Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากเขียนนิยายให้กาว แต่รู้สึกไม่ประสบความสำเร็จ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เรื่องแรกที่เขียนจบไป  ทุกคนพูดถึงความ OP ของตัวเอก  ความเป็นลูกรักของคนเขียน  อวยตัวเอกไปล้านแปด  ทั้งที่ในใจจริงๆ คนเขียนกำลังประชดอยู่  แต่ไม่มีใครสัมผัสถึงกาวได้แม้แต่คนเดียว  คนเขียนนั้นจิตตกมาก  ไม่เข้าใจว่าการสื่อสารผิดพลาดที่ตรงไหน

เรื่องทีสองที่เพิ่งเปิดมาใหม่ๆ สดๆ ซิงๆ  เป็นแนวอวกาศที่อยากเขียนมานาน  แต่พอเขียนแล้วรู้สึกว่ายากฉิบหอยเลย

เหนือสิ่งอื่นใด  นักอ่านเข้ามาแสดงความงงๆ มึนๆ อึนๆ ไปกับตัวละคร  ไม่มีใครจับประเด็นที่แอบซุกซ่อนเอาไว้ได้เลย

ก็พอจะเข้าใจว่าเรามันคนดูหนังอินดี้  แต่พอเขียนนิยาย  ก็อยากให้การสื่อสารถูกต้อง  ควรทำอย่างไรดี?

 

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

name memee 13 ก.พ. 62 เวลา 01:35 น. 1

แนะนำว่าให้ทิ้งไว้สักระยะหนึ่งแล้วกลับมาอ่านนิยายตัวเองดูค่ะ ในตอนนั้นเราจะเริ่มลืมนิยายตัวเองพอกลับมาอ่านก็จะเห็นจุดบกพร่องที่มองข้ามไปในตอนแรก

1
Tdeuy 13 ก.พ. 62 เวลา 01:50 น. 2

เราก็เคยเจอเหมือนกัน บางทีนักอ่านมักอ่านตามตัวอักษรที่เราเขียน แต่ไม่ค่อยมองถึงความหมายที่มันซุกซ่อนอยู่หลังตัวอักษร บางทีคงต้องปล่อยวาง


เรื่องแบบนี้บางทีมันแก้ยาก บางคนแค่เข้ามาอ่าน แต่ไม่ได้คิดวิเคราะห์ตาม


สุดท้าย เขาก็ได้แค่อ่านเท่านั้น แต่ก็จะมีนักอ่านบางคนเช่นกัน ที่อ่านแล้วคิดวิเคราะห์ตาม


นักอ่านจำพวกนี้จะร่วมเดาเหตุการณ์ไปตามเนื้อเรื่อง โดยเขาจะวิเคราะห์จากตัวหนังสือ และการกระทำของตัวละคร


นักอ่านประเภทนี้เราก็เจอนะ เขาจะเม้นเดาเหตุการณ์และตัวละคร ซึ่งมันก็ดีมากๆ เลย

เพราะมันทำให้นักเขียนอย่างเรา ต้องกระตุ้นตัวเองเพื่อเขียนงานออกมาให้นักอ่านเดายากขึ้น


ค่อยๆ สู้แล้วกันค่ะ สักวันนักอ่านต้องวิเคราะห์ได้แน่นอน

1
G.Tenju 13 ก.พ. 62 เวลา 07:10 น. 3

ตอบแบบเอาความรู้สึกตัวเองล้วนๆเลยนะ ถ้านิยายเรื่องไหนมันเปิดหัวมาว่าเป็นแนว 'กาว' ส่วนตัวก็จะอ่านเอาฮาอย่างเดียวอยู่แล้วไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้านิยายเรื่องนั้นมีส่อเค้าว่าแทรกอะไรที่ผมไม่ทันได้เห็น แล้วตัวละครหนึ่งในนั้น 'ทัก' จนรู้ตัวว่าอนาคตอาจมีการซ่อนแบบนี้ผมถึงจะเริ่มมองหา


กรณีนี้ผิดได้ทั้งผู้กำกับ(ตั้งกล้องไม่ดี)และผู้ชมเอง(ไม่ทันสังเกต)


