Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

How to เก่งอังกฤษด้วยตัวเองแบบง่ายๆใช้ความเคยชิน [ไม่ใช่การเรียน]

ตั้งกระทู้ใหม่


ให้ภาษาอังกฤษ มันมาอยู่ในชีวิตเราตลอดเวลา จนรู้สึกชินกับมันไปเอง
ถ้าไม่มีโอกาสเจอภาษาอังกฤษทุกวัน ก็สร้างมันขึ้นมาเองซะ!!!!


1. เปลี่ยนทุกแอพเป็นภาษาอังกฤษ
    เราติดทวิตเตอร์มากกกก เป็นติ่งเกาหลีนั่นเอง เราก็เลยสร้างแอคนึงขึ้นมา แล้วฟอลแต่อินเตอแฟน ไม่ฟอลแอคไทย ภาษาก็ตั้งค่าเป็นภาษาอังกฤษ เวลาทวิตก็ทวิตเป็นภาษาอังกฤษ

2. อ่าน Quora
    จริงๆอ่ะ เริ่มจากอ่านข่าว bbc cnn บราๆ แต่ก็รู้สึกว่า มันไม่ใช่อ่ะ มันน่าเบื่อ ก็เลยลองเสริชว่า มีเว็บไรที่คล้ายพันทิปแต่เป็นภาษาอังกฤษมั้ย5555555 ก็เจอ quora เนี่ยแหละ
   Quora ก็คล้ายกับ Pantip เนี่ยแหละ เป็นพันทิปภาษาอังกฤษ คำแนะนำดี ไม่มีคอมเม้นกวนแน่นอนนน ดีมาก มีหลายหัวข้อ อ่านแล้วได้ข้อคิดด้วย

3. ดู"การ์ตูน"ภาษาอังกฤษ with english subtitles
   ตอนแรก เราดูหนังแหละ55555 แต่แบบดูไม่รู้เรื่องโว้ยย ฟังไม่ทันน เลยมาดูบาร์บี้แทน

4. ฟัง Podcast
    ช่วงแรก เราฟัง นิทานก่อนนอนอ่ะ มันพูดช้าดี ศัพท์ง่าย
    พอฟังคล่องขึ้น ก็ฟัง BBC english อ่ะ ตลกดี555555
    เราฟังเฉพาะตอนอยู่บน BTS อ่ะ ไม่ได้ฟังทั้งวันขนาดนั้น จากแรกที่แทบจะนั่งสมาธิฟัง หลังๆก็เริ่มทำหลายอย่างไป ฟังไปได้ด้วยหล่ะ

5. ดู vlive / ฟังเพลงเกาหลี แต่มีซับอังกฤษ 
   อันนี้ช่วยเยอะมากกกก ในเรื่องของการอ่าน การฟัง? อย่างที่บอก เราดูหนังฝรั่งไม่ได้เลย เพราะฟังไม่ทัน แต่พอดู  vlive ซึ่งดาราพูดเร็วมากกก พูดพร้อมกันหลายคน5555 เพราะความรัก เราก็ต้องรีบอ่าน รีบอ่านซับ จนมันชินไปเองอ่ะ ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองอ่านบทความภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นเยอะมากก

6. Search ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ
   สงสัยอะไรก็เสริชเป็นอังกฤษเลย แบบตอนทำรายงาน หาข้อมูลเนื้อหาไรงี้ เราไม่เสริชเป็นไทยเลยนะ เสริชแต่อังกฤษ นอกจากจะฝึกภาษาแล้ว บางครั้งเราก็ได้ข้อมูลที่ถูกต้องด้วย

7. ใช้ dictionary อังกฤษ + ศึกษา example sentence*****
   หลายคนชอบใช้dictไทยอ่ะ แล้วก็จำแค่ความหมาย จำเป็นกรุ๊ปความหมายเฉยเลย เราขอแนะนำให้ใช้dict eng-eng คือบางคำศัพท์ มันก็ได้มีคำไทยมาแทนได้ทุกคำนะ แล้วศึกษาประโยคตัวอย่างด้วย จะได้เข้าใจมากขึ้นว่าคำนี้ต้องใช้กับบริบทไหนยังไง ต้องใช้กับ preposition ตัวไหน คำพวกนี้เป็น part pf speech อะไร 
    อีกอย่างคือ ถ้าเราใช้ dict eng อ่ะ บางทีเราเจอคำที่ไม่เข้าใจในคำอธิบายหรือในตัวอย่างประโยค เราก็เสริชไปเรื่อย ได้ศัพท์เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
  หรือต่อให้ใช้ dict Thai อ่ะ พอเราได้คำศัพท์คร่าวๆมา เราจะมาเช็คกับ dict eng ต่อ ว่ามันใช้กับบริบทไหนยังไง 

