Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เคยพยายามพาตัวเองหนีจากคำว่า"ซึมเศร้า"ไหม??

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ช่วงม.ต้น เราเคยสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเป็นคิดมากตลอดเวลา จะเก็บเรื่องเล็กๆน้อยๆมากคิดตลอด เคยมีบางเรื่องที่ไปขอคำปรึกษาจากคนใกล้ตัว คำที่ให้มาคือประมาณว่าเราต้องเป็นฝ่ายเข้าใจและอดทนไปทุกเรื่องตลอด เราเลยไม่กล้าปรึกษาใครอีกเลย แต่ด้วยความเป็นเด็ก คิดว่าเราคงคิดมากไปเอง และคงไม่เป็นแบบนั้นด้วยเพราะเราก็ยังมีมุมที่ร่าเริงอยู่เหมือนกัน เลยพยายามพาตัวเองหนีออกมาจากคำว่า"ซึมเศร้า"ด้วยการทำตัวบ้าๆบอๆ กลบเกลื่อนเรื่องทุกอย่าง แล้วความคิดที่ว่าก็เริ่มหายไป แต่ว่าความรู้สึกยังเป็นแบบเดิมๆแต่ไม่บ่อยเท่า จนกระทั่งม.ปลาย เจอปัญหาต่างๆ มีเรื่องเครียดมากมายโถมเข้ามาใส่ เรารู้สึกว่ามันหนักขึ้นเรื่อยๆทจนเราเริ่มรับมันไม่ไหว เวลาทำอะไรเรามีเป้าหมายนะ แต่เรารู้สึกท้อแท้ไปหมด ไม่มีแรงทำอะไรเลย รู้สึกหมดอะไรตายอยากทุกๆวัน เรามีอารมณ์กร้าวร้าวแบบที่เรายังสัมผัสได้ โมโหง่าย ฉุนเฉียว นิสัยคิดเล็กคิดน้อยคิดมากก็กลับมา แอบร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ เวลาผิดหวังกับอะไรจะโทษตัวเองตลอด จะมีความคิดที่ว่าเรามันขี้แพ้ ทำอะไรไม่เคยสำเร็จเลยอะไรประมาณนั้น สิ่งที่เคยชอบมากๆ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเบื่อหน่ายไปเลย เราไม่รู้ว่าเราเป็นอะไรกันแน่ แต่ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ


แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

SCP-079 7 มี.ค. 62 เวลา 09:18 น. 1

น้องกำลังเป็นโรคเครียดครับ ไม่ใช่โรคซึมเศร้า แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้มันอาจเป็นโรคซึมเศร้าได้จริงๆ ครับ


สาเหตุ

- นิสัยดั้งเดิมน้องเป็นคนคิดมากครับ

- นิสัยดั้งเดิมน้องเป็นคนชอบคิดเล็กคิดน้อยไปเรื่อยกับทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิตครับ


2 นิสัยนั้นอาจดูเหมือนๆกัน แต่จริงๆมันต่างกัน และปัญหาคือ 'อาการมันเสริมกัน' ครับ คือน้องจะเก็บทุกเรื่องที่เจอมาคิด และน้องก็จะคิดมากกับทุกความคิด (ที่จริงเกือบทุกความคิดมากกว่า) สุดท้ายมันเลยทำให้สมองล้าครับ


3. สมองน้องมันล้ามาตั้งแต่ ม.ต้นแล้ว พอมา ม.ปลาย เมื่อเจอเรื่องเครียดๆมามากขึ้นๆ มันเลยไม่ไหว พอสมองมันไม่ไหวร่างกายมันก็ไม่ไหวไปด้วยครับ แล้วพอร่างกายและสมองไม่ไหว (คือคนเราจะไม่รู้หรอกครับว่าสมองล้า อาการมันจะหลากหลาย บ้างก็ตั้งใจทำอะไรไว้แล้วแต่กลับไปเล่นเกมเล่นเน็ตเอาดื้อๆ เพราะสมองมันล้าและสั่งการให้หาอะไรสนุกๆทำแทนครับ ***แต่ก็มีบางเคสที่สมองมันเสพติดความสนุกเฉยๆครับ ถึงได้บอกไงว่าคนเราเลยมองตัวเองไม่ค่อยออกมาว่าสมองมันล้าหรือมันเสพติดกันเแน่)


