Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากอ่านนิยายแนวครอบครัว ขอให้แนะนำหน่อย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากอ่านนิยายแนวครอบครัว ขอให้แนะนำหน่อย




แปะเฉยๆ







"ไปกันเถอะ คนสวย แม่คิดว่าหนูคงเหนื่อยแล้ว" เธอเรียกลูกสาววัยอนุบาลให้วิ่งมาหาก่อนจะเปิดขวดน้ำแล้วยื่นให้



 




"อ๊า ขอบคุณค่ะ" เธอเอ่ยคำที่ถูกอบรมมา แล้วรับขวดน้ำมาดื่ม ก่อนหันไปโบกมือลาเพื่อนๆ "เค้าไปแล้วน้า!"



 




เธอจับมือเล็กๆ ของลูกสาวเพื่อพาขึ้นบันได ก่อนจะสังเกตเห็นว่าอลินยังเหนื่อยอยู่เลย




"เหงื่อท่วมเลยนะเรา..." เธอควักทิชชู่มาเช็ดหน้าให้หนูน้อย "เล่นได้เล่นดีไม่มีหยุด..."



 




"ก็มันสนุกนี่นา!" เธอตอบเสียงสดใส แต่แล้วท้องก็ร้องออกมา "หนูเหนื่อยจัง หิวด้วย"

"งั้นไปหาข้าวกินกันดีกว่า" เธอแย้มยิ้ม "นั่นไง รถคุณพ่อ รีบไปเถอะ จะได้นั่งสบายๆ"

คนขับลดกระจกลงมา ก่อนพูดด้วยเสียงตำหนิ "มาช้านะอลิน ลืมพ่อแล้วเหรอ"

"ไม่ใช่ซะหน่อย น้อยใจไปได้" หนูน้อยเปิดประตูหลังแล้วขึ้นไปนั่งในรถเก๋งสีขาวที่จอดรออยู่ ส่วนคุณแม่ก็ไปนั่งข้างคนขับ

"พูดจาแบบนั้นอีกแล้ว..." คุณพ่อแซะ "เหมือนใครก็ไม่รู้"

"ชวนทะเลาะหรือไง" เธออมยิ้มขำๆ

"เขาเรียกการโต้เถียงอย่างสร้างสรรค์ต่างหาก ฮ่ะๆ" เขาหัวเราะ "หิวแล้ว ไปหาอะไรกินเถอะ"

"ท็อป วันนี้..."

"วันเกิดเธอ" ชายหนุ่มพูดต่อให้จบ "12 กุมภาพันธ์ (วันเกิดของอับราฮัม ลินคอร์น) ฉันจำได้น่ามิ้นต์ วันนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม"

ผู้หญิงที่นั่งข้างคนขับเอี้ยวตัวมาจุ๊บแก้มชายหนุ่ม ก่อนจะถูกทางด้านคนขับบีบจมูกเบาๆ

"น่ารักนะเรา" เขาชม "เอาลูกไปโยนทิ้งดีไหมที่รัก เค้าเบื่อ พูดจาไม่เข้าหูเลย"



 




"หนูจำทางกลับบ้านได้!"



 




"พอลินหลับก็แอบเอาไปทิ้งตรงสันเขาดีกว่า เราจะได้มีเวลามากขึ้น" เขาหันไปพูดกับภรรยา "ไม่ทิ้งหรอก ลินน่ารักจะตาย"

"ง๊า คุณพ่ออ่ะ!"

คุณพ่อหัวเราะลั่นก่อนจะออกรถ เขามีความสุขเหลือเกิน เพียงเท่านี้เขาก็คงไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว







.............

แสดงความคิดเห็น

>

10 ความคิดเห็น

Miran/Licht 3 มี.ค. 62 เวลา 16:28 น. 1

สงสัยต้องดื่มวีต้าแล้วไปนอนอีกรอบ


หัวกระทู้ต้องการบอกว่าอะไร พิมพ์ตกไปนะ

เข้าอากู๋นะ พิมพ์ว่า มีลูกคนแรก+pantip หรือวิธีสอนลูก


มีที่อื่นที่จะหาข้อมูลนอกจากบอร์ดนักเขียนค่ะ ไปหาข้อมูลจากกระทู้ที่มีคนตั้งไว้แล้ว มีคนพูดไปแล้ว

เลิกหาแต่จากที่เดิมๆ บ้าง ไปเปิดโลกมั่งนะ จะได้ไม่เป็นกบในกะลาที่ถูกหินทับไว้ <-- คำด่าคนที่บริษัท

7
คนหล่อมืออาชีพ 3 มี.ค. 62 เวลา 17:11 น. 1-2

กบในกะลาที่ถูกหินทับไว้ คิดภาพแล้วขำ นั่นสินะ สังคมความรู้มีตั้งมากมาย เรานี่มันโง่นัก555

