คือผมอยากจะสร้างกลุ่ม Face Book รวมนักเขียนอาชีพที่มีรายได้จริงๆเลี้ยงตัวเองได้ ไว้แชร์ประสบการณ์กันครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
9 ความคิดเห็น
ระวังจะกลายเป็นแค่กลุ่มที่มีแต่คนเอานิยายมาแปะนะครับ เฟสผมเข้ากลุ่มนิยายห้าสิบกว่ากลุ่ม คนที่เข้ามา แค่อยากจะเอางานมาโปรโมทเท่านั้น (รวมถึงผมด้วย)
ก็กลัวมันจะเป็นแบบนั้นแหละครับ ผมเลยขอสแกนคน เลยอยากได้แต่นักเขียนที่เขียจจริงจัง จนถึงขั้นมีรายได้แล้วไง เพราะผมคิดว่านักเขียนที่เขียนงานจริงๆและอยากก้าวเป็นมืออาชีพคงมีโมเม้นว่างๆอยากคุย อยากสอบถามอะไรกันบ้าง กลุ่มที่ผ่านๆมาที่เคยเข้าผมเห็นแต่นักเขียนแบบสมัครเล่นไม่ได้จริงจัง เข้ามาแปะนิยาย คุยเรื่องอื่น บางทีมันสร้างความรำคาญให้กับนักเขียนกลุ่มที่อยากจะหาข้อมูลจริงๆ
งั้นคงลำบากหน่อยนะครับ ผมเคยเห็นกลุ่มสำหรับคุยงานเขียนแบบจริงจัง (สายเรื่องสั้น) พบว่าถ้าแอดมินไม่จัดกิจกรรม หรือหาประเด็นเด็ด ๆ มาคุย กลุ่มนั้นจะเงียบเป็นป่าช้า
คืิอพวกนักเขียนส่วนใหญ่จะโลกส่วนตัวสูง คงไม่ได้อยากคุยอะไรกันใครทุกวี้ทุกวันหรอกครับ (แค่คนอ่านของเขาก็ไม่มีเวลาตอบแล้ว)
อยากแนะว่าถ้าจะแค่หาเพื่อนคุย แค่ตั้งกระทู้ในนี้ก็อยู่แล้วนะ ผมว่า
กลุ่มในเฟส ผมก็บอกอยู่ว่าไม่ได้จะคุยอะไรทุกวัน ผมก็มีโลกส่วนตัวสูงเหมือนกัน แต่ยังไงเชื่อผมเถอะว่านักเขียนก็จะมีโมเม้นเบื่อๆ เขียนไม่ออก อยากแชร์ อยากเล่า อยากสอบถาม เหมือนกันครับ ถ้ามีก็ดี ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ ผมถึงเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เขียนงานแล้วพอจะมีรายได้แล้วเท่านั้น ถ้ามีมาแค่ 2-3 คนก็พอใจแล้วครับ และผมคิดว่าดีกว่าไปอยู่กลุ่มรวมใหญ่ๆแล้วแทบไม่รู้จักกันว่าใครเป็นใครด้วยซ้ำ และสาเหตุที่ผมตั้งกลุ่ม เพราะในบอร์ดนักเขียน เท่าที่ผมเห็นส่วนใหญ่นักเขียนอาชีพเขาก็จะส่องอย่างเดียวไม่ค่อยโพส นี่อยู่มา 5-6 ปี ผมก็ตอบกระทู้นับได้ไม่ถึง 10 เหมือนกันครับ
งั้นก็ลองดูนะครับ ผมก็เคยคิดจะตั้งกลุ่มแบบคุณนี่แหละ มีสมากชิกร้อยกว่า ตอนนี้กลายเป็นกลุ่มฝากนิยายไปซะละ 555 (พอดีไม่ได้แสกนคน)
ผมเริ่มเขียนนิยายเมื่อ 5 ปีก่อน เริ่มแบบกากๆ เขียนไม่เป็น ไม่มีใครสนับสนุน เอาเรื่องที่อยู่ในหัวลงเขียนสดๆ วางพลอตสั้นๆ เขียนด้นสด คำผิดยังไม่แก้ รูปประโยคกากๆ สับสนในตัวเอง แม้แต่ผมกลับไปอ่านนิยายตัวเองผมยังอาย ยังรู้สึกว่ามีคนอ่านงานเราแล้วเราไม่โดนด่าได้ยังไงวะ << แต่ความกล้าในวันนั้นเมื่อ 5ปีก่อนที่จะเขียนงานกากๆและกดเอางานกากเปิดให้อ่านออนไลน์ มันทำให้ผมมีวันนี้ที่สามารถเขียนนิยายและขายหาเงินเลี้ยงชีพได้ทุกเดือน ซึ่งตลอด 5ปี ผมก็เขียนๆหยุดๆไม่ได้พยายามเต็มที่ มี1-2ปีหลังนี่แหละที่ทำเต็มที่หน่อย บางทีมันไม่จำเป็นต้องมีใครสนับสนุนหรอก การเขียนนิยาย แค่เรากล้าและสู้ เอาเวลาว่างวันละ 4-5 ชั่วโมงมาเขียน มาคิดพลอต อ่านเยอะๆ เขียนแล้วไปอ่าน สมมุติว่าเรานึกไม่ออกว่าอยากจะบรรยายความรู้สึกของตัวละครหรือฉากยังไง เราก็หยุดแล้วลองไปอ่านงานคนอื่น อ่านหลายๆแนว แล้วมันจะอ๋อ ต้องแบบนี้นี่เอง
มหานครเรื่องสั้น
กลุ่มนี้มีแต่นักเขียนอาชีพที่คอยแนะนำและอ่านงานให้
#1-7
กลุ่มนี้แหละครับ ผมล่ะโดนถล่มเละมาแล้ว แต่พี่ ๆ ในกลุ่มเทพจริง อันนี้ยอมรับ
แต่รู้สึกช่วงนี้พวกแกไม่ค่อยว่างนะ ผมเอางานไปแปะไม่เห็นมีใครสนใจ หรือเบื่อขี้หน้าผมแล้วมั้ง 5555
ถ้าไม่กลายเป็นกลุ่มที่เอาแต่อวดเรื่องรายได้กับอวยนิยายตัวเองก็น่าเข้าไปอยู่หรอกนะคะ
ที่แอบไปสิงมา มีแต่อวด แล้วพูดแต่เรื่องที่แบบ หื้มมมม ใช่เหรอ ได้เหรอ 5555
จริงๆผมอยากรู้นะครับว่านักเขียนหลายๆท่านมีรายได้เท่าไหร่กัน การตลาดควรใช้แบบไหน สาเหตุที่อยู่ดีๆผู้อ่านลดลง คนที่มีประสบการณ์รวมเล่มขายเอง สรุปแล้วรายได้ประมาณไหน คุ้มทุนไหม ว่างๆก็มาพูดคุยระบายความทุกข์ตรมกันบ้าง เทคนิคในการลงนิยายแต่ละเว็บให้คนอ่านและได้ขึ้นหน้าหนึ่งเป็นยังไง << ยกตัวอย่างเช่น fictionlog กับที่ dek d ระบบจะต่างกันเลย ธัญวลัยอีก ข้อมูลพวกนี้มันจำเป็นแชร์กันได้ ส่วนถ้ามองว่าการแชร์คือการอวดแบบนั้นมันจะมีปัญหากันเปล่าๆ ถ้าอยากอวดก็อวดมาเถอะแต่ขออวดด้วยพื้นฐานข้อมูลที่ใกล้เคียงและถ้าเป็นแบบนั้นคนฟังได้ประโยชน์แน่นอนครับ
โดยส่วนตัวผมก็มีประสบการณ์เขียนนิยายแฟนตาซีและตลาดแฟนตีซีออนไลน์มาพอสมควร ผมก็ให้คำแนะนำกับคนอื่นได้เท่าที่ผมรู้ แต่บางอย่างผมก็ไม่รู้ ยกตัวอย่างเช่นการรวมเล่มต้องทำยังไง ทุนยังไง กำไรยังไง คุ้มกับค่าแรงไหม หรือการทำ Ebook ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับว่านิยามของคำว่าอวด?ใส่กันคือยังไงและอะไร แต่มันอยู่ที่มุมมองในการเปิดรับครับ
เราไม่สนใจคำว่าเปิดรับหรือไม่หรอกค่ะ เปิดมากไปจะชีช้ำซะเปล่า
เพราะว่ากลุ่มที่พูดกันในเรื่องนี้ชัดเจนมันคงไม่มีใครคิดแบบนั้นมากกว่า คนทำงานแล้วก็ต้องแยกระหว่างมืออาชีพกับคนเขียนนิยายแล้วทำขายเฉยๆ
แบ่งปันประสบการณ์ก็น่าสนใจดี
รวมยังงี้ก็ดีกว่าตั้งกลุ่มนักเขียนแบบไม่เจาะจงแล้วพากันขิง บ่นรายได้น้อย บลาๆ ไปวันๆ สนใจแต่ปัญหาแต่เรื่องตัวเอง //ไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีใครหรอกนะ เราแค่พูดว่าเจอเท่านั้นเอง
@คุณ SayWindy
