ความไม่เมกเซนส์ที่ทำให้นิยายดำเนินเรื่องง่ายขึ้น
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่ทุกท่านเคยลองสังเกตดูไหมเอ่ย
ว่าบางกรณี...
"เรื่องไม่เมกเซนส์บางเรื่อง" มันอาจดูแปลกหากมองตามความเป็นจริง
แต่ก็ "ดีแล้วล่ะ" ที่ไม่ต้องคิดมากกับมัน
ยกตัวอย่างเช่น
- ตัวละครนิยายเกมออนไลน์ที่เล่นเกมติดต่อกันนาน ๆ แต่เราก็ไม่เคยเห็นพี่แกขับถ่าย อุจจาระ หรือปัสสาวะเลย!
เหตุผล ทั้งนี้ก็เพื่อความไม่ติดขัดของเนื้อเรื่องน่ะสิครับ
นึกแล้วคงดูขำน่าดูใช่ไหมล่ะ ถ้าตัวเอกกำลังเก็บเลเวล แล้วอยู่ดี ๆ ก็ต้องออกเกมไปจัดการธุระครั้งแล้ว ครั้งเล่า ครั้งแล้ว ครั้งเล่า และก็ครั้งเล่า!
- ใส่เสื้อผ้าแบบเดิมตลอด หรือบางเคสก็ไม่อาบน้ำเลย
เหตุผล คำตอบสั้น ๆ คือคนจะได้จำคาแร็กเตอร์ได้ง่ายขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
- ตัวละครนิยายเกมออนไลน์ที่เล่นเกมติดต่อกันนาน ๆ แต่เราก็ไม่เคยเห็นพี่แกขับถ่าย อุจจาระ หรือปัสสาวะเลย!
นึกแล้วคงดูขำน่าดูใช่ไหมล่ะ ถ้าตัวเอกกำลังเก็บเลเวล แล้วอยู่ดี ๆ ก็ต้องออกเกมไปจัดการธุระครั้งแล้ว ครั้งเล่า ครั้งแล้ว ครั้งเล่า และก็ครั้งเล่า!
- ใส่เสื้อผ้าแบบเดิมตลอด หรือบางเคสก็ไม่อาบน้ำเลย
เหตุผล คำตอบสั้น ๆ คือคนจะได้จำคาแร็กเตอร์ได้ง่ายขึ้น
- ศัตรูโผล่มาทันที หลังจากพระเอกไดัพลังใหม่
เหตุผล เพื่อเนื้อเรื่องจะได้กระชับและเดินไวขึ้น เดาไม่ยากว่าผู้อ่านก็คงอยากเห็นฤทธิ์วิชาที่ได้มาใหม่เช่นกัน!
พูดง่าย ๆ คือมันดีแล้ว ที่ละมันไว้ในฐานที่เข้าใจ
เพราะถ้ามัวแต่จุกจิกกับมัน คงได้ปวดหัวกันทั้งคนอ่านและคนแต่งแน่ครับ 5555+
ฉะนั้นหากใครมีความเห็นว่าฉากไหนที่ดูไม่เมกเซนส์ แต่พอลองคิด ๆ ดูแล้ว การไม่ใส่มาเลยคงจะดีกว่า
ฉะนั้นหากใครมีความเห็นว่าฉากไหนที่ดูไม่เมกเซนส์ แต่พอลองคิด ๆ ดูแล้ว การไม่ใส่มาเลยคงจะดีกว่า
ก็ลองเอามาแบ่งปันกันได้นะครับ
ปล. ไม่ได้เจตนาสื่อว่าการไม่ใส่ฉากขี้เยี่ยวเป็นเรื่องที่แย่นะครับ ผมแค่ยกตัวอย่างให้มันดูขำเฉยๆ เพราะว่ากันตามตรงเป็นผมก็ไม่ใส่เหมือนกัน ฮ่าๆๆ
ปล. ไม่ได้เจตนาสื่อว่าการไม่ใส่ฉากขี้เยี่ยวเป็นเรื่องที่แย่นะครับ ผมแค่ยกตัวอย่างให้มันดูขำเฉยๆ เพราะว่ากันตามตรงเป็นผมก็ไม่ใส่เหมือนกัน ฮ่าๆๆ
17 ความคิดเห็น
เคยเจอในทวิตเตอร์มังคะที่บอกว่า ในนิยายเราต้องหาเหตุผลที่ตัวเอกตกหลุมรักกันทั้งที่ในความเป็นจริงมันไร้เหตุผล
