปหรือเปล่า ได้นำเสนอในจุดที่อยากเน้นพอหรือยัง?
ลองลำดับดู ถ้ามันช้าไปก็เร่งหน่อยแล้วไปเน้นช่วงหลังก็ได้ หรือถ้ามันเร็วไปก็สปีดสักนิดแล้วค่อยๆ ผ่อนก็ได้
ถ้าเราคุมภาพรวมได้ ก็ปรับตอนย่อยได้ง่ายขึ้นครับ
ปกติเราจะกำหนดจังหวะเรื่องตั้งแต่ตอนวางโครงเรื่องแล้วน่ะค่ะ
คือเราจะมองมุมกว้าง ทดลองเขียนหลายๆ แบบดูว่าแบบไหนโอเคสุดค่ะ ก่อนจะวางพล็อตละเอียดแล้วเขียนจริงค่ะ
อย่างคห. 1 ว่าลองถอยมาดูมุมกว้างก่อนดีไหมคะ
สารภาพว่าปัญหานี้เกิดขึ้นกับนิยายเรื่องล่าสุดของผมเช่นกันครับ ซึ่งผมมีวิธีแก้การ Skip เวลาให้ดูไม่สะดุด โดยการเลือกเล่าเรื่องของตัวละครอีกตัวหนึ่ง ซึ่งอยู่ต่างสถานที่กับตัวเอกของเรื่องพอดีครับ
พูดง่ายๆ คือช่วงไหนที่ผมต้องการเร่งเวลาของฝ่ายตัวเอก ผมก็จะหันมาโฟกัสกับตัวนี้แทน ดำเนินเรื่องเป็นเส้นขนานกันไป และสุดท้ายเอามาบรรจบกันครับ
แต่อันนี้มันก็ขึ้นอยู่กับการวางพล็อตของเราด้วย อย่างผมจงใจวางพล็อตให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้วครับ แต่ถ้านิยายของท่านโฟกัสที่ตัวเอกแค่ตัวเดียวเลยนี่ มันก็อาจจะยากนิดหนึ่งครับ
เรื่องสกิปเวลา เราใช้อยู่สองวิธีค่ะ
- บรรยายโดดไปเลย เช่น 2 เดือนต่อมา เดือนเมษา หรือวันงาน บลา ๆ วิธีนี้จะเห็นบ่อยในหนัง แต่ไม่นิยมใช้ในนิยาย แต่เราว่าถ้าวางจังหวะไว้ดีก็ใช้ได้เหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับสำนวนคุณด้วยว่ามันเหมาะกับการบรรยายแบบนี้ไหม ถ้าแนวไลท์โนเวลหรือนิยายยุคปัจจุบันที่สำนวนเรียบ ๆ มันจะไม่ขัดตา แต่ถ้าเป็นสำนวนวรรณกรรมจ๋า มันไม่เหมาะ
- บรรยายเหตุการณ์ช่วงที่สกิปแบบรวบยอดสักหนึ่งหรือสองย่อหน้า เช่น
การฝึกฝนในป่านั้นหฤโหดมาก .......บลา ๆ ๆ เวลาล่วงเลยไปกว่าสองอาทิตย์ ในที่สุดอาจารย์ก็มารับพวกเรากลับ อะไรประมาณนี้ค่ะ วิธีนี้เห็นได้ในนิยายทุกแบบ
กำลังคิดว่าที่เขียนอยู่มันไม่สนุกใช่ไหม คุณเขียนเส้นเรื่องไว้หรือเปล่าครับ แล้วที่กำลังเล่าอยู่มันเกี่ยวกับเส้นเรื่องตอนนี้หรือเปล่า ถ้าไม่เกี่ยวก็ไม่ต้องเล่า ถ้าเกี่ยวคุณต้องไปปรับเส้นเรื่องของคุณใหม่ ให้เห็นชัดว่าสิ่งที่เล่ามีผลกระทบต่อเส้นเรื่อง การเล่าเรื่องต้องมีไคลแม็กซ์ ไม่ใช่เรื่อยเฉื่อยชมนกชมไม้ ถ้าจัดเส้นเรื่องได้ดี ยังไงมันก็อ่านไปได้เรื่อย ๆ ถ้า โดยเฉพาะเรื่องของคุณมีอะไรเยอะมากที่อยากจะเล่า ๆ ๆ ๆ ๆ อัด ๆ ให้คนอ่าน ถ้าคุณจัดเส้นเรื่องให้ออกมาในรูปแบบของการเล่าเรื่องไม่ได้ คุณก็ต้องรู้สึกเหมือนเดิมเวลาผ่านช่วงที่คุณคิดว่ามันสนุก ลองอ่าน https://goo.gl/pH5gn1 ดูครับแล้วจัดรูปแบบของเส้นเรื่องให้ออกมาแบบนี้ให้ได้ พอได้เส้นเรื่องก็เหมือนมีถนนให้เดิน คุณจะเล่าเรื่องสไตล์ไหนก็ตามใจครับ ขอให้มันเคลื่อนไปข้างหน้าก็แล้วกัน
