มาเลี้ยง Cactus กันเถอะ
ตั้งกระทู้ใหม่
ดีจ้าชาวเด็กดีทั้งหลาย
ผมระเบียงแคคตัสจะมาพาชาวเด็กดีไปรู้จักกับพืชจำพวกสกุล Cactus หรือ กระบองเพชรทั้ง
เอ้า อย่าเพิ่งนึกถึงหนามสิ ผมจะมาพาทุกท่านไปชมความงามของกระบองเพชรกันนะครับ
หากให้นึกถึงกระบองบองเพชรหลายคนมักจะนึกถึงภาพนี้!
( ที่มาภาพ Pampa )
แต่จะมีกี่คนกันเล่าที่นึกถึงภาพนี้!
(ที่มาภาพ pinterest.com )
วันนี้ผมจะช่วยลดภาพหนามคมๆของพวกแคคตัสให้ความน่ากลัวกลายเป็นความงดงามกัน(ไม่มากก็น้อย)
Cactus คืออะไร
แคคตัสหรือกระบองเพชร เป็นสกุลของไม้ทนแล้งจำพวกหนึ่ง ในวงศ์ Cactaceae เป็นพืชที่อยู่ในทะเลทรายเสียส่วนใหญ่ บางครั้งแคคตัสก็สามารถเติบโตในป่า หรือกระทั่งริมทะเลกันเลยนะครับ
แคคตัสมีสกุลย่อยมากมายถึง 127 สกุล และมากว่า 1,000 ชนิด ที่ต่างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมากมาย บ้างมีหนาม บ้างก็มีใบ(ไม่ได้ล้อเล่นนะ) บ้างก็มีขน หรือจนมีแต่ต้นเปล่าๆก็มี
มาถึงตรงนี้แล้วก็จะเริ่มเห็นความหลากหลายมากยิ่งขึ้นแล้วแต่ผมจะมายกตัวอย่างสกุลพันธ์ุที่เหมาะกับมือใหม่มาสัก 3 สกุลก่อนก็แล้วกัน ที่ผมชอบ (ข้อมูลต่อไปนี้มาจากทั้งการศีกษาและการเลี้ยงเองของผม)
1. Gymnocalycium (ยิมโนคาไลเซียม)
สกุลนี้เป็นสกุลที่ผมแนะนำให้หัดเลี้ยงเป็นต้นแรก เพราะเขาอึดมากๆ สกุลนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบสีสัน ความเรียบง่ายแต่น่าเกรงขาม ตัวอย่างเช่น
ต้นนี้เป็น พันธุ์ mihanovichii หรือมิฮาโนวิชี มีจุดเด่นที่หนามและลายบนต้น (ที่มาภาพ giromagi.com
พวกนี้เป็นยิมโนหลากหลายพันธุ์มารวมกัน ซึ่งยิมโนเหล่าได้กลายพันธุ์เป็น ด่าง เรียกว่า variegata จุดเด่นคือ สีสันที่สวยและหลากหลายมากมาย แต่ข้อเสียคือจะโตช้ากว่าปกติเพราะมีครอโรฟิลที่น้อย ( ที่มาภาพ pinterest.com )
ต้นนี้เป็นพันธุ์ LB 2178 ไม่มีหนาม มีขนๆแทน จุดเด่นคือ มีพูสวย และยังมีลายงามมากด้วย (ที่มาภาพ PicClick )
เจ้าตันนี้กลายพันธุ์เป็นรูปที่บิดเบี้ยวซึ่งเรียกว่า คริสตาต้า (Cristata) เป็นพันธุ์หายาก แบบ1ใน100,000 และราคาก็ สูงมากๆด้วย(บางต้นเป็นล้าน) (ที่มาภาพ PicClick )
สรุป: เลี้ยงง่าย 5 ดาว
ต้องการแดดประมาณ 50%-70%
ต้องการนํ้า สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
ความหลากหลาย 3 ดาว
2.Mammilaria (แมมมิลาเรีย เรียกสั้นๆ แมม)
สกุลนี้มีจุดเด่นคือจะไม่ค่อยเป็นพู เหมือนยิมโนนัก เหมาะกับคนไม่ชอบหนามมาก(ยกเว้นบางพันธุ์) ชอบที่สวยน่ารัก การดูแลจะต่างกันบ้างเพราะส่วนใหญ่จะมีขนมาก ยกตัวอย่างเช่น
