แม่ไล่ออกจากบ้านและให้ลาออกจากโรงเรียนเพราะมีคนคุยแต่เข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกัน
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
9 ความคิดเห็น
ผช เป็นคนดีไหม ถ้าดีเราว่าน่าจะตกลงกับผช ให้ทำเป็นเลิกกันแล้วก็ค่อยคุยกับแม่ว่าเลิกกันแล้วไม่ยุ่งแล้ว อะไรประมาณนี้ค่ะ
เทอต้องเข้มแข็งนะ คือ แม่มาแนวไม่ฟังลูกเลย ส่วนเรื่องผู้ชายคุยเป็นเพื่อนได้แต่อย่าตะเลิดไปกับเค้า เค้าเลี้ยงเราไม่ได้หรอก เทอต้องรอให้แม่ใจเย็นและปรับความเข้าใจกับแม่ ว่าแค่คุยกันแบบเพื่อน ถ้าแม่ไม่สบายใจ หนูจะคุยน้อยลง และตั้งใจเรียนให้แม่ดู และเทอต้องตั้งใจเรียนจริงๆ ช่วยงานบ้านแม่ และต้องไม่เสียเรื่องผู้ชายคุยเป็นเวลา ทำให้แม่ไว้ใจ พอแม่เห็นแม่จะเชื่อ ทุกอย่างต้องใช้เวลา เทอสู้ๆนะ ยังไงก็แม่เรา
สนับสนุนคำตอบนี้ตรงที่ อย่าไปหวังให้ใครมารับผิดชอบชีวิตเรา ทั้งๆที่เขาเองก็ยังไม่มีวุฒิภาวะและบรรลุนิติภาวะครับ
โอ้โห เรื่องราวของเราสองคนเป๊ะกันมากๆเลยค่ะ!!
นึกว่ากอปเรื่องราวชีวิตและมาวาง
ชีวิตของเราเราเลือกได้ค่ะ
ถ้ามั่นใจว่าคนนั้นเป็นคนดี
เราเลือกที่จะแอบคุยโดยที่ไม่ให้แม่รู้ได้(อิอิ)
เพราะมันคือความสุขของเราคุยเงียบๆ
แล้วค่อบเปิดตัวตอนโตตอนที่มั่นใจว่าอะไรมันโอเคแล้วดีกว่าค่ะหรือไม่ก้ดูๆกันไปก่อนนะคะสู้ๆ
เราสนับสนุนคำตอบนี้ส่วนหนึ่ง ตรงที่เรามีสิทธิคบและคุยกับใครก็ได้ ไว้คอยปรึกษาเรื่องส่วนตัวก็ดี การเรียนก็ดี วัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องมีเพื่อนครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่เตลิดจนเสียผู้เสียคนและเรียนให้จบดังความประสงค์ของแม่เนอะ
ใช่ค่ะเราไม่จำเป็นต้องฟังเขาทุกเรื่อง
และบอกเขาทุกเรื่องเนอะ
เพื่อนอะไรจะมาทำงานเลี้ยง
รู้เลยว่าผู้ชายหวังอะไร
เพราะพี่ก็เป็นผู้ชาย
หัดยอมรับความเป็นจริง
เลิกคุยแล้วไปขอโทษแม่
ขอเรียนต่อเอาอนาคตไว้ก่อน
แม่เลี้ยงมาขนาดนี้
ต้องทดแทนไม่ใช่โตแล้ว
คิดจะหนีเอาตัวเองสบาย
ตัดช่องน้อยแต่พอตัว
แม่ที่ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นลูก แถมแค่นี้ก็ถึงขั้นจะไล่ออกจากบ้าน ไล่ออกจากโรงเรียนน่ะหรือครับ? ผช.อาจจะยังพึ่งไม่ได้ หรือคิดไม่ดีอยู่ก็จริง แต่ขณะเดียวกัน พ่อแม่ที่ไม่ฟังอะไรลูกสักคำ เหมือนคำพูดของลูกเป็นแค่เสียงนกเสียงกาได้ยินแล้วรำคาญแบบนี้ก็ไม่มีค่าพอให้หวังอะไรเหมือนกันนั่นแหละ เผลอ ๆ ถือว่าเลวยิ่งกว่าซะอีกครับ ตัวเองควรอยู่ในตำแหน่งที่ใจเย็นที่สุดกลับเอาแต่ทำให้เด็กเสียใจมากที่สุดซะเอง ไม่มีค่าพอจะไปสงสัยหรือโทษคนนอกคนอื่นด้วยซ้ำ อย่ามัวแต่เข้าข้างผู้ใหญ่ อ้างบุญคุณแล้วด่าเด็กท่าเดียวครับ ไม่ใช่ว่าการที่โลกนี้โหดร้ายแล้วจะเป็นข้ออ้างให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายจะทำตัวเป็นพระเจ้าถูกเสมอ เด็กผิดตลอด จะพูดอะไรก็ได้นะครับ
น้องลองปรึกษาครูที่ร.ร.ดูมั้ย โทรหาเขาแล้วเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง เขาจะได้ช่วยเราแก้ปัญหา แนะนำว่าเป็นคุณครูแนะแนว คุณครูที่ปรึกษา หรือคุณครูที่เขาเป็นผู้ใหญ่ๆหน่อย
พี่เองก็อายุ16 แล้ววัยนี้ก็ไม่ใช่วัยที่มีความสามารถพอที่จะทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูใครคนนึงจนเรียนจบได้ขนาดนั้น แล้วก็แม่น้องเขาไม่สบายใจเรื่องที่น้องคุยกับผู้ชายใช่มั้ย คืออันนี้ก็ต้องดูด้วยนะว่าประโยคที่ใช้ในบทสนทนามันเป็นเชิงชู้สาวอะไรงี้รึเปล่า ถึงน้องจะบอกว่ามันไม่มีอะไร แต่แม่เขาก็คิดในสิ่งที่เขาเห็น น้องเข้าใจที่พี่พยายามบอกใช่มั้ย?
