6 เดือนที่ญี่ปุ่นกับทุน Asia Kakehashi Project
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่า
ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสติดตามบอร์ดเรียนต่อต่างประเทศไว้เยอะมาก เลยคิดว่าน่าจะถึงเวลาเเชร์ประสบการณ์ของตัวเองบ้างเเล้ว 555555
เราได้ทุนเต็มจำนวนของรัฐบาลญี่ปุ่นค่ะ แลกเปลี่ยนเป็นเวลา 6 เดือนกับโครงการ AFS ทุนนี้มีชื่อว่า Asia Kakehashi Project มีความหมายว่า "สะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศในเอเชีย"
การเตรียมตัว
เนื่องจากเราเป็นรุ่นเเรกของทุนนี้นะคะ เรียกได้ว่าเป็นรุ่นบุกเบิกเลยก็ว่าได้ 5555 ตอนสมัครเข้ามาไม่ได้มีการสอบแต่อย่างใดค่ะ คัดจากใบสมัครและเอกสารเพิ่มเติม (เราส่งพอร์ตไปด้วยค่ะ) ตรงนี้ไม่ได้โฟกัสเรื่องแผนการเรียนนะคะ สมัครกันได้ทุกคนค่ะ เพียงแต่ว่าถ้าคนที่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อนก็อาจจะได้เปรียบตรงเรื่องนี้เพราะอาจจะต้องใช้ อาจมองว่าง่ายแต่จริงๆแล้วไม่ได้ง่ายเลยนะคะ ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่กำลังจะตามมา 5555 หลังจากผ่านการคัดเลือกรอบเเรกก็จะมีการนัดสอบสัมภาษณ์ค่ะ ด่านนี้เเหละค่ะที่จะต้องเตรียมตัวมาให้พร้อม อาจจะเป็นด่านกำหนดโชคชะตาของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ ใครโชคดีมีบุญ มีดวงเสริมก็รอดค่ะ ใครไม่มั่นใจเรื่องบุญ เรื่องดวงว่าจะช่วยได้มั้ย ดูข้อต่อไปค่ะ
การสอบสัมภาษณ์
การสอบสัมภาษณ์ก็ปกติทั่วไปค่ะ การสัมภาษณ์อาจจะเจอทั้ง 3 ภาษา (ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น) แล้วเเต่ดวงนะคะ 555 อย่างเราเจอทั้ง 3 ภาษาเลยค่ะ โชคดีที่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นตอนเรียนมาเลยเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ พอถูๆไถๆไปค่ะ คำถามส่วนใหญ่จะเป็นคำถามปกติทั่วไป อย่างเช่น
-การแนะนำตัว
-ทำไมถึงอยากได้ทุนนี้
-มีความสามารถพิเศษคืออะไร
-เห็นว่าในเกียรติบัตรมีเข้าร่วมการแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่น พูดให้ฟังได้มั้ย (เราแนบลงไปในพอรต์ด้วยค่ะ ถ้าใครมีกิจกรรมเด่นๆอะไร อาจจะถูกถามตรงนี้ค่ะ)
-จุดเด่น จุดด้อย
