Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Time machine

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เขาว่ากันว่าชนเผ่ามาลีเป็นเผ่าที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาเมืองๆนี้แล้วไม่มีใครต้านอํานาจของพวกเขาลงไ
ด้และก็ไม้มีมีใครกล้าท้าทายอํานาจของเผ่ามาลีเพราะทุกเผ่ารู้ดีว่าไม่มีทางสู้กับเผ่ามาลีได้แต่ก็ไม่ใช่ทุ กคนแต่เป็นส่วนน้อยแต่ก็ไม่มีจริงๆที่สามารถต่อสู้กับเผ่ามาลีแล้วชนะและคนที่น่ากลัวที่สุดคือ
เพลิงไฟ
เค้าได้รับตํ่าแหน่งเป็นหัวหน้าเผ่าจากพ่อของเขาแต่เพลิงไฟเขาทําตัวเหลวไหลเอามากๆจนพ่อของเค้า
เป็นห่วงกลัวว่ามีเรื่องไม่ดีหรือปัญหาเค้าเลยจับลูกชายของเค้าแต่งงานกับลูกสาวของเผ่าๆหนึ่งชื่อ
ปลายฝน
เธอเป็นคนเรียบร้อยมากยอมคนไปหมดและฟังคําสั่งของมารดาบิดาเป็นอย่างดีถึงแม่บางเรื่องเธอจะช
อบไม่ชอบก็ตามเธอก็ไม่เคยปฏิเสธผู้มีพระคุณสองคนนี้เลยเธอเลยต้องจําใจมาเป็นเจ้าสาวจํายอมให่เ
พลิงไฟแต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเมื่อเพลิงไฟคัดค้านหัวชนฝาว่ายังไงเขาก็ไม่แต่ง
“พ่อ...ยังไงผมก็ไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อเลือกให้เด็ดขาด!”
“เพลิง!
มันจะมากไปละนะที่มาตวาดใส่พ่ออย่างนี้พ่อรู้ว่าลูกก็ไม่อยากแต่งกับคนที่ลูกไม่รักแต่เพราะอะไรลูกก็ น่าจะรู้ตัวนะ”
“แล้วเพราะอะไรละครับ” เพลิงไฟถามด้วยความที่อยากได้คําตอบชัดเจนกว่านี้
“ก็เพราะลูกยังทําเหลวไหลอย่างนี้ไงพ่ออยากสืบทายาทต่อก่อนที่พ่อจะไม่มีโอกาส” คนเป็นพ่อพูดด้วยความเศร้าสร้อยและหวังผลว่าจะได้ทายาทตามที่ที่อยากได้
เพลิงไฟก็ยังไม่อยากเข้าใจอยู่ดี ไม่ใช่ว่าไม่อยากหรอกนะแต่แค่ยังไม่อยากผูกพันก็เท่านั้นเอง
“ขอตัวนะครับ” เพลิงไฟเดินออกไปจนลับสายตาของผู้เป็นพ่อ
จริงๆแล้วเพลิงไฟก็เคยคิดอยู่หลายรอบเรื่องทายาทสืบต่อสําหรับเค้าอะไรก็ได้แต่คนที่จะเป็นแม่ของลู กนะสิเค้าคิดแล้วก็เครียดจริงๆแล้วเค้ารู้ว่าสิ่งที่พ่อต้องการคืออะไรแต่เค้านะอยากจะเลือกสิ่งที่ดีให้กับ
ครอบครัวของเค้าและตัวเค้าเอง
ผับ xxxx
เพลิงไฟได้มาที่ๆเค้ามาทุกๆวันเพื่อมาสงบสติอารมณ์หรือที่เงียบๆ
คิดอะไรสักอย่างและเค้าก็คิดเรื่องที่พ่อจะจับเค้าแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นเค้าใช่เวลาคิดอยู่นานว่าจะทํายังไงกับเรื่องนี้ดีแต่ในท้ายสุดเค้าก็ตัดสินใจที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้จริงๆแล้วเขาก็ไม่ใช่คนดื้อด้านอะไรมากมายแค่เป็นคนไม่ชอบให้ใครมาบังคับมากๆหรือยุ่งเรื่องส่วนตัวจนมากเกินไปเค้าได้กลับบ้านไปผักผ่อน
เช้ารุ่งขึ้นเพลิงได้เดินไปที่ห้องทํางานของพ่อเขา
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก... “เข้ามา”
เพลิงไฟเปิดประตูเข้าไปคนเป็นพ่อเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เข้ามาในห้องของตน
“มีอะไร”ผู้เป็นพ่อเอยถาม
“เรื่องแต่งคือว่า...ผมตกลงแต่งงานครับ”
ผู้เป็นพ่อตกใจเล็กน้อยเพราะส่วนใหญ่ลูกชายคนนี้นะไม่ได้ดื้ออะไรมากมายหรอกแค่ไม่ชอบการบังคับ