อย่างอนิเมเรื่องนึงที่ผมเคยดู มันมีฉากที่พระเอกเตรียมตัวจะไปสู้กับคนร้ายที่ก่อคดีฆาตกรรม จู่ๆมันก็หลับตาข้างนึงล่วงหน้าสองนาทีกว่าก่อนจะเข้าไปเผชิญหน้ากับคนร้ายในห้องมืด แล้วพอเริ่มปะทะกันปุ่บมันก็ค่อยลืมตาขึ้น ตอนแรกผมไม่เก็ทเลยว่ามันทำไปเพื่ออะไร แต่ดันอยากรู้มากจนไปหาซื้อนิยายเล่มมาอ่านดู ถึงค่อยเก็ทว่ามันหลับตาเอาไว้ก่อนเพราะถ้าจู่ๆไปสู้เลยม่านตามันปรับตัวเข้ากับความมืดไม่ทัน ที่จริงในอนิเมะก็ทำให้ฉากมันดูสว่างขึ้นนิดนึงแล้วแต่ผมดันดันไม่สังเกตเอง


มันก็ขึ้นอยู่กับการเดินเรื่องด้วยแหละว่ามันเป็นแนวที่คนอ่านต้องคิดตามไหม? ต้องสังเกตไหม? เรื่องที่ผมยกตัวอย่างมามันเป็นแนวปรัชญาผสมกับสืบคดี (รหัสคดีไร้สาระ เล่ม 1 วัฏสังหารแห่งการบั่นคอ) ชวนคิดหัวแทบระเบิดแต่ก็มองของที่เขาซ่อนเอาไว้ไม่ทันจนกระทั่งมีใครหรือตัวละครมาเฉลย


แต่ถ้าอินดี้จัดจนสนุกกับการรอดูว่าจะมีใครเจอปมที่ซ่อนเอาไว้เมื่อไหร่นี่ก็อีกเรื่องนึง


ป.ล. สังเกตไหมว่าตอนแรกเขียน 'อนิเม' แต่ตอนหลังเขียน 'อนิเมะ' และมีคำซ้ำว่า 'ดันดัน'

2
G.Tenju 13 ก.พ. 62 เวลา 19:34 น. 3-2

ก็ตามนั้นแหละ ในนี้พวกเราคุยกันตามปกติ เปรียบเทียบเหมือนนิยายแนวกาวก็เลยไม่จำเป็นต้องสังเกตอะไร แต่หลังจากที่นายรู้ตัวว่ามีการ 'ซ่อน' บางอย่างแบบก่อนหน้านี้ นายก็เริ่มระวังตัว/มองหาอะไรที่ผิดปกติแล้ว


ปล. โพสนี้ไม่มีอะไรซ่อน......ซะเมื่อไหร่!

0
SayWindy 13 ก.พ. 62 เวลา 11:20 น. 4

เขียนแนวเด็กอ่าน หรือแนวกระแสที่เด็กอ่านเยอะ แต่อยากได้นักอ่านที่วิเคราะห์จริงจัง สังเกตอะไรที่เราอยากให้เห็น ก็ยากที่จะได้อย่่างนั้น แม้ว่าจะประชดแต่ใช่ว่าคนเข้ามาจะต้องมานั่งจับผิดกาวอะไรพวกนี้ซะด้วย

ลองเขียนแนวไซไฟหรือวิทย์ดู รับรองว่าคนอ่านแบบนี้้เพียบ


พฤติกรรมคนอ่านกับแนวนิยายที่เขียนมันก็ส่งผลทั้งนั้น


แต่ถ้าเขียนแล้วคนอ่านบอกงงนะ แต่สนุกดี อันนี้เราจิตตกกว่าอีก แม้ว่ามันจะสนุกก็ดี แต่ถ้ามีคำว่าคนอ่านงงไม่เข้าใจ เพราะเราสื่อสารผิดพลาดเองรึเปล่า

