Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แคลคูลัสใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้ จริงหรือ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เอาล่ะเพื่อนๆหลายคนคงเคยมีความคิดที่ว่าวิชานั้นเรียนไปทำไมไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน วันนี้ผมเลยอยากลองนำเสนอความคิดที่ตัวเองได้คิดเล่นๆในมุมมองของนักเรียนคนนึง ซึ่งผมออกตัวก่อนเลยนะครับผมไม่ใช่คนเรียนวิชานี้เก่ง แต่ชอบใช้เวลาไปคิดอะไรเล่นๆตลอดเวลา เลยทำให้ผมมองเห็นมุมมองการเรียนแปลกไปจากเพื่อนๆ เกริ่นมาสะเยอะเลยมาเข้าเรื่องกันดีกว่า แคลคูลัส ทุกคนก็มักจะสงสัยว่าใช้อะไรในชีวิตประจำวันได้ สำหรับผู้ที่เคยเรียนแคลคูลัสมาคงรู้จักคำนี้นะครับ "อนุพันธ์" แล้วคำตอบที่ผมได้ก็คือ ใช้หาค่าความชัน ถ้ามองถึงแค่ตรงนี้มันก็คงไม่สามารถเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆนั่นแหละ แต่ถ้าเรามองว่าใช้หาการเปลี่ยนแปลงละ นั่นสิน้าาาาาจะใช้ยังไงดีหว่า งั้นมาคิดตามกันดีกว่านะครับว่าในชีวิตเราอะไรคือการเปลี่ยนแปลงบ้าง สมมตินะครับถ้าเราอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมและรู้ข่าวมาว่าจะท่วมในเร็วๆและอาจนานถึงครึ่งปีได้เลย อันนี้เป็นจุดที่เรากำลังจะเปลี่ยนแปลงเลย และเมื่อเปลี่ยนไปจนถึงค่าต่ำสุดหรือสูงสุดในที่นี้ก็จะเรียกว่า "จุดวิกฤต" ในสถานการณ์นี้คงเรียกได้ว่าเป็นจุดต่ำสุดแน่ๆเลย แล้วเราจะทำยังไงดีละ ก็ต้องตุนอาหารเพื่อเตรียมความพร้อม แล้วเตรียมเท่าไหรละ เพื่อที่จะให้กราฟการใช้ชีวิตของเราใกล้เคียงเดิมหรือต่างจากเดิมเล็กน้อยเราก็ต้องคำนวณว่าเรากินเท่าไหรในแต่ละเดือนและคำนวณปริมาณการกินเทียบกับเวลาก็จะรูว่าเราควรซื้อของตุนไว้เท่าไหร อันนี้เป็นตัวอย่างที่น่าจะเข้าใจง่ายที่สุดแต่มันก็น่าสงสัยอยู่น้าาถ้าน้ำไม่ท่วมละเราจะใช้ยังไง
ฮั่นแน่!!เริ่มคิดตามผมแล้วใช่ไหม ต่อมาถ้าเราใช้แคลคูลัสในการดูคนรอบข้างละ ทุกคนเมื่อใช้ชีวิตตามปกติก็คงเป็นกราฟเส้นตรงเรียบๆแล้วถ้าเจอเรื่องทุกขใจละกราฟมันก็จะดิ่งลง แล้วถ้าดิ่งลงเรื่อยๆมันก็คงไม่ดีใช่ม้าา เราก็เลยต้องหาวิธีที่ทำให้กราฟนั้นกลับมาเป็นเส้นตรงหรือดีกว่าเดิมให้ได้ เราก็เลยต้องมีปัจจัยในการที่จะทำแบบนั้นหลากหลายอย่างแล้วแต่คนไป อย่างเช่น ถ้าเป็นผมก็จะเล่นเกม อ่านหนังสือที่ชอบ แล้วถ้ามันเกิดกับคนรอบข้างละ เช่นเพื่อน แฟน ครอบครัว เราก็จะรับรู้ได้ว่าเขามีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น อาจจะกินข้าวน้อยลง ถ้าเขาสำคัญกับเราเราก็จะหาปัจจัยมาทำให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิมโดยวิธีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และมีคำพูดนึงที่บอกว่า "แฟนของเราเปลี่ยนไป" 
ซึ่งอันนี้เรารู้ได้ว่าแฟนของเราเปลี่ยนไป แต่ไม่เคยนึกถึงว่าตัวเองทำอะไรเพื่อประคองการเปลี่ยนแปลงของแฟนเราไว้ได้ไหม เพราะฉะนั้นเรามาทำปัจจัยให้กราฟความสัมพันธ์ของเราให้ไม่เกิดจุดวิกฤตนั้นดีกว่า ซึ่งโดยสรุปผมอยากให้ทุกคนมองแคลคูลัสไม่ใช่เป็นเพียง ตัวเลข ตัวแปร แต่เราสามารถค้นพบการเปลี่ยนแปลง และพยายามควบคุมปัจจัยการเปลี่ยนแปลงนั้นให้คงเดิมหรือดีขึ้นกว่าเดิมขึ้นไป ถ้ามองว่าอนุพันธ์คือการตบเลขยกกำลังลงมาข้างหน้าแล้วลดเลขชี้กำลังลง1 วิชานี้ก็คงน่าเบื่อมากๆเลยละครับสำหรับคนที่ไม่ชอบวิชานี้ 
การเรียนเนื้อหานั้นสำคัญ แต่การรู้จักปรับใช้ในแบบของเรา ผมเชื่อว่าทุกวิชาสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้หมดนะครับถ้าไม่ใช่วิชาเฉพาะทาง การเขียนกระทู้นี้ก็เพื่ออยากให้ทุกคนเห็นอีกมุมนึงของการเรียนซึ่งสามารถปรับใช้ได้กับหลากหลายวิชา ถ้าเพื่อนๆมีมุมมองของการใช้แคลคูลัสหรือวิชาอื่นในแบบนอกเหนือตำราเรียนสามารถคอมเม้นแบ่งปันได้เลยนะครับ จาก เด็กผู้ว่างมาก