พันธุ์นี้แมมชูแมน จะเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เป็นพูจะเป๊นตุ่มๆ เรียกตุ่มหนาม/ตุ่มขน พันธุ์สวยมากแต่หนามนี่บรื๋ออออออ (ที่มาภาพ Chow Cactus )
ต้นนี้ คือ แมมขนนกทอง ( schiedeana ) ต้นนี้ปลอดภัยไร้หนามสวยน่ารักมากๆ ก็ราคาไม่แพงมากนัก แค่เวลาเลี้ยงให้อย่าโดนฝนติกต่อกันนานหลายวันนัก เดี๋ยวจะขนร่วง แล้วหาว่าหล่อไม่เตือน (ที่มา Imgrum )
เจ้าขนปุยต้นนี่เป็นญาติๆกันกับ ขนนกทองเมื่อสักครู่นี้ ชื่อของมันคือ ขนนกขาว ( plumosa ) ราคาก็พอเหมาะ ถ้าโตแล้วแตกเนี่ยน่ารุกฝุดๆไปเลย (ที่มาภาพ Twitter )
มาถึงต้นที่ ระเบียงแคคตัส เห็นแล้วอยากได้ที่สุดกันแล้วนะครับ ต้นนี้ คือ แมมแม่เฒ่า (haniana) แบบที่ได้การคัดพันธฺุ (var.) เรืยกอีกชื่อ คือ ซุปเปอร์บาร์ จุดเด่นคือ ยิ่งนางโต ขนยิ่งยาวสลวย ราคาก็จะมากขึ้นตามขน ขนยาวสวยมากหน่อเยอะ ราคาก็อาจเด่งไปถึง หลักหมื่นกันเลยทีเดียว (ที่มาภาพ cacti.co.nz )
เอาล่ะครับมาถึงตัวท้ายของสกุลนี้แล้ว ต้นนี้เป็นแมม pilcayensis ที่กลายพันธุ์ ( อีกแล้ว ) โดยตัวน้องจะขดไปขดมา เป็นเหมือนสมองคน ด้วยความงามพิศดารที่ไม่ธรรมดา ราคาจึงไม่ธรรมดาไปด้วย (ที่มาภาพ Cactus & Succulents - zoisrus )
สรุป: เลี้ยงง่าย 4 ดาว
ต้องการแดดประมาณ 50%-100%
ต้องการนํ้า สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ( น้องไม่ชอบฝนเป็นพิเศษ )
ความหลากหลาย 4 ดาว
3.Astrophytum (แอสโตรไฟตัม )
ปิดท้ายสกุลนี้เลย สกุลนี้มีควาหลากหลาย เยอะแยะละลานตามากจนขนาดระเบียงแคคตัสยังงงเลยครับ555 จุดเด่นคือ มีขนจุดๆและรูปร่างที่มีความหลากหลายไม่ซํ้าใคร แต่ก็ต้องระวังด้วยนะสกุลนี้เปราะบางมาก เพลี้ยนิดเดียวก็เดี้ยงได้
เปิดสกุลด้วยความพิศดารเจ้ากิ่งไม้นี้มีชื้อเก๋ๆว่า คาปุด เมดูซ่า ( Caput medusa ) ปกติต้นเขาจะอยู่ใต้ดิน แต่ที่เห็นตอนั้นเป็นเทคนิคการกราฟ ซึ่งจะมาสอนในกระทู้ต่อๆไป แหม ดูๆไปยังกะต้นหอม (ที่มาภาพ GymLive )
เจ้าต้นปุ๊กลุกนี้มีนามว่า Asterias nudam ( แอสทีเรีย นูดัม ) ก็จะเห็นขนจุดๆกระจุกเป็นกลุ่มก้อนน่ารักตามพูต่างๆ(ที่มาภาพ Cactuspedia )
เจ้าต้นนี้เรียกว่า myriostigma หรือชื่อไทยงามๆ หมวกสังฆราชขาว ซึ่งพวกนื่มีทั้งแบบ 3พู/4พู/5พู มีขน/ไม่มีขน หรือมีลายด่างก็มี เลือกที่ชอบกันได้เลย (ที่มาภาพ mycactus )
ส่วนต้นนี้เรียกว่า ซุปเปอร์คาบูโตะ จะสังเกตเห็นได้ว่ามีทั้งจุดใหญ่จุดเล็กหลากหลาย ใครชอบก็เตรียมตังค์ให้มั่นเจ้าของร้านยังแอบกระซิบว่าแพงสุดในสกุล (ถ้าไม่กลายพันธุ์ ) (ที่มาภาพ Alsagarden )
