Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว 4 ปีนิเทศจุฬาฯ กว่าจะจบมาเสียน้ำตาไปเยอะ EP 2 เข้าภาคละมัน....55555

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีน้องๆค่า กลับมาอีกครั้งหลังจากโดนเรียกไปประชุมใน EP ที่แล้ว + ติดการ์ตูนอยู่
เลยยังไม่ได้มาเขียนต่อแต่ว่าตอนนี้มาแล้วจ้าาาEP 2 จะเป็นการว่าด้วยช่วงเวลาตอนหลังเข้าภาคแล้วหรือช่วงปี 3 ปี 4 ของพี่ซึ่งหลักสูตรใหม่อาจจะปรับเวลาการเข้าภาคแล้วอันนี้พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันลองตามข่าวจากคณะกันดูน้า 

สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน EP ก่อนหน้าสามารถเข้าไปอ่านก่อนได้ที่
https://www.dek-d.com/board/view/3918017/1/?comment=1
เพื่ออรรถรสและความต่อเนื่องจ้า ส่วน EP นี้จะเป็นการเล่าถึงช่วงตอนเข้าภาคว่ามันเหมือนหรือแตกต่างอย่างไร
ความสนุกเป็นยังไง และน้ำตามันมาได้ยังไง ซึ่งขอบอกก่อนว่าเราเรียนเอกโฆษณา โทสื่อสารการแสดง เพราะงั้นอาจจะเล่าชีวิตการเรียนใน 2 ภาควิชานี้เป็นหลักนะคะ ส่วนภาคอื่นๆก็จะมีพอรู้บ้าง ไม่รู้บ้างอันไหนพอตอบได้จะตอบ ข้อมูลอาจจะไม่ตรงเป๊ะยังไงก็ขออภัยด้วยน้า ​


(ลายมืออุบาทมากเขียนในมือถืออะเนอะอย่าคิดมากนะ 555555 
รูปนี้เป็นตอนพรีเซนต์งานจบเสร็จแล้วเป็นไทแล้วจ่ะแม่)


เริ่มเรื่องเลยคือพอเข้าปี 2 เทอม 2 ในช่วงโค้งสุดท้ายเราก็จะได้รับแจกใบสีขาวที่จะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล(ล้อเล่นไม่ขนาดนั้น) ใบนั้นคือใบเลือกภาคนั่นเอง ซึ่งคณะนิเทศของเราจะให้เลือกเรียนแบบ เอก-โท ก็คือเราสามารถเลือกวิชาเอกของเราซึ่งปริมาณหน่วยกิตที่เราจะต้องเก็บจะเยอะกว่าวิชาโท แล้วเวลาเรียนจบเราก็จะได้รับปริญญาในสาขานั้นนั่นเอง ซึ่งพี่เลือกเรียนเอกโฆษณา โทสื่อสารการแสดงนั่นเอง

เพื่อเป็นวิทยาทาน(รีเปล่าวะ 555) พี่จะเล่าเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกสองสาขานี้ให้ฟังละกัน เพราะว่าถึงเวลาจริงๆมันมีความลังเลสูงมากแกเอ๋ย เพราะเราเรียนรวมมาตลอดบางทีเราก็จะรู้สึกว่าวิชานั้นก็ชอบ อันนี้ก็ดีแล้วจะเลือกอะไรดีล่ะ ซึ่งวิธีที่พี่ใช้เลือกคือพี่เลือกจากอาชีพ สไตล์และสายงานที่ตัวเองอยากจะทำงานในอีกหลายปีข้างหน้า และวิชาโทพี่เลือกตามความชอบ ความรักในงานแสดงซึ่งเป็นอีกสิ่งนึงที่เราสนใจแหละ แล้วกลายเป็นว่าสองสาขานี้ส่งเสริมกันและกันได้อย่างไม่น่าเชื่อในความเห็นของพี่นะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่ามันส่งเสริมกันยังไง ทุกๆเอกโทมี skills ที่ส่งเสริมกันและกันได้แน่นอนขึ้นอยู่กับว่าเราจะดึงมาใช้ยังไงนั่นเอ๊งงง~

การเข้าภาคเราจะได้เรียนสิ่งที่พี่ขอเรียกว่าการเรียนเชิงประยุกต์ และคอนเซปละกัน ในช่วงปี 1 ปี 2 เราได้พัฒนา skills ไปแล้วใช่ปะ แต่ตอนเข้าภาคเราจะได้เรียนวิธีการนำ skills เหล่านั้นมาประกอบร่าง ประยุกต์ใช้เพื่อนำเสนองานออกไปอย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพนั่นเอง เล่างี้อาจจะเข้าใจยากงั้นยกตัวอย่างละกัน

