Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เป็นส่วนเกินในห้อง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ เราย้าย รร.ตลอดทุกปี
มอ1ย้าย มอ2ย้าย มอ3ย้าย พอจบ ม.3เราก็เข้าปวช1แล้วเราเข้ากับเพื่อนไม่ได้เราพยายามพูดอะไรหลายๆอย่างก็เหมือน ถามคำตอบคำ ถ้าเราไม่คุยก่อนเขาจะคุยเลย เดินตามหลังเพื่อนตลอด เป็นตัวประหลาดในห้องมาก มีแต่คนมองเราแบบ เห้อ...
แถมเราโดนแขวะอยู่ประจำ เราเครียดซึมเศร้า จากแต่เดิม ก็ซึมเศร้าจาก ตอนมอต้นจนปวช1มันยิ่งกระหน่ำรุนแรงมากกว่าเดิม จนเราได้ออกกลางคัน แล้วอยู่บ้าน รอต่อใหม่กับรุ่นน้องเราก็ไปสมัคร รร.ใหม่ ปวช1เหมือนเดิม แล้วทีนี้เราเจ็บท้องตอนเข้าค่าย เลยได้กับบ้าน พอเปิดเรียนก็ไม่มีเพื่อนไม่มีใครต้อนรับเลย  เขาอยู่ภาคอีสาน เพื่อนก็พูดอีสานแต่งหน้าทาปากกัน ซึ่งเราเป็น คนไม่แต่งหน้าไม่เที่ยวชอบอ่านหนังสือดูการ์ตูนอ่านนิยายมังงะ เหมือนว่าสไตล์เราไม่ คิก กันมันเลยรู้สึกอึดอัดทั้งสองฝ่าย เราพยายามพูดบ่อย(มาก)แต่พอเราหยุดพูดเขาก็ไม่พูดกับเรา แบบเขาไม่มีอะไรจะพูดกับเราอ่ะ เวลาไปเรียนเราก็เดินหลังตลอด เราไม่เข้าใจเลย
หนึ่งคนพยายามเข้าหา แต่อีกคนไม่พยายามเข้าหา
แบบนี้อยู่กันไปรั้งแต่จะอึดอัด กลุ่มคือเล่นกันหมดห้องเพราะ ผญมีแค่15คน แต่เหมือนมี14อ่ะ เพราะขาดเรา เราพยายามแสร้งหัวเราะพูดไม่ทำหน้าเครียดกลัวคนอึดอัด ใครมีเรื่องอะไรเราช่วยเป็นห่วงแคร์เพื่อนจากใจจริง แต่สุดท้ายไม่เป็นผล

หรือจะเป็นที่ด้านภาษา เราพูดไทยเขาพูดอีสาน เราว่าไม่น่าจะเกี่ยวเขาก็พูดอีสานเราก็ฟังออกและเราก็ติดพูดไทย+อีสาน ผสมๆกัน เนื่องจากแม่เราเป็นคน กทม พ่อเป็นคนภาคอีสาน เราเลยได้ยินทั้ง2ภาษาตั้งแต่เด็ก

