เวทมนตร์ vs พลังเหนือมนุษย์
ตั้งกระทู้ใหม่
สู้กับคนที่มีพลังไปในทางมนุษย์กลายพันธหรือพลังของเทคโนโลยีจากโลกอนาคต
ใครจะชนะ?
ออกความเห็นแล้วก็เหตุผลได้เลยนะครับ เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะไปในทิศทางไหน
20 ความคิดเห็น
ถ้าเป็นพระเอกใช้อะไรก็ชนะ ใช้กระทะยังได้เลย
ปล.ข้ามเมนต์นี้ไป555
มาแนวตลกเลยนะเนี้ย
ใช้กระทะ...
หนุ่มที่ชอบดึงกระทะหรือไม้เบสบอลเหล็กบางทีก็ดึงของอย่างอื่น เช่น แห ออกมาจากกลางหลังเอามาพะบู๊กับเหล่าอันธพาลทั้งเดี่ยวและแก๊งค์
มีวลีติดปากว่า "ตูข้าจะครองโลก!"
หรือ "ตูข้าไร้เทียมทานเฟ้ย!"
สินะ!!!
การ์ตูนเก่ายิ่งกว่าอายุบอร์ดนี้อีกนะนั่น....
หึหึหึหึหึหึหึหึหึหึ!!!!!!!!!!!!!!.............
เรื่องอะไรหรอครับ
เป็นอันรู้กัน!!
555555 กระทะในตำนานพ่วงด้วยสกิลพระเอก ขำแรง 5555
เอากระทะ มาฟาดหน้าแต่ละคน 5555
//หลบ!
ฐานทำให้กระทู้นี้กาว
เหมือนดู agent of shield ไหมนะ ไม่ก็ ดอกเตอร์สเตรง สู้กับไอรอนแมน?
ใครจะชนะนี่ มันขึ้นกับนักเขียนกำหนดมั้ยอะ
แล้วก็แล้วแต่โลกของเรื่องนั้นรวมทั้งข้อกำหนดทางพลังด้วยนะ
แต่เราว่าพลังจะบ้าขนาดไหน ก็ไม่น่าชนะถ้าอีกฝั่งมีไอคิวสูงกว่าอะนะ 555555
พูดเรื่องไอคิวนี่พาผมนึกถึง The Flash S.4 เลย ตัวร้ายภาคนี้ฉลาดเว่อ
เอาคห.นี้เป็นท็อปคอมเม้นได้เลย
แอบเอียงๆ ไปทางเวทมนตร์ เพราะมันปรุงแต่งได้ง่ายกว่า จริงๆ มันก็แล้วแต่คนอวยนะ 55
อันนี้แล้วแต่ความเห็นเลยฮะ แต่ถ้าเป็นผม ผมอวยพลังจากเทคโนโลยีนะ มันประยุกต์ได้หลากหลายดี นึกถึงคาบเคมีแล้วจับฮีโร่มาปล่อยสารในตารางธาตุใส่กันแล้วบันเทิงเลย 55
เวทมนตร์ ก็เป็นพวกใช้พลังเวทในการร่ายมนต์
พลังเหนือมนุษย์ ก็น่าจะนับเป็นประมาณผู้ใช้สแตนด์สินะ...
ผู้ใช้สแตนด์ชนะแน่นอน//ข้ามเม้นนี้ไป
Crazy diamond ซ่อมแซมให้เอ็ดคุง!!
ใช้Killer Queen แตะที่ตัวของเอ็ดคุง และกด!
เพราะข้าคือดิโอ!!!
The World!!! คูโจมาทัน
หยุดเวลาใช่มั้ย งั้นเจอการเร่งเวลาหน่อยเป็นไง!!! Made in heaven!
...จบ
เก่งแค่ไหนก็แพ้ปุ่ม รีเซ็ท
เร่งตอนหยุดมันก็เท่านั้น กระทืบไปที่มือkiller queen พอเวลาเดิน ต่อด้วยEchoes act3ที่มือคิระ
ตอนนี้จะช่วยเอ็ดคุงออกจาก เวทมนตร์killer queenยังไง ใครก็ได้ช่วยที
เปลี่ยนใหม่ละ มาแข่งเวทย์กับวิทยาศาสตร์ดีกว่า ใครเห็นด้วย จัดมา
โห่เอ้ย ไม่มีเลยอ่อ สมมติมีคนสั่งให้ฟ้าผ่าต้นไม้จนไฟไหม้ป่า ผมก็สั่งฝนเทียมมาดับอย่างงี้ไง
ฝนเทียมงั้นหรอ? งั้นใช้วิธีเผาดับแล้วกัน
เผาดับ???