เราเรียนภาคโฆษณา เพราะงั้นงานหลักของเรามันคือการขายของไงให้น่าสนใจ พูดไงให้คนชอบ ให้คนอินงี้ซึ่งจะต้องเรียนตั้งแต่การวิเคราะห์ธุรกิจต่างๆ วิเคราะห์คู่แข่ง ทำ research ซึ่งอีวิชา STAT มันเอามาใช้ตรงนี้แหละแกเอ๋ย ฉันจะร้องไห้ การเก็บแบบสองถามเป็นร้อยๆชุดไม่ใช่เรื่องตลกเลย เหนื่อยมากแต่ก็สนุกมากนะกับการได้รู้สิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เช่นตอนเรียนวิชา research ครูเค้าเอาตัวอย่างนึงมาให้ดู แล้วเราแบบว้าวมากกกกก มันคือรีเสิชนึงที่ทำให้เรารู้ว่าการไปห้างไม่ว่าเล็กใหญ่ของคนต่างจังหวัดในอำเภอๆเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก พี่ๆเค้าจะแต่งตัวสวยกันไปเดินบิ๊กซี ไปเดินโลตัสซึ่งถ้าเราอยู่ในเมืองก็คงไม่เจอไรงี้ใช่ม๊าา นี่แหละคือความสนุกของวิชา research ถึงมันจะเหนื่อยลากเลือดตั้งแต่การส่งหัวข้อวิจัย ไปจนลงไปขอ "พี่คะๆช่วยตอบแบบสอบถามหนูหน่อยได้มั้ยคะ" เป็นอะไรที่สุดติ่งมาก ตลกมากที่เราเคยโดนแฟนของพี่คนที่เราไปขอให้เค้าช่วยตอบแบบสอบถามมองแรงใส่ด้วย ซึ่งก็คือ  "พี่คะอย่าหึงหนูเลยค่ะหนูมาทำง๊านนนนนนค่ะพี่ขา หนูไม่ได้อยากได้เบอร์เขา!!!" อะไรแบบเน้ มันก็เป็นไรที่สนุกมากอะบันเทิงมาก 

นอกจากนี้ยังมีวิชา Creative ต่างๆที่เราต้องฝึกเขียนคำแบบ "คิดจะพัก คิดถึงคิทแคท" งี้ซึ่งมันไม่ใช่แค่เขียนส่งๆสวยๆไง มันต้องถามตลอดว่าทำไมๆๆๆๆๆเขียน ทำไมต้องคำนี้ห๊ะ เขียนแล้วคนเข้าใจป่าว ติดหูยังเก๋พอยังนะ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีสไตล์ที่แตกต่างกันไป เพื่อนคนไหนมาสาย Creative ก็จะเห็นพรสวรรค์กันเลยจากวิชาเหล่านี้ แบบ "เฮ้ย!คิดได้ไงอะ" จะมีงานโฆษณาแปลกๆมาให้ดู มีโจทย์งานให้เราไปคิดไปทำตั้งแต่ภาพ ไปจนถึงคำที่อยู่ในงานนั้นๆ และยังมีอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่เราจะได้เรียน ในภาคโฆษณามีวิชาน่าสนใจให้เลือกเรียนเต็มไปหมด พอเราเข้าไปเรียนเราก็จะรู้เองว่าอยากเรียนอะไร อันไหนมาต่อยอดได้ เพื่อความไม่ลึกเกินไปพี่จะไม่อธิบายจนหมดนะจะยกตัวอย่างมาเจ๋ยๆ เอาเป็นว่าเราจะได้เรียนวิธีทำงานโฆษณากันแบบจุกๆ ว่าควรเริ่มตรงไหน คิดยังไง มองตรงไหน คนที่เห็นจะชอบอะไรแบบนี้มั้ย ต้องออกแบบคำ ภาพยังไง เล่นตรงไหนดี เช่น product อาหารก็มาเล่นเรื่องสุขภาพดีมั้ยอะไรประมาณเน้