เราอึดอัดมากเลยค่ะ เรียนก็เรียนไม่เก่ง เพื่อนก็ไม่มี แถมเราอยู่หอคนเดียวด้วย ยิ่งเครียดไปใหญ่ ทุกวันนอนร้องไห้นอนเครียด อยู่ทุกๆวัน เราเหนื่อยมากค่ะ 
มันอาจฟังดูอ่อนแอ แต่ในจุดๆนี้ถ้าใครเคยผ่านมา จะรู้ว่ามันเป็นยังไง ไม่ใช่แค่ว่าผิดกันกับเพื่อนในกลุ่มงอนๆกันโดนแบน2สาม2อาทิตย์. แต่โดนแบนตลอดเวลา จริงๆเรื่องที่ รร.เก่าตอน มอต้นเรา โดนแกล้งโดนด่าโดนจิกกัดหนักมาก ในช่วง ม.ต้นเราย้าย รร.บ่อย เพราะมันรับไม่ไหวค่ะ โดนจิกกัดเยอะเกินไป
เหตุผลเพราะ เราเป็นเด็กใหม่ค่ะ คือเราย้ายจากม.1มา ม.2 เขาก็ด่าว่าหยิ่งและคนที่ไม่ชอบหน้าเราเขาก็บอกเพื่อนไม่ให้เล่นด้วย ม.2เราขาดรร.เราโดดบ่อยมาก เราไม่มีเพื่อนแถมยังโดนแบบนี้อีก ทุกวันเวลาไปโต๊ะจะมีคนเอา เมจิก มาเขียนด่า บางทีตอนเที่ยงหลังกินข้าวเสร็จ ก็เจอขยะใต้โต๊ะ แล้วเราก็เก็บไปทิ้ง พวกเขาก็หัวเราะคิกคักกัน โดนแกล้งชน แกล้งเหยียบเท้า เวลาจับกลุ่มก็เป็นเศษ โดนจิกกัดแขวะ สารพัดรูปแบบ มีครั้งนึง ครูไม่เข้าสอน เรารับบรรยากาศในห้องไม่ไหวจนต้อง ออกมานั่งหน้าระเบียง ช่วงนั้นเราซื้อนิยายมาอ่านเพราะหาอะไรทำจะได้ไม่ต้องไปใส่ใจคำพูดของคน แต่สักพักพวกนั้นก็เดินมาเข้าห้องเราพอผ่านเราไปเขาก็แขวะเราว่า น่าสมเพช เราน้ำตาแตกพราก ลงมาเลยค่ะรีบเช็ด
ดีที่เขาเดินผ่านไปไม่สังเกตุ มีอีกบลาๆจนเราเริ่มซึมเศร้า นอนไม่หลับทั้งคืนเพราะ เราคิดว่าถ้าหลับจะตื่นอีกทีไปพบกับ รร.นรก สภาพย่ำแย่มากค่ะ บนหน้าเรามีแต่ความหมองเศร้า เราเดินหรือทำอะไรแบบตา ลอยคิดแต่เรื่องนี้อยู่ในหัว ซึมเข้าเรื่อยๆ เหมือน ศพเดินได้ จนแม่เราย้าย รร.ให้ พอย้าย ม.3เราสติเราก็ลอยไปแล้ว เพื่อนก็ไม่คุยด้วย สรุป ม.3ไม่มีคนจิกกัดต่อหน้าแต่เขานินทารับหลัง ส่วนเราก็ นั่งเป็นอากาศธาตุ เราขาด รร.เพราะกลางคืนไม่ได้นอนทั้งคืน เรากลัว รร.จนเวลานึกว่า ต้องไปรร.ใจมันหวิววูบ มือไม้เย็นหมดเลยค่ะ และแน่นอนว่า เกรดแย่ ตอนม.3จะไม่จบ แต่เล่าให้ครูฟังครูเลยช่วย ช่วงปิดเทอม เราก็ยังซึม วันๆเรามีแต่ค้นหาอ่านกระทู้พวกที่ พบเจอแบบเรา อ่านคอมเม้นของคนอื่น กล่อมตัวเองว่า ยังมีคนที่เป็นแบบเราเขาก็ยังสู้อยู่ แต่ไม่ได่ผลค่ะ พอไป รร.ไปปวช1สายคอมเราก็โดนนินทา เป็นส่วนเกิน +กับอดีตที่เคยโดนมันรู้สึกว่า เราคงโดนแบบนี้ทั้งชาติ เรารู้คุณอาจจะคิดว่า เราต้องทำอะไรแน่ๆไม่งั้นคนจะเกลียดได้ไง เราเองยังไม่เคยด่าอะไรใคร นินทาก็ไม่เคย พูดคุยยังแทบจะไม่ได้คุย เขาทำห่างเหินเรา เพราะเราคงเป็นพวก น่าเบื่อ เขาชอบคุยกันเรื่อง ผชไม่ก็นินทาชาวบ้าน พูดเรื่องเพศกันสนุกสนาน เราก็ไม่ได้ถืออะไรนะ เราก็แสร้งขำไป เราไม่ได้อีโก้เรื่องเพื่อนสูง เราขอแค่ เขาเข้าหาเราบ้าง ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังจริงๆพอเราไปพูดกับเขาเขาก็ว่า แมร่งพูดมากจังวะ แล้วเขาก็ลุกพรวดไปนั่งกับคนอื่นเลย พอไม่พูดก็โดนว่า พูดก็โดน เราคงเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงแต่เราก็พยายามเต็มที่ถขนาดทิ้งตัวเองไปแสร้งเป็นคนเฮฮาแต่ยังไงๆคนก็ไม่คุยด้วยคุยก็แบบผ่านๆถึงขนาด มีจ้า ด้วยบางทีมีคะ?? วอท-เดอะ-ฟัค แสดงออกว่าห่างเหินมาก แต่เราเองก็เคยมีเพื่อน เขาก็พูดคุยกับเราปกติ เราเป็นคนตามเขามากกว่าเพราะเราเป็นคนที่ เขาให้ใจเรามา1เราให้กับ10เท่าแต่ตอนนี้ 
เราทนไม่ไหว ถึงขั้นคิดจะตายๆไปเพราะเรา ไม่ไหวกับ สังคมใน รร. แต่เราก็สงสารพ่อแม่ เราจึงอยู่มาจนถึงตอนนี้ เราออกจากรร.นั้น รอต่อร้อมรุ่นน้อง เราย้าย รร.มาเข้า สถาปัตยกรรม ก็เป็นอย่างที่ว่าไว้ด้านบนเลยค่ะ ตอนเข้าค่าย เรามีเพื่อน1คน เขาก็เบื่อๆเซ็งๆเรา คนนี้เขาก็ซิ่วมาเรียนใหม่เหมือนกัน แล้วเราก็ดันปวดท้อง  คือก่อนหน้านี้เราเคยบอกเล่นๆว่าน่าแกล้งป่วยแล้วกับบ้านเนาะ ดันเป็นจริงซะงั้น เพราะคนนี้แบบ เขาพูดเชิงบังคับให้เราอยู. เราก็ทนปวดๆอยู่ๆจนเราไม่ไหวเลยตัดสินใจกับบ้านเพราะอยู่ไปก็ ดูเครียดๆเพื่อนก็จะหมดสนุกคนรอบตัวทำกิจกรรมก็จะหมดสนุกไปด้วยเพราะเราหน้าตึงเครียดมาก สุดท้ายแล้ว ในระหว่างเรากับบ้าน 
เพื่อนๆก็คุยกัน จนเปิดเรียน เราไม่มีเพื่อน เพื่อนคนนั้นก็เมินเราไปเจอคนใหม่ก็ไปเลยค่ะ กลายเป็นว่าแอบโดนนินทาว่า แสร้งป่วย

