เป็นเหมือนกันไหม พอเขียนนิยายภาคสองแล้ว คนลดลงเยอะเลย
ตั้งกระทู้ใหม่
รู้สึกว่าช่วงนี้กระแสนิยายลดลงไปเยอะเลย จากภาคแรกที่เคยเขียนมา
เลยอยากรู้ว่าคนอื่น เป็นเหมือนกันรึเปล่า
8 ความคิดเห็น
เนื้อเรื่องไม่สนุกหรือเปล่าครับ
หรือภาคก่อนมันจบสวยแล้ว เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาอ่านภาคต่อที่ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าจะจบสวยได้เท่าภาคก่อนอีกแล้ว
ภาคก่อน จบไม่สวยเลยล่ะค่ะ จบแบบค้างคาใจจนคนอ่านฟ้องร้อง
แต่บางที อาจจะเป็นเพราะคนเริ่มอิ่มตัวแล้วก็ได้..
เพราะภาคใหม่เครียดขึ้น และปมเยอะขึ้น เป็นผลจากภาคก่อนนะ T^T
เราว่าคนไม่รู้มากกว่านะแบบจบภาค1 แล้วไม่รู้ว่าภาค2 มามากกว่า
แต่ถ้าลงเรื่อยๆคนก็อาจจะเห็นแถมอาจได้คนอ่านใหม่ด้วยแบบมีภาค2อะต้องกลับไปอ่านภาค1ก่อนแล้วสิ
อะไรประมาณนี้นะ
อื้ม... มันก็อาจจะเป็นไปได้แฮะ
ขอบคุณนะ มันรู้สึกกังวลนิดๆ นะ
ส่วนใหญ่ภาคสองจะไม่สนุกเท่าภาคแรก ขนาดนิยายรูปเล่มก็เหมือนกัน คงเพราะเหมือนว่าภาคแรกมันจบไปแล้วคนเลยขี้เกียจตามต่อมั้ง เดาเอา
อื้ม ก็จริง
การทำเป็นหลายภาคก็มีข้อเสียมากกว่าภาคเดียวอยู่แล้ว
บางเรื่อง เราก็ติดตามนะ ตอนแรกอ่านมันส์มาก แต่พอมาภาคสอง เราก็ไม่อ่านก่อน ค่อยกลับมาอ่านทีหลัง แล้วไปติดเรื่องอื่นแทน //แต่สุดท้ายก็โดนชะตากรรมเดียวกับที่เรา(นักอ่าน) เคยทำ T^T ก็เป็นได้
ก็ลดนะ แต่ยังคงแต่งต่อโดยไม่สนใจใคร คือเราก็ไม่รู้หรอก เขาอาจขี้เกียจตามอ่านก็ได้ อย่าไปใส่ใจเลยค่ะ เดี๋ยวจะหมดกำลังใจเสียก่อน ของเราภาครุ่นพ่อแม่ มีคนอ่านหลักพัน พอรุ่นลูก เหลือไม่ถึงสามร้อยเลย แต่ก็แต่งต่อนะ เพราะเราถือว่ายังมีคนตามอ่านอยู่
ช่วงนี้เลยไม่ใส่ใจวิวกับเม้นมากนัก เพราะไม่อยากให้มันมาบั่นทอนกำลังใจตนเอง
เข้มแข็งมากก เราจะเอาแบบอย่าง
ขอบคุณนะ ทางนั้นก็สู้ๆ เหมือนกันน้า
นี่ก็จะจบแล้วค่ะ มานั่งอ่านกระทู้คลายเครียดบ้าง เพราะกำลังจะขึ้นฉากจบของภาคต่อ รู้สึกว่าช่างยาวนานกว่าจะมาถึงตอนจบได้ เขียนไปแบบไม่รู้ทิศทาง สุดท้ายก็จะจบเสียที
สู้ๆ เช่นกันนะคะ