0
Miran/Licht 3 มี.ค. 62 เวลา 17:21 น. 1-3

วรรณกรรมครอบครัว

ของไทย

ความสุขของกะทิ

ฉันอยู่นี่ศัตรูที่รัก

เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก


แปล

โมโม่

จินตนาการไม่รู้จบ

มูมิน

เจ้าหญิงน้อย

เจ้าน้อยฟอลเติลรอย

แมงมุมเพื่อนรัก

เป็นต้น

0
Miran/Licht 3 มี.ค. 62 เวลา 17:25 น. 1-5

ไม่คุ้นก็แปลกละ ได้ซีไรต์กับสร้างเป็นภาพยนตร์ // บอกแล้วว่าให้ตื่นได้แล้ว

0
คนหล่อมืออาชีพ 3 มี.ค. 62 เวลา 17:30 น. 1-7

สมกับชื่อความสุขของกะทิ หือ มีหนังด้วย เดี๋ยวหาดูครับ ผมชอบเรื่องฟีลกู้ดแบบนี้มากกกกกกกก

0
yurinohanakotoba 3 มี.ค. 62 เวลา 16:50 น. 2

เขียนอะไรยากจังครับ

ทำไมไม่เขียนเรื่องที่ตัวเองเข้าใจละครับ

ผมว่าน่าจะเขียนเรื่องราวที่สนุกง่ายกว่าเรื่องที่ตัวเองไม่รู้จักนะ

1
White Frangipani 3 มี.ค. 62 เวลา 17:18 น. 3

สวัสดีค่ะ



อยากอ่านนิยายแนวพ่อแม่ลูก แนะนำหน่อยครับ แล้วตอนมีลูก วินาทีที่คุณเห็นหน้าเขาครั้งแรก กับตอนที่เขาเติบโตขึ้นในแต่ละวัน คุณรู้สึกอย่างไร



ผมไม่เคยมีลูก555 แนะนำหน่อยครับ ขอวิธีสอนลูกด้วยนะ555 หรือแบบ

"-ลูกคนนี้ แม่มันกินลำโพงหรือไงเนี่ย ร้องได้ร้องดีทั้งคืน มันน่ายิงทิ้งจริงๆ" ชายหนุ่มบอกลูก "ไม่ร้องนะอลิน เดี๋ยวเปิดเพลงเรทโทรฯ ให้ฟัง"


มีตรงนี้ค่ะ...


-ลูกคนนี้ แม่มันกินลำโพงหรือไงเนี่ย ร้องได้ร้องดีทั้งคืน มันน่ายิงทิ้งจริงๆ" ชายหนุ่มบอกลูก


ประโยคในตัวแดงค่ะ ที่รู้สึกว่าดูจะให้ความรู้สึกรุนแรงเกินไปค่ะ หากคุณจะเขียนให้เป็นนิยายในแนวครอบครัว ที่จะให้ความรู้สึกละมุนละไม และมีความรัก ความเข้าใจหล่อหลอมไว้ค่ะ


คือประโยคนี้นะคะ


มันน่ายิงทิ้งจริงๆ


อ่านแล้วรู้สึกว่าประโยคนี้น่าจะอยู่ในนิยายแนวที่มีดราม่า รัดทน หดหู่ หรือเหตุการณ์ที่สามารถทำให้ ทุกข์ทรมานค่ะ


เข้าใจแบบนั้นค่ะ



--------------------------------------------------


หากแต่...


ขออนุญาตยกมา... และช่วยขยายให้ตัวใหญ่ขึ้นนะคะ ให้เห็นชัดเจนด้วยค่ะ


ช่วยให้อ่านง่ายขึ้น ^__^



"ไปกันเถอะ สาวน้อย แม่คิดว่าหนูคงเหนื่อยแล้ว" เธอเรียกลูกสาววัยอนุบาลให้วิ่งมาหาก่อนจะเปิดขวดน้ำแล้วยื่นให้


"อ๊า ขอบคุณค่ะ" เธอเอ่ยคำที่ถูกอบรมมา แล้วรับขวดน้ำมาดื่ม ก่อนหันไปโบกมือลาเพื่อนๆ "เค้าไปแล้วน้า!"

เธอจับมือเล็กๆ ของลูกสาวเพื่อพาขึ้นบันได ก่อนจะสังเกตเห็นว่าอลินยังเหนื่อยอยู่เลย


"เหงื่อท่วมเลยนะเรา..." เธอควักทิชชู่มาเช็ดหน้าให้หนูน้อย "พลังงานสูงเหมือนใครกันนะ..."