เคยหลงไปเข้ากลุ่มแบบที่คุณ SayWindy ว่าเหมือนกันค่ะ(แต่ก็ทนอยู่ได้ไม่นาน) นอกจากการอวดรายได้ อวดแฟนคลับ เกทับเรื่องยอดวิว ก็ไม่มีอะไรเลย
เราก็พอรับไหวนะคะ แต่บางทีก็อยากได้ความรู้กับความสามารถที่เขามี ไม่ได้อยากรู้ผลงาน แน่นอนว่าเราก็มีความรู้ในแบบที่เขาไม่เคยรู้เหมือนกัน คือแลกเปลี่ยนกันอ่ะเนอะ สนใจแต่ว่าคนนั้นคนนี้มีผลงานอะไรมากกว่าความรู้ของเขา มันก็ไม่ต่างกับการไม่เปิดรับนั่นล่ะ 5555555
กลุ่มที่เราอยู่ตอนนี้หลัก ๆ คือห้ามไม่ให้มีการแปะนิยายของตัวเองหรือของคนอื่น สามารถพูดคุยปรึกษาเรื่องงานเขียนกันได้อย่างเดียว อีกกลุ่มคือเป็นกลุ่มลับกลุ่มเล็ก ๆ ที่เอาไว้พูดคุยคลายเครียดกันเท่านั้น แทบไม่เคยคุยกันเรื่องเทคนิคส่วนตัวกันเลย
ลองสร้างดูสิคะ ยังไม่เคยขายงานเลย แต่ก็อยากพูดคุยนะคะ สร้างกลุ่มเมื่อไร มาลากไปด้วยนะคะ อยากรู้ข้อมูลเรื่องวิธีการขายเหมือนกันค่ะ ^_^
ผมยังไม่ใช่นักเขียนอาชีพหรอก
แต่เห็นตรงที่คุณตอบว่าเบื่อแล้วอยากหาเวลาว่างๆมาคุยมาเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง
คือผมก็เป็นเหมือนกันนะ
คิดอะไรใหม่ๆได้เกือบทุกวันเลย
แต่ก็หาคนคุยด้วยหรือคนมาฟังเรื่องที่ผมเล่าได้ยากเหมือนกัน
เพราะงั้นก็เลยพอเข้าใจอยู่นะ
อันนี้แวะมาคุยด้วยเฉยๆนะ คือก่อนหน้านี้ผมเคยคิดอะไรคล้ายๆคุณแล้วพอลองคิดไปคิดมาเลยตัดสินใจว่าไม่ทำดีกว่าเพราะผมได้ข้อสรุป(คิดเองเออเอง)ไว้ประมาณนี้
- พวกนักเขียนอาชีพจริงจังพวกเขาไม่น่ามาว่างคุยอะไรพวกนี้ เพราะมันเสียเวลาปั่นต้นฉบับมากกว่าได้ประโยชน์ คนเก่งๆในกลุ่มก็ไม่มี ยิ่งกลุ่มใหม่ที่คนตั้งเป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้ด้วย
- พวกเทคนิคต่างๆเช่น ขายยังไง เขียนยังไง ผมว่าเขาไม่แจกกันง่ายๆหรอก มันเหมือนกลยุทธ์หากินของเขาเลย ยกเว้นว่าเราเป็นเพื่อน ลูกศิษย์ หรือไม่ก็อยู่ในระดับเดียวกัน (เก่งแลกเก่ง = เก่งกว่าเดิมทั้งคู่)
- ผมมองว่าเราต้องหาโอกาสไปเข้าร่วมงานที่คนเก่งๆน่าจะมารวมตัวกันซะมากกว่า หรือไม่ก็หาว่าใครเป็นที่ 1 ของ 'สายนั้นๆ' แล้วหาทางเรียนจากเขาโดยตรงเลยน่าจะเวิร์คกว่าเยอะ
ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัวสำหรับไปเรียนกับอันดับ 1 ของประเทศในสายงานเขียนที่ผมสนใจ เลยคิดไว้ด้วยว่าไปเข้าร่วมกลุ่ม/ตั้งกลุ่มใหม่กับคนที่ไปศึกษาด้วยกันดีกว่า เพราะถ้าคิดขนาดมาเรียนกับอาจารย์ระดับนี้ได้ ทัศนคติกับความตั้งใจน่าจะไม่ธรรมดา ช่วยเติมไฟให้กันและกันได้ ดีกว่ามาสุมหัวคุยกับกลุ่มที่กำลังมีปัญหาและหมดไฟมากกว่า
อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวที่วางแผนเอาไว้ ถ้าใครมีข้อเสนอหรืออยากท้วงอะไรก็ลองพูดมา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
ผมเข้าใจครับ แต่ก็เพราะมันไม่มีกลุ่มแบบนั้นหรือผมอาจจะหาไม่เจอไงครับผมถึงต้องมาตั้งเอง -คำว่าไม่น่ามาว่าง มันไม่ถูกซะทีเดียวหรอกนะครับ เพราะผมก็เขียนนิยายขายอยู่ ผมก็พอจะรู้ว่ามันไม่ได้เขียนตลอดทั้งวัน นักเขียนมันก็ต้องมีช่วงว่าง เวิ่นเว้อ เปิดคอมกดดูเว็บ ดูนั่น ดูนี่ อยากพูดคุยว่าแบบนี้ดีไหม แบบนี้ดีไหม อยากลองคุยกับคนอื่นถามโน่นนี่นั่น ยกตัวอย่างผมตอนที่เขียนงาน ผมก็ไปกดดูนิยายคนอื่นตลอด ทั้งที่ขายดี ขายไม่ดี ดูคำวิจารย์ของนิยายคนอื่น ดูข้อเสีย ดูข้อบกพร่อง บางทีก็เกิดคำภามในใจอยากจะถามนักเขียนท่านนั้น หลายๆอย่างแต่บางเว็บมันก็ไม่มีช่องทางให้ pm ส่วนสาเหตุที่ผมไม่อยากจะแนะนำตัวว่าผมเขียนเรื่องอะไร รายได้ขนาดไหน ในนี้เพราะมีนักเขียนท่านหนึ่งเขาเคยเอามาแชร์ มาลงรายได้ของเขาแล้ว โดนลุมด่า โดนแซะ ผมเห็นเป็นบทเรียน ผมเลยอยากจะหาคนที่อยากจะเข้าจริงๆดีกว่า ส่วนถามว่าผมเก่งไหม ? ผมก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาวัดว่าเก่งคืออะไร ไม่เก่งคืออะไร ถ้าพิมพ์ออกไปก็จะโดนหาว่าอวดอีก พอไม่พิมพ์ก็กลายเป็นแบบที่ท่านพูด คือที่ผมมาตั้งกระทู้หานักเขียนอาชีพ ที่มีรายได้จริงจากการเขียน << นั่นก็ย่อมหมายถึงผมก็มีรายได้จริงกับการเขียนงานเหมือนกันครับและเลี้ยงตัวเองอยู่ได้ ไม่งั้นผมคงไม่มาตั้งให้คนที่เข้ามาแล้วด่าผมหรอก ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้ลงชัดไปว่าเขียนเรื่องอะไร มีรายได้เท่าไหร่ เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาอย่างที่ผ่านๆมาครับ กลุ่มนักเขียนที่ผมต้องการคือเขียนนิยายทุกวัน ลงทุกวัน ยิ่งมีรายได้แล้วยิ่งดี หรือมีความตั้งใจจริงๆ แบบนั้นจะดีมาก ทั้งที่เก่งแล้วหรือไม่เก่งก็ได้ลอง pm มา ส่วนที่ไม่อยากได้คือเขียนวันละประโยค 10 วันลงหนึ่งตอนแบบนี้ไม่เอา แบบนั้นเข้ามาก็มาเวิ่นเว้อเปล่าๆมันรำคาญคนอื่น รูปแบบของกลุ่มที่อยากได้ไม่ใช่ว่าคุยทุกเรื่อง บางทีในกลุ่ม 10 วันอาจจะไม่มีคนคุยอะไรกันเลยด้วยซ้ำก็อาจเป็นได้ แต่พอคุยกันก็เป็นการแลกเปลี่ยนความเห็น ปรึกษาที่มีคุณภาพกันจริงๆ เอาง่ายๆคือกลุ่มมืออาชีพ นั่นคือที่ผมอยากได้ เพราะผมก็โลกส่วนตัวสูงเหมือนกันแหละครับและไม่อยากยุ่งกับใคร ซึ่งผมคิดว่าตัวผมโลกส่วนตัวสูงไม่แพ้ใครหรอก แต่มันก็มีบางเวลาที่อยากระบาย อยากคุย อยากสอบถาม อยากแชร์ความสำเร็จอยากเล่าเหมือนกันว่าเราเจออะไรมา ถ้าเข้าใจว่าผมจะมาสูบเอาความรู้อย่างเดียวก็คิดผิดแล้ว เพราะผมก็มีประสบการณ์เขียนนิยายออนไลน์เลี้ยงตัวเองมา 4 ปีแล้วเหมือนกัน