ทำนองนี้ค่ะ และคำถามที่สำคัญจะเป็นคำถามที่จะวัดทัศนคติเราค่ะ ว่าเรามีความคิดเห็นอย่างไร การแก้ปัญหา มุมมอง ความคิด ต่างๆ นาๆ ตรงนี้ถ้าเราตอบได้ดี เป็นตัวของตัวเอง ดูธรรมชาติ จะสามารถดึงดูดคณะกรรมการได้ดีเลยล่ะค่ะ การตอบคำถามขอแนะนำว่าให้เราตอบตามความคิดของเราไปเลยค่ะ พยายามถ่ายทอดทัศนคติที่เรามีต่อคำถามและส่งต่อไปให้คณะกรรมการให้ได้มากที่สุดค่ะ แต่ไม่ดูเฟคมากไปนะคะ ที่สำคัญอย่าลน หรือเกร็งค่ะ จะทำให้เราดูขาดความมั่นใจ คณะกรรมการจะไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไหร่ค่ะ การตอบคำถามไม่มีถูกไม่มีผิดนะคะ ถ้าหากเราเตรียมตัวมาดี ตอบคำถามได้ตรงที่กรรมการชอบอาจจะมีโอกาสหน่อยนะคะ
แต่ว่าทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจการพิจารณาคำตอบของคณะกรรมการด้วยนะคะ
Orientation
หลังจากที่เราผ่านการสัมภาษณ์อะไรทุกอย่างเเล้วก็จะมีการเข้าค่ายเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางเป็นเวลา 3 วันค่ะ ในค่ายนี้จะมีเพื่อนๆจากประเทศกัมพูชา เมียนมาร์ ลาว เวียดนาม มาร่วมทำกิจกรรมที่ประเทศไทยด้วยนะคะ เราก็จะได้พบเพื่อนร่วมทางเพิ่มอีกค่ะ ในค่ายเราจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารร่วมกัน เพราะฉะนั้นภาษาอังกฤษสำคัญมากนะคะ เเนะนำให้น้องๆเตรียมตัวเผื่อไว้ด้วยก็ดีค่ะ จะได้ไม่ลำบากในการทำกิจกรรมร่วมกัน หลังจากเราผ่านการทำกิจกรรมที่ค่ายเสร็จเเล้วก็ออกเดินทางในวันต่อไปกันเลยค่ะ
วันเดินทาง
ช่วงที่เราออกเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเป็นช่วงเดือนสิงหาคมค่ะ หน้าร้อนของญี่ปุ่นเค้าพอดี อากาศค่อนข้างใกล้เคียงกับประเทศไทยเราเลยค่ะ หน้าร้อนจะร้อนมากและหน้าหนาวก็หนาวมากเช่นกันค่ะ เราออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 7:35 และถึงสนามบินนาริตะเวลาประมาณ 15:45 ของประเทศญี่ปุ่นค่ะ หลังจากนั้นจะมีรถบัสมารับพวกเราไปที่โรงแรมที่โตเกียวอีกทีนึงค่ะ เพราะเราจะต้องเข้าค่ายเตรียมความพร้อมอีก 3 วันค่ะ (ค่ายเยอะล่ะสิ!!)
Orientation at Tokyo
ในส่วนนี้เรื่องเนื้อหาจะไม่ต่างอะไรกับที่ไทยมากค่ะ มีเพิ่มแค่ในเรื่องของความปลอดภัย การเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นเพิ่ม อ้อ ค่ายที่นี่เราจะได้พบกับเพื่อนร่วมรุ่นของโครงการเราด้วยค่ะ ตอนรุ่นเรามีประมาณ 100 คนจากหลายๆประเทศ รุ่นต่อๆไปอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยมั้งคะ ค่ายที่นี่จะไม่ค่อยมีการ Entertain เท่าไหร่นะคะ ส่วนตัวชอบค่ายที่ประเทศไทยเรามากกว่าค่ะ ดูไม่เครียดดี เสร็จในส่วนนี้เราก็เตรียมตัวออกเดินทางไปเมืองที่เราอยู่เเล้วค่ะ เพื่อนพบปะกับ Host family หรือบางคนอยู่หอก็แยกย้ายกันไปค่ะ ส่วนตัวเราไปเดี่ยวเลยค่ะ ไม่มีเพื่อนอยู่ด้วยในละเเวกภูมิภาค แอบอิจฉาเพื่อนที่ได้อยู่จังหวัดเดียวกัน เเต่คิดๆดูเเล้วก็ดีกับตัวเราด้วยค่ะ อยู่คนเดียวก็ได้!!!