ขอบคุณมากครับ ก็ไม่เชิงว่ารู้สึกไม่สนุกกับการเขียนครับ เเต่ว่าผมรู้สึกถึงความเชื่องช้าเกินไปหน่อย เเต่มันก็ไม่ได้ออกนอกเส้นทางนะ เเค่ว่ามันลดความเร็วลงเเบบค่อยๆเดินเนิบๆ เเต่ทุกตอนผมก็ใส่ส่วนที่น่าตื่นเต้น หรือมีเนื้อหาที่น่าสนใจมาเป็นจุดดึงอารมณ์ในทุกตอน เเบบว่า ไม่ใช่การเดินข้ามสะพานจากฝั่งไปอีกฝั่ง เเต่มันจะมีสะพานโคลงเคลงบ้าง คนตกนำ้บ้าง กว่าจะถึงอีกฝั่ง มันเป็นเเบบนี้ครับ ผมถึงได้รู้สึกว่ามันช้าไปหน่อย เเต่ก็ไม่รู้จะเร่งยังไงถึงจะรู้สึกว่า เนียนตา ไม่ใช่เเบบ สามวันต่อมา อะไรทำนองนั้น
เรากำลังเผชิญกับเรื่องนี้เลย มีนิยายเรื่องนึง(และเป็นเรื่องเดียว) ของเราที่เป็น แต่มันมาจากความกังวลหลายด้าน เพราะสเกลใหญ่ (ใหญ่มาก..) ที่เราทำได้ตอนนี้คือการนั่งเขียนใหม่ทั้งไปหมดเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอจุดลงตัวค่ะ
เป็นนิยายที่ต้องเขียนแบบทำให้คนอ่านเข้าใจหรือจดจำรายละเอียดทั้งหมด(ที่สำคัญ)ได้ ถ้าพลาดไปสักจุดอาจเสียหายหนักมาก มันเลยเป็นปัญหาไปเลย ; ;
ไม่รู้ว่าผมตอบตรงคำถามหรือเปล่านะ แต่ผมเคยเขียนแบบนี้
อยากเล่าอะไร เล่าไป เน้นให้พอดีหรือว่ามากไว้ก่อน จากนั้น หากมีเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำสอง ก็สามารถสคิปแบบเนียนได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องตัดทิ้ง
ตัวอย่าง สมมติว่ากำลังบรรยายถึงสิ่งเหล่านี้อยู่ละกัน
-พระอาทิตย์ขึ้น หรือนาฬิกาบอกเวลา6โมง
-แม่ร้องปลุก
-พระเอกนอน เพิ่งตื่น ยันตัวลุก นั่งงัวเงีย ล้มตัวลงนอน
-ยันตัวลุกอีกครั้ง เดินออกจากห้อง
-เดินเข้าห้องน้ำ
-แปรงฟัน ล้างหน้า
-เช็ดหน้า เดินไปทำอย่างอื่น
-แต่งตัวไปทำงาน
สรุปเรื่องที่จะเล่า ก็มีแค่พระเอกตื่นนอนและเตรียมตัวไปทำงานเท่านั้น ครั้งต่อมาเราก็เล่าให้มันเร็วขึ้นด้วยการทำแบบนี้
-ค่ำคืนมืดมิดผ่านพ้นไปอีกครั้ง ชายหนุ่มก็ยังคงนอนงัวเงียไม่ยอมตื่นขึ้นมาจาการหลับไหล เอาแต่รอให้ผู้เป็นมารดาแหกปากร้องปลุกให้ลงไปล้างหน้าเหมือนอย่างทุกที
-จนเมื่อเสร็จสรรพในกิจวัตรประจำวันอันแสนน่าเบื่อ ชายหนุ่มก็ขับรถมาถึงที่ทำงานในที่สุด
เป็นต้น เป็นใบ เป็นดอก เป็นผล
มันเป็นย่อหน้าสั้นๆ แต่มันก็สื่อออกมาได้เทียบเท่ากับการบรรยายเต็มๆ เลยนะ
ตอนนึงของเราข้ามเป็นเดือน เพราะถ้าวันต่อวนมันเยอะไปไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง มีแต่น้ำไร้สาระ
เวิ่นเว้อให้สุดเเล้วหยุดที่ตัดให้นักอ่านค้างครับ..
ผมวิธีการชะลอให้เนื้อเรื่องดำเนินช้าลงโดยการที่พาตัวเอกเที่ยวครับ เเบบออกนอกลู่นอกทางเเวะชมนกชมไม้เเต่อย่าออกไปเที่ยวทะเลนะครับ(?)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?