ผมแถมให้อีกนิด การเขียนนิยายมันไม่มีการเรียนสูตรสำเร็จหรอกนะครับ ผมว่าการเรียนที่ดีที่สุดคือการอ่านและลองเขียน ลองผิด ลองถูกด้วยตัวเอง ประสบการณ์คือตัวที่จะสอนเรา ยิ่งเขียนเยอะ ยิ่งอ่านเยอะ ท่านจะรู้เอง มันไม่มีหรอกสูตรสำเร็จ ไปเรียนกับที่ 1 ของสายนั้น 1 ปี แล้วกลับออกมาเป็นมหาเทพเลย นี่คือมุมมองของผมครับ เพราะผมก็เริ่มจากคนที่ไม่เป็นอะไรเลยจากงานเขียนและกระโดดลงสนามจริง จนมีรายได้เลี้ยงตัวเองอยู่ได้มา 3-4 ปีแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่ามืออาชีพได้ไหม และกลุ่มที่ผมอยากจะตั้งมันไม่ใช่กลุ่มของ loser สายเวิ่นเว้อแบบที่ท่านเข้าใจหรอก ผมก็จั่วหัวอยู่ว่ามืออาชีพและอยากได้คนที่มีรายได้จริงแล้วมากกว่า การเขียนนิยายออนไลน์หารายได้ออนไลน์มันมีรายได้จริงเข้ามามากกว่าที่หลายคนคิด ข้อมูลคือสิ่งจำเป็น บางคนเขาได้ 1 ปีหลักล้านก็มีครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่านิยามของมืออาชีพมันต้องขนาดไหน และอันดับหนึ่งของวลการนั้นๆต้องดูตรงไหน ปล. ส่วนตัวผมเขียนแนวแฟนตาซีนะครับ
เห็นด้วยกับความคิดนี้ คนทำรายได้เขาไม่เผยเคล็ดลับให้ตัวเองหรอกครับ เพราะเขาต้องอ่านนิยายตั้งกี่สิบกี่ร้อยเรื่อง ต้องจับเคล็ดหรือแนวทางอะไรในนิยายนั้นมาด้วยความยากลำบาก บอกก็คงบอกได้แค่ระดับเบื้องต้นครับ
@คุณTunKoB
-เขียนทุกวัน ลงทุกวัน?
ไม่ได้คิดจะแย้งอะไรนะคะถือว่าเล่าสู่กันฟัง สำหรับข้อนี้เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่คิดจะทำและไม่สามารถทำได้ ถ้าถามว่าถึงทำไม่ได้ เพราะขี้เกียจหรือเพราะไม่มีความรับผิดชอบต่อผู้อ่าน ก็เปล่าอีกนั่นแหละ แต่มันเป็นข้อตกลงกับทาง... //ถ้าเพียงเพราะไม่สามารถอัพทุกวันได้ แล้วต้องถูกมองว่ามันน่ารำคาญก็คงจะไม่สามารถพูดอะไรได้อีกเหมือนกันค่ะ
-มืออาชีพ?
คำว่ามืออาชีพของคุณคืออะไรกันแน่คะ? นักเขียนที่มีรายได้จากการขายนิยายออนไลน์ หรือนักเขียนที่มีผลงานตีพิมพ์กับ นสพ. ทั้งสองแบบต่างกันมากนะคะ ถึงจะเป็นนักเขียนที่มีรายได้จากการเขียนเหมือนกันก็เถอะ เงื่อนไขการเขียนการลงนิยายก็ไม่เหมือนกัน คุณต้องแยกให้ออกก่อนว่าคุณอยากได้นักเขียนแบบไหนเข้ากลุ่มของคุณกันแน่
พูดถึงกระทู้ท่านโซสินะ จริงครับผมเสียดายกระทู้นั้นมาก ให้กำลังใจมือใหม่แบบผมได้ดีสุดๆ แต่ดันเกิดเรื่องบ้าบอจนพี่เขาตัดสินใจลบออกไปซะงั้น (โชคดีที่ได้อ่านทัน)
