Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มาจัดกิจกรรมครับ_(:2_/)__

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
[ มาประกาศการอัพเดท+เเก้ไข!!! ]
อนึ่งด้วยความหน้ามืดทำให้มูลค่าของรางวัล
มันพุ่งขึ้นสูงจนผมตกใจจากที่ว่าจะเล่นๆก็จะไม่เล่นเเล้วจึงขอมาอัพเดทกติกาข้อตกลงใหม่
ให้มันหฤโหดกว่าเดิมนิดหน่อยต้องขออภัยด้วยจริงๆนะครับ ฮรือ... _(:3_/)__

++++++++++++++++++++++++++

Hi~`สวัสดีครับทุกคน 
วันนี้ผมมาจัดกิจกรรมครับ

• ประกวดเรื่องสั้นเพื่อทำหนังสือเสียง
พอดีผมสนใจอยากจะทำเเต่ดันไม่มีพล็อต
ที่จะใช้สำหรับอ่านเลยครับ(ตันนั่นเเหละ)
เลยมาตั้งกระทู้จัดกิจกรรมการประกวดขึ้น
เพื่อหาวัตถุดิบในการทำงานชิ้นนี้

• ผลงานยังถือเป็นลิขธิ์ของผู้เขียนครับ
หากผมเอาไปลงYouTube็จะใส่ตัวเครดิตพร้อมลิงค์ไอดีนักเขียนให้นะครับ!

•กิจกรรมพิเศษ(?)
ท่านใดทายวันเกิดผมถูก
ผมจะอ่านเรื่องสั้นที่เเต่งบันทึกเสียงส่งให้ครับ
เเหม อันนี้ตอนเเรกว่าจะรับอ่านให้เลยเพื่อใคร
สนใจอยากได้โมเมนท์เเบบมีคนอ่านหนังสือ
ให้ฟังก่อนนอนเเต่ก็รู้สึกว่ามันจะธรรมดาไป เลยตั้งเป็นกิจกรรมย่อยขึ้นมาครับ 

[คำใบ้] ผมเกิดเดือนมิถุนาราศีเมถุนครับ
-ไม่รับประกันคุณภาพเสียง
- ระบุได้ว่าอยากได้เสียงเเนวไหน
เเต่ไม่เเนะนำให้คาดหวังครับ(หัวเราะ)
-เล่นได้ทุกคนเลยครับ
-เเต่ไม่ได้รับทุกคนหรอกนะ ขี้เกียจ

++++++++++++++++++++++++++
[ กติกาข้อตกลง ]

1.เเต่งเรื่องสั้นลงในคอมเมทน์กระทู้นี้หรือเชื่อมลิงค์เข้าสู้หน้านิยายโดยไม่ข้ามเว็บ

2.จั่วหัวคอมเมนท์เอาไว้ว่า
-ชื่อเรื่อง
-นามปากกา/นามเเฝง
-เป็นเเฟนฟิค/ฟิคสั้นหรือไม่
-เป็นสาววายหรืหนุ่มวายหรือไม่
-จำนวนหน้าเกินสามหน้ากระดาษหรือไม่
-ตอบเกี่ยวกับวันเกิดผมจำนวนหนึ่งคำตอบ

3.เเต่งเรื่องสั้นลงในคอมเมนท์โดยไม่เกินสาม
หน้ากระดาษเอสี่เเต่หากเป็นนักเขียนไฟเเรง
ที่อยากจะเเสดงฝีไม้ลายมือเเละพลังงานเหลือ
อนุโลมให้เกินได้เเต่ไม่เกิน7-8หน้ากระดาษ
ขนาดตัวอักษรประมาณ14-16

4.ส่งผลงานได้ไม่จำกัดจำนวนนะครับเเละยัง
สามารถเเก้ไขเปลี่ยนเเปลงผลงานขัดเกลา
ได้เรื่อยๆจนกว่าจะถึงสิ้นเดือนมิถุนายน
(สามารถขอคำเเนะนำจากคนในบอร์ดได้ภายในกระทู้นี้เท่านั้น คนในบอร์ดก็สามารถร่วมให้คำเเนะนำได้นะครับชอบเรื่องไหนเชียร์เรื่องไหนชี้ข้อผิดพลาดได้กันได้ตามสบาย)

5.กรณีที่เเต่งเป็นเเฟนฟิค/ฟิคสั้น 
ส่งมาเเล้วอยากส่งผลงานเพิ่มสามารถส่งได้เฉพาะเเฟนฟิคด้วยกันเท่านั้นนะครับ ห้ามส่งผลงานธรรมดารวมกับเเฟนฟิคเด็ดขาด 
เเน่นอนว่าเป็นฟิคอะไรก็ได้ ส่งได้เลยครับ
(ขอจำกัดจำนวนฟิคไม่เกินท่านละสามเรื่อง)

6.ไม่ลอกเลียน+ดันเเปลงเเบบผลงานของผู้อื่น
สามารถหยาบคาย อีโรติก ผิดศีลธรรมได้เเต่
ต้องไม่เกินงามเเละผิดของกฏเว็บ หากพบเจอ
ผมจะเข้าไปตักเตือน ขอให้เเก้ไขภายในสามวัน ซึ่งหากไม่ทำการเเก้ไขคงจะต้องทำการเเจ้งลบเเละตัดสิทธิ์ออกเเม้ว่าหนึ่งในผลงานที่ส่งมาหรือผลงานชิ้นนั้นจะได้รางวัลก็ตาม

7.ให้สิทธิ์คนที่ได้คะเเนนมากที่สุดเลือกของรางวัลก่อนนะครับ ซึ่งสามารถดูของรางวัลได้ที่คอมเมนท์สอบถาม ในรอบนี้จะรับเพียง
10อันดับเท่านั้นนะครับ~` โดยของรางวัล
1-5 มูลค่าไม่ต่ำกว่า200,6-10ของเล็กๆน้อยๆ

8.จะประกาศผลภายในวันที่8กรกฏาคม
หากผู้ชนะไม่มารายงานตัวภายในสองวัน
จะทำการ-สิทธิ์ออกทุกกรณีนะครับ

9.ถึงเเม้ว่าจะถูกเลือกโดยความชอบส่วนตัวของผม เเต่รอบนี้จะมีการให้คะเเนนในด้านอื่นๆสำหรับการคัดเลือกด้วยนะครับ 

10.กรุณาอ่านซ้ำอีกครั้ง หากมีข้อสงสัยให้ถามในคอมเมนท์สำหรับตอบคำถาม ป้องกันการตกหล่นของคำถาม/ข้อสงสัยต่างๆนะครับ

+++++++++++++++++++++++++

เริ่มตั้งเเต่วันนี้+หมดเขตสิ้นเดือนมิถุนายน
ประกาศผล8กรกฏาคม ส่งของ(???????)