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

8gear 19 เม.ย. 62 เวลา 19:44 น. 2-1

ขอบคุณมากครับ อยากรู้มุมมองของเรื่องอะไรเสนอแนะได้เลยน้าาา

0
Nyx 15 เม.ย. 62 เวลา 19:48 น. 3

ไม่อยากขัดอารมณ์หรอก แต่การต้องตีความขนาดนั้นไม่น่าเรียกว่า "การปรับใช้" เท่าไหร่ เห็นแล้วจึงอยากเสนอตัวอย่างการนำไปใช้ "จริง ๆ" ตามกราฟสองรูปนี้จากการใช้เครื่องมือวัดค่าประเภทหนึ่ง รูปแรกเป็นการอ่านค่าแสง fluorescense จริง ๆ ที่ลดลงตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น


https://image.dek-d.com/27/0069/0642/128641831


แต่เวลาใช้เครื่องมือนี้เราต้องการรู้อุณหภูมิที่ทำให้ "แสงมันลดฮวบฮาบ" ฉะนั้นโปรแกรมจึงมีตัวเลือกให้ใช้แบบ derivative นั่นก็คือปรับสมการของกราฟนี้ด้วย differential จากนั้นเราก็จะได้กราฟใหม่ที่อ่านค่าได้ง่าย ๆ


https://image.dek-d.com/27/0069/0642/128641845


มหัศจรรย์ ! diff ทีเดียวเกิด peak อ่านค่าอุณหภูมิได้ดังใจ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-13.png

3
8gear 19 เม.ย. 62 เวลา 19:43 น. 3-1

ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะและความรู้ในมุมมองใหม่ๆนะครับ แต่กระทู้นี้ผมอยากเสนอว่าให้มองแคลคูลัสเป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอะครับ ผมจึงใช้คำไม่ค่อยถูกขอประทานโทษด้วยนะครับ

0
Nyx 19 เม.ย. 62 เวลา 20:18 น. 3-2

ไม่เป็นไรไม่ต้องขอโทษกันหรอก ผมก็ชอบนะที่คุณช่างคิด เพราะเรื่องคณิตศาสตร์นี่หลาย ๆ อย่างมันค่อนข้างนามธรรมนะ เข้าใจยากและน่าเบื่อสำหรับหลายคน (+1 ผมด้วย) หลายวิชากว่าจะถึงตอนใช้จริงนี่แทบลืมไปแล้ว เหมือนอ่านค่ากราฟที่ยกตัวอย่างเนี่ย ตอนแรกผมก็ยังคิดไม่ออกเลยว่าเป็น calculus

0
8gear 20 เม.ย. 62 เวลา 23:07 น. 3-3

นั่นสิผมก็อยากลองเอามาประยุกต์ใช้หลายๆด้านดูเหมือนกันนะ แต่ยังไม่ค่อยเก่งเลยเนี่ยสิ5555

ในมุมมองผมไม่ใช่คนสายคำนวณหรืออะไรหรอกนะครับ แต่ชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลยอยากลองเอาแคลคูลัสมาใช้ในอีกแง่มุมนึง

0