ผมว่าถ้านายอยากตั้งกลุ่มจริงๆลองพิมพ์ด้วยอารมณ์แบบที่ตอบโพสผมเลยดีกว่านะ คนเบื่อกลุ่มคุยกันเหยาะแหยะมันมีอยู่แล้ว ขอแค่ใครเริ่มต้นสักคนก็พอ เจ้าคำว่า 'ผมก็มีประสบการณ์เขียนนิยายออนไลน์เลี้ยงตัวเองมา 4 ปี' นี่ผมว่ามันโคตรมืออาชีพเลย น่าจะเรียกคนมีความตั้งใจเดียวกันมารวมได้
ผมเกือบลบกระทู้ไปแล้วครับ กระทู้ของท่านโช วันนี้เป็นประเด็นเลยล่ะครับ สุดท้ายเขาต้องลบไป ผมโครตรู้สึกเสียดาย และผมอยากจะบอกว่านิยายของเขา มีรายได้แบบขายออนไลน์ เป้นที่ 1 เลยก็ว่าได้ จากหลายๆเว็บ คนเก่งๆเขาเอาประสบการณ์สอนมาลงมาบอก สุดท้ายมีคนไม่ยอมเปิดรับไปลุมด่า ลุมว่าเขา ผมเลยไม่อยากซ้ำรอย คุยในกลุ่มดีกว่า << ส่วนสาเหตุที่ผมอยากตั้งกลุ่มไม่โพสคุยถามในนี้ ถ้าผมโพสไปผมโดนด่ายับแน่ เวลาผมว่าง ผมก็เข้ามาอ่านบอร์ดนักเขียนทุกวัน เผื่อว่าผมจะได้ไอเดีย ได้ความรู้ ได้เทคนิคใหม่ๆเหมือนกัน แต่เปล่าเลย ไม่ได้อะไรเลย บางทีพิมพ์ไปมันดูแรงโดนลุมด่า เอาประสบการณ์มาแชร์ เราทำสำเร็จอยากแนะนำคนอื่นๆด้วยใจจริงแบบกระทู้นั้นแหละ โดนแซะ โดนด่าซะงั้น เจริญมาก พอมาถามคำถามที่อยากรู้จริงๆในนี้อย่างเช่นรวมเล่มเนี่ยมันได้เงินเท่าไหร่ ได้มากกว่าขายออนไลน์ไหม ก็ได้คำตอบแบบคลุมๆ คือไม่ได้อะไรเลย ผมเลยอยากจะหากลุ่มที่แชร์กันจริงๆครับ หาแล้วไม่เจอก็เลยตั้งเองเลยละกัน ซึ่งดูแล้วเหมือนจะไม่เวิร์คเท่าไหร่
เอ่อ... เพิ่งมาเห็นโพสตอบท้ายๆ
คือผมเข้าใจครับว่า เก่งไม่เก่ง มืออาชีพไม่มืออาชีพ มันวัดกันไม่ได้ แต่ในความหมายของผมเองผมค่อนข้างซีเรียสกับทัศนคติกับการควบคุมอารมณ์ ถ้ากลุ่มนั้นมัวมานั่งปรับทุกข์กันผมจะไม่โอเคมากๆ เพราะผมมองว่าตั้งใจกันขนาดนี้แล้วควรจะหาวิธีรับมือได้
ผมไม่รู้น่ะว่าข้อความของผมมันเหมือนคนพิมพ์ดูถูกอะไรนายหรือเปล่าถึงได้ตอบมาแนวนี้ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นก็ขอโทษด้วยและอยากให้นายรู้ว่า 'เรากำลังเข้าใจผิด' ผมแค่อยากลองเสนอความคิดตัวเองเพราะตอนที่ผมพยายามทำอะไรแบบนี้ไม่มีคนเสนอไอเดียด้วยเฉยๆ
เปล่าครับผมแค่อธิบายถึงสาเหตุความคิดเท่านั้น
อย่าตีความหมายที่ผมพิมพ์ตรงตัวสิครับ -*- บางทีตัวอักษรมันไม่ยืดหยุ่น ถ้าคุณมีผลงานได้ตีพิมพ์แล้ว นั่นหมายถึงว่าคุณก้าวเท้าเข้าสู่คำว่ามืออาชีพไปไปครึ่งก้าวแล้วอย่างน้อยแน่นอน ส่วน-ที่ผมพิมพ์ว่า 10 วันลง 1 ตอน เขียนวันละประโยคนี่ไม่เอา << ผมอยากจะสื่อถึงคนที่ไม่มีความตั้งใจจริงๆว่าอยากจะเขียน อยากจะเป็นนักเขียน บางทีขอเข้ามาในกลุ่มก็เข้ามาพิมพ์เรื่องอื่น ถามเรื่องอื่น มันเวิ่นเว้อมันน่ารำคาญ คำว่ามืออาชีพก็คือมืออาชีพและนักเขียนทั้งสองประเภทเลยครับ ส่วนสาเหตุที่ผมกรองคนเพราะอยากได้นักเขียนที่ตั้งใจเขียนงานจริงๆแบ่งปัญกันได้จริงๆ