-รางวัลพิเศษ #อ่านเถอะเรื่องนี้
สำหรับเรื่องที่มีคอมเมนท์เรียกร้องให้อ่าน 
กดถูกใจมากที่สุด อาจจะส่งบันทึกเสียงอ่าน
ให้ด้วย อันนี้ต้องดูความขี้เกียจก่อนนะครับ
ส่วนของรางวัล : ?????(ดูงบก่อนนะ)

ปล.โอนผ่านwalletเป็นหลัก ขก.เข้าบัญชี
เเต่ก็โอนได้เเหละ(กัดฟันพิมพ์เเน่นมาก)



•ท่านใดที่ไม่ได้รางวัลผมอาจจะเข้าไปติ
หรือให้คำเเนะนำเเทนนะครับ เเต่คงไม่ทุกคน
เพราะผมรู้สึกปวดตามากเลยครับ...
.
.
.
#คุ้มไหมวะค่าส่งโคตรเเพง(- - 
#จัดกิจกรรม #งานไล่เเกรบ
#มาเล่นกันเยอะๆนะครับ 


อยากได้นิยายเรื่องไหน การ์ตูนเรื่องอะไร
ลองอ้อนขอดูได้นะครับเดียวผมจะพิจารณา
#I ordered you to plead with me!!
#หย๊อกกก #ผมล้อเล่นครับ

กรีดร้องเเละจงพยายามให้มากขึ้นนะครับ!~`

++++++++++++++++++++++++++

[ หลักการให้คะเเนนByพี่ตุลา ]
-ความสัมพันธ์กันระหว่างชื่อเรื่องกับเนื้อหา 15
-การเลือกใช้สำนวนให้เข้ากับเเนวเรื่อง 20
-ลีลาการดำเนินเรื่องเเละลูกเล่นต่างๆ 40
-การสื่ออารมณ์+ความเข้าใจ50
-การสะกดคำเเละการใช้คำ20
-การจัดหน้ากระดาษ 15
-ระดับความยากในการอ่านออกเสียง50
(พวกประเภทที่เป็นคำลิ้นพันกัน อ่านยาก)

(อื่นๆไว้นึกออกจะมาบอกเพิ่ม)
ปล.ทั้งหมดไม่มีคะเเนนเต็ม 
จะเก็บคะเเนนเเบบบวกเพิ่มเรื่อยๆ 
สะสมคะเเนนตามดุลย์พินิจของผมเองครับ


++++ขออภัยในความไม่สะดวกครับ++++

แสดงความคิดเห็น

>

22 ความคิดเห็น

พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 05:35 น. 1

[อัพเดทวันที่๑ กรกฏาคม พ.ศ.๒๕๖๒]

หมดเขตกิจกรรมเเล้วนะครับทุกท่าน!!!

ขอขอบคุณที่มาเข้าร่วมกิจกรรมไร้สาระ(?)

ด้วยนะครับ ในด้านของรางวัลนั้นทางผมขออณุญาตจัดสิ้นเดือนหรืออย่างช้าต้นเดือนสิงหาคมนะครับ เนื่องจากโดนถล่มด้วยงานหนังสือเป็นที่เรียบร้อย---เเค่ก



เเล้วอย่าลืมมาพบกันวันที่8นี้ด้วยนะครับ

มาเลือกของรางวัลกันเถอะนะ!


๑.คำที่มิได้เอ่ย เเละ คือเธอในหัวใจ โดย รังสิมันต์(หมอตุ๊ด)

ไม่เคยอ่านสองเรื่องน่ี้เเต่คิดว่านามปากกาน่าจะบอกอะไรหลายๆอย่างได้เป็นอย่างดี เคยอ่านเรื่องอื่นๆของนักเขียนท่านนี้ ผมว่าเขามีพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจเเละเเปลกใหม่ทีเดียว

เห็นรีวิวเเล้วน่าจะเป็นเรื่องต่อกันเลยจะให้คู่กันไปเลย เเต่ก็เเยกได้นะครับ..

(ขออณุญาตนะครับ)

https://fictionlog.co/u/PatheMD


๒.นักอ่านกับพระเอกน่ะ ต้องคู่กันอยู่เเล้ว!?

อันนี้พึ่งสั่งพรีออเดอร์ไป มีห้าเล่มจบ ตอนนี้พึ่งเเปลออกมาเล่มเดียว เอามาอ่อยครับ

https://my.dek-d.com/minervanovel/writer/view.php?id=1923240


๓.หลุดโลกทั้งที เรียกพี่ว่า(นาย)ท่าน : Call-me My Lord

หนังสือมาส่งเเล้ว พบว่ามีตำหนิสาหัสอยู่มาก(จริงๆนะ) เเนวเนื้อเรื่องเหมาะกับวัยรุ่นมากๆ

ไม่มีฉากเรท เน้นเเฟนตาซี หนาเหมือนจะเอาไปหนุนหัว งึม..

https://writer.dek-d.com/Alittledream/story/view.php?id=1472299


๔.สีน้ำจำนวนน้อยนิด บังเอิญได้รางวัลมาเเล้วติดใจความน่ารักของเเพนจิ๋ว

ก็เลยไปหาเเหล่งซื้อขายสีน้ำเเฮนเมค น่ารักมาก น่าจะสิบสีนะครับรายการนี้


๕.อัญมณีจำนวนหนึ่ง เล็กๆเเต่ราคาทำร้ายไตอยู่พอสมควร

มีทั้งสีฟ้า สีเเดง สีม่วง ผมเคยมาลงไว้เเต่ดันจำชื่อมิได้(ฮา) จะเเจ้งชื่อไว้ให้ตอนส่งนะครับ


๖.กล่องโชคร้าย

เป็นของทำมือที่ผมทำเองเเหละ(หัวเราะ)

ส่วนมากเป็นของไร้สาระเเละไม่ค่อยมีประโยชน์ ไม่เหมาะกับคนบ้านรกนะครับ


๗.กระดาษปอนด์ ขนาดa4หรืออาจจะa5 อันนี้ผมไม่ค่อยเเน่ใจ..