"เหมือนคุณพ่อ!" เธอตอบเสียงสดใส แต่แล้วท้องก็ร้องออกมา "หนูเหนื่อยจัง หิวด้วย"


"งั้นแม่จะตามใจหนูให้มากๆ เลย" เธอแย้มยิ้ม "นั่นไง รถคุณพ่อ รีบไปเถอะ จะได้นั่งสบายๆ"

คนขับลดกระจกลงมา ก่อนพูดด้วยเสียงตำหนิ "มาช้านะอลิน ลืมพ่อแล้วเหรอ"


"ช่าย คุณพ่อไม่น่ารักนี่นา แต่คุณแม่น่ารัก" หนูน้อยเปิดประตูหลังแล้วขึ้นไปนั่งในรถเก๋งสีขาวที่จอดรออยู่ ส่วนคุณแม่ก็ไปนั่งข้างคนขับ


"สองมาตรฐานแต่เล็ก..." คุณพ่อแซะ "เหมือนใครก็ไม่รู้ พอดีมีเมียเยอะ"


"ชวนทะเลาะหรือไง" เธออมยิ้มขำๆ


"เขาเรียกการโต้เถียงอย่างสร้างสรรค์ต่างหาก ฮ่ะๆ" เขาหัวเราะ "หิวแล้ว ไปหาอะไรกินเถอะ"


"ท็อป วันนี้..."


"วันเกิดเธอ" ชายหนุ่มพูดต่อให้จบ "12 กุมภาพันธ์ (วันเกิดของอับราฮัม ลินคอร์น) ฉันจำได้น่ามิ้นต์ วันนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม"

ผู้หญิงที่นั่งข้างคนขับเอี้ยวตัวมาจุ๊บแก้มชายหนุ่ม ก่อนจะถูกทางด้านคนขับบีบจมูกเบาๆ


"น่ารักนะเรา" เขาหยอด "เอาลูกไปโยนทิ้งดีไหมที่รัก เค้าเบื่อ พูดจาไม่เข้าหูเลย"


"หนูจำทางกลับบ้านได้!"


"พอลินหลับก็แอบเอาไปทิ้งตรงสันเขาดีกว่า เราจะได้มีเวลามากขึ้น" เขาหันไปพูดกับภรรยา "ขอลูกคนใหม่นะ คนนี้ไม่น่ารักเลย"


"ง๊า คุณพ่ออ่ะ!"

คุณพ่อหัวเราะลั่นก่อนจะออกรถ เขามีความสุขเหลือเกิน เพียงเท่านี้เขาก็คงไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว



-------------


ทั้งหมดนี้เป็นงานของคุณนะคะ?


นี่ขนาด....ไม่มีประสบการณ์นะคะ



คุณเขียนได้เยี่ยมมากเลยค่ะ


ที่รู้สึกว่าเยี่ยม เพราะอ่านแล้วรู้สึกถึงความอบอุ่นละมุนละไม และมีความรัก ความเข้าใจเจือปนอยู่ในเหตุการณ์ได้ชัดเจนในครอบครัว ซึ่งคุณยกมานี้ค่ะ


การที่นักเขียน เขียนออกมาแล้วคนอ่านสามารถอิน ฟินได้นะคะ เข้าใจว่าเขานะ ฝีมือใช้ได้หล่ะ55555


คุณไม่มีประสบการณ์ แต่ดูคุณจะมีพรสวรรค์นะคะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png


ขอบคุณที่ยกเรื่องราวดีๆมาให้อ่านค่ะ


เพียงแค่อ่าน ก็รู้สึกดีค่ะ


สนุกค่ะ


ลินนะน่ารักมากเลยด้วยยยย


ไม่มีอะไรแนะนำค่ะ เพราะรู้สึกว่าคุณเขียนได้ดีมากแล้วค่ะ


เพียงแต่อยากให้กำลังใจ ว่า ขอให้คุณมีกำลังใจเขียนออกมาเยอะๆนะคะ



เป็นกำลังใจค่ะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-08.png



https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-13.png



4
Alice! 3 มี.ค. 62 เวลา 19:50 น. 4

ไม่ค่อยอ่าน แต่รู้จักอยู่เรื่องนึงในเว็บ Dek-D นี่แหละ ลองไปอ่านดูละกันค่ะ "คุณคมเจ้าขา" เหมือนจะติดท็อปหมวดด้วย

1
พี่ตุลา 3 มี.ค. 62 เวลา 20:20 น. 5-2

น่าจะเป็นตัวอย่างเเนวทางในการศึกษาได้ดีล่ะมั้ง? นิยายน่ะ

0
คนหล่อมืออาชีพ 3 มี.ค. 62 เวลา 20:24 น. 5-4

เค้าหมายถึงง


"ไปกันเถอะ สาวน้อย แม่คิดว่าหนูคงเหนื่อยแล้ว" เธอเรียกลูกสาววัยอนุบาลให้วิ่งมาหาก่อนจะเปิดขวดน้ำแล้วยื่นให้ - สมเป็นแม่ไหม


"งั้นแม่จะตามใจหนูให้มากๆ เลย" เธอแย้มยิ้ม "นั่นไง รถคุณพ่อ รีบไปเถอะ จะได้นั่งสบายๆ" - เลี้ยงดีไปอ๊ะป่าว

0
พี่ตุลา 3 มี.ค. 62 เวลา 20:27 น. 5-5

เรื่องเเบบนี้ต้องศึกษาระยะยาวมันไม่มีหลักสูตรระยะสั้นหรือทางลัดหรอก

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

อ่านแล้วงง!! 3 มี.ค. 62 เวลา 21:00 น. 7

หัวข้อกระทู้แจงว่าอยากอ่านนิยายแนวครอบครัว ขอให้แนะนำหน่อย

ทว่าข้อความในกระทู้กลับเป็นเรื่องราวและบทสนทนา ของครอบครัว

หนึ่งดังนี้..