8. ดูหนังภาษาอังกฤษ ซับอังกฤษ
    พอเรื่มเก่งกาจขึ้น ดูหนังได้ก็ดู แต่ส่วนตัวเราเอง เราไม่ชอบดูหนังอ่ะ ชอบดูรายการทีวีมากกว่า อันนี้จะช่วยเรื่องการพูดให้เป็นธรรมชาติ การออกเสียง การเลือกใช้คำ บางคำที่เรารู้จักกันอ่ะ มันอาจไม่ถูกเอามาพูดในชีวิตประจำวันด้วยซ้ำอ่ะ555555 ยกตัวอย่างเช่น nail, Screw(อันนี้เราได้ยินบ่อยมาก)
   ถ้าการออกเสียงยังไม่ชัดมากพออ่ะ แนะนำให้ดูหนังอเมริกา[ฟังง่าย]หรืออังกฤษ[ฟังยาก5555] เพื่อจะได้เอาการออกเสียงให้ถูกต้องงง แต่ละประเทศมันจะมีการออกเสียงบางคำที่ต่างจากอังกฤษหลักอ่ะ? ง่ายๆเลย คนเกาหลี ก็จะพูดอังกฤษแบบนึง ไทยพูดแบบนึง จีนพูดแบบนึงไรงี้

9. Italki 
  เว็บหา language partner หาเพื่อนต่างประเทศ มาฝึกภาษาแบบฟรีๆ language partner จะคล้ายๆเพื่อนอ่ะ คุยเรื่องทั่วไป ปรึกษาปัญหาบราๆ555555 แต่ข้อเสียคือ language partner ก็เป็นคนที่สนใจในภาษาอังกฤษ อยากฝึกภาษาอังกฤษแบบเรา ดังนั้นเวลาคุยด้วย อาจจะเจอแกรมม่าแปลกๆไปมั่ง อีกอย่าง เราเคยวอยซ์คอลกับพาร์ทเนอร์ เพื่อฝึกพูด  การออกเสียง***ไม่ใช่สำเนียง*** ก็จะแปลกๆมั่ง เหมือนกับว่า เขาช่วยแก้ให้เรา เราก็ช่วยแก้ให้เขา ทีนี้เราเริ่มอยากฝึกพูดจริงจัง ก็เลยใช้บริการ finding teacher ใน italki เนี่ยแหละ
เรียนอังกฤษออนไลน์ มันเวิร์คมากกกกก หรือเพราะเราได้ติวเตอร์ดีไม่รู้ ใครที่อยากเรียน conversation แต่ไม่รู้จะเรียนที่ไหนยังไง ขอแนะนำเว็บนี้ ราคามีหลายเรท ที่เราเรียนก็ชั่วโมงละ 200 บาท ฝึกพูดโต้ตอบหัวข้อยาวๆ ฝึกแสดงความคิดเห็นให้เป็นธรรมชาติ การออกเสียงให้ถูกต้อง 
ปล เราเรียนมาได้ 3 เดือนหล่ะ ดีมากกกกกกก 

10. คิดเป็นภาษาอังกฤษ [พูดคนเดียวเป็นภาษาอังกฤษ]
  เชื่อว่าหลายคนชอบพูดคนเดียว/คิดคนเดียวเป็นภาษาไทย55555555 ลองเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษดูนะ
ตอนเด็กน้อยม.ต้นอ่ะ เราคิดเป็นไทยก่อนจะพูดเป็นอังกฤษ55555 แล้วทีนี้ได้ยินใครพูดไม่รู้ ถ้าจะพูดอังกฤษได้ ต้องคิดอังกฤษ พูดอังกฤษไปเลยย

11. เกม Choice
เกมนิทานทางเลือก ให้เราเป็นตัวเอกในนิทาน แล้วเรากำหนดชะตาชีวิตเราเอง มันจะมีช๊อยส์ให้เลือกอ่ะ ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ จะทำยังไงต่อ อยากตอบคนนี้ว่ายังไง เป็นเกมที่สนุกมากๆๆๆ เนื้อเรื่องมันน่าติดตามจริงง แล้วก็ฝึกภาษาอังกฤษได้ดีด้วย 


เราเป็นคนตั้งกระทู้  แต่เรายังต้องพัฒนาตัวเองอยู่เลย5555555 เราอยากใช้มันได้อย่างเป็นธรรมชาติจริงๆนะ มาพยายามไปด้วยกันนะ ️