จำนวนสิบห้าเเผ่น หรืออาจจะยี่สิบ ขอดูงบก่อนนะครับ บางทีอาจจะมาเป็นเล่มเล็กๆ?


๘.อภิมหาโพสอิท เครื่องเขียน วาชิเทป สมุดบันทึกลายน่ารักมุ้งมิ้ง(?)


๙.การ์ตูนวาย อันคัทเเนวดาร์ก ลายเส้นงามเเละ..(ละไว้ในฐานที่ไม่ต้องเข้าใจก็ได้)

มีทั้งเก่าเเละใหม่ที่สั่งจากสำนักพิมพ์น่าจะไม่เกินสิบเล่มมั้ง? มั้งนะ?


๑๐.นิยายวายonce ครั้งหนึ่ง จากEmerald

ผมอีกหนึ่งเรื่องที่ผมชอบมากเเละอยากบอกต่อ เลยนำมาเป็นของรางวัลครับ

อ่านเเล้วน้ำตาซึม น้องติน่ารักมาก เนื้อเรื่องไม่มีปมใหญ่ ค่อนข้างจะเรื่อยๆไปบ้าง

เเต่มันดีครับ ปกสวยเหมือนสีน้ำ ควรค่าเเก่การเก็บ ขออุณญาตนะครับ

https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40241.0


๑๑.นิยายเเจ่มใสเเละนิยายชายหญิงเรื่องอื่นๆ

จำนวนหลายเล่มเเต่ค่อนข้างเก่านะครับ ไม่ใช่พวกที่ประเภทพึ่งตีพิมพ์เเละอาจมีตำหนิ

(อาจมีีการเปลี่ยนเเปลงให้เหมาะสมกับผู้รับ)

๑๒.เงินรางวัลจำนวนสองร้อยบาท หนูจะเลือกอันนี้หนูต้องมีบัญชีหรือวอลเลทนะลูก


๑๓.ตุ๊กตา(ซึ่งจะปรับเปลี่ยนตามผู้รับ)


เดียวมาอัพเดทเพิ่มเติมนะครับ

11
Tdeuy 26 พ.ค. 62 เวลา 06:00 น. 1-1

คุณพี่ตุลาเกิดวันไหนคะ

สวัสดียามเช้าค่ะ^…^

0
牡丹 Mǔdān 26 พ.ค. 62 เวลา 07:20 น. 1-2

อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณพี่ตุลา

อยากทราบว่าท่านเกิดวันไหนรึ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-06.png

0
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 14:06 น. 1-6

เกิดวันศุกร์ครับ(?)

ลืมบอกไปว่าบทผู้หญิงผมก็อ่านได้--เเค่ก

คงไม่มีใครบ้าจี้เเต่งวายมาหรอกมั้ง?

0
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 14:11 น. 1-7

เห็นตอบ27กันเยอะเเยะ(หรือคิดว่าใช่เเต่เเกล้งตอบผิด) มีคนติดกับดักสินะ..(หัวเราะ)

0
ทิตภากร : กันต์ระพี 26 พ.ค. 62 เวลา 17:25 น. 1-8

ไม่รู้เหมือนกัน แอบไปจิ้มดูมา แบบอยากช่วยชาวบ้าน

ถ้าจขกท.ลงมั่วไว้ละก็ งานนี้มีพาพวกพ้องเพื่อนฝูงล่มกันหมดแน่

โอ้ว...ไม่นะ ไม่.................กระซิกๆ

0
Miran/Licht 27 พ.ค. 62 เวลา 22:32 น. 1-10

ไปที่เมนต์ที่ต้องการดูที่มุมบนขวาหารูปนี้แล้วกดเลย

https://image.dek-d.com/27/0060/1867/128905678


0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Tdeuy 26 พ.ค. 62 เวลา 06:47 น. 2

นามปากกา T.O.P

วันเกิด อืม 23 มิถุนาละกันค่ะ


ตั้งแต่ผมลืมตาเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ ผมไม่รู้ว่าตนเองเป็นใครและมาจากไหน แต่ผมรู้ว่ามีพี่น้องหลายคน ส่วนพ่อแม่ ผมจำหน้าท่านไม่ได้เสียแล้ว


การใช้ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะในทุกวันทุกเวลา พี่น้องรวมถึงตัวของผมจะถูกไล่ล่าสังหารโดยการกิน พวกเราต่างพยายามหนีเอาตัวรอกกันสุดชีวิต...

แม้จะมีอาหารที่เพียงพอแต่ก็ยังคงตาย


ผมเป็นคนความจำไม่ดีรวมถึงพี่น้องด้วย พวกเรามักคิดว่าการได้เจอใครสักคนเป็นสิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ


ชีวิตดำเนินวนเวียนต่อไปเรื่อย ๆ กินอาหารและเดินทาง


จนกระทั่งถึงวันที่เราอยู่ในวัยน่ารัก ใช่ หลายคนมักบอกเช่นนั้น พวกเราก็ถูกไล่จับทันที และไม่พ้นที่จะถูกขาย


การถูกกักขังในบริเวณที่มีขนาดเล็กทำให้อึดอัด การดิ้นรนไม่ยินยอมจึงมีอยู่ตลอดเวลา...