เราท้อจังค่ะ เราสงสารพ่อแม่อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัว แต่เรารู้สึกสารตัวเองเหมือนกันค่ะ อายุแค่นี้ยังเจอปัญหาทำให้ตายทั้งเป็นอ่อนแอ(แต่มันหนักจริงเราทนมาก)เราจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง ไม่เรียนก็สงสารพ่อแม่ต้องอายคนแน่ๆ ถ้าเราไม่เรียนเราก็ยิ่ง เป็นคนที่น่ารังเกียจ ถ้าเรียนก็แทบจะยันต่อไม่ไหวแล้ว เราเครียดเราเศร้าเราไร้ค่าเราไม่หวังถึงอนาคต เราอึดอัด ระบายกับพ่อแม่ก็กลัวเขาท้อแท้ใจด้วยอีก เขาอยากให้เราเรียน เพื่อตัวเราและตั้งความหวังกับเราไว้ ทุ่มเทเงินมากมาย อยู่หอก็แพงนั่นนู่นนี่ ตอนนี้เราอยากกรีดร้องมากๆเลยค่ะ เราเคยคิดว่า เราคิดแค่ไปเรียนแค่นั้น แต่ในความเป็นจริง มันเป็นไปไม่ได้ค่ะ แม้เราไปแค่เรียนยังไงก็ต้องเรียนร่วมกับทุกคนถูกมั้ย คิดง่ายทำยากค่ะ เราตัวคนเดียวจริงๆ หรือเราป่วยทางจิตไปแล้ว เราพูดกับใครเขาก็คงคิดว่าโรคสำออย เราเคยระบายให้พี่ชายฟังเขาก็แบบ 
ไม่เชื่อค่ะ เหมือนเราพูดโกหก เป็นไปได้ไงเรียนมาหลายปี เพื่อนก็ไม่มีโดนแกล้ง พี่ชายเราเป็นคนที่ป็อบมากๆค่ะใน รร.ผญก็เยอะ เพื่อนก็เยอะ ต่างจากเรามากค่ะ พอเราเล่าให้ฟังเขาก็ฟังผ่านๆเหมือน เราอ่านนิยายน้ำเน่าเยอะเกินไปเลยมาแต่งเรื่องให้ฟัง 
ชีวิตวัยรุ่น เวลาเรียนเป็นเวลาที่สนุกและสบายสุดในชีวิต แต่สำหรับเราและอีกบางคน มันคือความทุกข์ทุกข์มาก ตอนนี้เราเป็นภาระให้ครอบครัว ถ้าเราตายก็แค่เสียค่าทำศพ ดีกว่า มาเสียเลี้ยงดูเราทั้งชีวิต ลงทุนให้เราเรียนกี่ครั้งๆก็ไม่จบไม่สิ้น