"ไปกันเถอะสาวน้อย แม่คิดว่าหนูคงเหนื่อยแล้ว" (เธอ) เรียกลูกสาว.

"อ๊า ขอบคุณค่ะ" (เธอ) เอ่ยคำที่ถูกอบรมมา..


(เธอ) จับมือเล็ก ๆ ของลูกสาวเพื่อพาขึ้นบันได..(สงสัยจัง..เธอผู้แม่

จะพาเธอผู้ลูกขึ้นบันไดเพื่อ?)


"เหงื่อท่วมเลยนะเรา" (เธอ) ควักทิชชู่มาเช็คใบหน้าให้หนูน้อย

"พลังงานสูงเหมือนใครกันนะ..."

"เหมือนคุณพ่อ!" (เธอ) ตอบเสียงใส แต่แล้วท้องก็ร้องออกมา "หนู

เหนื่อยจัง หิวด้วย"


ผู้ตั้งกระทู้ต้องการขอหรือสื่อครับ? หากขอขออะไร? ถ้าสื่อสื่อสิ่งใด?

2
FreudM 4 มี.ค. 62 เวลา 03:30 น. 8

แม่ไม่เรียกลูกสาวว่า สาวน้อย เรียกว่าคนสวย สายสวย


พลังงานสูงหมายความว่าไง? คนกำลังเหนื่อยกับหิว คือคนมีพลังงานสูง?


งั้นแม่จะตามใจหนูให้มากๆเลย ไม่รู้จะพูดทำไม ไม่มีประโยชน์ คนเป็นแม่ก็ต้องหวังดีกับลูกแบบนั้นอยู่แล้ว ถ้าเป็นพี่ป้าน้าอาพูดว่าไปอย่าง


แล้วก็นะ เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่จะชอบพ่อ มากกว่าแม่


พอดีมีเมียเยอะ ไม่คูล ไม่ตลก หยาบคาย แถมต่อหน้าลูกและผู้หญิงเขาไม่ขำกับมุขแบบนี้


น่ารักนะเรา ชมไม่ใช่หยอด


พ่อที่ไม่ดีกับลูก แต่ดีกับเมีย แย่ยิ่งกว่าดีกับลูกแต่ไม่ดีกับเมียเป็นไหนๆ


ปรับใหม่ซะ พ่อแกล้งลูกเยอะไป

2
Issaran 5 มี.ค. 62 เวลา 21:43 น. 9

ลองเสิร์ชรายชื่อวรรณกรรมเยาวชน วรรณกรรมครอบครัว ดูเรื่องย่อแล้วเลือกอ่านเรื่องที่ตรงใจที่สุดดีกว่าค่ะ ธีมครอบครัวมันก็มีหลายแบบ ถ้าโทนอบอุ่นหน่อยก็ตามตัวอย่างส่วนใหญ่ที่คุณมิรันแนะนำ


พอดีเห็นคำถามเก่าอยู่ในคอมเมนต์ท่านอื่น แถมหัวกระทู้เขียนตัวอย่างฉากครอบครัวมาด้วย งั้นจะขอเสริมตรงจุดนี้ละนะ


วิธีสอนลูกไม่มีกฎตายตัวค่ะ เอาแบบง่ายๆ ก็ให้ระลึกไว้ว่า action = reaction คนดูแลปฏิบัติอย่างไร เด็กก็มักซึมซับและตอบสนองกลับมาอย่างนั้น ทั้งคำพูดและการกระทำ


ถ้าสงสัยว่าที่ตัวละครพูดกับลูกนั้นดีหรือไม่ดี ก็ลองถามตัวเองก่อนว่า

- เราเข้าใจตัวละครดีพอหรือยัง

- พ่อหรือแม่พูดกับลูกแบบนี้ เขาต้องการอะไร

- เขาเลือกใช้คำพูดได้ตรงวัตถุประสงค์ไหม

- ลองนั่งในใจเด็กคนนั้นบ้าง ถ้าพ่อแม่พูดแบบนี้ เป็นเราจะรู้สึกอย่างไร เพราะอะไร และจะตอบสนองกลับไปแบบไหน

20
Issaran 5 มี.ค. 62 เวลา 22:19 น. 9-2

ยังมีต่อ กลับมาที่ตัวอย่างของคุณจขกท. ฮ่า


เอาแค่จากฉากนี้นะ เรามองว่าแม่ค่อนข้างประคบประหงม ซึ่งก็ไม่ได้แย่อะไรค่ะ ดูเป็นแม่ที่หวานถึงหวานมาก

แต่งงว่าที่บอกจะตามใจลูกให้มากๆ คือแม่พูดเพราะอะไรนะ เพื่อให้ลูกมั่นใจว่าแม่รัก? หรือแม่ก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน?