อุ้ย! กำลังเขียนอยู่เลยค่ะ555 ก็อย่างที่บอกไป เรากำลังเขียนฉากดราม่าอยู่ และฉากนองเลือด ตอนนี้ไม่ไหวอ่ะ ขอมาพักใจไว้ก่อนละกัน
นี่ก็นองเลือดค่ะ วันนี้กะว่าจะไปสักครึ่งทางของตอนสุดท้ายก่อน แต่แหม มันเครียดจริงๆ
นั่นแหละคืองานยากสำหรับเราเลยค่ะ5555 แต่ก็ต้องฝึกเขียนเอาไว้ เพื่อพัฒนางานต่อไปค่ะ
ใช่ค่ะ ถ้าอยากพัฒนาต้องกล้าที่จะลองเขียน ลองเสี่ยงทุกอย่าง เขียนไม่เป็นก็ต้องฝึก ว่าแล้วก็นึกถึงสมัยเรียน กว่าจะเขียนตอบเป็นนี่แทบโดนไท
เมื่อก่อนนี้ เราไม่เคยตอบคอมเม้นใครเลยค่ะ แฟนคลับที่แสดงความเห็นมา เราก็ไม่ได้ตอบเขาเลย แต่ต่อมา เราเห็นว่าคนอื่นเขาตอบคอมเม้นกับนักอ่าน เราก็ทำบ้างค่ะ5555 เรียกว่าหาตัวอย่างนั่นเอง แต่เราตอบแบบในของเราค่ะ ตอบเม้นที ต้องใจเย็นน่าดูเลยล่ะ
ใช่ค่ะ ถ้าเจอเม้นดีก็ดีไป ดีในที่นี้หมายถึงไม่หยาบคาย แต่บางเม้นนี่เวลาอ่านแล้วมันรู้สึกแย่ก็มีนะ เช่นพวกที่ไม่ได้ดูเลยว่า นิยายที่เราเขียนออกมามันเป็นประเภทไหน เวลาตอบเม้นนี่ ต้องใจเย็นจริงๆ
แล้วมีวิธีเวลาตอบคอมเม้นท์ที่มาด่าว่าตัวเอกบ้างไหมคะ?
อันนี้ถามเฉยๆ น่า พอดีเจอมาแล้วไม่รู้จะตอบกลับยังไงจริงๆ
หรือว่า ปล่อยเฉยไปเลยจะดีกว่า
ตอบแบบผู้ดีค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ จบเลย อีกฝ่ายจะไม่สามารถตอบโต้ใดๆ ได้ เจออันไหนไม่ดี ไม่อยากคุย ไม่อยากให้เสียความรู้สึกทั้งสองฝ่าย ขอบคุณที่ติดตามนะคะ อย่างเดียวเลย
แต่ถ้าทนไม่ไหวอยากปกป้องตัวเอกลูกรัก เราจะตอบแบบนี้ ลองอ่านไปก่อนค่ะ มันมีเหตุผลในตัวของมันเอง แต่เขาก็อ่านนะ อ่านจนจบ แล้วบอกว่าสนุกมาก
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ นะคะ
รู้สึกเหมือนได้รุ่นพี่ใจดีมาคุยด้วยเลย ><
ขอบคุณน้า
ทำไมเขาไม่วัดรุ่นพี่กันที่ดาวนะ เราแค่หนึ่งดาวเอง 55
ของเราเขียนสองภาคพร้อมกัน ภาคแรกกลุ่มเป้าหมายคืออ่านได้ทุกคน ส่วนภาคสองกลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนที่ชอบฮาเร็มหนุ่มหล่อ ดังนั้นยอดวิวของภาคแรกและภาคสองจึงต่างกันอยู่ประมาณ 1 แสนวิว ยอดเฟบก็จะต่างกันอยู่ที่ประมาณ 2,000
เดี๋ยวๆ ขอถามเพิ่มหน่อยได้เปล่า
ระหว่างภาคแรกกับสอง อันไหนมีคนอ่านเยอะกว่ากันอ่ะ?