หรือบางเรื่องเวลาเราเขียนนิยายพยายามอิงความเป็นจริง ทั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ นี่ยิ่งกว่านิยาย ประมาณนี้แหละค่ะ
รู้สึกเหมือนเราเถียงเพื่อนเรื่องตัวละครตกหลุมรักกัน เพื่อนถามว่าทำไมถึงตก เอาก็กลอกตาใส่มันแล้วว่ามันว่าก็บอกอยู่ว่าตกหลุมรัก ทำไมต้องมีเหตุผล แต่สุดท้าย กลายเป็นตัวเองที่หาเหตุผลมาประมาณว่านิสัยมันทำได้ ต่าง ๆ นานา เหตุผลบนความไม่มีเหตุผลจริง ๆ ค่ะ
ถูกต้องครับความไร้เหตุผลทำให้เรื่องเขียนง่ายขึ้นมากๆ เว้นเสียแต่ว่า จะเป็นสาย ไซไฟจ๋า/สืบสวน/หรือกฏหมายจ๋า น่ะพวกนี้ต้องการความเมกเซนส์ให้เรื่องมีน้ำหนัก
แต่เห็นด้วยกับ จขกท. ครับเรื่องน่ะไม่ต้องหาเหตุผล หรือ พยายามทำให้มันเมกเซนต์ มากนักหรอก มันเหนื่อย!
ก็มีอยู่บ้างเหมือนกันที่เราไม่ต้องการให้มันมีเหตุผล ก็ทำไม่ถึงจะต้องไปกำหนดตายตัวด้วยล่ะว่าตัวละครจะต้องทำอะไรที่ทีเหตผลรองรับตลอดเวลา
มันก็เหมือนหนังด้วยนั้นแหละ อย่างเช่นหนังเรื่อง เดอะฟาสต์แอนด์เดอะฟิวเรียส ขับรถแข่งกัน ชิ่งชนกันตูมต้าม เคยรถคันไหน วิ่งเข้า แวะปั้มนํ้ามัน บ้างละ เหตุผล ทั้งนี้ก็เพื่อความไม่ติดขัดของเนื้อเรื่องนั้นแหละ
แต่ถ้าให้เป็นนิยาย ก็ ใส่ฉากนุ่นนี้นั่นได้ ถ้าเป็นหนังก็ ตัดฉาก บีบให้เล็กลง อะไรที่ไม่เกี่ยวตัดออก นิยายจะเติมใส่อะก็ได้อยู่แล้วตามใจป๊า
เดอะฟาสต์แอนด์เดอะฟิวเรียส - มีอีกสักกี่ภาคก็ยากที่จะแวะปั้ม
เวลาเขียนนิยายผมชอบใส่รายละเอียดและเหตุผลสนับสนุน แต่พออ่านๆไปเองก็สงสัยว่า จะใส่มาทำไมให้มันยาวหรือทำให้มันเดินเรื่องยาก เช่นเสื้อเปียกอยู่ทำไมขยับตัวคล่อง อ่านไปก็ขำตัวเองที่แถจนถึงขึ้นนี้ได้5555
คนเขียนสมัยนี้สนใจยอดวิวต่างหาก เนื้อเรื่องห่วยแตกแค่ไหน ขอแค่มีคนอ่านเยอะๆก็พอแล้ว
จะเหมารวมก็ไม่ได้คนที่เขียนเพราะใจรักมันก็มีแหละครับ ขุดๆไปเดียวก็เจอ
ความจริงมันมีเหตุผลนะครับ เหตุผลที่ดูเป็นไปได้
มนุษย์คนเราต้องการเหตุผลเพียงนิดเดียวเพื่อนำไปสู่ปลายเหตุเท่านั้นแหละครับ
เหตุผลที่เรามองข้ามเหตุผล เพราะมันมีเหตุผลอยู่แล้วครับ เราจึงเชื่อว่าคนแต่งคงมีเหตุผลโดยไม่ต้องอธิบาย เช่นหนังอาชญากรรมที่มีจุดไม่สมเหตุสมผลบ้าง แต่คนดูก็เชื่ออยู่ดีว่ามันต้องมีเหตุผลที่เขาไม่รู้ เพราะมันคือหนังที่มีเหตุผล
เข้าใจที่พูดใช่มั้ยครับ?