ต้นนี้มีชื่อง่ายๆได้ใจว่า V type จุดเด่นก็ตามชื่อ ขนเขาจะเรียงเป็นตัว V ยิ่งเรียงสวยยิ่งแพงนะจ๊ะ (ที่มาภาพ eBay )
ซึ่งความบันเทิงในการเลี้ยงพวกนี้ คือ ตอนผสมเกสร เช่น คุณเอาซุปเปอร์คาบูโตะมาผสมกับ V type ลูกๆก็อาจจะมีหน้าตาคล้ายๆแบบนี้
(ที่มาภาพ Cactus Art.biz )
แล้วถ้ารุ่นลูกไปผสมอีกล่ะก็ บันเทิงเลยล่ะครับ
ปิดท้ายด้วยแคคตัสกลายพันธุ์ มาเป็นทีม X Cactus เอ๊ยไม่ใช่ ! นี่ คือแอสทีเรียที่ทุกท่านเคยเห็นสักครู่นี้ แหมกลายพันธุ์แล้วจำนายแทบไม่ได้เลย (ที่มาภาพ llifle )
สรุป: เลี้ยงง่าย 3 ดาว
ต้องการแดดประมาณ 50%-80%
ต้องการนํ้า สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
ความหลากหลาย 5 ดาว
จบช่วงแนะนำสายพันธุ์
เอาหล่ะหยุดโชว์ภาพมาก ลิขสิทธิ์เยอะหลังนี้จะเป็นเทคนิคการเลี้ยงแคคตัสให้รอดโดยจะแบ่งเป็นข้อๆนะครับ
1.แดด
พืชทุกชนิดต้องการแดด แคคตัสก็ไม่ต่างกัน แต่มันจะผู้เลี้ยงที่รู้ครึ่่งเดียวอยู่สองกลุ่มได้แก่
ความเชื่อ1:แคคตัสมาจากทะเลทราย ก็ต้องเลี้ยงไว้กลางแดด
ความจริง:จริงอยู่ที่แคคตัสมาจากทะเลทราย แต่แคคตัสก็ในไทยมานานแล้วเหมือนกัน(น่าจะตั้งแต่ก่อน 2500อีก) ดังนั้นรุ่นลูกๆ ก็จะปรับตัวจนชินกับอากาศบ้านเรา ถ้าอยู่กลางแดดมากพวกที่หนามน้อยขนน้อยผิวจะไหม้เกรียมแห้งตายได้ ยกเว้นถ้าคุณไปซื้อแคคตัสจากทะเลทรายหรือต่างประเทศ พวกนี้ต้องมีการปรับระยะหนึ่ง
พอผมพูดแบบนี้มันก็ต้องมีอีกพวกแบบ (เจอแบบนี้มีหัวร้อน)
ความเชื่อ2:แคคตัสมันปรับตัวแล้ว งั้นเลี้ยงในร่มได้
ความจริง: ผมไม่เถียงว่ามันปรับต้ว แต่เลี้ยงในร่มมันก็เกินไป และแคคตัสจะเลื้อไปหาแสงแดดดูไม่งามอีก และอาจทำให้แคคตัสไม่ได้สร้างอาหารจนตายได้เช่นกัน
งั้นแดดแบบไหนเลี้ยงแคคตัสได้ล่ะ? ง่ายมากเลย หากเราจับแคคตัสแน่นไปคุณจะเจ็บ ส่วนถ้าเราจับแคคตัสหลวมไปแคคตัสจะหล่น ดังนั้นคุณต้องเดินสายกลาง โดนให้แดดที่เป็นกลาง ("เดี๋ยวไปบวชได้เลย" เจ้าอาวาสได้กล่าวไว้)
แดดรำไร(50%)เป็นแดดที่แคคตัสทุกชนิดรับได้ อาจโตช้าบ้างบางชนิดแต่ชัวร์ว่ากำลังโอเค
TIP:ขน/หนามยิ่งมากและแน่นก็ต้องการแดดมาก(ขนมันบังแดด)
2.นํ้า
นํ้าเป็นสิ่งแคคตัสต้องการในการดำรงชีพแต่การรดนํ้าของมือใหม่หลายคนเนี่ยสิ เห็นแล้วสงสารแคคตัสแทน
วิธีการรดนํ้าที่ผมแนะนำคือรดที่ดินโดยตรงเลย เพราะถ้านํ้าโดนแคคตัสมากจะเป็นคราบติดไม่สวย และบางต้นอาจขนร่วงได้ ส่วนการรดนั้นให้รดตอนดินแห้ง โดย...