เราก็กำลังวางแผนจะแต่งเรื่องใหม่เป็นฮาเร็มอยู่พอดี! *-*
ภาคแรกค่ะ เพราะมันเจาะคนอ่านทุกกลุ่ม ส่วนภาคสองมันเจาะคนอ่านเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
ถูกต้องค่ะ เพราะว่าภาคสองนี่ เฉพาะคนที่อ่านภาคแรกแล้วเท่านั้น จึงจะมาอ่านภาคสองได้ค่ะ
ทั้งสองภาคของเราสามารถอ่านแยกได้เลยค่ะ จะไม่กระทบกันแม้จะอ่านเพียงภาคใดภาคหนึ่ง ซึ่งนี่คือข้อดีของนิยายเรา ดังนั้นเราจึงไม่ซีเรียดเลยที่ภาคสองกลุ่มคนอ่านจะน้อยกว่า เพราะคนที่ไม่อ่านฮาเร็มเขาจะข้ามภาคสองไปปูเสื่อรออ่านภาคสามและสี่กันเลย
โอ้โห สุดยอดเลยค่ะ ปรบมือให้เลย
ของเราตอนครึ่งแรก เคยโดนเถียงเรื่อง ฮาเร็ม ไม่ฮาเร็มซะจนคนอ่านแตกออกเป็นสองกลุ่มเลย เพราะความไม่ชัดเจนนะ ก็เลยอยากรู้เป็นพิเศษว่า ระหว่างสองกลุ่มนี้ กลุ่มไหนมีมมากกว่ากัน เพราะเราก็เป็นคนหนึ่งที่อ่านได้ทั้งสองแบบนะ
กลุ่มที่ไม่อ่านฮาเร็มจะมีมากกว่าค่ะ แต่กรณีของเราคือบางคนที่บอกว่าไม่ชอบอ่านก็มาลองอ่าน สุดท้ายก็ติด (ฮ่า) จากที่ลองสอบถามคนอ่านกลุ่มนี้มา คือถ้าเป็นฮาเร็มที่เน้นจับขึ้นเตียงแบบไร้เหตุผล เขาจะไม่อ่าน แต่ถ้าเป็นแนวแบบของเราที่มีเหตุผลสนับสนุนอันนี้คือเขารับได้ อีกอย่างของเราแม้จะบอกว่าเป็นฮาเร็มแต่ก็ไม่ได้มีฉาก NC เราเน้นขายความสนุกของเนื้อเรื่องล้วน ๆ
ไม่เป็นภาคสองค่ะ แต่มาเป็นภาคสุดท้ายอย่างภาคสาม คิดว่าเป็นเพราะโทนเรื่องที่เปลี่ยนไปค่ะ
มีช่วงที่ท้อ ไฟลด แต่สุดท้ายก็เข็นจบจนได้
ถึงการติดตามและเม้นท์จะน้อยลง แต่เราก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองค่ะที่เขียนเรื่องจนจบ
จริงค่ะ เราควรภูมิใจที่เขียนจบ ไม่ใช่ภูมิใจที่จำนวนเฟบหรือเม้น
ก็จริง เราก็พยายามคิดแบบนั้น แต่บางที.. มันก็อยากจะได้รับความคิดเห็นบ้างนี่น้า T^T
//สุดท้ายก็เลยมาบ่น แต่ก็เขียนต่อไปอย่างสนุกสนาน ขอแค่มีคนอ่านก็เพียงพอ แต่ก็ยัง.. แอบนอยด์ ฮ่าๆ
เป็นธรรมดาแหละค่ะ ทุกวันนี้มองดูยอดเฟบก็จะแบบ วันนี้จะลดลงเท่าไหร่น้า ก็มองให้มันเป็นความสุขอีกแบบ ส่วนเรื่องเม้น ก็มีมาบ้างค่ะ แต่ไม่อยากไปรอมากนัก นอกจากวันไหนเหงาจริงๆ วันนั้นจะมานั่งมองเม้นเล่น
ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะ ทางนั้นเองก็สู้ๆ เช่นกัน
แล้วแต่เราเลยค่ะ ว่าจะเขียนสนุกหรือไม่สนุก เรานี่ก็เตรียมไว้แล้วค่ะ ว่าจะเขียนภาคสองต่อ เราจะทำให้มันเข้มข้นมากขึ้น รับรองงานนี้สนุกแน่เลยค่ะ
สู้ๆ น้า เป็นกำลังใจให้
จริงๆ การเขียนภาคสอง มันเหมือนกับการเขียนที่เพิ่มขั้นความยากขึ้นจากภาคแรกเลยล่ะ
ใช่แล้วค่ะ มันต้องวางแผนอีกเยอะเลย เราจะเพิ่มตัวละครขึ้นมาอีกค่ะ เพิ่มเรื่องราวอีกเยอะแยะเลย รับรองงานนี้สนุกแน่ เราเคยเขียนภาคสองมาแล้วล่ะ คนอ่านน้อยจริงๆนั่นแหละ เพราะเราเลือกหมวดรักธรรมดา มันเป็นที่เราเลือกหมวดด้วยค่ะ