และมาถึงสิ่งที่หิน นรกที่สุดก็คือ Thesis จ้า Thesis ตอนสมัยพี่เรียนจะเรียกว่า Ad Campaign เป็นงานกลุ่มมหาโหดที่จะเอาโจทย์จริง มาทำจริงตั้งแต่กระบวนการคิด วางกลยุทธ์ไปจนถึง Creative Idea ต่างๆซึ่งทำร่วมกันกับเพื่อนชาวแอด อดหลับอดนอน ร้องไห้แล้วร้องไห้อีกหัวข้อก็ยังไม่ผ่าน งานก็ยังคิดไม่ออก การ์ตูนและผู้ชายเป็นอะไรที่เยียวยาใจสุดในช่วงนั้น เรากลับมาติดการ์ตูนเพราะ Ad Campaign นี่แหละ 555555 

แต่แกลองคิดดูนะมันจะมีซักกี่ครั้งที่เราได้ไปหามรุ่งหามค่ำนอนบ้านเพื่อน ละอาม่าเพื่อนทำกับข้าวมาให้กิน หรือว่าทำงานๆอยู่ แล้วแบบตะโกนออกมาว่า "พอ!!" แล้วออกไปเต้นกันอยู่ที่เกมเซนเตอร์อะ 5555555 วิชาจบเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้ประมวลความรู้ทั้งหมด How to ทั้งหมด วิธีคิดทั้งหมดออกมาเป็นผลงาน ในการทำงานจริงๆสำหรับสายโฆษณาไม่ค่อยมีงานเดี่ยวหรอก เราก็จะประสานงานแต่ละฝ่ายร่วมกันสร้างงานออกมา ซึ่งการทำตัวจบก็เหมือนเป็นการฝึกก่อนไปเจอสถานการณ์จริง ลูกค้าจริง โจทย์จริงๆนั่นเองค้าบบบบบ~

บอกแล้วว่าไปเต้นจริงๆ เบอร์ไหนถามใจดู 555555


พูดถึงวิชาเอกไปเยอะละมาว่าที่วิชาโทบ้าง วิชาโทเนี่ยเราจะได้เรียนแค่ตัวบังคับแล้วก็ตัวเลือกไม่กี่ตัว ไม่ใช่ว่าเค้าไม่ให้เรียนหรือไรนะ แต่แค่นี้ก็เก็บไม่ทันจบ 4 ปีแล้วแกเอ๋ย การเรียนแบบเอกโท ทำให้เราต้องวางแผนชีวิตกันให้ดีเลยบางอันน่าเรียนแต่ตารางชนกันก็จำเป็นต้องอดไป มันเป็นสัจธรรมน่ะ แต่ถ้าอยากเรียนจริงๆลองไปขอ Sit-in ก็อาจจะพอได้นะ แต่จริงๆเห็นว่าเค้าปรับหลักสูตรใหม่ ไม่แน่ว่ารุ่นนี้อาจจะได้เรียนแบบอิสระขึ้น ตารางเรียนไม่ Fix เหมือนรุ่นพี่แล้วก็ได้ใครจะรู้ ลองเข้าไปติดตามข่าวกันนะจ๊ะ ^^

วิชาโทที่พี่เรียนเป็นแบบโทเดี่ยวสาขาสื่อสารการแสดง หรือ PA ก็จะเน้นเรียนคนล่ะสายกับโฆษณาเลย อันนั้นมาเชิงธุรกิจชิมิใช้สื่อโฆษณาเป็นตัวสื่อสารงี้ แต่อันนี้จะเป็นฟิลศิลปะมากๆ PA ที่คณะนิเทศจะเรียนละครเวที แล้วเราก็จะใช้ละครและตัวเราเองนี่แหละเป็นคนสื่อสารผ่านการแสดง ซึ่งจะได้เรียนวิชาวรรณกรรม ได้อ่านบทละครแปลกๆ บทละครแบบพูดไรกันวะแต่เสียดสี งงมั้ยตอนเรียนก็งง 555555 แต่อยู่ไปเรื่อยๆก็จะอ๋อเอง เพราะเราจะได้วิเคราะห์มันด้วยไง ได้เรียนวิชาแสดง วิชา voice วิธีเล่าเรื่องด้วยการร้องเพลง ได้แสดงละครหลายๆแบบซึ่งเป็นอะไรที่พี่ชอบมาก วิชา PA เป็นวิชาที่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น สามารถปรับ body language ของเราตามสถานการณ์ต่างๆได้ ซึ่งมันเป็น Skills ที่นำไปประยุกต์กับงานโฆษณาของเราได้ดีเลย เพราะเวลาเราพรีเซนต์งานบุคลิกหรือการใช้เสียงเป็นอะไรที่สำคัญ ไปจนถึงการคิดงานโฆษณาเราก็ต้องวิเคราะห์ผู้บริโภคของเราซึ่งวิชา PA ก็ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นคนที่แตกต่างกันได้เยอะเลย อารมณ์คนอื่นเข้าใจเขามากขึ้น เพราะเวลาเราจะเล่นละครหรือจะเขียนบทละคร เราก็ต้องเข้าใจว่าทำไมเขาพูดแบบนี้ ท่าทางเขาจะเป็นอย่างไร และที่สำคัญวิชาการแสดงทำให้เราไม่สติแตกเวลาเครียดหนักๆด้วยเหมือนว่าเรียนแล้วเออเราเข้าใจตัวเองมากขึ้นนะ