โอเคเข้าใจตรงกัน
ก็อย่างที่นายเล่ามาใน #5-6 นั่นแหละ (เริ่มมึนๆละ) ผมเลยมองว่าเราเอาตัวเองไปเข้ากลุ่มคนแบบนั้นน่าจะง่ายกว่า คำว่าอันดับ 1 ผมไม่ได้มองแค่ว่าอาจารย์สอนเขาเป็นอันดับ 1 แต่ที่ผมสนใจคือกลุ่มคนที่คิดว่า "ฉันจะหาทางมาเรียนกับอันดับ 1" ต่างหาก เพราะมันกรองคนมาระดับนึงแล้วว่าอย่างน้อยเขาก็มีความตั้งใจพอๆกับเรา
ผมอยากจะหากลุ่มที่มีทัศนคติแบบนี้ต่างหากเลยไปเรียน ส่วนเรื่องลองผิดลองถูกอะไรนี่ผมไม่เถียงเลย เพราะผมเรียนรู้เรียบร้อยแล้วว่ามันเป็นหนทางเดียวจริงๆที่จะโต
จับกลุ่มเพื่อประเด็นนั้นก็ดีนะคะ พูดในฐานะคนเคยรวมเล่มนะคะ คือ นักเขียนที่ทำเป็นรายหลักตามมุมมองเรานะ (ทางนี้ทำตามอัธยาศัย) บางคนก็ปั่นงาน เที่ยว เก็บข้อมูล เม้าธ์กับเพื่อนฝูง
ประเด็นแลกเปลี่ยนความคิด เรามองว่า เขาจะคุยในกลุ่มที่โตมาด้วยกันมากกว่า (นักเขียนบางท่านจับกลุ่มกันมาจริง ๆ ) คือ พวกนี้คุยกันแบบสนิทกันมา แลกเปลี่ยนแบบขิงข่าคงไม่มีนะ คงแซวกันมากกว่า เรื่องรายได้เอามาแชร์ มองแบบคนนอกที่อยากรู้ตรงนี้ เหมือนมาขิงข่ากันซะมากกว่า (เก็บไว้ใส่โจ๊กบ้างก็ดี)
อีกอย่างถ้านักเขียนทำถึงขั้นมีรายได้จริง ๆ แบบเป็นหลักเลย แทนที่จะแชร์ ๆ แลกเปลี่ยนแบบฟรี ๆ เขาคงเปิดคอร์สอบรมราคาย่อมเยาว์ไม่ดีกว่าเหรอคะ? ถึงจุดนั่นเขามีผลงานการันตี มีชื่อเสียง ทำรายได้เป็นธุรกิจเต็มตัวไปแล้ว ว่าเขาไม่ได้อีก
อันนี่คือมุมมองเราที่เคยเห็นมาจริง ๆ ว่าจุดที่เขาทำเป็นรายได้หลัก พอ ณ จุดหนึ่งจะกลายเป็นแบบนี้
เรามองว่าจุดประสงค์คุณดีนะ แต่ผลที่จะเกิดขึ้นประกอบกับที่เราเคยอยู่ในกลุ่มที่มีลักษณะ ขิง ยอดวิว รายได้ กลายเป็นกลุ่มตั้งมาเพื่ออวย ไปเลย ตัดพ้อยอดอ่านลงฮวบ จนเราย้อนไปอ่านจุดประสงค์การตั้งกลุ่ม แล้วถอนหายใจนิด ๆ แต่ไม่ได้มาขัดอะไรนะ แค่แสดงความคิดเห็นแบบที่เคยเจอมา แลกเปลี่ยนไว้
การทำกลุ่มเราว่าดีนะ แต่อย่างว่าแหละ แค่เตือน ๆ ว่ามีแบบนี้อยู่ด้วย
ขอบคุณค่ะ
ผมก็เข้าใจแหละนะ ผมอาจจะมองโลกในแง่ดีครับ แต่ด้วยจุดประสงค์ของผมที่ตั้ง ผมก็พร้อมจะแบ่งปัญนะครับ คนอื่นอาจจะไม่คิดเหมือนผม
เหมือนหลายๆคนจะสรุปกันไปแล้ว จากที่อ่านดู เหมือนจะเคยมีกลุ่มแนวนี้มาก่อน แต่ทว่าสุดท้ายก็กลายเป็นการอวดนิยายหรือฝากนิยายแทน ทำให้ไม่ได้ประโยชน์อะไรจริงๆจากการตั้งกลุ่ม
ผมมองว่าแนวทางการขายนิยาย หรือทำยังไงให้ขายดี มันเป็นเรื่องเฉพาะคน โอกาสที่เหมาะสม หรือสถาณการณ์เข้ามาประกอบด้วยครับ ไม่ใช่เรื่องที่จะเรียนรู้หรือสามารถสั่งสอนกันได้ หรือถ้ามีคนเก่งจนสอนได้จริง ก็คงไม่ใช่การสอนกันเปล่าๆ แต่เป็นคอร์สเรียนรู้อย่างการเขียนไลท์โนเวลของคาโดคาว่า เป็นต้น