เมื่อมาถึงกรงขังแห่งใหม่จึงจะสามารถถูกปล่อยให้เป็นอิสระได้


เพียงไม่นานเกินรอผมก็ถูกปล่อยในสถานที่แห่งหนึ่ง พื้นหินทำให้รู้สึกดีในบางครั้ง แต่เคยคุ้ยหาอาหารก็ไม่มี ป่ารอบด้านเป็นอะไรที่ผมมักเข้าไปสำรวจเสมอ และอีกที่ ศาลาทรงจีน ผมมักแวะไปที่นั่นบ่อยเพราะมีลุงนั่งตกปลาอยู่ประจำ แกไม่เคยคุยกับผมหรอก ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนไป


ในทุก ๆ วันจะมีคนส่งอาหารมาให้ ทุกวัน ทุกมื้อ มีเพียงอย่างเดียวไม่เคยเปลี่ยนแปลง คนที่นำอาหารมาให้มักพูดเสมอว่า

"กินเยอะ ๆ นะ แกตัวอ้วนกลมแล้วช่างน่ารัก"

แม้จะโกรธที่คนผู้นั้นพูดเช่นนั้น แต่ปฏิกิริยาร่างกายของผมกลับไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของเธอได้แม้ว่าใจจะไม่ยินยอมก็ตาม


ผมกินทุกครั้ง แม้จะถ่ายออกมามากขึ้น แต่ก็ยังอ้วนกลมขึ้นอยู่ดี ทรงผมของผมเป็นที่ต้องตาพวกเขาเป็นพิเศษเช่นกัน


หลังกินเสร็จผมมักสะบัดตัวหนีแล้วไปเล่นฟองอากาศ คุ้ยหินเล่น และแวะไปชมศาลาพร้อมกับมองดูลุงตกปลา


"พ่อคะ ดูเจ้าหัววุ้นสิ ตัวมันใหญ่น่ารักมากเลย" เธอเอ่ยด้วยความดีใจ แววตาทอประกายรักใคร่


เมื่อได้ยิน ผมเพียงหันไปมอง เธอมักบอกเสมอว่า


ผมเป็นปลาทอง


จบแล้วอ่ะค่ะ รู้สึกว่าสั้นจัง สนุกดีค่ะ ขอร่วมสนุกด้วยคน

7
Tdeuy 26 พ.ค. 62 เวลา 06:50 น. 2-1

ไม่รู้ว่าได้ถึงหน้าหรือเปล่าค่ะ พอดีแต่งในโทรศัพท์

0
玉兰 (Yulan) 26 พ.ค. 62 เวลา 08:24 น. 3

นามปากกา อวี้หลัน(ดอกมณฑาขาว) ไม่ได้เป็นสาววาย

วันเกิดของคุณตุลา เออ...เอาเป็นวันที่ 27 มิถุนา ก็แล้วกันค่ะ(มั่วล้วน ๆ ฮ่า)


หวงเฉินกวาดสายตามองผ่านเข้าไปในความมืด คืนนี้ก็นับว่าเป็นอีกคืนหนึ่งที่ผมต้องทำหน้าที่เฝ้าสุสานของเตี่ย และก็เป็นอีกคืนที่ผมต้องทนทรมานจากความหวาดกลัวที่ไม่สามารถบอกใครได้


ความหวาดกลัวที่ผมต้องเผชิญมาตลอดสองวันที่ผ่านมา และผมยังต้องเผชิญกับมันต่อไปอีกห้าวันจนกว่าจะครบหนึ่งอาทิตย์


ความหวาดกลัวที่ผมว่าไม่ได้มาจากความหวาดกลัวที่ต้องเฝ้าสุสานเพียงลำพัง และมันก็ไม่ได้มาจากเตี่ยของผมอีกด้วย


แต่ความหวาดกลัวทั้งหมดของผม มันมาจากสุสานที่อยู่ไม่ไกลจากสุสานของเตี่ย สุสานที่มีดอกจวี๋ฮวาสีเหลืองสดปักอยู่ในแจกันตลอดเวลา ทว่าทั้งที่เป็นแบบนั้น สุสานนั้นกลับมีสภาพที่เต็มไปด้วยไม่เลื้อยปกคลุมอยู่โดยรอบ


หวงเฉินเดินถือไฟฉายฝ่าความมืดเข้าไปในทิศทางที่ตั้งสุสานของเตี่ย สายตาของเขาคอยจับจ้องไปที่สุสานที่อยู่ถัดไปตลอดเวลา เขาไม่ใช่คนกลัวผี และไม่เคยเชื่อเรื่องผี ทว่าในยามนี้เขาสามารถพูดออกมาได้อย่างไม่อายเลยว่าเขากำลังกลัว กลัวที่จะต้องไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ กับสุสานแห่งนั้น


ในขณะที่หวงเฉินเดินเข้าไปจนเกือบจะถึงสุสานของเตี่ยเขาก็ชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย เขามองไปที่สุสานที่มีดอกจวี๋ฮวาด้วยสายตาที่สั่นไหว


ถ้าหากไม่เดินผ่านสุสานนี้ไป ผมก็จะไม่สามารถไปถึงสุสานของเตี่ยได้ ทว่าจะให้ผมกล้าเดินผ่านมันไปได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งนั้นมันยังคงขวางทางผมอยู่


ผมค่อย ๆ ขยับเท้าเดินเข้าไปใกล้อย่างเชื่องช้า ในใจก็ได้แต่สวดมนต์และภาวนาขอให้มันอย่าได้ขยับเหมือนคราวก่อน ทว่ายิ่งขยับเข้าไปใกล้สุสานมากขึ้นเท่าไหร่หัวใจของผมมันก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นเท่านั้น


อย่านะ...


อย่าได้ขยับเชียวนะ...


อีกนิดเดียวเท่านั้นผมก็จะผ่านมันไปได้แล้ว อีกเพียงแค่สามสี่ก้าวผมก็จะผ่านมันไปได้แล้ว หวงเฉินสาวเท้าไปข้างหน้า ในใจก็เผลอนับถอยหลังไปด้วยความหวาดกลัว สาม สอง หนึ่ง


ทว่าไม่ทันที่ผมจะได้ดีใจที่สามารถก้าวผ่านมันมาได้ แขนซ้ายของผมก็ถูกคว้าหมับเอาไว้อย่างแรง

“พ่อหนุ่มพอจะมีบุหรี่เหลือสักม้วนไหม?”