เรียนอีกวิชาแล้วเครียด มาเรียนอีกวิชาที่ต่างกันสุดขั้วก็เป็นอะไรที่บาลาซ์กันได้แบบงงๆ 55555555 หรือถ้าใครเรียนฟิลม์ก็จะส่งเสริมเรื่องภาพ เรื่องการคิดภาพยนตร์โฆษณา การจัดวางสินค้า สีสันหรือข้อจำกัดต่างๆได้เหมือนกันจ้า แล้วแต่ว่าเราชอบแบบไหน สไตล์ไหนงี้ ตัวเราก็คือสนองนีดตัวเองล้วนๆเลย 5555555

มหาวิทยาลัยกว่าจะจบมาก็ไม่ใช่เรืองง่าย ทำงานหามรุ่งหามค่ำกันกับเพื่อน อดหลับอดนอนเพราะงานเยอะมากกกกกก ใครบอกนิเทศเรียนสบายคือตีปากมันค่ะ ให้เกียรติใต้ตาดำๆของดิฉันด้วย ทุกวันนี้คอนซีลแพงแค่ไหนก็ยังกลบไม่มิดเลยนะ! ภาคโฆษณาก็คืองานกลุ่มเพียบ คิดงานเยอะมาก โจทย์เยอะมาก ความกดดันก็มี อย่างที่บอกเห็นเล่าๆแบบนี้แต่ช่วงระหว่างเรียนมันเป็นอะไรที่เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ ท้อแท้หมดหวังก็มี แต่ก็อย่าพึ่งยอมแพ้นะคะมันไม่มีอะไรยากเกินไปมองโลกในแง่ดีไว้ คิดซะว่ามันคือกระบวนการเรียนรู้ อกหักก็คือการเรียนรู้ปะ คนที่ชอบไปชอบคนอื่นก็คือการเรียนรู้ปะ เรียนรู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นเง้ ฟังเพลงปาล์มมี่เพราะขึ้นล้านเท่างี้ TT 

4 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหกแล้วความทุกข์ทั้งหลายจะเปลี่ยนเป็นพลังและความสุขเหมือนเรามองย้อนกลับไป ขอให้สนุกให้เต็มที่ เรียนรู้ให้เต็มที่ไม่ต้องห่วงว่าเราจะโดดเดี่ยว ลองมองไปรอบๆแกจะเจอเพื่อนๆที่ร่วมชะตากรรมเดียวกันอีกเย้ออออ 5555555555 TCAS อีกนิดอดทนไว้นะ 
 
ท้ายที่สุด!!
กับข้าวสามย่านอร่อยเว่ยแก มันคุ้มที่จะเข้าไปกินในอีก 4 ปีข้างหน้าเว่ยแกร อดทนไว้
LET'S KILL THIS TCAS!
(ร้องแบบป๊อกแป๊ก~)

EP หน้าถ้ามีรีเควส อาจจะมาเล่าว่าทำไงที่จะเปลี่ยนเกรด 2 เป็นเกียรตินิยม ลากเลือดกระชวกไส้ยังไง
ถ้าใครอยากรู้คอมเมนต์ไว้น้า ไว้จะมาเล่าจ้ากดหัวใจซักนิดเป็นกำลังใจกันซักหน่อยก็ได้น้า heart

 

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

Charmé 5 เม.ย. 62 เวลา 20:28 น. 1

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันความรู้นะคะพี่

เรากำลังจะยื่นรอบ3เดือนนี้แล้ว กะว่าจะยื่นนิเทศจุฬาอันดับ1เลย หวังว่าจะได้เป็นรุ่นน้องคณะพี่นะคะhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-06.png

2
Waanindyjibi 6 เม.ย. 62 เวลา 14:13 น. 2-1

ได้ค่ะ ส่วนใหญ่ที่นิยมก็จะเป็นอักษรกับจิตวิทยา ที่สำคัญคือต้องเช็คตารางเรียนว่าไม่ชนกับวิชาเอก ไม่งั้นจะแอบเก็บหน่วยกิตยากจ้า

0