ครอบครัวเป็นสุข ตามหลักศาสนาคริสต์
เรื่อง : ครอบครัวเป็นสุข
ผู้เทศนา : คุณสมภพ ตรีศิริพิศาล
ข้อพระคัมภีร์ : ( ปฐมกาล 2 : 18 , 21-25 ) , ( 1 โครินธ์ 7 : 33-34 )
“ พระเจ้าสร้างชายขึ้นมาก่อนหญิง แล้วจึงชักกระดูกซี่โครงของชายนั้นสร้างเป็นหญิงให้คู่กับเขา นั่นหมายถึงความเท่าเทียมกันในเพศชายและหญิง ”
ในปัจจุบันนั้นคู่ครองหลายคู่เกิดปัญหา ไม่มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพราะถือว่า การแต่งงานนั้นก็เหมือนกับการเลือกซื้อรองเท้า และนำไปสู่การหย่าร้าง ซึ่งพระเจ้าไม่ได้มีพระประสงค์ให้เป็นอย่างนั้น
การแต่งงานคืออะไร ?
การแต่งงานคือ การนำคนสองคน ( ชายและหญิง ) จากต่างครอบครัวมาใช้ชีวิตร่วมกัน ซึ่งทั้งสองครอบครัวนั้นมีพื้นฐานในการเลี้ยงดูที่ต่างกันตั้งแต่เกิด จึงทำให้มีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน
ในปีแรกของการแต่งงาน เพศชายจะเป็นผู้พูดเพียงฝ่ายเดียว เพศหญิงเป็นผู้ฟัง
ปีที่สองของการแต่งงาน เพศหญิงจะเป็นผู้พูดเพียงฝ่ายเดียว เพศชายเป็นผู้ฟัง
ปีที่สามของการแต่งงาน เพศชายและเพศหญิงต่างคนต่างพูด ไม่มีผู้ฟัง
· หลักเกณฑ์
1. ชายและหญิงต้องมีความซื่อสัตย์ต่อกันและกัน
( มธ 19 : 3-9 ) โมเสสยอมให้มีการหย่าร้างเพราะมนุษย์มีทิฐิ ( 1 คร 7 : 10-11 ) พระเจ้าไม่อนุญาตให้หย่าร้างกัน ; มนุษย์หัวดื้อ / ไม่หย่าร้างเพราะเห็นแก่ลูก แต่ทะเลาะ / มีปัญหาครอบครัวให้ลูกเห็น เพศชายเป็นเพศที่เห็นแก่ตัว มีลูกแล้วทิ้งลูกทิ้งภรรยาไปมีคนอื่น
2. ชายและหญิงต้องรู้จักกับความหมายของความรัก ว่ามันคืออะไร
( 1 คร 13 : 4-7 ) ความรักที่แท้จริงคือความรักที่มาจากพระเจ้า เป็นความรักที่มีความอดทน ไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ( โดยเฉพาะเพศหญิง เพราะเป็นเพศที่ละเอียดอ่อน ใส่ใจในรายละเอียด ช่างจดจำ ) ไม่ชื่นชมยินดีในความอธรรม ความรักทนได้ทุกอย่าง มีความหวังและความอดทนอยู่เสมอ
3. ระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินในแต่ละเดือน ไม่ใช้จ่ายเกินรายได้ที่มีอยู่
4. คู่สมรสควรมีความเข้าใจตามหลักพระคัมภีร์
( 1 คร 7 : 2-5 ) เพราะไม่ให้ตัวอด ไม่เปิดโอกาสให้ซาตานล่อลวงได้ง่าย เพราะเพศหญิงเป็นเพศที่น้อยใจง่าย เช่น หากเราทะเลาะกับสามีและปิดประตูไล่เขาออกนอกห้อง / นอกบ้าน เมื่อผ่านไปนานเข้า เขาจะออกไปหาหญิงอื่น เพราะเพศชายเป็นเพศที่เจ้าชู้ ( อย่าปล่อยเสือเข้าป่า // อย่าฝากปลาย่างไว้กับแมว)
5. ชีวิตครอบครัวประกอบด้วย สามีและภรรยา ต้องมีความคิด คำพูด และการกระทำที่ดี
เพราะความคิดเป็นที่มาของความบาป ถ้าเราคิดลบเรื่อยๆ ความบาปก็จะสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
· การจัดการความคิด
1. ควบคุมความคิด อย่าคิดลบ
2. ความคิดเป็นสนามรบของความมืดและความสว่าง
3. คิดอย่างสร้างสรรค์
4. ความคิดนำไปสู่การกระทำ
5. มีความเข้าใจความคิด อุปนิสัยของอีกฝ่ายหนึ่ง
6. อาหารของความคิดคือพระคำของพระเจ้า
7. ชีวิตครอบครัวต้องให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต
( อฟ 6 : 10) สวมยุทธภัณฑ์ของพระเจ้าเข้าต่อสู้กับพญามาร เราไม่ได้ต่อสู้กับคนด้วยกันเอง แต่เรากำลังต่อสู้กับมารที่อยู่ภายในตัวเขา ถ้าครอบครัวคริสเตียนครอบครัวใดทะเลาะกัน ให้จับมือกันอธิษฐาน เพราะพระคัมภีร์กล่าวว่า สิ่งที่ดี เราไม่ค่อยทำ แต่สิ่งที่ไม่ดีเรากลับทำ
· การเป็นผู้นำครอบครัว
พระเจ้าสร้างเพศชายให้เป็นผู้นำ ไม่ได้มีพระประสงค์จะให้เพศหญิงเป็นผู้นำ แต่ให้เพศหญิงเป็นคู่อุปถัมภ์และเป็นที่ปรึกษา เพราะลูกที่เกิดมา มีโอกาสเรียนรู้จากพ่อแม่ ซึ่งอาจผิดเพี้ยนไปจากพระคัมภีร์เพราะตัวอย่างใกล้ตัวที่เขาได้เห็น ( พ่อแม่ ) ถ้าเพศหญิงเป็นผู้นำแล้วไม่ปรึกษาเพศชาย เพศหญิงต้องรับผิดชอบ ในทางกลับกัน ถ้าเพศชายเป็นผู้นำ เพศชายจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ เพราะในหนึ่งครอบครัวไม่ควรมีผู้นำ 2 คน เนื่องจากจะทำให้เกิดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ความแตกแยก และอาจลุกลามไปถึงการหย่าร้างได้
แสดงความคิดเห็น