Host family
โฮสต์แฟมของเราค่อยข้างใจดีค่ะ ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้ สื่อสารกันด้วยภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียวเลยค่ะ บางทีเค้าก็จะพูดเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษสั้นๆกับเราด้วย น่ารักดีค่ะ ครอบครัวอบอุ่นมากค่ะ จริงๆเป็นครอบครัวที่ใหญ่มาก ญาติเยอะเหมือนกับประเทศไทยบ้านเราเลยค่ะ เวลามีโอกาสสำคัญๆต่างเช่น ปีใหม่ คริสต์มาส ก็จะพาเราไปบ้านคุณปู่ คุณย่าด้วยค่ะ ได้พบปะกับคนอื่นๆไปอีก ได้ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน ตื่นเต้นเเละสนุกมากค่ะ หลังๆก็รู้สึกรักและผูกพันธ์มากจนไม่อยากกลับไทยเลยค่ะ 5555
Host school
เราอยู่ที่จังหวัดคะกะวะ(จังหวัดที่เล็กที่สุดของประเทศญี่ปุ่น) ในภูมิภาคชิโกะกุค่ะ โรงเรียนของเราก็คือ Miki senior high school ค่ะ เป็นโรงเรียนสหศึกษาค่ะ พีคตรงที่ว่าเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนคนเดียวในโรงเรียนด้วยค่ะ ก่อนหน้านี้ก็มีนักเรียนเเลกเปลี่ยนระยะเวลา 1 ปีมาจากฟินเเลนด์ด้วยค่ะ และก็กลับไปแล้วเหลือเเค่เรา 5555 ชีวิตในโรงเรียนค่อนข้างสนุกและแฮปปี้ดีค่ะ ในตอนแรกก็ฟังเพื่อนๆไม่รู้เรื่อง ฟังไม่ทันค่ะ พูดเร็วมากบางครั้งเราก็จะบอกว่าฟังไม่ทัน เลยจะขอให้พูดช้าๆหน่อย เพื่อนก็จะเข้าใจละค่อยๆปรับตัวไปด้วยกันค่ะ เพื่อนๆค่อนข้างให้ความช่วยเหลือดีนะคะ โดยรวมถือว่าดีค่ะ เเต่ถ้าได้มีเพื่อนซี้เพื่อนสนิทละก็จะเป็นลาภอันประเสริฐไปอีกค่ะ แนะนำให้หาไว้สักคนนะคะ คอยรับฟังเราในเวลาที่เรามีปัญหาหรือท้อเเท้ หมดกำลังใจ คนญี่ปุ่นค่อนข้างใส่ใจค่ะ(พูดแล้วคิดถึงเพื่อนเลยค่ะ) เวรี่กู๊ดดดด
การปรับตัวเข้าหาเพื่อนๆญี่ปุ่น
บอกก่อนว่าเด็กญี่ปุ่นไม่ได้เหมือนในซีรีย์หรือการ์ตูนทั่วไปนะคะ อย่าได้กังวลไป 555
เนื่องจากว่าคนญี่ปุ่นค่อนข้างขี้อายค่ะ เเต่เค้าก็ Open นะคะ การเข้าหาแลกทำความรู้จักไม่ได้ยากมากเลยค่ะ ถ้าเรากล้าที่จะคุยกับเค้า ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน รอยยิ้มเราช่วยได้นะคะ เค้าจะดีใจด้วยค่ะที่เรายิ้มให้ หลังจากนั้นก็โบกมือทักทายไปค่ะ อาจจะแห้วบ้างเพราะเค้าไม่รู้ว่าเราส่งให้ก็อย่าได้ชะล่าใจไปนะคะ ทำบ่อยๆเดี๋ยวเค้าก็รู้ตัวค่ะ 55555 ที่สำคัญคนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษนะคะ ไม่ใช่ว่าเค้าพูดไม่ได้กันนะคะเค้าพูดได้ค่ะเเต่เค้าไม่กล้า แรกๆเค้าอาจจะเขินๆไม่กล้าพูดคุย แต่ถ้าสนิทได้เพื่อนซี้เมื่อไหร่ละก็พูดไฟแล่บใส่กันเลยล่ะค่ะ
เมื่อพบเจอปัญหา