ส่วนพ่อ มีอารมณ์ขันแต่ก่อนพูดคิดน้อยไปหน่อย

สำหรับบ้านนี้คงไม่เกิดปัญหาอะไร เพราะโชคดีที่เด็กอารมณ์ดี มั่นใจ ช่างพูด และไม่ตีความสิ่งที่พ่อพูดว่าจริงจัง


แต่ลองนึกภาพเด็กที่ไม่มั่นใจในตัวเองสิ เพิ่งเจอหน้ากันไม่กี่นาทีพ่อก็แกล้งพูดว่าจะยิงทิ้ง จะแอบเอาไปทิ้งตอนหลับ เด็กแบบนี้คงไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง จะขำก็ขำไม่ออก


ที่คุณเขียนมาเราว่ามันน่ารักดีค่ะ เหมาะสมกับบ้านนี้เพราะ reaction ของเด็กเป็นไปทางบวก ก็ทำให้คนอ่านพอมโนได้ว่าพ่อแม่คงดูแลดี อบอุ่น


หลักการสอนลูก แนะนำอ่านในเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา, เลี้ยงลูกนอกบ้าน, เลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติ


สุดท้ายคงไม่ถึงกับเอามาใช้ในนิยายเป๊ะๆ เพราะตัวละครพ่อแม่ก็เป็นแค่คนธรรมดา ย่อมมีข้อบกพร่อง (ถึงแนะนำให้ลองถามตัวเองก่อนว่าเข้าใจตัวละครดีพอหรือยัง)


เพียงแต่ถ้าเรารู้หลักการบ้าง มันจะจินตนาการง่ายขึ้นเวลาออกแบบครอบครัว เช่น ตรงตามหลักเป๊ะก็เป็นบ้านในอุดมคติถึงขั้นลาเวนเดอร์ หรือเลี้ยงตรงข้ามกับหลักอย่างสุดขั้วก็อาจจะบ้านแตก เด็กมีปัญหา

0
คนหล่อมืออาชีพ 5 มี.ค. 62 เวลา 22:29 น. 9-5

เห็นลูกเหนื่อยและหิวครับ เลยจะตามใจลูกมากๆ ผมเขียนถูกไหมไม่รู้นะ ไม่เคยมีลูก ช่วยแนะนำอีกคนด้วยนะครับ555

0
Issaran 5 มี.ค. 62 เวลา 22:35 น. 9-6

ยังค่ะ พ่อของลูกยังไม่เคยเจอเลย และไม่คิดจะหาด้วย 555

เราแค่ทำงานใน field ที่ต้องรู้เรื่องพวกนี้เฉยๆ ค่ะ สรุปคือมีแค่หลักการ แต่ประสบการณ์ตรงเป็นศูนย์

0
คนหล่อมืออาชีพ 5 มี.ค. 62 เวลา 22:59 น. 9-8

เนื้อเรื่องในตอนนี้ สกิปมาตอนลินอายุ 15 นะครับ


แม่กับฉันทะเลาะกันอีกแล้ว นั่นคือเรื่องของเรื่อง...


"เกรด 2.67...ค่ะ" ฉันสารภาพกับคุณแม่ แววตาของท่านทิ่มแทงมาที่หัวใจและทำให้ฉันสั่นสะท้านด้วยความกลัว "หนู..."


"เมื่อกี้ว่าไงนะ?" ท่านถามอีกครั้งพร้อมใช้สายตาตั้งแง่ "เกรดนั่นน่ะ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น"


"หนูขอโทษ..." ฉันก้มหน้า "หนูไม่..."


"แม่ไม่ได้ต้องการให้ลินขอโทษ แล้วก็ไม่อยากฟังคำแก้ตัวด้วย!"


ฉันหน้าชา "แล้วเรื่องเอกน่ะ แม่บอกแล้วบอกอีกว่าให้ตรงเวลา แต่ที่ผ่านมาลูกเอาแต่กลับบ้านค่ำขึ้นเรื่อยๆ บอกแม่มาสิว่าทำไม?"


"เรื่องนี้เอกไม่เกี่ยวนะคะ..."