มือใหม่:แล้วดูยังไงว่าดินแห้งอ่ะ
นี่! กำลังจะบอกอยู่ (ผมคุยคนเดียวบ้าแล้ว) วิธีดูว่าดินแห้งยังให้เอาไม้จิ้มฟันจิ้มลงดินหากมีเกาะไม้มาอย่ารดดินยังไม่แห้งนะ ถ้าไม่มีแม้เศษดินติดก็เชิญรดได้เลย
TIP:แคคตัสชอบนํ้ามากแต่ไม่ชอบนํ้าบ่อยนัก ถ้าเพิ่งรดเมื่อวานแล้วฝนตกวันนี้ ควรรีบเอามาไว้ในร่มด่วนเลยเหนื่อยแต่ปลอดภัยนะ แคคตัสจะไม่เน่า
TIP2:รดให้ชุ่มกระถางเลยนะ
3.ปุ๋ย ดิน และยาต่างๆ
ดินที่ปลูกแคคตัสควรจะโปร่งปานกลาง เพราะรากแคคตัสจะชอนไชได้ง่ายและอีกอย่างคือปุ๋ย คุณควรใส่ปุ๋ยทุกๆ3เดือน ถ้าไม่สะดวกหาปุ๋ยคอกก็ใช้ปุ๋ยละลายช้าออสโมโคทได้เหมือนกัน
ส่วนด้านยานั้นคุณควรมี ปูนแดง/ผงอลูมินัม(ใช้ในการทาแผล) ยาเร่งรากทั้งแบบผงและนํ้า(กรณีที่ต้องชำหน่อ) ยากันเพลี้ย(หลายๆยี้ห้อใช้สลับกันจะทำให้เพลี้ยไม่ดื้อยา) การใช้ยาก็ตามโอกาสครับ ด้านกันเพลี้ยใส่ทุกเดือนเพื่อความปลอดภัย
4.การสังเกตและความรัก
ตอนเช้าลืมตาขึ้นมามองแคคตัส ยามเช้าตรู่ แอบลูบแคคตัสเบาๆมันจะรู้บ้างไหม คุณควรลุกขึ้นมามองดูแคคตัสในตอนเช้าคอยดูพวกมันอย่างอ่อนโยน ต้นนี้สบายดีไหม ต้นนี้โตขึ้นรึเปล่าทุกๆวัน เชื่อผมสิมันมีความสุขกว่าที่คิดไว้
เอาล่ะครับกระทู้คงจะจบลงเท่านี้ ถึงผมจะไม่ใช่นักพฤกษศาสตร์ แต่ก็พอมีความรู้เรื่องแคคตัสอยู่บ้าง หากมีคำถามอะไรก็ถามเข้ามาได้นะครับ
สุดท้ายก็ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงแคคตัสกันนะครับ
6 ความคิดเห็น
เคยเลี้ยงต้นหนึ่งตายครับ...