ผิดแล้วครับ มันคือเรื่องที่เรียนรู้และสั่งสอนกันได้แต่ว่าไม่อยากจะสอนกันฟรีๆให้กับคนแปลกหน้า แบบนี้จะดีกว่าเนาะ ปล.แต่ผมสอนนะครับ << อาจจะมีแค่ผมล่ะนะ
ผมพิมพ์ไม่ชัดเจนเองนั่นแหละ ในกระทู้บน ขอเสริมหน่อยแล้วกันครับ
คือต่อให้ได้รับการสอนหรือเรียนรู้ สุดท้ายแล้วนิยายมันก็เหมือนกับศิลปะ คือคนแต่งก็ต้องพยายามด้วยตัวเองอยู่ดี และใช่ว่าจะประสบความสำเร็จ ต่อให้ได้รับการเรียนรู้จากคนที่เขาประสบความสำเร็จก็ตามน่ะครับ ผมจะสื่อประมาณนี้ แต่ด้านบนอธิบายแคบไปหน่อย
กลุ่มที่รวมนักเขียนเห็นมากมายในเฟสค่ะ
เมื่อก่อนเคยเข้าร่วมอยู่กลุ่มหนึ่ง ไม่เห็นมีอะไร นอกจากเอานิยายมาแปะกัน ทั้งที่ก็ทราบดีว่าในกลุ่มมีแต่พวกนักเขียนทั้งนั้น แล้วจะแปะเพื่อ???
เอาจริงๆนะ นักเขียนที่สังกัดสนพ.หรือเป็นตัวหลักๆ ของสนพ. ส่วนใหญ่จะได้รับการจองงาน ปีละกี่เรื่องก็ว่าไป พวกเขาจะไม่มีเวลามาโต้ตอบอะไรอย่างที่คุณคิดจะทำ ทุกคนต่างก็ต้องปั่นต้นฉบับให้ทันเวลา การพูดคุย หรือปรึกษาก็มักจะอยู่ในกลุ่มนักเขียนที่สนิทกันเสียเป็นส่วนใหญ่ อาจจะเป็นคนในสนพ.เดียวกัน หรือต่างสนพ.ก็ว่าไป นอกจากเขาจะตัน หรือว่างเท่านั้น เขาถึงโผล่มาให้คุณเห็น
คือผมเป็นกลุ่มที่เขียนแบบออนไลน์ครับ ผมไม่มีกลุ่มแบบนั้นครับ ผมเลยมาหาไงครับผม ผมไม่ได้เขียนส่งสำนักพิมพ์แล้วมีเส้นสายอะไรแบบนั้น ในรอบ 3-4 ปีมานี้ ตลาดออนไลน์มันโต มันก็มีนักเขียนกลุ่มใหม่ขึ้นมา นั่นคือกลุ่มนักเขียนออนไลน์ ที่นั่งทำงานอยู่บ้านเป็นนายตัวเองปรากฎขึ้นมาเยอะขึ้น ซึ่งที่ผมอยากชวนเข้าร่วมมาคุยกันคือกลุ่มนี้ เขาก็จะไม่ค่อยมีสังคมมาเปรียบเทียบพูดคุยแบบที่คุณ ทิตภากร ยกตัวอย่างมา ส่วนถ้ามีนักเขียนจากระบบเก่าคือเขียนผ่านสำนักพิมพ์ระดับเทพแล้วอยากมาแชร์ประสบการณ์อะไรแบบนี้ผมก็อยากได้มากๆเลย แต่ก็พอจะเข้าใจแหละครับว่าเขาคงไม่มาบอกกัน
เข้าใจค่ะ และก็ทราบด้วยว่าเดี๋ยวนี้การขายออนไลน์มันเปิดกว้างขึ้น
นักเขียนส่วนใหญ่ก็เอางานลง e-book กันทั้งนั้น เราเองก็เช่นกัน ถึงแม้แรงโปรโมทจะไม่เท่าสนพ. แต่ก็ไม่ได้รอสนพ. อย่างแต่ก่อน บางคนรีไรท์งานเก่าออกขาย ทำงานใหม่ส่งสนพ.ไปด้วย ยังไงเขาก็ไม่มีเวลาหรอกค่ะ นอกเสียจากเพจที่คุณจะเปิดรวมไว้ซึ่งนักอ่านที่มีกำลังซื้อละก็ อันนี้เขาสนใจแน่
***เรื่องบางก็อย่างที่คุณว่า บางทีก็เปิดเผยไม่ได้ค่ะ***
อยากรู้เรื่องใดหรือครับ
Join my group on Messenger by visiting: https://m.me/join/AbY_9KNoHjUugTvA
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?