คำถามนี้แม้จะไม่ได้แปลกประหลาดอะไรเลย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เหงื่อของผมไหลซึมออกมาทั่วกาย ผมไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองคนที่ถาม มืออีกข้างที่สั่นเทาค่อย ๆ ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบซองบุหรี่ออกมา


ผมใช้มือที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อยื่นซองบุหรี่ไปที่ด้านหลัง“ผะ...ผะ...ผมมีเหลืออยู่เท่านี้เองครับลุง ถ้าไม่พอวันหลังผะ...ผะ...ผม จะหยิบติดมือมาให้ใหม่”


“พ่อหนุ่มนี่ใจดีจริง ๆ แต่ว่าลุงไม่ชอบรับของของใครฟรี ๆ หรอกนะ เอ้า...นี่ลุงให้รับไปสิ”


“มะ...มะ...ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณลุงเก็บเอาไว้เถอะ ผะ...ผะ...ผมคงยังไม่ต้องใช้”


เมื่อได้ยินที่ผมพูดลุงแกก็หัวเราะออกมาเบา ๆ “เก็บเอาไว้เถิด สักวันพ่อหนุ่มก็ต้องใช้มัน เชื่อลุงสิ”


ผมรับของที่ลุงส่งให้มาไว้ในมือพลางกล่าวขอบคุณเสียงสั่น “ขะ...ขะ...ขอบคุณมากครับ”


“ลุงต่างหากที่ต้องขอบคุณพ่อหนุ่ม นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ลุงไม่เคยได้คุยกับใคร”


“มะ...มะ...ไม่มีใครมาเยี่ยมคุณลุงเลยเหรอครับ?”


เมื่อหลุดปากถามออกไปแล้วถึงมานึกขึ้นได้ว่า ผมไม่ควรที่จะถามคำถามนั้นออกไปเลย คนสติดี ๆ ที่ไหนจะอยากมาเยี่ยมลุงแก


“ไม่มีหรอกพ่อหนุ่ม คนที่จะมาเยี่ยมลุงไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว”


ถึงแม้ผมจะไม่ได้หันกลับไปมอง แต่เพียงแค่ฟังจากน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าลุงแกคงจะเหงามาก


“เอ่อ...คุณลุง ผะ...ผะ...ผมต้องรีบไปไหวสุสานเตี่ยแล้ว คุณลุงจะช่วยปล่อยแขนผมก่อนจะได้ไหมครับ?”


เขาก้มลงมองแขนของผมที่ถูกบีบจนแดงพลางกล่าวว่า “ขอโทษทีลุงลืมตัวไปหน่อย”


“มะ...มะ...ไม่เป็นไรครับ” ผมรีบตอบเสี่ยงสั่น


เมื่อลุงแกยอมปล่อยตัวผม ผมก็รีบกล่าวลาแกทันที “ผะ...ผะ...ผม...ขอตัวก่อนนะครับ”


“ไปเถอะพ่อหนุ่ม”


ผมค่อย ๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมองภาพที่เบื้องหลัง ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้เดินไปไกลลุงแกก็ส่งเสียงตะโกนเรียกผม


“พ่อหนุ่ม”


“มะ...มะ...มีอะไรเหรอครับ?”


“เห็นแก่ที่เธอให้บุหรี่ลุง ลุงอยากจะขอเตือนอะไรเธอเอาไว้สักอย่าง”


เตือน?


“นี่ก็ผ่านมาจะครบสามวันแล้ว เธอควรจะกลับไปที่บ้านของเธอได้แล้ว ถ้าขืนเธอยังไม่ยอมกลับไป จะไม่ทันการแล้วนะ”


ไม่ทันการ?


อะไรคือไม่ทันการ?


“ละ...ละ...ลุงหมายถึงเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ?” ผมเอ่ยถามลุงแกด้วยความสงสัย


พอได้ยินคำถามของผมลุงแกก็ถอนลมหายใจออกมาเบา ๆ “พ่อหนุ่ม เป็นเป็นก็ต้องอยู่กับคนเป็น คนตายก็ต้องอยู่กับคนตายเธอไม่เข้าใจหรือ?”


คนเป็น คนตาย?


ใครตาย?


“คุณลุงพูดเรื่องอะไรผมไม่เข้าใจ?”


“เรื่องนี้ลุงพูดไม่ได้ แต่ถ้าเธออยากรู้ก็รีบกลับไปที่บ้านเสีย ถ้าเธอไม่กลับไปก่อนพ้นเที่ยงคืน ทุกอย่างจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้วนะ...”


เหลวไหล! ถ้าผมสามารถกลับไปได้ผมจะต้องทนมายืนคุยกับผีอย่างลุงหรือไง!


“ผมยังกลับไปไม่ได้ถ้ายังเฝ้าสุสานเตี่ยไม่ครบเจ็ดวัน”


“เอาเถอะ ถือว่าลุงได้เตือนเธอแล้วนะ”


จบแล้วค่ะ (ฮ่า) เรื่องนี้ไม่ได้เขียนลงเว็บดังนั้นจึงไม่มีลิงก์ค่ะ ส่วนความยาวไม่แน่ใจเพราะเขียนสดตรงนี้เลย

ป.ล.ไม่อยากได้รางวัลแต่อยากร่วมเล่นสนุก(〃・ิ‿・ิ)ゞ

1
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 14:24 น. 3-1

ไม่อยากได้รางวัลงั้นตัดรายชื่อออก #หยอกๆ

เอาไปเถอะรางวัล ยัดเยียดมากครับพูดเลย

0
Miran/Licht 26 พ.ค. 62 เวลา 09:21 น. 4

มาร่วมเล่นเรียกแขก ไม่ได้หวังรางวัลหรอกบอกเลย


ขอทายว่าคุณตุลา เกิดวันที่ 24 มิถุนา

นามปากกา Licht เราเป็นพวก LGBTQ น่ะ (Lesbian, gay, bisexual, transgender and queer) เลยเขียนนิยายที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ระบุว่ายาโอยหรือยูริอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้


"รองเท้าแดง"


ลัล ลัล ล้า~ รองเท้าสีแดง สีแดงสวย...

ฉันสวมเจ้ารองเท้าสีแดงเต้นรำไป...

ทุกคนพากันหันมอง...