#ต้องเป็นคนยังไงเนี่ย
แอสโตรผมก็เคยโดนเพลี้ยรุมตายครับ แต่พอเลี้ยงเรื่อยๆเราก็จะสังเกตได้ว่าต้นไหนเป็นอะไรบ้างครับ
ลองเลี้ยงต้นถูกๆดูก่อน(จะได้ไม่เสียตังค์มาก) ลองทำตามทริคที่ผมแนะนำครับถ้าเขาออกดอกเราจะชื่นใจมากเลยครับ
ส่วน ต้องเป็นคนยังไงนะเหรอ ต้องบ้ามากที่จะจริงจังกับเรื่องเล็กๆแบบนี้ 555+
ล้อเล่นนะครับ จริงๆต้องละเอียด อดทน และก็ช่างสังเกตครับลองเลี้ยงเรื่อยๆนะครับ
(พูดแล้วรู้สีกหล่อขึ้น)
เอาไม้ส่วนนึงของที่บ้านมาแปะครับ ใครผ่านมาเห็นก็เอามาอวดกันได้นะครับ
น่ารักดีนะ อิซินอฟเป็นพี่ใหญ่
น้องยิมโนสีม่วงน่ารักจัง ใช่เดย์ดรีมป่าว พอดีเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ครับ
นี่ถ้าลองจัดเป็นสวนถาดนี่สวยมากเลยนะครับ
น้องเป็นยิมโนธรรมดานี่แหละครับ ไม่ใช่เดรดรีม น้องแค่โดนแดดเยอะไปจนสีเปลี่ยน
ส่วนเรื่องสวนถาดนี่ผมขอผ่านดีกว่าครับ
เพราะถ้าจัดคงดูแลลำบาก ขอเลี้ยงแยกต่อไปดีกว่าครับ ตอนนี้ยิมโนต้นใหญ่มีดอกมาให้ชมแล้วครับ
เพิ่งจะเห็นกระทู้. ที่จริงเป็นคนชอบกระบองเพชรมากค่ะ. ดูเหมือนไม่มีอะไร มีแต่หัวกะหนาม. แต่เราชอบที่นอกจากหัวกับหนามยังมีดอกที่น่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ ใครว่ากระบอกเพชรเลี้ยงง่ายเราขอเถียง. เพราะเราเลี้ยงแล้วไม่เคยรอด. ส่วนที่รอดก็โตมาแบบไม่สวยงาม กี่ปี่ๆ ก็ยังไม่เห็นดอก เลี้ยงจนท้อ. 555
น่าสงสารนะครับ ถึงจะเป็นแค่งานอดิเรกก็เถอะแต่ว่าท้อง่ายจริง
ของผมเลี้ยงตามสเต๊ปที่ว่าครับได้ดอกสวยมากเสียดายดอกโรยก่อนถ่ายมาให้ดูบ่ทัน
เดี๋ยวมีรูปให้กำลังใจนะครับ
พวกนี้เป็นตัวอย่างพันธุ๋เลี้ยงง่ายๆแต่ดอกงามมาก
มีรายนามดังนี้
1.Lobivia (สกุลนี้มีรูปแบบดอกหลากหลายและงดงามที่สุดในบรรดาแคคตัสครับ)
2.Gymnocalycium จำไม่ได้ ไม่ทราบแน่ชัดว่าพันธุ๋อะไรเพราะรูปนี้เซฟไว้นานแล้ว(ลืมครับ)
3.Gymnocalycium จำพวกหนามเดี่ยว
4.Astrophytum Asterias แบบที่เห็นเป็นพันธุ์ผสม เรียกว่า shinsova จะมีดอกเป็นเส้นฟอยๆน่ารักดี
เชื่อผมสิถ้าคุณรับเลี้ยงเขาตั้งแต่เล็กจนออกดอกจะตื้นตันมาก
มันเหมือนรางวัลตอบแทนที่เราดูแลมันนับปี สู้ๆนะครับ
เคยเลี้ยง lobivia กับพันธ์ุอื่นที่ไม่รู้ว่าพันธ์ุอะไร