เรื่องความเม้คเซนต์ของจขกท.น่ารักดีค่ะ เอาจริงเราไม่เคยคิดเรื่องเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือกิจวัตรประจำวันมากเท่าไรเลย เพราะคิดว่าในนิยายเขาอาจจะละไว้ในฐานที่เข้าใจ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าไม่มีจะเปลี่ยนเนี่ย เราคงได้อิทธิพลหนังจีนสมัยเด็ก ๆ จนเห็นว่ามันเฉย ๆ ไปแล้วล่ะมั้งนะ 5555
ความไม่สมเหตุสมผลถ้าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บางครั้งมันก็ทำให้คนอ่านสนุกเหมือนกัน แต่ถ้ามันเป็นอะไรที่ผิดจากสามัญสำนึกไปหน่อย เช่นนิสัยแบบนี้ ทำไมถึงทำแบบนั้น ขึ้นมา ก็อาจจะมีปัญหากับคนอ่านได้ แต่สำหรับเรื่องความคิดตัวละครเราก็ไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมดนะว่ามันต้องเป๊ะ ๆ ตามนิสัย ขึ้นชื่อว่าคนนั้นยากแท้หยั่งถึง 555
เราเคยอ่านนิยายเรื่อย ๆ เกี่ยวกับเด็ก ๆ กลุ่มนึง ตอนนี้ก็ร๊อรอนักเขียนอัพอยู่ ชอบฉากนึงที่เขาเขียนว่า เหตุผลคือไม่มีเหตุผลมาก มันก็รู้สึกว่า อะไรเนี้ย! แล้วก็ขำดีค่ะ อะว่าแล้วแปะอ้างอิง #ห้องสามเดอะซีรี่ by มุมฉาก
จะว่าไปหันมามองนิยายตัวเองที่ไม่รู้จะเอาไปไว้หมวดไหน เลยไปลงที่สืบสวน ก็คงต้องยอมรับว่า ตัวเองนี่ มันคิดเหตุผลนั่นโน่นนี่เตรียมไว้ทุกอย่างเรียกว่าแทบไม่มีรูเลยก็ว่าได้ (หรือมันมี แต่ไม่รู้กันนะ 555) แต่นี่อาจจะเป็นเหตุผลให้จับคนอ่านได้เพียงแค่กลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้า
สรุปแล้วโดยส่วนตัวชอบเรื่องที่เม้คเซ้นมากกว่า แต่ถามว่าฉากไหนที่ดูไม่เม้คเซ้นนี่คงตอบยากเพราะเดี๋ยวจะเป็นการเอานิยายคนอื่นมาวิจารณ์ไป ละไว้ก่อนละจ้า
จากเรื่อง วินเตอร์เลิฟซอง (เก่ามากเกือบ20ปีแล้วมัง)
พระเอกถามนางเอกว่า "อะไรที่ทำให้คุณชอบผม"
นางเอกคิดอยู่นาน "..........." นางเอกตอบไม่ได้
พระเอก "นั่นล่ะ หลักฐานว่าคุณรักผม"
.....
บางทีผู้คนก็ต้องการปาฏิหารย์มากกว่าเหตุผลครับ
ไม่ต้องเข้าใจมันไปเสียทุกเรื่องหรอก
แต่เขื่อเถอ แม้แต่ปาฏิหารย์มันก็มีเหตุผล
ความรู้สึกว่ามันมีเหตุผลบางอย่าง
...ที่คุณไม่มีวันเข้าใจ
มันมีสเน่ห์ และน่าสนใจนะ
โรแมนติก
กระสุนอมตะมั้งคะ พวกยิงกันแล้วกระสุนไม่หมดเสียที
เหมือนหอบเอากระสุนมาทั้งร้าน
แต่ถ้ากระสุนใกล้หมด อันนี้ก็เพิ่มความตื่นเต้น
แต่ มันก็ค้านในใจนะว่า ตอนแรกยิงกันเปรี้ยงปร้างไม่หมด
บทจะหมดก็หมดเอาดื้อ ๆ
แต่ส่วนมากเราอ่านเพื่อความบันเทิง
เรื่องพวกนี้เลยไม่ใส่ใจมากนัก
-เรื่องตัวละคาไม่ปวดฉี่ หรือไม่เปลี่ยนชุดเลยนี่พอเข้าใจ แต่เจอประเภทตัดสินใจโง่ ๆ เพราะคนเขียนไม่มีปัญญาหาวิธีเคลียปมที่ดี อันนี้รับบ่ได้
เมกเซนส์คืออะไรหรือคะ? ไม่รู้จักคำนี้เลย (โง่คำศัพท์มาก)
ความสมเหตุสมผล
ความสมเหตุสมผล ไม่สมเหตุผลนั่นมัน"ไม่"เมกเซนส์
อ๋อ ขอบคุณค่ะ
่อ่อจริงด้วยเห็นคำว่าไม่ติดมาด้วย//แก้แปป
มันก็แล้วแต่คนน่ะ ว่าจะเขียนสมเหตุสมผลหรือไม่ บางทีมันอาจสะดุดตาเกิน เลยโดนติติง เราก็เคยโดน แต่ก็รีบแก้ไขโดยทันทีค่ะ
เป็นแนวคิดที่ดี
55555.. พึ่งทราบจริง ๆ นะครับ!! ว่าการละไว้ซึ่งเนื้อหาอันเป็นกิจวัตรของมนุษย์ทุกรูปนาม เป็น
กิจวัตรซึ่งมนุษย์ทุกคนต้องกระทำและเข้าใจอยู่แล้ว ฉะน้ั้นจึงไม่จำเป็นต้องบรรยายอีก ทว่ากลับ
ต้องกลายเป็นวิธีเขียนที่ไร้เหตุไร้ผล ไร้ความสมจริงในสายผู้ชำนาญการเขียนการอ่านบางคนไป
เสียฉิบ..