แน่นอนค่ะว่าการที่เราไปอยู่ในต่างที่ต่างแดนกับบุคคนที่ไม่รู้จัก เราก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นอยู่เสมอในเรื่องของการปรับตัวต่างๆ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากค่ะ เเละการแก้ปัญหาก็คือแก้ปัญหาให้ถูกจุด โดยเริ่มจากตัวเราก่อนค่ะ เราอาจจะยังปรับตัวไม่ได้อาจจะต้องใช้เวลาค่ะ แต่ถ้าเป็นในกรณี่ที่ไม่ใช่เเค่เรา อาจจะมีปัญหากับโฮสต์แฟม โฮสต์สคูล ตรงนี้เราอาจจะแก้ไขปัญหาคนเดียวไม่ได้ให้ปรึกษากับ AFS Volunteer หรือ LP ในพื้นที่ของเราดูค่ะ เพราะเค้าจะเป็นคนที่คอยสนับสนุนเเละช่วยเหลือเราค่ะ อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดปัญหาขอให้มีสติค่ะ มีสติเเละคิดวิเคราะห์ สิ่งใดที่สามารถเเก้ไขได้ด้วยตัวเองให้ลองทำดูค่ะ สิ่งใดทำไม่ได้ก็ให้คนอื่นช่วยค่ะ ที่สำคัญต้องมีสตินะคะ เราจะไม่ได้เผลอทำอะไรลงไป เพราะมันอาจจะส่งผลต่อตัวเราในภายหลังด้วยค่ะ
และหลังจากนั้นเมื่อเวลาแห่งความสุขผ่านไปก็ถึงเวลากลับบ้านเราค่ะ 55555
หลังจากกลับมาเเล้วอย่าลืมติดต่อกับโฮสต์แฟมเราด้วยนะคะ เวลาที่เราไปแลกเปลี่ยนอาจจะดูเหมือนนานแต่จริงๆแล้วไม่นานเลยนะคะ อยากให้น้องๆได้ใช้เวลาให้คุ้มค่า อยากทำอะไรให้รีบทำนะคะ ก่อนที่จะหมดเวลาเเล้วมานั่งเสียดายที่หลัง และก็อยากให้น้องๆเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ให้ได้มากที่สุดเลยนะคะ เพื่อประโยชน์ของตัวเองในอนาคต หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับน้องๆที่สนใจเเละเก็บข้อมูลกับการเตรียมตัวเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ขอให้ทำได้ ขอให้ความฝันเป็นจริงนะคะ
AFS57 Asia-Kakehashi Project 2018(1st) THA-JPN (SMmxNH18)
21 ความคิดเห็น
เคเอ้บซีพี่หวาค่าาา
พี่คะในการไปสอบสัมนี่เราต้องนำพอร์ต หรือเตรียมการแสดงค.สามารถพิเศษไปมั้ยคะ????
เตรียมไปด้วยก็จะดีค่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าทางคณะกรรมการเค้าจะขอดูด้วยรึป่าวเนอะ
พี่คะคำถามที่เป็นภาษาญี่ปุ่นนี่มีประมาณกี่คำถามคะ??
ไม่เยอะมากนะคะ แล้วแต่กรรมการด้วย อย่างของพี่โดนไปประมาณ 4-5 คำถามค่า (ภาษาญี่ปุ่นนะ)
จะรบกวนถามเรื่อง...คชจ.ที่ตัวนร.ทุนต้องใช้แต่ละเดือนหน่อยคับ...ว่าประมาณเท่าไหร่.(พอดีลูกสาวได้ทุนนี้..รุ่น2)คับ
จริงๆแล้ว ก็แล้วแต่คุณพ่อจะสะดวกโอนให้เค้าเป็นรายเดือนได้เลยค่ะ ส่วนมากก็ค่ากินในเเต่ละวันของเค้า ค่าช้อปปิ้ง ซื้อของต่างๆนา นา ขึ้นอยู่กับว่าลูกสาวพ่อเป็นคนใช้เงินประมาณไหนค่ะ เพราะว่ายังไงเราเองก็แทบจะไม่ได้ออกค่าใชจ่ายส่วนตัวใดๆ แถมได้เบี้ยเลี้ยงรายเดือนประมาณ 3000 บาทไทยด้วยค่ะ