เวลาคุยหรืออธิบายกับแม่ก็ใจเย็นๆนะ ค่อยๆอธิบาย อย่าใช้อารมณ์ ขอโทษเขาที่ทำให้เขาไม่สบายใจ แม่เขารักน้องแหละ เขาไม่อยากให้น้องมีปัญหาเพราะผู้ชาย แต่เขาอาจจะแก้ปัญหาผิดจุดไป แล้วก็พยายามอย่าให้มีเรื่องแบบนี้อีก
ปล.พี่ขอเพิ่มเติมอะไรนิดนึงนะ พี่อยากให้น้องเก็บเรื่องนี้ไปคิดแล้วย้ำตัวเองอยู่เสมอ ผช.อ่ะ ถึงไม่มีเราก็ไม่ตาย ถ้าเราไม่มีความรู้นี่สิเราตายแน่ ตอนนี้น้องก็ยังเด็ก ทั้งพ่อแม่และปู่ย่าของพี่บอกไว้เสมอว่าไม่ต้องรีบมีแฟนตอนนี้หรอก ตั้งใจเรียน เรียนจบมีความรู้มีงานทำ มีเงินเลี้ยงตัวเอง ถึงตอนนั้นเราก็คงจะมีตัวเลือกที่เยอะกว่านี้ สู้ๆนะคะน้อง พี่เป็นกำลังใจให้นะ
ถ้าอยู่คนเดียวไปไหนไม่ได้ ลองโทรไป1323ได้นะคะ เค้าจะคอยรับฟังและให้คำปรึกษาเราค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆๆ
เธออายุ 14 ปีเอง 16 ปียังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยกันทั้งคู่เลย เกิดเค้าทำอะไรไม่ดีมา เธอจะไม่ยิ่งเเย่เอาเหรอ อีกอย่างเชื่อเลยว่าเค้าทำไม่ได้หรอก เพราะบางทีสิ่งที่พูดก็เป็นแค่คำพูดเท่านั้นเอง
เหตุการนี้น้องต้องทบทวนตัวเองว่า เริ่มเข้าข่ายเกินกว่าที่ควรหรือไม่ ทบทวนที่ตัวเอง ไม่ใช่ทบทวนที่พ่อแม่ ยังงัยเสียมุมมองของพ่อแม่ย่อมไม่เหมือนเรา เท่าที่น้องเล่ามา น้องเริ่มมีพฤติกรรมชู้สาวทางความคิด แต่น้องไม่ยอมรับ ถ้าเพื่อนเอาตำราเรียนมาให้เพื่อติวหนังสือ มันจะเป็นอีดเรื่องหนึ่งทันที แค่น้องคบกันคุยกันปรึกษากันฉันอะไร... ฉันเพื่อนเรียน หรือฉันเพื่อนสนิด ในแบยหลังน้องก็จะเสียเวลาที่ต้องใส่ใจการเรียน ไปกับการคุย งานบ้านก็เริ่มไม่แบ่งเบาภาระได้ ลองทบทวนตัวเองดีๆ เห็นมานักต่อนัก เรียนจบไม่สูง มีสามีทันทีหบังเรียนจบ งานการไม่หาทำ ทบทวนดูอีกครั้ง ว่าคำตอบของน้องเป็นแบบที่กล่าวมาข้างต้นหรือเปล่า
ลองคิดตามนะว่า ความคิดของน้องเป็นไปตามที่ว่านี้หรือไม่
ตั้งใจเรียน
เกรดเฉลี่ยต้อง 3 ขึ้น
เข้า ม.4 โรงเรียนดีๆ
เข้ามหาวิทยาลัยมีชื่อของประเทศ
มีงานทำเลี้ยงดูส่งเสียพ่อแม่ไม่อายใคร
มีครอบครัว มีลูก ราวอายุ 25-30 ปี
มีบ้านพร้อมที่ดินเป็นของตนเองจากน้ำพักน้ำแรง
น้องมีความคิดเหล่านี้หรือไม่
นี่คือความคิดของพ่อแม่ และเป็นความคิดตามวิสัยที่ควรเป็นของคนทั่วไป ถึงตอนนี้ทราบคำตอบแล้วใช่มั้ยว่าทำไม แม่ถึงไล่น้องออกจากบ้าน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?