ฉันเต้นรำได้สวยงามนัก...เจ้านกกระจิบบอก


ลัล ลัล ล้า~ รองเท้าสีแดง สีแดงสวย...

ฉันยังคงสวมเจ้ารองเท้าสีแดงเต้นรำไป...

ทุกคนต่างเข้าบ้านกันหมดแล้ว

เนื่องเพราะได้เวลาเข้านอนกันแล้ว


ลัล ลัล ล้า~ รองเท้าสีแดง สีแดงสวย...

ฉันที่สวมเจ้ารองเท้าสีแดงเต้นรำไป...

เลือดสีแดงแต้มเป็นทางที่ฉันเต้นรำผ่านไป...

ฉันทรมานจนทนไม่ไหวอีกต่อไป...


ลัล ลัล ล้า~ รองเท้าสีแดง สีแดงสวย...

ฉันตัดสินใจสวมเจ้ารองเท้าสีแดงเต้นรำไป...

หน้าผาสูงชันอยู่ตรงหน้า...อีกไม่ไกล...อีกไม่ไกล

ฉันก้าวเท้าลงเหวไป...ลงเหวไป...

จบแล้ว...จบเสียที...


-----------------


สาวน้อย...ออกหาสมุนไพรหายากในป่าเพื่อนำมันไปขายเลี้ยงชีพ แล้วสายตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นวัตถุสีแดงที่ซุกอยู่ในกองใบไม้ เธอจึงเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาพิจารณา สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือรองเท้าหนังสีแดงข้างหนึ่ง ทั้งที่มันจมกองใบไม้ด้านนอกควรจะเปรอะเปื้อนฝุ่นดินบ้าง แต่มันกลับยังคงความสวยงาม หนังเป็นมันเงาล่อตาล่อใจเธอเหลือเกิน จนอดไม่ได้ที่จะควานหาอีกข้างหนึ่งที่อาจจะมีหรืออาจจะไม่มีก็ได้ ประกายสวยงามของหนังสีแดงราวกับบอกเธอว่ามันต้องมีคู่ของมันอยู่ใกล้ๆ กัน สาวน้อยจึงสอดส่ายสายตาหาจนเจอมันในที่สุด


เธอได้สมุนไพรเกือบเต็มตระกร้าแล้ว ฟ้าก็บอกเวลาว่าใกล้มืดค่ำแล้วเธอจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน หลังทานอาหารค่ำเธอจัดการผึ่งสมุนไพรที่เก็บมา จัดแยกประเภท และ...สุดท้ายเจ้ารองเท้าสีแดงคู่นั้น


คนกับรองเท้าต่างแลดูมีอำนาจอันน้อยนิด แต่เมื่อทั้งสองสิ่งมารวมกัน...มันอาจจะดูยิ่งใหญ่ขึ้นก็ได้


สาวน้อยใช้เศษผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดรองเท้าคู่นั้นอย่างเบามือ ก่อนจะพบว่าด้านในมีคราบสีน้ำตาลเกาะอยู่ เธอจึงต้องเช็ดอยู่หลายรอบจนแน่ใจว่าสะอาด เธอมองกองเศษผ้าแล้วถอนหายใจ ก่อนวางมันไว้บนเก้าอี้ แล้วจึงเตรียมตัวเข้านอน


เช้าวันต่อมา เธอจัดการรวมรวมสมุนไพรที่ตากจนแห้งใส่ตระกร้านำไปขายให้ร้านยาในเมือง เธอไม่ลืมที่จะนำเจ้ารองเท้าสีแดงคู่นั้นไปด้วย หลังขายสมุนไพรเสร็จเธอจึงก้าวเข้าร้านรับซื้อของ เธอวางรองเท้าสีแดงคู่นั้นบนเคานท์เตอร์ไม้ ชายวัยกลางคนเจ้าของร้านเหลือบมองก่อนยกนิ้วขึ้น 2 นิ้ว เธอส่ายหน้าปฏิเสธ จ้องมองเจ้าของร้านกลับ


"นั่นเป็นของดีมากนะ..." เธอกล่าว "อย่างน้อย 5 ไม่อย่างนั้นฉันจะนำไปขายที่อื่น" สายตาเธอบ่งบอกว่าอำนาจต่อรองอยู่ในมือเธอ และเธอจะไม่ยินยอมเสียโอกาสนั้นไป...เด็ดขาด เธอต้องเสียเวลาและแรงงานในการขัดถูมันอยู่นานเชียวนะ


เธอรู้สึกได้...รองเท้าคู่นี้ไม่ธรรมดา เธอคาดไว้ก่อนแล้ว มันต้องทำเงินให้เธอได้ อาจจะมากกว่าราคาสมุนไพรที่ขายในวันนี้ด้วยซ้ำ


เจ้าของร้านจึงหยิบเงินจากลิ้นชักใส่ลงในอุ้งมือสาวน้อยที่แบออกรับเงิน 7 เหรียญทอง


สาวน้อยยิ้มก่อนจะใส่เงินลงถุงเงินแล้วเดินออกมาจากร้าน เสียงรองเท้าไม้ที่สวมอยู่กระทบพื้นส่งเสียงเป็นจังหวะ


ของที่ขายได้ก็สมควรขายเธอมีรองเท้าไม้ที่ประเมินค่ามิได้ที่ชายคนรักทำให้อยู่แล้ว...จะแสวงหารองเท้าคู่อื่นอีกทำไม


