แชร์ประสบการณ์การเตรียมตัวสอบ GATPAT แบบไม่เรียนพิเศษ
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับทุกๆคน โดยเฉพาะน้องๆที่กำลังจะเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยกันนะครับ วันนี้เราตั้งใจจะมาบอกประสบการณ์การเตรียมตัวสอบ GATPAT ให้น้องๆได้รู้และเตรียมตัวให้พร้อมกับการสอบนะครับ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้เป็นคนที่ทำคะแนน GATPAT ได้ดีมาก ในส่วนการเรียนก็เช่นกัน ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมตัวมากกว่าคนอื่น เราเลยอยากเป็นกำลังใจให้คนที่คิดว่าตัวเองทำไม่ได้หรือคิดว่าสู้คนอื่นไม่ได้ วันนี้เราจะมาเล่าวิธีการเตรียมตัวของเราซึ่งอาจจะไม่ดีมาก แต่ทำให้เราสามารถมีคะแนนเพิ่มขึ้นได้ *เราไม่ได้พูดถึง PAT เยอะนะเพราะ PAT มันต้องแยกไปอีกแต่ก็จะบอกคร่าวๆให้*
ข้อควรจำ การสอบ GATPAT น้องๆจะมีเวลาสอบ GAT เพียง 3 ชั่วโมง โดย GAT เชื่อมโยง จะมีเวลา 90 นาที (1 ชม. 30 นาที) GAT Eng ก็เช่นกัน ส่วน PAT ความถนัดต่างๆ จะมีเวลาทำเพียง 3 ชั่วโมง
ขั้นตอนแรกของเรา คือ การสอบ Dek-D's Pre-admission อันนี้อยากให้น้องๆลองไปสอบกันดู ข้อดีของการสอบนี้จะทำให้น้องรู้ว่าน้องยังทำได้ไม่ดีในจุดไหน และเมื่อน้องสอบเสร็จน้องจะได้ข้อสอบกลับบ้าน น้องๆก็สามารถนำกลับมาทบทวนอีกครั้งได้ ซึ่งตอนที่เราไปสอบจะบอกเลยว่าคะแนนเราต่ำมากๆ 555 ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องพัฒนาขึ้น เพราะเรากลัวว่าถึงวันจริงถ้าคะแนนเราต่ำขนาดนี้คงเข้าที่ไหนไม่ได้แน่ๆ เราเลยเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่นั้นมา และเรามีภาพคะแนนมาให้ดูเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะ 555
ข้อควรจำ การสอบ GATPAT น้องๆจะมีเวลาสอบ GAT เพียง 3 ชั่วโมง โดย GAT เชื่อมโยง จะมีเวลา 90 นาที (1 ชม. 30 นาที) GAT Eng ก็เช่นกัน ส่วน PAT ความถนัดต่างๆ จะมีเวลาทำเพียง 3 ชั่วโมง
ขั้นตอนแรกของเรา คือ การสอบ Dek-D's Pre-admission อันนี้อยากให้น้องๆลองไปสอบกันดู ข้อดีของการสอบนี้จะทำให้น้องรู้ว่าน้องยังทำได้ไม่ดีในจุดไหน และเมื่อน้องสอบเสร็จน้องจะได้ข้อสอบกลับบ้าน น้องๆก็สามารถนำกลับมาทบทวนอีกครั้งได้ ซึ่งตอนที่เราไปสอบจะบอกเลยว่าคะแนนเราต่ำมากๆ 555 ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องพัฒนาขึ้น เพราะเรากลัวว่าถึงวันจริงถ้าคะแนนเราต่ำขนาดนี้คงเข้าที่ไหนไม่ได้แน่ๆ เราเลยเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่นั้นมา และเรามีภาพคะแนนมาให้ดูเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะ 555
(นี่แหละ คะแนนน้อยมากกกก เศร้า)
ต่อมา อย่างที่บอกว่าเราเริ่มอ่านหนังสือแต่กว่าเราจะมาเริ่มก็ใกล้สอบเข้ามาทุกทีแล้ว(จุดนี้ไม่อยากให้ทำตาม จริงๆควรอ่านตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วพอใกล้ๆก็กลับมาทบทวนจะดีกว่า) เอาจริงๆก็ดูตามรีวิวปีก่อนๆนี่แหละว่าต้องซื้อหนังสืออะไรบ้าง อย่างเราที่เอามาอ่านจริงจังก็จะมี
แล้วที่เหลือก็จะเป็นหนังสือที่เราอ่านนิดๆหน่อยๆ เช่น
- เจาะศัพท์ GAT ที่ออกบ่อยที่สุด หนังสือนี้จะมีคำศัพท์ 3000 คำ ซึ่งในตัวหนังสือจะแถมฟิล์มสีส้มมา เพราะตัวคำแปลจะเป็นตัวหนังสือสีส้ม เมื่อเราเอาไปทาบมันจะหายไป ทำให้เราท่องศัพท์ได้สะดวกขึ้น และเขาก็ยังจัดชุดคำศัพท์ให้เราเป็นสัปดาห์อีกด้วย
- หัวใจคณิตศาสตร์ ม.ปลาย ในเล่มนี้จะรวมทุกเนื้อหาของวิชาเลขใน ม.ปลาย ออกมาอย่างรวบรัด และครบ อันนี้เราใช้ทบทวนนิดหน่อยเพราะเราไม่ได้เน้น PAT1
รูปตัวอย่างหนังสือ
(ขอบคุณรูปจากเว็บ SE-ED ด้วยครับ)