ดับด้วยไฟ
เรียกวิธีนี้ว่า Backfiring อาศัยหลักการเดียวกับการดับไฟทางอ้อมด้วยแนวกันไฟ ความแตกต่างคือมีการขยายแนวกันไฟให้กว้างขึ้นอย่างรวดเร็วโดยใช้ไฟเผา วิธีนี้เสี่ยงมาก เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นนอกจากจะดับไฟไม่ได้แล้ว ยังจะทำให้ไฟยิ่งลุกลามออกไปใหญ่โต และเกิดแนวไฟขึ้นใหม่อีกแนวหนึ่ง จึงต้องใช้วิธีนี้ในกรณีจำเป็นจริงๆ และใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในการดับไฟเรือนยอดที่มีความรุนแรงมาก หรือใช้หยุดยั้งไฟเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในกรณีที่ไฟลุกลามเข้าใกล้แหล่งชุมชน หรือพื้นที่ที่มีค่าสูง
วิธีการดับไฟจะเริ่มต้นเหมือนการดับด้วยแนวกันไฟ คือต้องทำแนวกันไฟขึ้นก่อน หลังจากทำแนวกันไฟเสร็จแล้วแทนที่จะรอตั้งรับไฟที่แนวกันไฟ แต่จะใช้วิธีจุดไฟจากแนวกันไฟ เพื่อให้ไฟลุกลามสวนทางกลับไปหาแนวไฟป่า ไฟที่จุดขึ้นนี้เรียกว่าแนวไฟเผากลับ (Backfire) เมื่อแนวไฟเผากลับลุกลามไปบรรจบกับแนวไฟป่าจริง ไฟก็จะดับลงเนื่องจากขาดเชื้อเพลิง
การดับไฟป่าโดยวิธีนี้ จะต้องดำเนินการภายใต้การควบคุมของผู้ที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการเผากลับจริงๆ เท่านั้น เพราะการจุดไฟเผากลับให้ไฟลุกลามสวนทางลมหลักของแนวไฟป่าจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีบ่อยครั้งที่ผิดพลาดเพราะแนวไฟเผากลับสู้อิทธิพลความแรงของลมหลักไม่ได้ ทำให้เปลวไฟตีกลับและกระโดดข้ามแนวกันไฟ มีผลทำให้สถานการณ์กลับเลวร้ายยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ดังนั้นการปฏิบัติงานจะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด
- การสั่งการจุดไฟเผากลับต้องมาจากผู้รับผิดชอบการดับไฟป่าครั้งนั้น (Fire Boss) แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
- สั่งการจุดไฟหลังจากทำแนวกันไฟเรียบร้อยแล้วจริงๆ และได้วางกำลังพนักงานดับไฟป่าเพื่อเตรียมการดับลูกไฟและควบคุมไฟในกรณีที่เกิดการผิดพลาด ไว้อย่างเพียงพอและรัดกุมแล้ว
- จุดไฟในขณะที่แนวไฟป่าจริงยังอยู่ห่างพอสมควร มิฉะนั้นแล้วอิทธิพลของลมจากแนวไฟป่าจะทำให้แนวไฟเผากลับถูกลมตีกลับทิศและกระโดดข้ามแนวไปได้
- ถ้าลักษณะของลมผันผวนไม่คงที่ ห้ามจุดไฟเผากลับโดยเด็ดขาด
- จุดไฟด้วยเครื่องมือเฉพาะ เช่น คบจุดไฟ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถจุดไฟเผากลับ
ได้อย่างรวดเร็วทันการ และแนวไฟเผากลับมีความสม่ำเสมอลดปัญหาการเกิดความปั่นป่วนของกระแสลม
- เมื่อจุดไฟแล้วต้องคอยดับไฟในส่วนที่จะลามข้ามแนวกันไฟกลับมาหาบริเวณป่าที่จะป้องกัน และต้องคอยระวังดับลูกไฟที่ปลิวข้ามแนวกันไฟมา (ภาพที่7.2)
- ขณะที่แนวไฟป่าและแนวไฟเผากลับลุกลามเข้าบรรจบกัน จะมีการปะทะกันของแนวลมสองแนว ซึ่งอาจทำให้เกิดลมหมุนอย่างรุนแรงได้ ดังนั้นต้องระวังการปลิวกระจายของลูกไฟและสะเก็ดไฟให้ดี
ข้อมูลจาก : http://www.dnp.go.th/forestfire/FIRESCIENCE/lesson%207/lesson7_1.htm
มีประโยชน์อยู่ แต่โห่ นายต้องโจมตีกลับมาด้วยเวทย์สิ งั้นมันจะสู้กันยังไงเล่า
เออ ช่างมันเหอะ ขี้เกียจแล้ว
ไฟมันดับแล้ว คราวนี้เจอฉันล่ะ อัดเวทย์ไฟไปที่นิ้วแล้วยิง!!
ปิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆ
แนวเดียวกะผมเลยครับ
แต่งอยู่เหมือนกัน
สุดท้ายขึ้นกับว่าใครปลดล็อค สกิลพระเอกได้ก่อนกันครับ
สู้ๆไปด้วยกันครับ
จับมือครับผม
เรื่องที่ว่าชื่ออะไรครับ ขอลิ้งหน่อยสิครับ จะไปติดตามอ่าน
จะเวทมนตร์หรือพลังเหนือมนุษย์ก็ตาม
ใครฉลาดกว่าก็ชนะไป
...ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้แข็งแกร่งขนาดไซตามะน่ะนะ
ผมว่าถ้าตามหลักแล้วผมคิดว่าเวทมนตร์น่าจะได้เปรียบกว่า เนื่องจากเวทมนตร์นั้นเป็นสิ่งที่ไร้รูปร่างและสามารถเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ จึงสามารถพลิกแพลงได้มากกว่าพลังเหนือมนุษย์
จะว่าไปเคยเห็นโม่งคุยกันเรื่องนี้อยู่นะ ประเด็นน่าสนใจเลยล่ะ แล้วก็มีการ์ตูนที่จำลองแบบที่ว่าอยู่ด้วยคือ
อินเด็กซ์ กับ เรลกัน ครับ
ฝ่ายหนึ่งใช้พลังเวท อาคมแปลก ๆ อีกฝ่ายเป็นเอสเปอร์ มนุษย์พลังพิเศษ
ว่ากันแล้วฝ่ายเวทได้เปรียบกว่าตรงที่ หลายพลัง หลายประเด็นอาจไม่ต้องมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับครับ ต้อตอ หลักการ ที่มาพลังทั้งหลายมันเปิดกว้างกว่าเยอะ
ขณะที่ทางวิทยาศาสตร์จะถูกบีบกรอบมากกว่า เลยเป็นข้อด้อยไป...
แต่นั่นก็พูดในแง่คนกับคนน่ะนะครับ
เพราะถ้าสเกลมันต่างมากขนาดสตาร์วอร์ที่มียานบิน ยิงระเบิดทั้งดาวได้จากระยะไกลแบบนั้น ต่อให้เป็นดาวที่มีบุคคลเปี่ยมพลังเวทก็ถูกล้างเผ่าพันธุ์เอาได้ง่าย ๆ
Dr.strange ชนะใส ๆ
เห็นด้วยค่ะ 555
เวทมนต์มันไปไกลถึงขั้นทำลายโลกโน้นแหละ
ส่วนกลายพันธ์ การทำลายโลกยังเป็นเรื่องยากอยู่ ทำลายโลกในที่นี้ หมายถึงระเบิดโลกให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ
เอาจริง ๆ นะ สองอย่างนี้มันผสมผสานกันได้ เวทมนต์นิดหน่อยกลายพันธ์ุนิดหน่อย ไม่มีเส้นแบ่งที่ชัดเจน
เห็นด้วยกับคอมเมนต์อื่นๆ ค่ะ แต่เราอวยเวทมนตร์นะ 555
ขึ้นกับคนใช้ และรูปแบบของพลัง หากฝายไหนหลากหลายหรือทำได้หลายอย่างได้ก็ชนะไป
อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่พลังมิตรภาพครับ
เวทมนต์มันผูกเรื่องค่อนข้างง่ายกว่าแบบอื่น แต่ผมว่าจะทำให้สมดุล สมเหตุสมผลคงยากหน่อย เช่นถ้าเป็นเวทมนต์ทำลายดวงดาว เวทอานุภาพขนาดนั้นไม่น่าจะร่ายง่าย ๆ (น่าจะเตรียมการยุ่งยาก) ควรจะกินพลังเวทมหาศาล น่าจะใช้เวลานาน ไม่น่าจะปิดบังการร่ายได้ เสี่ยงถูกขัดขวางง่าย ฯลฯ อะไรทำนองนี้