ไม่รดน้ำน้อยไปก็รดน้ำมากไป. ไม่เน่าตายก็เหี่ยวตาย. แต่ loblvai เลี้ยงง่ายจริงค่ะ. กับอีกสองสามพันที่ยังไม่ตาย. เลี้ยงมา7 ปี โตขึ้นมาหน่อยเดียว. ไม่มีดอก. ส่วนอีกพันก็สูงเป็นฟุต แต่ไม่มีดอกเหมือนกันค่ะ สงสัยคงต้องลองใหม่
7ปี! ถือว่านานมากนะครับสำหรับแคคตัสที่ไม่ออกดอก(ไม่นับถังทองกับเมโลแคคตัสที่ต้อง10-20ปี) น่าจะเกิดจากการขาดสารอาหาร คุณเปลี่ยนกระถางเปลี่ยนดินรึเปล่าครับ
เปลี่ยนค่ะ. รากมีไม่เยอะมั้งคะ. ตอนแรกคิดว่าจะตาย บางอันพอเปลี่ยนกระถางก็เหี่ยวตาย แต่ก็มีรอดมาได้. หลังๆ (ประมาณสองปีก่อน)ก็เปลี่ยนอีกรอบ. โตขึ้นมาอีกหน่อยนึง แทบไม่เห็นความแตกต่าง ตอนนี้ปล่อยตามยถากรรมเลยค่ะ 555
แต่แปลด พอไม่สนใจกลับไม่ตาย. แต่ไม่มีดอกเท่านั้นเอง
ลองใช้ปุ๋ยดูบ้างครับ
โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ
The Brain cactus seedsจะหาซื้อจากไหนครับ 0901976868
หมายถึงต้นที่ขดจนรูปร่างเหมือนสมองแบบรูปใช่ไหมครับ
พวกนั้นเป็นลักษณะที่กลายพันธุ์เรียกว่าคริสตาต้า ซึ่งก็เกิดได้กับหลายชนิด ทั้งยิมโน หรือในสกุลแมมมิลาเลีย
พวกนี้เป็นลักษณะกลายพันธุ์ที่หายากมาก(และแพงมากในบางสายพันธุ์) ต่อให้เมล็ดมาจากต้นที่กลายพันธุ์ ต้นลูกก็ไม่ได้มีโอกาสกลายพันธุ์ด้วย100% อย่างมากแค่เพิ่มโอกาสเล็กน้อย หรือก็คือไม่สามารถกำหนดแน่นอนได้ครับ ถ้าเป็นภาพแม่พันธุ์ต้นแบบนี้ขายราคาสูงๆในเว็บไม่แนะนำให้ซื้อเลยครับ คงต้องลองหาแบบต้นถึงจะชัวร์ ต่ำสุดของพวกสกุลแมม(ภาพที่สอง)ก็ไม่เกินร้อย ของยิมโน(รูปแรก)ก็ไม่เกินร้อยจนถึงราวร้อยต้นๆเช่นกัน ไม่นับพวกที่เป็นด่างนะครับ อันนั้นราคาน่าขนลุกไป
แต่ถ้าหมายถึงต้นแบบนี้
อันนี้เป็นสายพันธุ์ของเขาอยู่แล้ว(ชื่อสกุลนี้เรียกว่า echinofossulocactus) หาซื้อเมล็ดได้ตามเว็ปออนไลน์แบบShopee/Lazada
ส่วนที่ลงทุนให้เบอร์ติดต่อมาเนี่ย ผมก็จะบอกว่าส่วนตัวไม่ได้ถึงเซียนหรือขั้นเจ้าของสวน แค่ระดับนักสะสมเท่านั้นเองครับ ต้นพวกนี้ผมมีอยู่บ้าง แต่ผมทำใจขายไม่ได้หรอกครับ แฮะๆ
ป.ล. ลองหาพันธุ์ถูกๆเลี้ยงดูไปเรื่อยๆก่อนครับ หรือถ้าอยากเริ่มจากเจ้าต้นกลายพันธุ์ ผมก็แนะนำแค่กับยิมโนและแมมมิลลาเรีย เพราะพวกนี้เลี้ยงง่ายสุดแล้วครับ
ป.ล.ล.เหมือนผมเป็นผีเฝ้ากระทู้เลย มีข้อสงสัยอื่นก็ถามได้นะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?