(ขอบคุณรูปจากเว็บ SE-ED ด้วยครับ)
เพิ่มเติม อย่างที่เราบอกไปว่า GATเชื่อมโยง เราโหลดข้อสอบมาทำ GAT Eng ก็เช่นกัน
- ในส่วนของ GAT Eng เราก็เน้นดูคลิปติวในยูทูปซึ่งมีติวเตอร์หลายคนที่เคยทำคลิปไว้ แต่ที่เราเลือกดูจะเป็นของพี่เกมส์ YouTube : Eng Cool Cool เราดูแล้วมันไม่ได้เครียดจนเกินไปและไม่สับสน เพราะพี่เขาจะเน้นให้เราเข้าใจเป็นจุดๆไป และมีทริคในการทำข้อสอบเล็กน้อยเพื่อลดเวลาในการทำ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าดูแล้วจะเข้าใจเลยนะ เราก็ต้องมีพื้นฐานคำศัพท์หรือแกรมม่ามาบ้าง พอมาดูแล้วจะเข้าใจยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วเราก็ขอแนะนำว่า ควรจะท่องศัพท์และโหลดข้อสอบเก่าๆมาทำบ่อยๆนะ เพื่อจะได้ชิน ในขณะทำก็ควรจับเวลาด้วย ถึงเวลาจริงเราจะได้ไม่รนและตื่นเต้น (ใครที่คิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับการท่องศัพท์ก็แนะนำให้ทำข้อสอบเก่าเยอะๆเพราะมันจะมีบางคำศัพท์ที่ชอบออกบ่อยๆ และการทำข้อสอบเก่าบ่อยๆ เราจะสามารถจับทางคำถามและเดาทางคำตอบได้ง่ายขึ้น)
- PAT ความถนัดต่างๆ อันนี้มันจะมีหลายความถนัดซึ่งเราว่าทุกคนน่าจะรู้วิธีการเตรียมตัวของ PAT นั้นๆได้ดีอยู่แล้ว อย่างเราสอบ PAT1 เราก็อ่านหนังสือที่เราแนะนำไป และ PAT 7.4 จีน เราก็จะเน้นเรียนในห้อง และจำคำศัพท์ให้ได้เยอะๆ แต่เราแนะนำว่าถ้าใครสามารถเรียนพิเศษได้ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ก็ควรเรียน เพราะมันจะทำให้เรามีเทคนิคมากขึ้นในการดูโจทย์หรือการตัดช้อยส์ (แต่มันก็มีบางความถนัดที่จำเป็นต้องเรียนเสริมนะ)
สุดท้าย ก่อนที่จะสอบเราก็จะมาทบทวนทุกๆอย่าง และทำข้อสอบเก่าเพื่อให้มันชินตา เพราะข้อสอบในแต่ละปีมันจะมีความคล้ายกันอยู่ ถ้าเราทำบ่อยๆเราจะจับทางได้ อย่าง
GAT เชื่อมโยง เราก็ควรที่จะอ่านรอบแรกเพื่อดูว่ารหัสไหนอยู่ตรงไหนบ้างและใส่รหัสไป พอมาอ่านรอบ 2 ก็ค่อยๆทำความเข้าใจไปทีละย่อหน้า และวาดแผนภาพให้ชัดเข้าใจง่ายไม่สับสนเองนะ 555
ส่วน GAT Eng เราก็จะต้องวางแผนว่าเราจะทำส่วนไหนก่อนเพื่อจะได้ลดเวลาในการคิด อย่างเราก็จะทำ Conver - Vocab - Gramma - Reading เราเอา Reading ไว้สุดท้ายเพราะมันใช้เวลาและสมาธิที่สุด เราจึงต้องทำ 3 อันแรกให้เสร็จก่อนแล้วมาทุ่มกับ Reading
ผลลัพธ์ เราทำคะแนนได้เพิ่มขึ้น กว่าเดิมมากๆ ถึงมันจะไม่ใช่คะแนนที่สูงมาก แต่เราก็ภูมิใจเพราะเราเห็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นหลังจากการที่เราพยายามและตั้งใจมานาน เรามีรูปคะแนนให้ดูเพื่อเปรียบเทียบหลังจากที่เราทำมาทั้งหมด
(เราภูมิใจมาก และหายเหนื่อยสุดๆ)
ก่อนจะไป ก็อยากฝากน้องๆว่าห้ามขี้เกียจเด็ดขาด พยายามทำ อ่าน และทบทวน ถ้าเราไม่ไหวก็พัก หาอะไรดูตลกๆ ดูรูปอปป้าให้มีกำลังใจ ฟังเพลงเพลินๆ กินอาหารอร่อยๆ แล้วค่อยกลับมาเริ่มใหม่ อย่าหักโหมเกินไป เอาแค่พอดีๆ แล้วสำคัญสุดๆเลย เราท้อได้ แต่เราห้ามถอยนะ เป็นกำลังใจให้เด็กๆทุกคนครับบ มีอะไรมาปรึกษากันได้
4 ความคิดเห็น
เก่งกว่าผมอีกครับ 555 แต่ก็นั้นแหละ GAT มันไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษถ้าเราฝึกบ่อยๆเราจะทำได้เองครับ
ขอสอบถามนะคะ gat engนี่ทำไงถึงได้คะแนนเท่านี้คะ
สั่งได้ที่ไหนคับ
เว็บของร้านหนังสือทั่วไปเลยครับ หรือไปที่ร้านเลยจะสะดวกกว่านะครับ แต่ทริกในการซื้อราคาถูกลงคือ ซื้อหนังสือส่งต่อครับ ในทวิตเตอร์จะมีลงขายเยอะนะครับ ช่องทางอื่นๆก็มีเช่นกันครับ
สุดยอดไปเลยค่ะพี่ หนูจะทำตามนะคะ️
สู้ๆครับ
ขอบคุณรุ่นพี่ที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?
บทความที่คนนิยมอ่านต่อ