"ลูกควรหยุดสักทีลิน มันถึงเวลาแล้ว ยอมรับว่าตัวเองทำพลาดแล้วแก้ไขซะ"


"หนูไปเรียนก็ไม่เข้าใจสักอย่าง หนูทำทุกอย่างแล้วแต่มันก็ไม่ดีขึ้นเลย"


"จะเอายังไงล่ะทีนี้ จะทิ้งทุกอย่างแล้วปล่อยให้ปัญหาลุกลามเหรอ?"


"แม่..." น้ำตาของฉันเริ่มเอ่อ "ที่หนูซ่อนเกรดกับคะแนนสอบน่ะ เพราะกลัวว่าแม่จะโกรธ"


"ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่ต้องพูดคำนี้ ไม่ต้องเรียกว่าแม่อีก!" แม่ขึ้นเสียงจนปากคอสั่น "บอกฉันสิว่า ฉันโกรธแค่ไหน ที่คุณไม่ซื่อสัตย์แม้กระทั่งกับตัวคุณเอง โดดเรียนไปร้านเกม หรือว่าฉันสอนคุณมาดีไม่พอ?"


"หนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำยังไงกับอนาคต" ฉันสะอื้น "หนูไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคมที่โรงเรียน ไม่รู้ด้วยว่าต้องทำอะไร แม่ไม่เห็นหนูเป็นลูกแล้วเหรอ!?"


แม่นิ่งไปพักหนึ่ง "ฉันจะไม่ถือคนที่ไม่พยายามเป็นลูกหรอกนะ" แม่มองหน้าฉันตรงๆ "บอกฉันสิว่าตั้งแต่วันที่คุณเกิดมา ฉันทำอะไรให้ไปบ้าง..."


"แม่..." ฉันพยายามพูดคำนั้น "หนูไม่ได้ตั้งใจ"


"ทำไมถึงทำตัวเหลวไหลนัก ทำไมถึงปิดบังวีรกรรมของตัวเอง..."


"แม่ หยุดเถอะ!" ฉันปล่อยโฮ "หนูขอร้อง...ฮือ"


"หรือว่าฉันไม่เคยสำคัญกับคุณเลย!" แม่ขึ้นเสียงอีกครั้ง "ช่วยเดินออกไปจากตรงนี้ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้ว"


คำพูดของท่านจี้ใจฉันเหมือนถูกฟ้าผ่า วินาทีนั้นฉันตัดสินใจปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมด "หนูรำคาญ ทำไมแม่ไม่เคยฟังหนูเลย ถ้าเกลียดมากก็ฆ่าหนูให้ตาย..."


เพี้ยะ!


"มันไม่ใช่หน้าที่ฉัน!" แม่ตบฉันจนหน้าหันแล้วชี้นิ้วไปที่บันได "ถ้ารำคาญก็ออกไป ไม่ต้องมามองหน้ากันอีก!"


แม่...ตบเรา


..................


บางครั้ง ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเมียตัวเองต้องเดือดใส่ลูกขนาดนั้น คือผมก็โกรธแหละแต่หายละ เออ ถึงมันจะโง่และไม่สนใจการเรียนแต่มันก็ลูกเราไม่ใช่เหรอ เนี่ย ไม่ติดศูนย์ก็ดีแล้ว

อาจจะเพราะเธอตามใจลูกมากไป ประคบประหงมเหมือนไข่ในหิน พอโตมาก็เลยคาดหวังไว้สูง แต่มันโง่ไง ทำไงได้ เรื่องแบบนี้ต้องศึกษากันไป ไม่สิ อลินแค่คิดช้า ไม่ได้โง่ มันก็ปรับได้ป่ะวะ

"ลิน ไปกินข้าว ต้องรอพ่อซัมมอนหรือไง?"

ผมเรียกลูก "เฮ้ วันนี้มียำปลาทอดนะ โค้กด้วย"

"เดี๋ยวพ่อกับแม่กินเสร็จแล้วจะไปกินค่ะ" เสียงอลินดังออกมาจากในห้อง "หนูยังไม่กล้าเจอแม่..."

"ที่รัก เค้าเลื่อยประตูห้องลินเลยนะ" ผมตะโกนลงไปที่ชั้นล่าง แต่ไม่ยักมีเสียงตอบกลับมา "โอเคลูก แม่สิ้นชีพไปแล้ว ออกมากินข้าวได้เลย ฮ่าๆ"

"..." ทั้งในห้องและชั้นล่างยังคงเงียบกริบ คงยังงอนกันอยู่ "เอาเป็นว่ากินเสร็จแล้วพ่อจะมาเคาะประตูนะ"


0
Issaran 5 มี.ค. 62 เวลา 23:02 น. 9-9

ถ้าเห็นว่าเด็กหิว ก็พูดแค่ตามที่เห็น

ลูกหิวใช่มั้ย, อยากกินอะไรล่ะ, ดูเหนื่อยนะ ฯลฯ


การพูดนำไปก่อนว่าจะตามใจให้มากๆ แล้วถ้าเด็กบอกมื้อนี้หนูจะกินหม้อไฟที่ฮอกไกโด แม่ทำไม่ได้ถือว่าแม่ผิดสัญญาค่ะ เด็กมีสิทธิ์โกรธ ฮ่า ผิดสัญญาบ่อยๆ ต่อไปเด็กอาจจะมองว่าแม่ไม่หนักแน่น เชื่อถือไม่ได้