1
yurinohanakotoba 13 ก.พ. 62 เวลา 11:45 น. 5

เอาเรื่องกาวก่อนแล้วกัน คนอ่านจะไวกับ ตรรกะของเรื่องและตรรกะของตัวละคร ถ้ามันแปลกประหลาด ผมจะใช้คำว่า เรื่องนี้กาว หรือหากเกิดขึ้นกับตัวละครก็จะบอกว่า -นี้มันกาวนี่หว่า นิยายคุณผมอ่านไปห้าตอนตัวละครก็ไมไ่ด้กาวอะไรขนาดนั้น ตรรกะพระเอกคือทำอะไรตามคำสั่งแบบทื่อ ๆ ตรง ๆ ตัวเนื้อเรื่องดำเนินในโลกที่ what if แต่ตรรกะที่ใช้ก็ยังเป็นตรรกะปรกติ เท่าที่อ่านคิดว่าแบบนั้นนะ

เรื่องที่สองนิยานคุณไม่สื่อสารกับคนอ่าน เปิดมาตอนแรกชื่อ "ประวัติโดยย่อของผม" แต่ผมไม่รู้เรื่องอะไรของตัวเอกเลย ผมไม่ได้หมายความว่าคุณต้องบอกชื่อตัวละคร บอกชื่อพ่อแม่ตัวละคร บอกประวัติความเป็นมา บอกรูปร่างหน้าตา แต่คนอ่านอยากรู้ว่าตัวละครนี้มีความสำคัญต่อเส้นเรื่องอย่างไร อ่านไป 5 ตอนก็ยังไม่รู้


หมดเวลาพักละเอาแค่นี้แล้วกัน

1
บุปผาหิมะโปรย (เบลล่า) 13 ก.พ. 62 เวลา 16:57 น. 6

ต้องอันเชิญคุณคนนั้นมาแล้วล่ะค่ะ เขาทั้งเก่งและเชี่ยวชาญ ด้านกาวมาก ถึงกับพกกระปุกกาวไปด้วยเลยล่ะ555

1
no one know 13 ก.พ. 62 เวลา 21:54 น. 7

แวะเข้ามาเพราะเห็นอะไรกาว ๆ ตรงชื่อกระทู้ (ฮา)



เอาจริง ๆ แล้วผมอยากแนะนำว่าถ้าอยากจะเขียนให้กาว ก่อนอื่นควรหยุดฝืนเสียก่อนนะฮะ กาวควรออกมาจากฟิลลิ่งภายใน หาใช่มันสมองไม่! (ฮา) ถ้าเขียนแล้วจิตตกด้วยยิ่งไม่ควรฝืนไปต่อ ควรหาอะไรกาว ๆ อ่านเพื่อกผ่อนสมองสักนิดนะฮะ...

1
The Blues is coming 13 ก.พ. 62 เวลา 22:58 น. 7-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แต่ว่าความจริงแล้ว เสพนิยายกาวแทบทุกวันเลย ทำไมมันถึงไม่ซึบซับนะ?

0
ItsFreakingCool,man! 15 ก.พ. 62 เวลา 23:40 น. 8

ส่วนตัวคิดว่า งานเขียนเป็นงานศิลป์อย่างหนึ่ง ซึ่งงานศิลป์ไม่จำเป็นต้องใช้ตรรกะอะไรมาก แต่จินตนาการต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ

แต่เดี๋ยวนี้พวกนักวิจารณ์เจ้าหลักการผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด คนเหล่านี้คาดหวังว่าพวกเขาน่าจะได้อะไรจากสื่อเหล่านั้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็น เพลง หนัง หรือแม้กระทั่งหนังสือนิยาย ขณะที่เสพสื่อ คนพวกนี้จะคิดตามไปด้วย และจะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเรื่องราวในหนังหรือในนิยายไม่สมจริง หรือไม่เป็นไปตามที่ตนคาดหวังไว้

ซึ่งงานเขียนก็มีทั้งแบบrealisticและfantastic ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีส่วนผสมที่แตกต่างกันอย่างมาก มันก็ไม่ผิดที่คนเขียนจะทำตามความคิดตัวเองมากกว่าจะเอาใจคนอ่าน แล้วก็ไม่ผิดที่คนอ่านจะเลือกอ่านเฉพาะเรื่องที่ตนชอบ