4. พอน้องที่อยากกระตุ้่นตัวเองโดยตั้งเป้าหมายไว้ แต่สมองมันล้า มันก็เหมือนน้องพยายามจูงหมาตัวโตๆ ที่อยากนอนมากให้ไปวิ่งนั่นแหละครับ มันจึงฝืนเต็มที่เลยล่ะ แล้วสุดท้ายน้องก็จะทำแผนที่วางไว้ไม่ได้


5. ผลคือน้องเครียดเพิ่มอีก แล้วพอน้องคิดมากว่าเป็นเพราะอะไร (เห็นไหม มันเชื่อมกับนิสัยน้องเองตั้งแต่ต้น) แต่หาสาเหตุไม่ได้ น้องเลยสรุปเองว่าเพราะตัวเองผิดเอง


6. วนลูปไปเรื่อยๆ ครับ เพราะน้องแก้ด้วยวิธีเดิมๆ ไม่ก็วิธีที่ไม่ต่างกับวิธีก่อนมาก


7. น้องก็จะกดทับตัวเองลงเรื่อยๆครับ ว่าตัวเองผิด โทษตัวเอง หมดกำลังใจ


เอาล่ะ พอก่อน เรามาหาวิธีแก้กัน


1. ตั้งสติ

ตั้งสติก่อนครับ ให้เวลากับตัวเองบ้าง (ไม่ใช่นั่งเล่นมือถือ บ่นลงเฟส กินๆ แบบนั้นนะครับ) แต่เป็นนั่งเงียบๆ คุยกับตัวเอง เขียนลงกระดาษว่าโอเค ตอนนี้มีปัญฆาอะไๆรบ้าง มีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องแก้ มีปัญหาอะไรบ้างที่สะสม วิธีนี้จะช่วยให้สมองน้องแยกเรื่องต่างๆ ที่มันเคยยุ่งเหยิงในหัวให้เป็นเรื่องๆ ครับ


2. แก้เรื่องด่วนที่สุดก่อน

คนเรามักแนะนำให้แก้เรื่องง่ายที่สุดก่อนใช่ไหมครับ แต่นั่นมันกรณีอื่นๆ น้องควรแก้เรื่องที่ด่วนสุด เรื่องเดียว แค่เรื่องเดียวพอก่อนครับ ตั้งเป็นเป้าหมายไว้ การตั้งเป้าหมานเรื่องด่วนเรื่องเดียวจะทำให้สมองมีกำลังใจทำงาหน่อย แล้วถ้าทำเสร็จ งานด่วนที่ลดลงเท่ากับแรงกดดันของน้องน้อยลงด้วยครับ


3. ให้รางวัลตัวเองบ้าง การกดดันตัวเองและตั้งเป้าหมายมันดี แต่ถ้าไม่ไให้รางวัลตัวเะองเลยมันก็เหมือนมีคนจ้างงานน้องแล้วไม่จ่ายเงินเดือนน่ะครับ


4. ค่อยๆทำข้อ2-3 วนไปเรื่อยๆครับ


5. น้องเป็นคนคิดมากคิดเล็กคิดน้อยมานานแล้ว ดังนั้นจะแก้นิสัยนี่ในหนึ่งเดือนหนึ่งปีมันตลกเกินไปล่ะครับ แต่น้องค่อยๆแก้ได้ โดยการที่เวลาน้องเผลอเก็บเรื่องอะไรมาคิดเนี่ย ให้รีบถามตัวเองก่อนเลยว่า เอะ -เรื่องนี้น่ะมันคิดแก้ได้แล้วได้อะไรหรือเปล่า เช่น น้องโดนเพื่อนว่าเรื่องงานที่ส่งไปแล้วมา แล้วน้องเก็บมาเครียดมาโทษตัวเอง ให้ถามก่อนว่า เอะ แล้วโทษตัวเองแล้วงานเดิมมันกลับมาแก้ให้เราไหมล่ะ ก็ไม่นี่ งั้นโทษตัวเองไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรสิ เพื่อนน้องก็ไม่ได้หายโกรธ งานก็ไม่ได้แก้ตัวเองได้ เรื่องสำคัญคือเป็นบทเรียนและงานหน้าไม่พลาดเเบบเดิมอีกก็พอแล้วครับ


ปล. ที่เหลืออรอความเห็นต่อไปครับ

0