ในเมื่อเท้าคนเราก็มีแค่คู่เดียว

17
Miran/Licht 26 พ.ค. 62 เวลา 09:25 น. 4-1

ก่อนไป เอาแบบปกติมนุษย์ก็ได้ค่ะ ขี้เกียจก็อปมา เอาเป็นลิงก์ละกัน


1. NL : Follow me

https://writer.dek-d.com/Miran/writer/viewlongc.php?id=1748671&chapter=3

2. GL วายค่ะแต่ยูริ : Take care of me https://writer.dek-d.com/Miran/writer/viewlongc.php?id=1748671&chapter=5


0
Tdeuy 26 พ.ค. 62 เวลา 09:59 น. 4-2

เคยอ่านของคุณมิรัน มายืนยันสนุกและให้ความรู้สึกดีมากเลยค่ะ

0
Miran/Licht 26 พ.ค. 62 เวลา 10:13 น. 4-7

บอกไปว่าไม่ได้หวังรางวัล ถึงจะรู้ก็ต้องแสร้งตอบผิดค่ะ // ค่อดคูลลล

0
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 14:37 น. 4-12

อ่านเสร็จเเล้วนึกถึงโดจินเรื่อง

โรงละครสีแดง : OGAWA Chise

เลยครับ--เเค่ก #ทำไมเป็นคนบาปหนาขนาดนี้นะ

0
Miran/Licht 26 พ.ค. 62 เวลา 14:49 น. 4-13

ถึงกับต้องไปเปิดหาเพราะช่วงนี้ไม่ค่อนอ่านการ์ตูน อ่อ...อาจารย์คนนี้น่ะเอง

0
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 14:53 น. 4-14

(เเสร้งทำเป็นปิดหน้าด้วยความเขินอายที่

อ่านอะไรเเบบนี้ประดุจสาวน้อยวัยเเรกเเย้ม)

0
玉兰 (Yulan) 26 พ.ค. 62 เวลา 14:54 น. 4-15

ด้วยความสงสัยถึงกับต้องไปถามกับอากู๋ โอ้...เนื้อหามันช่าง(น่าไปซื้อมาอ่าน) //แค๊ก ๆ ไม่มีใครได้ยินใช่ไหม?

0
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 14:57 น. 4-16

เอาเรื่องนี้ตั้งเป็นรางวัลดีไหมนะ

จะได้มีคนมาเล่นกันเยอะๆ (เเบบนี้เขาเรียกส่งเสริมเด็กๆในทางไม่ดีสินะ?).

#สองจิตสองใจเหลือเกิน #ของรักของฉันโดจินของฉัน---เเค่ก

0
Miran/Licht 26 พ.ค. 62 เวลา 15:09 น. 4-17

ก็ดีค่ะ กำลังอยากอ่านเผื่อได้เป็นรางวัลปลอบใจhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png

0
牡丹 Mǔdān 26 พ.ค. 62 เวลา 10:04 น. 5

นามปากกา 牡丹 Mǔdān

วันเกิด 29 มิถุนาละกันค่ะ (มั่วล้วนๆ)

ไม่ใช่สาววาย

(ไม่มีลิงก์นะคะ เพิ่งแต่งเมื่อกี้ เรียกง่ายๆก็คือการ ด้นสด นั้นเอง)


ร่างบางของหญิงสาวในชุดนักเรียนม.ปลายเดินขวักไขว่สวนกับผู้คนมากหน้าหลายตา ยวงผมสีดำสลวยถูกมัดรวบเป็นทรงสูงก่อนจะผูกด้วยโบสีน้ำเงินอีกทีตามกฎของโรงเรียน


เสื้อขาวแขนยาวบวกกับกระโปรงสีน้ำเงินตัวเนี๊ยบ ดูก็รู้ว่าผ่านการรีดมาอย่างดี มันทำให้ชุดดูแพงมากขึ้น… เข็มกลัดตราโรงเรียนอันดับหนึ่งถูกปักอยู่บริเวณเนคไทสีน้ำเงิน สะท้อนแสงเป็นประกายวิบวับ ใครดูก็ย่อมรู้ว่าเธอคนนี้ต้องมีฐานะไม่ธรรมดา


“อรุณสวัสดิ์ หลันฮวา”เสียงหวานใสเอื้อนเอ่ยออกมาจากลำคอระหง ใบหน้างามแฝงไปด้วยความหยิ่งยโสฉีกยิ้มเล็กน้อย


“เช่นกัน”หลันฮวากล่าว ดวงตาสีดำประกายน้ำตาลของเธอมองคนตรงหน้าอย่างสำรวจ ก่อนจะก้าวขานวลเพื่อขึ้นบันไดอีกชั้น ทว่า…เธอโดนดักไว้ก่อน…อีกแล้ว…เหมือนทุกวัน ทั้งๆที่จะถึงห้องแล้วแท้ๆ หลันฮวาคิดอย่างหงุดหงิด


“แหมๆ ทำเหมือนไม่อยากคุยกันเลยนะจ๊ะ”เจ้าของใบหน้างามแต่แฝงไปด้วยความหยิ่งยโสเอ่ย เธอมีเรือนผมสีน้ำตาลคาราเมลและดวงตาสีฟ้าที่เชิดรั้นขึ้นเล็กน้อย…มันดูสวยงาม ทว่าแฝงไปด้วยอันตราย ความเจ้าเล่ห์ของเธอคนนี้ไม่เป็นสองรองใคร

“กรุณาหลบด้วยค่ะ”หลันฮวากล่าวพลางจ้องหน้าอดีตเพื่อนรักของตน


“เรียกแบบนี้ดูห่างเหินกันจังนะ เพื่อนรัก”หญิงสาวจับปรอยผมสีน้ำตาลคาราเมลของตนมาทัดหูก่อนจะกล่าว น้ำเสียงแลดูน้อยใจ


“หยุดกวนฉันสักทีเถอะนะ สุ่ยเซียน”เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มตอแยตนมากเข้า หลันฮวาจึงกล่าวออกไปด้วยความนอบน้อม


“เป็นยังไงบ้างล่ะ? คุณหนูหลันฮวาผู้ตกอับ”สุ่ยเซียนเห็นอีกฝายกล่าวนอบน้อมตน ยิ่งได้ใจ กล่าวจี้จุดอดีตเพื่อนรักของด้วยความสนุกสนานปนสะใจ


“พอเถอะนะคะ”หลันฮวากล่าวขอร้อง บริเวณที่เธอยืนอยู่เป็นบริเวณเดียวที่ไม่มีกล้องวงจรปิด สุ่ยเซียนจึงชอบมาแกล้งเธออยู่ตรงนี้เสมอ อีกทั้งห้องเรียนเธออยู่ข้างบน ต้องใช้บันไดนี้เพื่อเป็นทางผ่าน…มันเป็นทางเผ่านดียวที่จะขึ้นห้องได้