แล้วเรื่องๆนี้ก็เป็นการที่บังคับเขามากๆ
“แกพูดจริงๆหรอเพลิง”ผู้เป็นพ่อพูดด้วยนํ้าเสียงมีหวัง
“จริงครับ” เพลิงไฟตอบความมั่นใจ
คนเป็นพ่อยิ้มมุมปากออกด้วยความดีใจ
“งั้นเย็นนี้อยู่ทานข้าวกับพ่อนะแล้วเย็นนี้ครอบครัวว่าที่แฟนแกจะมาด้วย”
“ครับ” เพลิงไฟตอบ
18:00 pm. หญิงสาวที่มีชื่อว่าปลายฝนได้เดินเข้ามาในบ้านของคนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมด้วยกับเขาและได้เดินไปถึงก
ลางบ้านซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นเธอได้นั่งลงบนโซฟาตั้งแต่เธอเดินเข้ามาเธอรู้สึกว่าที่นี่ใหญ่โตมาก
ก็ต้องใหญ่โตสิเพราะคุณป้ากับคุณลุงเป็นถึงเจ้าของธุรกิจมากมายและยังรวยมากๆอีกด้วยปลายฝนคิด
แล้วเธอก็คิดลักษณะของลูกชายคุณลุงคุณป้าว่าตอนนี้เขาจะหน้าตาเป็นยังไงจริงๆแล้วปลายฝนกับเพลิงไฟเขาเคยรู้จักกันอยู่แล้วตั้งแต่ตอนเด็กๆแต่ก็นานมามากแล้วที่เขาไม่เคยเ
จอกันอีกเลยนี่คงเป็นโชคชะตาอะไรสักอย่างแน่ๆที่ทําให้ทั้งคู่มาเจอกันอีก
แล้วเพลิงไฟก็ยอมตกลงแต่งงานกับปลายฝนสะด้วย
“ทําอะไรของเธออยู่นะ”
“เฮ้ย!” อยู่ดีๆเพลิงไฟก็โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงทําให้ปลายฝนตกใจมากๆ
“ตกใจอะไรขนาดนั้น” เพลิงไฟเอ่ยถาม
“จะไม่ให้ฉันตกใจได้ไงเล่นโผล่มาเงียบๆอย่างนี้” ปลายฝนพูดด้วยนํ้าเสียงราบเรียบ
“แล้วนี่ฉันเธอรู้เรื่องของเราแล้วใช่ไหม” เพลิงไฟถาม
“รู้” ปลายฝนตอบแล้วก็นิ่ง
“ดี...จะได้ไม่ต้องพูดเยอะถ้าเธอแต่งงานกับฉันแล้วก็ต้องทําตามใจฉันทุกอย่าง”
“อะไรนะ...ทุกอย่าง!นายจะบ้าหรอฉันแต่งงานกับนายไม่ได้มาเป็นทาส” ปลายฝนพูดออกไปด้วยความที่โมโหนิดๆ
อะไรของเค้าเนี่ยแค่ยังไม่แต่งยังเรื่องมากเลยถ้าแต่งแล้วชีวิตจะไม่วุ่นวายมากกว่านี้หรอ เธอได้แต่คิด
ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็นตอนนี้ทั้งสองบ้านได้นั่งโต๊ะรับประทานอาหารอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
“ปลายฝนลูกได้ทําความรู้จักกับพี่เพลิงยังจ่ะ” แม่เพลิงไฟถาม
“คะ...ค่ะ...ทําความรู้จักแล้วค่ะ” ปลายฝนตอบไปอย่างงงๆ
“ตาเพลิงล่ะ...น้องเป็นไงน่ารักใช่ไหม” ปลายฝนถึงกับหันขวับมามองหน้าเพลิงไฟ
“ครับ” เพลิงไฟตอบ
คําตอบนี้ทําให้ปลายฝนตกใจไม่น้อยเช่นกัน
หลังจากกินข้าวเสร็จทั้งคู่ก็ได้บอกลากัน
วันแต่งงานตลอดระยะเวลา4เดือนก่อนจะแต่งงาน ทั้งคู่ก็ได้ทําความรู้จักกันมากขึ้น
ปลายฝนได้รู้จักผู้ชายคนนี้มากขึ้นและเพลิงไฟได้รู้จักผู้หญิงคนนี้มากขึ้น
ในงานแต่งงานนี้ก็เลยไม่ใช่การบังคับแต่งแต่เป็นการเต็มใจแต่งของทั้งสองฝ่าย
“เพลิงไฟคุณจะรับปลายฝนเป็นภรรยาไหม”นักบวชที่เป็นพิธีกรเอย
“รับครับ”เพลิงไฟตอบแล้วจ้องมาที่ปลายฝน ปลายฝนที่เขินอยู่แล้วก็ยิ่งเขินเข้าไปอีก
“ปลายฝนคุณจะรับเพลิงไฟเป็นสามีไหม”คราวนี้ปลายฝนถูกถาม
“รับค่ะ” ปลายฝนตอบพร้อมมองหน้าเพลิงไฟทั้งคู่มองหน้ากัน
“คุณทั้งคู่ได้เป็นสามีภรรยาถูกต้องตามประเพณีเรียบร้อยแล้วครับ”นักบวชกล่าว
ทั้งคู่ได้จูบกันเปนเวลาเนินนานและได้จับมือเข้าห้องหออย่างมีความสุข

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น