สำหรับพี่เราตอนนี้สามารถทำหน้าที่เลี้ยงดูพ่อแม่ในอนาคตได้แน่ อีก1ปีเขาก็เรียนจบแล้ว เราอิจฉาพี่เรามาก พี่เราวันๆก็มีแต่เพื่อนมารับหน้าบ้าน ผู้หญิงโทรมา ตามบ่อยมาก อัพรูปลงเฟสยอดไลค์2ร้อยขึ้น ในเฟสสนุกสนาน เดี๋ยวก็อัพว่าไปดูหนังไปเล่นน้ำไปนั่นไปนี่ ตอนเราไปอยู่หอแรกๆแม่เราให้พี่ไปอยู่ด้วย ยิ่งในเมืองที่เที่ยวยิ่งเยอะ หนึ่งทุ่ม เพื่อนๆของพี่ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่อยู่แถวนั้น ก็แชตมาชวนไปกินหมูกะทะ ตลอด ไปทีกลับเที่ยงคืน ส่วนเราเพื่อนในเฟสมี80คนไม่เคยถ่ายรูปลงเฟส ในแชตไม่มีคนคุยด้วยแม้แต่พี่ก็ไม่ได้แชตไปหา แชตไปตอนมีธุระเท่านั้น เราก็ซื้อหนังสือมานอนอ่าน อ่านการ์ตูนในเว็บ ดูหนังวนไป เราไม่เคยคิดร้ายกับใคร100% เราให้ใจคนอื่นไปเต็มๆแต่ก็ โดนทุบจนมันแตกเป็นเสี่ยงๆ และเราก็ยังคงหอบเศษใจมาต่อซ้อมให้เข้าที่จากนั้นก็ เอาไปมอบให้เขาใหม่ เขาก็ทุบแตก เราก็ยังคงทำแบบนี้ซ้ำๆ แต่วันนี้มันเหนื่อยค่ะ มันท้อเรากินไม่ได้นอนไม่หลับ เราไม่มีแรงซ่อมต่อ เราไม่เข้าใจตัวเองว่าจะมาตั้งกระทู้ ประจานความ โง่อ่อนแอน่าสมเพชของตัวเองทำไ ตอนนี้เราสติเบลอมากค่ะ เราไม่รู้จะเอาความรู้สึกนี้ไปวางที่ไหน หากใครหลงมาอ่านเรื่องน่าเบื่อนี้ อย่าด่าเราเลยนะขอร้อง เรากลัวเราไม่อยากถูกด่าเพิ่มอีก〒_〒ถึงไม่มีคนคิดด่าแต่เราขอไว้ก่อนเคยไปเจอคอมเม้น แรงๆในกระทู้คนอื่น 


แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

spoy 11 พ.ค. 62 เวลา 21:46 น. 1

ใจเย็นเนอะเราก็พอเข้าใจจากที่อ่านแล้วเนี่ยดูแล้วรู้เลยเข้าสังคมไม่เก่งอย่าซึมยิ่งเราซึมคนอื่นยิ่งนินทาต้องยิ้มอย่าซึมการที่เราซึมมันดูน่าไม่เข้าหาพยายามหาจุดเด่นของตัวเอง เช่น เก่งเลข เล่นกีฬาเป็น พยายามหากิจกรรมที่ทำร่วมกับคนอื่นทางออ้ม(ถ้าดูแล้วทางตรงไม่ไหว)ทางออ้มเช่นงานกิจกรรมโรงเรียนแข่งทักษะต่างๆพยายามไปแข่งเพราะจะเป็นการเพิ่มเพื่อนไปในตัวแล้วก็ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องแคร์แล้วเราต้องมีจุดยืนนะค่ะพ่อกับแม่ส่งมาเรียนต้องคิดซะว่าคนพวกนั้นไม่มีผลไรกับเราหรอกไม่ได้ขอค่าเทอมมาเรียนซักหน่อยช่างเค้าไปเค้าแค่สิ่งต่างๆที่ทดสอบการใช้ชีวิตเค้าจะด่าปล่อยให้ด่าไปขอเปรียบเทียบนะเหมือนอัจฉริยะคนนึงเดินเล่นโทรศัพท์แล้วเดินชนเสาไฟฟ้าแล้วเริ่มด่าเรื่อยๆด่าทุกวันคนข้างนอกจะมองว่ายังไงค่ะแน่นอนค่ะเค้าต้องมองว่าอิคนนั้นเนี่ยมันบ้าที่ต้องการจะสื่อคือเราต้องทำตัวเป็นเสาไฟฟ้านิ่งไว้ต่อให้ใคก็ตามดีเลิศ คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดแล้วมายุ่งกับชีวิตเราเนี่ยคนอื่นเค้าก็รู้แล้วเอ้าอินี่มันบ้าเนอะ แล้วพี่ชายหน่ะฝากบอกหน่อยตอนน้องประสบปัญหาต้องดูแลสิค่ะก็รู้ว่าตัวเองมีคนรู้จักเยอะก็แนะนำให้น้องรู้จักบ้างบอกวิธีต่างๆให้คนเข้าหาน้องบ้างนะค่ะเพราะเราเห็นแบบนี้ไม่โอเคเลยเรามีพี่ชายสามคนถึงเราไม่ได้ดีเลิศไม่ได้มีคนรู้จักเยอะแบบพี่แต่เวลามีปัญหาเค้าอยู่เคียงข้างเราตลอดที่จะฝากบอกพี่ชายคือไม่มีใครักพี่จิงๆหรอกเค้าแค่หลงพี่เฉยๆคนที่พี่ควรรักและห่วงคือน้องพี่ที่ร้องไห้จนจะเป็นซึมเศร้าอยู่แล้วดูแลหน่อยนะค่ะ(ขอโทดนะค่ะถ้าที่นู๋พูดไปแล้วทำให้พี่ไม่พอใจก็ต้องขอโทดจิงๆ)อันนี้ให้จขกท.ชีวิตต้องเจออะไรอีกเยอะนะค่ะอย่าไปสนใจเลย

1
Slot123 12 พ.ค. 62 เวลา 09:23 น. 1-1

พยายามค่ะ เราอดทนมากก ถ้าเคยยืนอยู่จุดจุดนี้จะรู้เลยว่ามันเป็นยังไง เราก็ไม่รู้ว่าจะไปลงที่ไหนก็มีแค่กระทู้นี่แหละเพื่อนในเฟสก็ไม่มี เพราะชีวิตต้องเจออะไรอีกเยอะค่ะ แค่นี้มันโหดมากสำหรับเด็กคนหนึ่งที่ ใช้ชีวิต3-4ปีในรั้วโรงเรียน แบบทุกวันต้องกลั้นต้องทนต่ออะไรบ้างก็ไม่รู้ เหนื่อยมาก พยายามนะพยายามมาก ทนมาตลอดเพราะเพื่อพ่อแม่ แต่มันแทบจะทนไม่ไหวอ่ะบอกเลย มันฟังดูปัญหาเล็ก ว่าปัญหาที่โรงเรียนแต่ มันโหดร้ายมาก มันไม่ใช่เรื่องเด็กๆอย่างที่คิดเลยมันทำร้ายคนคนหนึ่งมาก ทุกวันทุกวัน ทั้งกดดันอึดอัด เวลาโดน ด่าก็แทบน้ำตาไหลแต่ต้องอดทำหน้านิ่วฝืนมาจนเลิกเรียนค่อยได้ร้องไห้ ส่วนพี่เรา เราไม่สนใจเขาแล้วค่ะ พูดไรไปเขาก็ไม่มาสนใจหรอก ปล่อยให้เขาสนใจเรื่องของเขาไป

แต่ก็ช่างเถอะเราคงบ้าจริงๆนั้นแหละ เรามาตั้งกระทู้ก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม แต่ตอนนี้เราไม่อยากจะสนอะไรแล้วเราไม่ไหว เราอยากระบาย เราไม่อยากกับเข้ารั้ว รร.แล้วอยู่หอคนเดียวก็ไม่กล้ากับบ้านกลัวพ่อแม่เสียใจ ทุกข์มาก เห้อ.....

0