จริงค่ะ ต้องเพิ่มอะไรเยอะแยะมากเลย โดยเฉพาะพวกตัวละคร และรายละเอียดปลีกย่อย บางอย่างนักอ่านยังอุตส่าห์ช่วยจำช่วยท้วงอีก นักเขียนก็ดิ้นหาทางออกไป
นี่ก็กำลังเขียนฉากรบ โอย เวียนหัวไปหมด ต้องสลับฉากไปมา
โอ้วว คุณ Tdeuy สุดยอดเลย เขียนสลับฉากไปมา เรายังทำไม่ได้เลยนะ เพราะเราดันถนัด POV1 นะ
ตอนต่อไป เราต้องทำตัวร่าเริงเข้าไว้ค่ะ เพราะฉากต่อไป มีแต่รอยยิ้ม แล้วก็กลับมาเศร้า ดราม่าเหมือนเดิมค่ะ ฮือออ
อะไรจะเปลี่ยนอารมณ์ไปมาปานนั้น แนะนำให้เขียนไปฟังเพลงไปนะ ยิ่งถ้าอารมณ์เศร้านี่... เพลงที่ฟังช่วยได้มากเลยค่ะ
ขอบคุณมากเลยค่ะ ฉากมีรอยยิ้มนั้น เราจะเขียนสักสองสามตอน แล้วจากนั้นก็ถึงตา ฉากดราม่าแล้วค่ะ ไปยั้งโค้งสุดท้ายเลยล่ะ
มันต้องสลับค่ะ แบบประมาณว่า นางถูกนำตัวมาไว้ฝ่ายศัตรู เลยเลือกที่จะเดินหมากกัน มันต้องสลับฉากให้เห็นด้วยว่าที่สนามรบเขารบกันประมาณไหน
เลยแบบ ฝ่ายหนึ่งรบกันบนกระดานหมาก อีกฉาก ก็รบกันในสนามรบ ไม่รู้ว่าที่ไหนกระอักเลือดมากกว่ากัน ตั้งชื่อซะสวยหรู หมากกระดานสุดท้าย 55 คุณก็สู้นะ เพราะเรื่องแรกเราก็เขียนแบบ pov1 เช่นกัน
ของคุณเบลก็สู้ๆ นะ ต้องปรับอารมณ์กันไปเนอะ
คุณเบลเขียนคล้ายกันเลย หยอดความสุขไปก่อนแล้วค่อยตบด้วยเศร้า
ขอบคุณมากเลยค่ะ
ความสุขรออยู่ที่ ภาคสองค่ะ ภาคสองจะดราม่าน้อยลง เพราะเป็นเวลาที่พระนาง จะต้องมุ้งมิ้งต่อกันแล้วค่ะ5555
เราเขียนสลับกันเลยอ่ะ
ภาคแรกโครตสดใส จบด้วยพระรองเป็นเจ้าชายนิทรา
ภาคสองดร่ามาขึ้น และดราม่าเข้าไว้ !
ถถถถ
ขอบคุณคุณ Tdeuy เช่นกันนะ รู้สึกได้กำลังใจกลับไปเยอะแยะเลยย <3
ได้กำลังใจก็ดีแล้วค่ะ เราเองก็มีที่คลายเครียดด้วย มีผลประโยชน์ร่วมกัน
ใช่ค่ะๆ สู้ๆนะ
ขอบคุณน้า
เป็นเรื่องปกติครับ เพราะชื่อเรื่องกับคำโปรยคงเป็นตัวดึงความสนใจหลัก แต่มันก็แล้วแต่นักอ่านนะ
อย่างผมซีรี่ย์นิยายที่สามที่กำลังแต่งอยู่ในปัจจุบันนี่ยังมีคนมาอ่านในระดับปกติเลยครับ ไม่ได้ระดับหวือหวาเท่าสองซีรี่ย์แรก
นั้นสินะ ต้องทำใจไว้ระดับหนึ่งแล้วล่ะ
จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขาเขียนจนจบนะ ก็เลยดีใจเป็นพิเศษ และคิดมากเป็นพิเศษเช่นกัน //แต่ก็มีภาคสอง และ... สาม... ต่ออยู่ดี
ทางนั้นก็พยายามเข้านะคะ
เขียนไปเถอะค่ะ ถือว่าเป็นการฝึกฝีมือไปในตัว
เหมือนเราแหละ เรื่องแรกจบ นักอ่านขอให้เขียนรุ่นลูกต่อ ยุมาก็จัดให้ ปาเข้าไปเกือบเจ็ดสิบตอนแล้ว แต่มันก็ดี เพราะเราะจะได้ฝึกฝีมือการเขียนไปด้วย
นับว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งนะการเขียนภาคต่อ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?