กลายพันธุ์ผูกเรื่องให้โดดเด่นยากหน่อยยกเว้นจะลอก X-Men มา.. เอ๊ย ! แบบนี้ก็ไม่ใช่นักเขียนดิ ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง และเรื่องเกณฑ์ของพลังจะพาความยุ่งยากมาให้ทีหลัง ขอยกตัวอย่าง X-Men อีกเช่นกัน จีนส์ เกรย์/ฟินิกส์ เป็นระดับ 5 ส่วน ศ.เซเวียกับเอริค (แมกนีโต) เป็นระดับ 4 ซึ่งไม่มีอะไรตายตัวเลย ไม่มีระบบพลังเวทหรือพลังจิตให้นับเป็นหน่วยเลย แต่อานุภาพของระดับ 4 กับ 5 ต่างกันอย่างฟ้ากับเหว ถ้าใครเคยดูภาค Last stand กับ Apocalypse จะเข้าใจ พวกกลายพันธุ์สู้กันเหมือนงัดพลังมาโยนโครม ๆ ๆ ๆ ใส่กัน แต่ไม่รู้ว่าต้นตอของพลังมาจากอะไร และดูเหมือนอยากใช้เท่าไหร่ก็ใช้ได้ หรือผู้กำกับอยากให้กลายพันธุ์คนนี้เหนื่อยหมดพลัง เขาก็จะเฉาลงดื้อ ๆ
เทคโนโลยี/วิทยาศาสตร์หาข้อมูลง่ายกว่าแบบอื่น แต่การทำความเข้าใจและผูกเรื่องให้สมจริงก็ยากไม่แพ้แบบอื่น เว้นแต่จะลอกภาพยนตร์ซีรี่ส์อย่าง The Flash, Agent of S.H.I.E.L.D, Legends of tomorrow หรือฮีโร่จาก Marvel กับ DC
ณ จุดนี้ผมไม่คิดว่าพลังแบบไหนจะมีส่วนได้เปรียบเสียเปรียบกว่าอีกอันหนึ่ง (เว้นแต่คนเขียนจงใจจะกดบางฝ่ายไว้) นี่คือ Fantasy ! คือเสน่ห์ของการเขียนนิยาย สิ่งที่ชี้ขาดการแพ้ชนะมีหลายอย่างไม่ใช่แค่พื้นฐานของพลัง ฉะนั้นผมไม่สรุปให้ว่าใครชนะหรือควรชนะ เพราะนั่นไม่ใช่นิยายผมแต่เป็นนิยายของคุณและของคนอื่น ๆ เป็นเวทีแสดงความคิดสร้างสรรค์ของพวกคุณ เพราะผมไม่อยากชี้นำอะไรทั้งสิ้น แต่จะทำแค่เสนอข้อมูลให้เอาไปคิดดู
ลองนึกภาพนักเวทย์แห่งแซงทั่มในเรื่องหมอแปลกมาเจอกับพวกกลายพันธุ์ในเอ๊กซ์เมนดูครับ
จีนกับฟินิกฟอร์ซกำลังมานะ
ใครได้เป็นพระเอก ฝ่ายตรงข้ามต้องกาก
อืม.. เท่าที่ดูผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของท่านอื่นนะครับ ที่ว่าทีมไหนจะชนะก็ขึ้นอยู่กับผู้เเต่งล้วนๆ
ข้อต่อมาที่น่าสนใจคือการเเถ ให้ทีมที่คุณอวยชนะอย่างไรโดยไม่โดนรองเท้าของคุณนักอ่านปาใส่หน้า..
คิดซะว่าผมมาเสริมละกันนะ(ฮา)
ผมว่ามันเป็นเรื่องของการปูพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการเเถในอนาคตนะ คือเราต้องสร้างกฏเกณฑ์ที่ดูสมเหตุสมผลที่จะนำไปสู่ผลลัพท์ที่เราเตรียมเอาไว้ก่อน
อย่างเช่นว่ามนุษย์กลายพันธุ์ อืม..