พี่คะ หนูลงทุน kakehashi รุ่น 2นะคะ ตอนนี้ผ่านข้อเขียนแล้ว กังวลพวกสัมภาษณ์มากเลยค่ะㅠㅠ เนื่องจากหนูอยู่ม.4 ศิลป์ภาษาญี่ปุ่น แต่เนื่องจากเพิ่งเรียน จึงอ่านได้แค่ฮิรา คาตา คันจิปลา แล้วก็บทสนทนาเบื้องต้นภาษาญี่ปุ่น ประมาณว่าพอเอาตัวรอดได้ เวลาอ่านป้ายอะไรพวกนี้ แต่ถ้าจะไปคุยกับเจ้าของภาษาแบบจริงๆจังๆหนูไม่คิดว่าจะสามารถขนาดนั้นค่ะ55555 แล้วการแข่งสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่น หนูว่าจะลงแข่งค่ะ แต่ระยะเวลามันคงไม่ทันรอบสัมอยู่แล้ว (ถึงทันก็ไม่รู้ว่าจะได้เกียรติบัตรมาลงพอร์ตรึเปล่า) เพราะการแข่งขันน่าจะแถวๆปลายปีนี้เลย ความสามารถพิเศษก็มีแค่วาดภาพ/ร้องเพลง ร่อยหรอมากค่ะ5555 ภาษาเกาหลีที่เคยเรียนมา ก็แค่อ่านออกเขียนได้ พูดได้เบื้องต้นแต่น้อยกว่าญี่เพราะ หนูไม่ได้เข้าศิลป์เกาจริงจัง จะเป็นอะไรไหมคะ ถ้าจะขอคำแนะนำเพิ่มเติม หรือพี่ทิ้งคอนแทคไว้ก็ได้ค่ะ
ไม่เป็นอะไรเลยค่า ดีส้ะอีกที่น้องมีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นติดตัวอยู่บ้าง แรกๆไปไหนอาจจะลำบากหน่อยแต่ไม่ต้องกลัวเวลาเดินทางไปไหนเค้าจะมีภาษาอังกฤษกำกับร่วมด้วยจ้า มีอะไรติดต่อไลน์พี่ได้เลย สู้ๆน้า
Line id : ppbb.09
ในแต่ละรุ่น มีไปกี่คนครับ เฉพาะคนไทย
แล้วเเต่เค้าจะรับด้วยค่ะ รุ่น 1 รุ่น 2 ก็มีไปประมาณ 13 -16 คน แล้วแต่จำนวนผู้สมัครในแต่ละรุ่นด้วยตอบไม่ได้เหมือนกันน้า
แล้วถ้าเราไม่มีพื้นฐานคด้านภาษาญี่ปุ่นเลยล่ะคะ คงต้องหมดสิทธิใช่มั้ย ㅠㅠ
ถึงแม้ว่ารุ่นหลังๆจะเริ่มมีการสอบวัดพื้นฐานความรู้ภาษาญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว แต่ว่าอย่าพึ่งท้อน้า ลองเรียนเองดูมั้ย อย่างน้อยก็ให้พอสื่อสารเอาได้ก่อน ไม่ต้องอิงไวยากรณ์มาก ถ้าเกิดผ่านการคัดเลือกแล้วจะมีการเทรนให้อีกทีน้า
พี่คะช่วยทิ้งลิ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบหรือว่าสถานที่สอบก็ได้ค่ะไว้ให้หน่อยได้ไหมคะ ถ้าไม่ว่าขออนุญาตแอดไลน์นะคะเผื่อสอบถามเพิ่มเติมค่ะ
ต้องคอยติดตามกับเว็บไซต์ AFS Thailand เอานะคะ จะมีประกาศเกี่ยวกับทุนนี้ไว้ค่า
https://afsthailand.org/
อยากทราบค่าใช้จ่ายทั้งหมดค่ะ
ทุนนี้เป็นทุนเต็มจำนวนนะคะ (ทุนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) ถึงแม้ว่าทางทุนจะมีค่ากิินให้เราทุกเดือน แต่เราก็ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนตัวไปเองนะคะ ก็กะเอาจากที่เราใช้กินอยู่ในไทยเลยค่าว่ามากน้อยแค่ไหนแล้วแต่ตัวบุคคลเลย
ตอนนี้ทุนยังมีอยู่มั้ยคะแล้วเข้าไปดูหน้าเว็บไหนของโครงการคะ;-;
ทุนนี้จะมีประกาศรับสมัครช่วงสิ้นปีถึงปีใหม่นะคะ ติดตามได้ที่เว็บไซต์ AFS Thailand เลย
แต่ตอนนี้มีรับสมัครรุ่น4 อยู่นะคะ
https://afsthailand.org/
(ปล.เค้ามาตอบช้าไปมั้ยนะ...)
หนูไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นเลยมีผลไหมคะ?
ไม่มีก็คาดว่าอาจจะใช้ชีวิตที่นู่นลำบากหน่อย แต่ศึกษาพื้นฐานไว้บ้างก็จะดีค่ะ ถือว่าเราเองก็มีการเตรียมตัว เพราะคนญี่ปุ่นเค้าไม่นิยมพูดภาษาอังกฤษกันนะคะ อย่างน้อยเราควรรู้เป็นประโยคสื่อสารพื้นฐานเอาไว้บ้างก็ดีค่า
ขอบคุณพี่ยี่หวาที่มาแชร์ประสบการณ์ให้กับน้องๆนะคะ
ขอถามหน่อยคะ
อยากไปแลกเปลี่ยนต้องเกรด เท่าไรคะ
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะไม่ต่ำกว่า3/3.5นะคะ และเกรดภาษาอังกฤษก็ต้องไม่ต่ำกว่า 3 ด้วยค่ะ แต่อาจจะมีเปลี่ยนแปลงได้ตลอดนะคะ ต้องคอยรอดูอัพเดทของแต่ละปีๆไปค่ะ
พี่ใช้เงินไปทั้งหมดเท่าไหร่
และในแต่ละเดือนใช้เงินเท่าไหร่
ของพี่ใช้ไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ เฉลี่ยรายเดือนก็ไม่เท่ากัน อย่างของพี่ใช้ไป 5,000บ้าง10,000 บ้าง ถ้าไม่ใช่สายช้อป มันแล้วแต่คนจริงๆค่ะ
เราอยากถามเกี่ยวกับการเขียนฟอมเอกสารนะ
ไม่เคยสมัครเลยไม่รู้จะทำยังไง
ข้อสอบเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษ
เอกสารส่วนมากกรอกเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็สามารถปรึกษาผ่านทางเมล์กับจนท.ได้ตลอดค่ะ ข้อสอบเขียน อันนี้ไม่ทราบนะคะ แต่ส่วนมากก็น่าจะเน้นภาษาอังกฤษค่ะ ยังไงก็สู้ๆนะคะ
ขอสอบถามเพิ่มเติมนะคะ
ไปเรียนที่โรงเรียนญี่ปุ่น6เดือน
ต้องกลับมาเรียนซ้ำที่โรงเรียนไทยไหมคะ
อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนเลยค่ะ ว่าจะเจรจากันยังไงของ จขกท.ทางโรงเรียนไม่ได้ให้ซ้ำนะคะ แต่ถ้ากลับมาแล้วก็ต้องมาตามเก็บทีหลังเอาค่ะ แต่บางโรงเรียนอย่างเพื่อน จขกท.ก็ให้ซ้ำนะคะ แต่ว่าจะเลือกทางไหนก็็เหนื่อยเหมือนกันอยู่ดีค่ะ
เคยเป็นยุวฑูตของกรุงเทพมหานครไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่นตอนประถม ประมาณ8-9วันครับ แบบนี้ทางโครงการจะตัดสิทธิ์ไหมครับ
อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ ส่วนมากก็จะมอบทุนให้กับคนที่ไม่เคยไปแลกเปลี่ยนมาก่อน ต้องลองติดต่อถามเจ้าหน้าที่ดูอีกทีนะคะ
สอบถามค่ะ คือว่าตอนที่สมัครสอบที่มีตรงให้เขียนภาษาญี่ปุ่นด้วยอ่ะค่ะ มันมีผลอะไรกับการคัดเลือกไหมคะpwp คือพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นเราไม่มีเลยค่ะTwT แต่สนใจโครงการนี้มาก ๆ ค่ะ
ขอสอบถามเพี่มเติมนะคะ เราอยากรู้ว่าหลังจากปิดรับสมัครแล้วนานมั้ยคะเขาถึงจะจัดสัมภาษณ์ . เราไม่เก่งอังกฤษเลยไม่รู้จะเรียนทันสัมภาษณ์มั่ย(ᗒᗩᗕ)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?