การจะตามใจเด็ก ควรมีเหตุผลเพื่อประโยชน์ต่อตัวเด็กเองค่ะ ไม่ใช่เพื่อสนองความสงสารของตัวแม่


เด็กหิวเพราะไปเล่นมา เป็นเรื่องปกติ คนเราใช้พลังงานเยอะก็ต้องหิว คำถามคือแล้วแม่คนนี้อยากตามใจเด็กเรื่องอะไร เพราะอะไร

(ก็ย้อนกลับไปคอมเมนต์บน ที่ให้ถามตัวละครว่าพูดแบบนั้นเพื่ออะไร และเลือกใช้คำพูดได้ตรงวัตถุประสงค์ไหม)


ถ้าแม่คนนี้ชอบสปอยล์ลูก จะพูดแบบนั้นก็ไม่แปลก

แต่ถ้าแม่คนนี้ชอบสอนลูกด้วยเหตุผล ก็ไม่น่าพูดว่าแม่จะตามใจให้มากๆ เพราะมันยังไม่มีเหตุผลสมควรให้ตามใจค่ะ



Edit: เดี๋ยวนะ อ่านไม่ทันแล้ว เราว่าแบบนี้ก็จะมีฉากใหม่ คำถามใหม่ตามมาเรื่อยๆ ค่ะ

ทางที่ดี ลองทำความเข้าใจตัวละครก่อน สรุปว่าพ่อกับแม่เป็นคนยังไงแน่ และสุดท้ายแล้วคนเขียนอยากให้ครอบครัวนี้เป็นแบบไหน


ได้ภาพรวมแล้ว ค่อยหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บหรือหนังสือ แต่มันไม่จำเป็นขนาดไม่อ่านไม่ได้เด็ดขาด นิยายก็คือนิยาย ไม่ใช่ตำราสอนวิธีเลี้ยงลูก


วิธีที่ง่ายกว่ามานั่งศึกษาหลักการ ก็คือมองหาตัวอย่างในชีวิตจริง ทำความเข้าใจมัน แล้วลองเขียนออกมา


เราเขียนนิยายที่อิงปัญหาในครอบครัว แต่แทบไม่ได้ใช้หลักการที่เรียนมาเลยค่ะ เขียนไว้ตั้งแต่ก่อนเรียนแล้ว ยึดตามความรู้สึกกับมุมมองตัวเองทั้งนั้น

0
Issaran 5 มี.ค. 62 เวลา 23:56 น. 9-12

สงสัยว่าที่อยากให้ดูในฉากคือดูอะไรนะ


ช่วงที่ skip มานี่แม่ดูแปลกถึงเข้าขั้นป่วย ส่วนพ่อก็ weak ไปเลย แก้ปัญหาไม่ตรงจุด แม่ลูกมีปัญหากัน พ่อก็ยังเล่นมุก ใช้อารมณ์ขันไม่เหมาะกับสถานการณ์

ชีวิตจริงนี่ ถ้าไม่มีคนมาช่วย เดาได้เลยค่ะว่าอีกไม่นานลูกป่วยแน่นอน


ซึ่งคุณจะเขียนตัวละครออกมาทำนองนี้ก็ได้ ถ้ามันสอดคล้องกับพล็อตที่วางไว้


จริงๆ แล้วเราว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ฉากหรอกค่ะ แต่อยู่ที่ความกังวลในรายละเอียดของคุณมากกว่า


คำถามคือประเด็นสำคัญของนิยายเรื่องนี้คืออะไร


สมมติถ้าเป็นนิยายรักระหว่างลินกับเอก งั้นปัญหาครอบครัวของลินก็เป็นแค่ปมปมหนึ่ง ที่จะแก้หรือไม่แก้ก็ได้ขึ้นกับพล็อตที่วาง ส่วนฉากลินในวัยเด็กนั่นก็อาจไม่จำเป็นต้องใส่ลงไปเลยค่ะ เพราะมันละเอียดเกินไปและไม่น่าจะมีผลต่อเนื้อเรื่อง


ตอนนี้อยากยืมมุกดื่มวีต้าแล้วไปนอนซะจริงๆ


ปล. เห็นชื่อลูกแล้วนึกถึงนางเอกตัวเอง เป็นชื่อที่ต้องคำสาปปัญหาครอบครัวหรือเปล่านะ 555

0
คนหล่อมืออาชีพ 6 มี.ค. 62 เวลา 07:28 น. 9-13

"บอกฉันสิว่าตั้งแต่วันที่คุณเกิดมา ฉันทำอะไรให้ไปบ้าง..."


