เรียนยังไงให้ได้ A รัวๆ

[kwangli]

สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน หายไปนานเลยกลับมาวันนี้ kwangJi จะมาบอกเคล็ดลับการเรียนยังไงให้ได้ A ไม่ตก D ตก F กัน เชื่อว่าปัญหานี้คงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับน้องๆเเละเพื่อนๆทุกคน ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันนะคะ เชื่อว่าอาจจะช่วยได้ถ้าน้องๆเพื่อนๆคนไหนนำไปใช้เเละเป็นเเนวทางปฏิบัติผลการเรียนจะออกมาดีขึ้นเเน่นอนค่ะ  ไม่เกี่ยวนะคะ ว่าเราจะเก่งหรือไม่เก่งเเต่อย่างไรก็ต้องอาศัยความตั้งใจความขยัน เพียรพยายาม อดทนเเละมีวินัยด้วยนะคะ มีวิธีอะไรบ้างไปอ่านกันเลยค่าา......
1. ฟัง จำ จด ไม่เข้าใจให้ถาม กลับบ้านทวน. เวลาที่เรียนในห้องเรียนเราตั้งใจฟัง จำเเละจดข้อมูลบนสไลด์ กระดาน ที่อาจารย์เขียนหรือเน้นไว้ในสมุดนะคะ เพราะการจดช่วยให้เซลล์สมองทำงานเเละเเตกตัวรับข้อมูลมากขึ้น หากเราไม่เข้าใจให้ถามก็ต้องรีบถามเลยค่ะ ถ้าอายก็ให้ไปถามกับอาจารย์ตัวต่อตัวได้เลย พอกลับถึงบ้านหรือหอพักก็อ่านทบทวนอีกสักรอบก่อนเข้านอน ในช่วงเวลา 20.00-21.00 น. เพราะตอนที่เราหลับเซลล์สมองจะทำงานเเละนำข้อมูลไปเก็บเป็นความจำระยะยาว
2. ทำงานส่ง ตรงตามเวลา. เรื่องนี้หลายๆคนอาจจะมองข้ามว่าไม่ค่อยจำเป็นเพราะคะเเนนสอบเยอะกว่าคะเเนนใบงาน บอกเลยค่ะว่าคิดผิด คะเเนนงานอาจจะได้ไม่มากเเต่ก็เป็นการสะสมไว้รอคะเเนนสอบ อย่าพึ่งเเต่คะเเนนดิบจากการสอบนะคะเพราะถ้าสอบได้คะเเนนน้อยก็อาจจะพลาดได้เนื่องจากไม่มีคะเเนนช่วย
3.  ชวนกันติว การติวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีค่ะที่ช่วยคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ นัดกันติวกับเพื่อนๆที่เขาเข้าใจเหมือนเราไปเรียนพิเศษก่อนสอบก็ว่าได้ค่ะ ให้ผ่านหู ผ่านตา
4. การสอบ. เรื่องนี้สำคัญมากๆ เพราะส่วนมากจะเน้นกันที่คะเเนนสอบ ช่วงเวลาที่เหมากับการอ่านหนังสือสอบคือช่วงก่อนนอน20.00-22.00 น. เเละช่วงเช้า 05.00-06.00น. เป็นช่วงเวลาที่สมองเรากำลังเปิดรับข้อมูล เเละช่วยให้ความจำระยะสั้นเปลี่ยนเป็นความจำระยะยาวได้
5. วิธีสุดท้าย  ตัวช่วย คะเเนนจิตพิสัย น้องๆบอกว่าอยากได้ A อยากให้อาจารย์ช่วยเห็นใจ เราต้องหัดเข้าหาอาจารย์บ้างค่ะ ถามช่วยถือของ เจอกันก็สวัสดีสวยๆ อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนเเต่มันสื่อถึงความตั้งใจเเละใส่ใจในรายวิชา ในการอยากได้เกรดสวยๆ ซึ่งเเน่นอนว่าอาจารย์ท่านก็จะเข้าใจค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ตั้งใจเรียนนะคะ