ผมไม่ค่อยถนัดเเนวนี้เเหะ
ขอยกมนุษย์หมาป่ากับเเวมไพร์ละกัน
ไม่เเน่ใจ่่านับรวมไหมเเต่ผมว่ามันง่ายต่อการเข้าใจดีนะ หรือคุณว่าไง?
ถ้าเราสร้างข้อจำกัดให้กับตัวละครสองตัว
อยางเช่นว่าเเวมไพร์จะรวดเร็วในความืด ทรงพลังน่าเกรงขาม กลัวเเสงเเละกระเทียม ส่วนมนุษย์หมาป่าจะกลายร่างตอนจันทร์เต็มดวงโดยสามารถใช้ความสามารถของหมาป่าอย่างการมองเห็นในความมืด ว่องไว เเละดมกลิ่น
อืม.. หมาป่าดูได้เปรียบเนอะ
นี่ผมไม่ได้อวยหรอกนะ..จริงๆนะ!
ในตอนเเรกหมาป่าอาจจะโดนค้างคาวไล่ล่าเพราะเมื่อไม่มีเเสงจันทร์ทำให้ในตอนนี้เขาเป็นเเค่มนุษย์ธรรมดา ใส่ความระทึกความตื่นเต้นสยองขวัญลงไป ก่อนจะโยนเชือกเเห่งการช่วยเหลือให้ตัวเอก ฟ้าเปิดดวงจันทร์ทอเเสง ที่นี้เรื่องราวพลิกกลับกลายเป็นค้างคาวโดนหมาป่ากด---เเค่ก
ผมหมายถึงไล่ล่าน่ะ ไล่ล่า
ต่อๆ ในขณะที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม(?)ดูเหมือนฝ่ายหมาป่าจะทำบุญมาน้อย ฝนตก!
ฟ้าครึ้ม เมฆเต็มปกคลุมเเสงจันทร์สีเงินยวง เมื่อไม่มีดวงจันทร์หมาป่าก็เป็นเเค่เหยื่อของค้างคาวเท่านั้น ช่วงเวลาเเห่งความเป็นความตายใกล้เข้ามาทุกที ค้างคาวกระหยิ่มยิ้มย่องต่อชัยชนะในครั้งนี้
ด้วยสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของหมาป่าในร่างมนุษย์จึงเปิดปากขอร้องอ้อนวอนอย่างไร้ศักดิ์ศรี ตึ่ง!!!?
K.O.!!!!?!!?!!?
อยู่ๆเเวมไพร์ก็ล้มตึ่งลงไปเเละเสียชีวิต
ไม่ต้องสงสัย คนร้ายก็คือนายน่ะเเหละ!!!
กลิ่นกระเทียมเจียวใน-ป่า!!?!?
#เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าถ้าอยากได้
สามีเป็นเเวมไพร์อย่าเเดรกกระเทียมเจียว
[หมดอารมณ์พิมพ์ต่อเนื่องจากคุณน้องชายที่รักยิ่งเหยียบโน้ตบุ๊คหน้าจอเเตกเป็นที่เรียบร้อย ขอบคุณครับ]
The load of the rings
พี่มีนิยายคล้ายๆแบบนี้ครับ แต่ไม่มีเวลาเขียนเลย เป็นแนวคือจะโลกหลายแบบที่เชื่อมต่อกันด้วยประตูมิติ มีโลกเวทมนตร์ เทคโนโลยี ต้นไม้มีชีวิต โลกปีศาจ โดยทุกโลกจะมีแหวนรวพลังสำหรับกษัตริย์ที่ปกครอง หากรวมพลังทุกแหวนจะมีอำนาจครองจักรวาล
ซึ่งในแต่ละโลกจะมีฮีโร่ที่คอยกำราบวายร้ายที่เข้ามาทำลาย ซึ่งเป็นฝ่ายตรงกันข้าม ทุกโลกเล่นเกมการเมืองมีการวางแผนเป็นพันธมิตร ศัตรูที่มองเห็นและไม่เห็น (เหมือนอเมริกา อังกฤษ จีน รัสเซีย อิ- อิรัก)
ทุกคนจะมีแหวนที่เล่าเรื่องความจริงในมุมของตัวเอง (เข้าข้างตัวเอง) เพื่อด่าฝ่ายตรงข้าม จะพบความจริงทั้งหมดเหมือนแหวนทุกวงมารวมกัน
เอาพ่อมดไปสู้กับหุ่นยนต์ เทียบกันดูแล้ว มันต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์สิคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?