โอ้.. มิน่าเล่านวนิยายที่สู้เพียรสร้างสรรค์สู้ร้อยเรียงขึ้น จึงมิเคยติดอันดับซุปเปอร์ท็อปเลยแม้สัก
เรื่องเดียว แท้จริงแล้วก็เป็นเพราะเรายังไม่เข้าใจความหมาย การละไว้บนพื้นฐานที่เข้าใจซึ่งเคย
เข้าใจว่า คือความเข้าใจที่ตรงกันของคนส่วนใหญ่นั้น สำหรับคนบางคนกลับหมายถึงความไม่สม
จริง ความไม่มีเหตุมีผลซะงั้น..
55555.. นับจากนี้ไปเนื้อสำคัญหลัก ๆ ภายในนวนิยาย คงจะเกลื่อนไปด้วยขี้ด้วยเยี่ยว ด้วยเรื่อง
ล้างหน้าแปรงฟันการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นแน่ หาไม่แล้ว.. แม้ผู้เขียนจะสามารถรจนาไว้
อย่างวิจิตรพิสดารปานใดก็ตาม ก็คงเป็นได้เพียงแค่นวนิยายที่ไร้เหตุไร้ผลไร้ความสมจริงเท่านั้น
ผมไม่ได้จะสื่อว่ามันดูไร้เหตุผล ซึ่งเป็นสิ่งที่แย่หรืออะไรทำนองนั้นหรอกครับ
แต่พอดีไปเห็นคอมเม้นต์ในนิยายเรื่องหนึ่งที่เขาถามเกี่ยวกับกิจวัตรของตัวละคร ว่าทำไมไม่เคยเห็นตัวเอกทำอย่างนู้นอย่างนี้
ผมเห็นมันเป็นหัวข้อที่น่าสนใจดี
เลยเอามาเขียนกระทู้น่ะครับ
//สื่อสารผิดพลาดใด ๆ ต้องขออภัยด้วยครับ
เพราะผมไม่ได้มีเจตนาจะบอกว่าการไม่เขียนฉากแบบนี้ถือเป็นสิ่งที่แย่เลยจริง ๆ
//และยอมรับว่าผมก็ไม่เคยเขียนฉากพวกนั้นเหมือนกันนะ 5555
เราชอบหลายๆ ความเห็นนะคะ นิยายก็คือนิยาย บางทีแม้แต่กับเรื่องที่มันไม่ต้องมีเหตุผลก็ได้ เรายังต้องสร้างเหตุผล สร้างที่มาที่ไปให้มัน เป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดมากจริมๆ ㅠ ㅠ
ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นมีใครด่าเรื่องพระเอกไม่ยอมขรี้นะ -คนที่เอามาคิดเป็นเรื่องเป็นราวนี่เขาเป็นคนยังไงหนอ
*แก้ไขกระทู้นะครับ*
ดูเหมือนว่าผมจะใช้คำไม่ถูกต้องเท่าไหร่
เลยสื่อสารเพี้ยนจนเกิดความเข้าใจผิดกัน
ต้องขออภัยจริง ๆ
ตอนนี้จึงปรับให้ดูตรงประเด็นมากขึ้นเท่าที่จะทำได้แล้วครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?