ผมคิดว่าประโยคนี้น่าจะมากพอจะบอกว่าทำไมแม่แปลกไปนะครับ


"ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่ต้องพูดคำนี้ ไม่ต้องเรียกว่าแม่อีก!" แม่ขึ้นเสียงจนปากคอสั่น "บอกฉันสิว่า ฉันโกรธแค่ไหน ที่คุณไม่ซื่อสัตย์แม้กระทั่งกับตัวคุณเอง โดดเรียนไปร้านเกม หรือว่าฉันสอนคุณมาดีไม่พอ?"


คงน้อยใจมั้งครับ หรือไม่ก็คาดหวังผลกับลูกมากไป ป.ล. แม่เหมือนป่วยขนาดนั้นเลยหรือครับ

0
คนหล่อมืออาชีพ 6 มี.ค. 62 เวลา 07:34 น. 9-14

นางเอกชื่อลินเหมือนกันเหรอครับ ป.ล. จริงๆ เป็นเกี่ยวกับความรักของพ่อแม่นี่แหละ แต่ลองมาเขียนว่าถ้าสองคนนี้ลงเอยกันครอบครัวจะประมาณไหน

0
Issaran 6 มี.ค. 62 เวลา 15:44 น. 9-15

เราว่าเราต้องเคลียร์คำถามก่อนแล้วค่ะ รู้สึกตัวเองชักตอบไม่ตรงจุดประสงค์ของจขกท.


ตอนนี้เหมือนเราคอมเมนต์ไปเรื่อยละ เริ่มจากสไตล์การพูดของตัวละครพ่อแม่กับลูกในฉากแรก, reference เกี่ยวกับการสอนลูก, ก่อนเขียนทำความเข้าใจตัวละครกับพล็อตดีพอหรือยัง ฯลฯ


คำถามคือ ตอนแรกที่เอาฉาก skip มาโพสต์ คือตั้งใจให้ดูประเด็นไหนมากที่สุดคะ

0
Issaran 6 มี.ค. 62 เวลา 16:09 น. 9-17

ฮ่า นั่นแหละค่ะ ในฉากนั้นต้องการให้ดูอะไรมากที่สุด


คือการเขียนแต่ละฉากมันก็มีประเด็นให้ดูเยอะ เรื่องสำนวนภาษา บทสนทนา ตัวละคร เหตุการณ์ ฯลฯ


ถ้าอะไรก็ได้หมดนี่ คอมเมนต์จะครอบจักรวาลมาก เราว่าสุดท้ายมันจะไม่เกิดประโยชน์นัก แถมอ่านแล้วอาจจะยิ่งกังวล เพราะคำถามในใจยังไม่ได้รับคำตอบจริงๆ

0
Issaran 6 มี.ค. 62 เวลา 18:07 น. 9-19

ใช่ค่ะ นางเอกเราชื่อเล่นนั้นแหละ แต่ชื่อจริงไม่เหมือน


ที่เราบอกว่าฉากนี้แม่ดูแปลกหรือป่วย เพราะอ่านบทสนทนาแล้วรู้สึกว่าแม่ลูกคุยกันไม่รู้เรื่องโดยต้นเหตุคือแม่ค่ะ


ลูกพยายามอธิบายเรื่องหนึ่ง แม่บอกไม่อยากฟังแล้วเปลี่ยนไปว่าอีกเรื่องหนึ่ง พอลูกจะอธิบายเรื่องใหม่บ้าง แม่ก็ยังจะไม่เอาอีก จ้องเอาชนะลูกอย่างเดียว


ส่วนตัวเราตีความฉากนี้ว่าเป็นไปได้หลายแบบ

1. แม่ปกติแหละ ไม่ได้ป่วย แต่กำลังโกรธจนหน้ามืด ตอนนี้ขอระบายอารมณ์ฝ่ายเดียว ไม่สนใจฟังอะไรจากปากลูกทั้งนั้น ฉันต้องชนะ

แต่เมื่อใจเย็นลงหน่อย อาจจะคุยรู้เรื่องกว่านี้


2. แม่กำลังป่วยบางอย่าง เลยดูเอาแน่เอานอนไม่ได้ มีปัญหาการควบคุมอารมณ์ และพูดไม่ค่อยมีตรรกะ


3. ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่ตัวละครหรอก แต่เป็นวิธีการถ่ายทอดของคนเขียน ที่ทำให้อ่านแล้วงงว่าแม่เป็นยังไงกันแน่ ทำไมพูดอะไรแปลกๆ เยอะ


สุดท้ายก็คงต้องกลับมาคิดอีกรอบค่ะ ว่าฉากนี้เขียนขึ้นเพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่

นึกออกแล้วค่อยมาทบทวนว่าที่เขียนออกมามันตอบจุดประสงค์มั้ย

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น