สื่อที่เสพและสิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ผลงานของผู้เขียน เราก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบความแหวกแนว ไม่เชื่อลองไปอ่านนิยายของเรา ไม่มีเรื่องไหนที่สมจริงเลย ไม่ทำตามหลักการ แหกคอกตลอด แต่ถึงแม้พล็อตเราจะหลุดโลกแค่ไหน สิ่งที่จำเป็นต้องทำให้ชัดคือภาษาที่ใช้ในการบรรยาย เลือกใช้คำที่สามารถเข้าใจตรงกันได้ทั้งผู้เขียนและผู้อ่าน

ถ้าเธอแต่งแนวนั้นก็อย่าหวังอะไรมาก คนอ่านที่นี่เขาชอบความชัดเจน สมจริง และงานสำเร็จรูป มักจะรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องตีความหรือคาดเดาเอาเอง เพราะเขากลัวคิดผิด กลัวจะมีconflictกับคนที่คิดต่าง

เราก็ติสท์แตกพอสมควร ก็รู้สึกหงุดหงิดพอสมควรที่ต้องมานั่งเรียบเรียงสำนวนภาษา จัดระเบียบเนื้อเรื่อง ก็คิดตลอดว่า ทำอีกแบบไม่ได้หรอ ทำไมต้องทำตามหลักการเป๊ะๆด้วย ทำไมคนอ่านถึงไม่ใช้จินตนาการของตัวเอง

เราชอบเสพสื่อตะวันตก ก็เลยเขียนอะไรเทาๆ เว้นช่องว่างให้เดาเยอะๆเหมือนกัน แต่สรุปคือ คนอ่านไม่เก็ท งั้นก็เก็บไว้อ่านคนเดียวก็ได้วะ (ฮา)

ปล. ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับปัญหาของคุณหรือเปล่านะ แต่อยากแชร์ อิอิ

2
ItsFreakingCool,man! 15 ก.พ. 62 เวลา 23:43 น. 8-1

แอบไปแวะดูนิดนึง

สำหรับเรา คุณเขียนดีมาก

สื่อสารได้ชัดเจนมาก คนอ่านคงคิดว่าเรื่องมีแค่นั้นก็คงไม่ได้คิดต่อ

ที่จริงคนเขียนก็คิดมากกว่าคนอ่านอยู่แล้ว เพราะเราเป็นคนทำ รู้ว่าที่เราเขียนมีที่มาที่ไปอย่างไร ในขณะที่คนอ่านก็ได้แค่เสพผลงานสำเร็จรูป รู้เท่าที่เห็นนั่นแหละ

แต่ถ้าทำแล้วไม่สบายใจ แนะนำว่าคุณควรจะปล่อยตัวปล่อยใจให้สบาย ทำในระดับที่พอทำไหว

ผลงานออกมาดีแต่หักโหมจนเกินไป ก็ไม่ไหว

สุขภาพจิตก็สำคัญนะ ดูแลตัวเองดีๆ

0
The Blues is coming 16 ก.พ. 62 เวลา 00:09 น. 8-2

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็น และความห่วงใย จะพยายามปล่อยใจให้สบายเวลาเขียนดูบ้าง

0
itnn / Shining Aun 22 ก.พ. 62 เวลา 14:41 น. 9

ต้องเข้าใจก่อนนะคะว่าคนอ่านเขาไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรกับเราตั้งแต่แรกอ่ะค่ะ เขาไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นมายังไงจนมาถึงตอนนี้ เราคิดว่าการนำเสนอปูมหลังของเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นจะช่วยให้คนอ่านเข้าใจได้มากขึ้นค่ะ อาจจะไม่ได้เกริ่นนำมายืดยาวแล้วค่อยเข้าเรื่อง อาจจะเข้าเรื่องไปแล้วแล้วค่อยหยิบยกปูมหลังมาบรรยายให้คนอ่านฟังอีกทีให้เข้ากับสถานการณ์นั้นเดี๋ยวคนอ่านก็จะ อ๋ออออออ เองค่ะ

0