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

hispeechless 27 เม.ย. 62 เวลา 20:35 น. 1

ขอพยายามไปด้วยคนค่ะ ภาษาอังกฤษเราพูดไม่คล่องเลย ใจอยากพูดแบบนี้แต่ก็นึกภาษาอังกฤษไม่ออก เป็นเพราะเราคิดเป็นไทยก่อนด้วยล่ะมั้ง อยากนึกเป็นภาษาอังกฤษเลยได้จัง 55


ขอบคุณที่ทำให้เรารู้จัก Quora ^^


ช่วงนี้เราดูหนังใน netflix บ่อยๆ ค่ะ รู้สึกว่าฟังดีขึ้นอยู่หน่อย


ฟังเพลงอังกฤษด้วย แต่ส่วนใหญ่จะฟังแบบผ่านๆ เลยต้องฝึกแปลเพลงด้วย จะได้รู้ว่าเพลงหมายถึงอะไร ตอนเสิร์ชหาความหมายบางทีเจอเป็นภาษาไทย ก็จะผ่านๆไป แต่พอหาความหมายเป็นภาษาอังกฤษแล้วเราไม่รู้ทันที เราต้องอ่านตัวอย่างประโยคก่อนถึงจะเข้าใจ มันเลยทำให้เราจำได้นานขึ้น


ขอบคุณที่แนะนำนะคะ เราจะเอาไปปรับใช้ให้ภาษาอังกฤษดีขึ้นให้ได้เลย!! https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-01.png



2
Smilkz 30 เม.ย. 62 เวลา 19:07 น. 1-1

ถ้าตัวเองยังรู้สึกว่าดู netflix แล้วไม่ค่อยเก็ทที่มันพูดเท่าไหร่ แบบพอปิดซับ แล้วตัวเองจับ"ใจความ"ปยอะไรไม่ได้เลย เราแนะนำให้ดูการ์ตูนก่อนนะ มันจะพูดช้า แล้วก้ศัพท์ง่ายกว่ามากเลย

ลำดับการฝึกดูคลิปต่างๆของเราเป็นภาษาอังกฤษนะ

1. The face UK(ไม่รู้เรื่องเลย) พอเรารู้ว่าเราไม่เข้าใจมันจริงๆ จับไรไม่ได้เลย เราเลยไปดู 

2. Barbie + ฟัง Podcast นิทานก่อนนอน ( ลองเสริชว่า bedtime story ก็ได้ ) 

3. Masterchef USA (สำเนียงเมกาฟังง่าย) ดูไปเยอะมากๆๆ

4. สารคดีประวัติราชวงศ์อังกฤษ ( เราติ่ง British Royal Family ) แต่ปรากฎว่าฟังไม่รุ้เรื่องเลย คนสมัยก่อน พูดสำเนียงบริทิชจ๋ามาก ก็เลยกลับมาดูหนังเมกาที่นักแสดงพูดเร็วขึ้น วัยรุ่นหน่อยๆ >>ปัจจุบันนะ

6.Grey's anatomy หนังใน Netflix ต่างๆ เน้นพวกเมกันก่อน555555 ( เอาตรงๆตอนนี้ก็ยังฟัง Sherlock ไม่รู้เรื่อง55555 เพาะบริทิชจ๋ามากๆ )

การฝึกอังกฤษทุกอย่างทีเราพูดถึง คือเราเริ่มช่วงมีนา 2017 นะ

ตัวเองไม่ต้องไปไล่ดูตามเรานะะ แต่เราอยากให้ตัวเองเห็นถึงวิธีการพัฒนาการฟังของเรามากกว่า เผื่อตัวเองอยากเอาไปปรับใช้นะ~

0
hispeechless 1 พ.ค. 62 เวลา 17:51 น. 1-2

ขอบคุณมากน้าา เราดู the flash ใน netflix ฟังพอรู้เรื่องแค่ตอนที่พูดช้าๆ ถ้าเร็วเกินก็ยากไป 555

ส่วนใหญ่เราจะดูการ์ตูนญี่ปุ่นมากกว่า พอมาคิดๆดู แล้ว เราก็ข้ามขั้นไปจริงๆ อย่างที่จขกท. บอกเลยค่ะ แต่ก็จะลองหาการ์ตูนฝรั่งดูค่ะ ค่อยๆ พัฒนาตามลำดับขั้นไปเนอะ ^^


ระดับ Sherlock นั้นโหดไปมากกกก https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-11.png


จขกท. เก่งมากเลยน้า พยายามทำต่อเนื่องมาตลอด เราจะมีเบื่อๆ ก็เทบ้าง ต้นเหตุมันอยู่ที่ความขี้เกียจนี่เอง -0-



0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ซื้อขาย / แลกเปลี่ยน คอร์สกวดวิชา กรุณาไปที่ www.dek-d.com/education/tutorcenter