การที่เพื่อนๆรู้… รู้ว่าเธอโดนรังแกแต่กลับไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือเลยสักคน เพราะกลัวในอำนาจครอบครัวสุ่ยเซียน เธอเคยบอกครูไปแล้ว บอกไปครูก็ทำโทษสุ่ยเซียน ไม่มีอะไรดีขึ้นเพราะการแกล้งมันกลับแรงกว่าเดิม ทั้งเขียนโต๊ะ สมุดขาด สมุดหาย โดนขังไว้ในห้องน้ำแล้วเทน้ำสกปรกใส่ ทำอย่างกับเธอไม่ใช่คน


หลายคิดว่าเธอเป็นลูกคุณหนู หลันฮวาอยากจะด่านัก เป็นคนฐานะไม่รวยยังดีกว่าถ้ามีความสุข อย่างว่า…เงินมันซื้อเพื่อนแท้ไม่ได้


“อืม…วันนี้มีเวลาเล่นน้อยหน่อย” สุ่ยเซียนพึมพัมเมื่อดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตน


“ไว้เจอกันใหม่ นังลูกโสเภณี”สุ่ยเซียนเดินเข้ามากระซิบข้างหนูหลันฮวาด้วยน้ำเสียงสมเพช นั้นมันเป็นการกระทำที่พลาดเมื่อคำกล่าวนั้นทำให้เส้นฟางแห่งความอดทนของหลันฮวาขาดผึ่ง


ความโกรธเข้าครอบคลุมจิตใจ ที่ผ่านมาเธอทนมาตลอด แต่ตอนนี้มันลามปามถึงแม่เธอ มันมากเกินไป ล้ำเส้นมากเกินไป!!


กรี๊ดดดดดดด

เสียงกรีดร้องของสุ่ยเซียนดังขึ้นด้วยความตกใจระคนหวาดกลัว ร่างของเธอตกลงมาจากบันไดด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก สุ่ยเซียนมั่นใจว่ามีคนผลักเธอแน่นอน ตรงที่เธอยืนมันไม่สามารถพลัดตกเองได้ นอกเสียจากว่ามีคนพลัก..


ใบหน้างามของสุ่ยเซียนบิดเบียวน่าเกลียดด้วยความโกรธ ในใจอยากจะตบตีหลันฮวาให้ตายไปข้างแต่ก็ไม่อาจทำได้ เมื่อร่างเธอหลนกระทบกับพื้นเย็นเฉียบ ความรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ไม่อาจขยับได้ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งลอยมาแตะจมูก


“อย่าให้ฉันต้องร้ายนะคะ คุณอดีตเพื่อนรัก”เสียงสุดท้ายที่เธอได้ยินก่อนสติจะดับไป


*เป็นการด้นระดับสิบ555


3
牡丹 Mǔdān 26 พ.ค. 62 เวลา 19:06 น. 5-2

ตายไหมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆตันค่ะ ไม่รู้จะเอายังไง ตัดจบแบบนี้แล้วกัน555

0
ทิตภากร : กันต์ระพี 26 พ.ค. 62 เวลา 16:21 น. 6

อยากเล่นด้วยอะ อยากเล่นด้วย

แต่เขียนเรื่องสั้นไม่เป็น อันนี้ใช้ได้ป่าวไม่รู้ เป็นงานที่เขียนไว้

นามปากกา ทิตภากร : กันต์ระพี

27 มิถุนามาบรรจบ ครบอายุที่เท่าไหร่ไม่รู้

ลืมตอบ เขาไม่ใช่สาววาย


ภวังค์รักรัตติกาล

(Now and forever)

ประพันธ์โดย...ทิตภากร : กันต์ระพี

สภาพอากาศในเมลเบิร์นเป็นอะไรที่คาดเดาได้ยาก วันนี้ท้องฟ้าโปร่ง พรุ่งนี้อาจมีพายุและเมฆฝน หมอกหนาในช่วงค่ำ อุณหภูมิลบต่ำกว่าสิบองศา วิสัยทัศน์ในการมองเห็นไม่ค่อยดีนัก แต่คนที่นี่ก็เรียนรู้ที่จะปรับตัวและยังสัญจรไปมาโดยใช้บริการรถสาธารณะเป็นหลัก แม้จะไม่มีกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับตายตัว แต่คนส่วนใหญ่ก็มักจะใช้พาหนะส่วนตัวในช่วงวันหยุดเสียมากกว่า เพราะต่างก็ให้ความสำคัญกับช่วงเวลาเร่งรีบในวันทำงาน

มอร์แกนกับแซนด้าก็เช่นกัน...

หนุ่มสาวชาวออสซี่คู่นี้อยู่กันคนละรัฐ แต่โชคชะตาได้ชักพาให้มาทำงานและพบรักกันโดยบังเอิญที่เมลเบิร์น หลังจากแต่งงานกันได้ไม่นาน ทั้งสองต่างก็ใฝ่ฝันถึงการมีบุตรตัวน้อยมาสานฝันในการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งคงเป็นจริงสักวัน หากวันนี้หลังเลิกงานไม่เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นเสียก่อน

‘อุบัติเหตุ’ เป็นเรื่องไม่คาดฝัน ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว! เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่คนขับรถโดยสารประจำทางตัดสินใจหักพวงมาลัยหลบรถบรรทุกที่วิ่งสวนทางกินเลนมา โศกนาฏกรรมตรงหน้าก็พร้อมจะดับฝันผู้คนบนรถคันนั้นให้พังภินท์ในพริบตา

“ไม่...ไม่นะ!!”

มอร์แกนแผดเสียงก้อง ไม่สนใจสภาพตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บจากแรงเหวี่ยงจนร่างกระเด็นออกมานอกตัวรถเสียด้วยซ้ำ เวลานี้สองเท้าเขาวิ่งตรงไปที่จุดเกิดเหตุ ใจคอไม่ดี เมื่อเห็นแซนด้านอนหายใจรวยริน ร่างชุ่มโชกไปด้วยเลือดติดกับเบาะรถโดยสารที่พลิกคว่ำก่อนจะไถลไปชนต้นไม้ข้างทางเข้าอย่างจัง

“โอ้ว พระเจ้า! คุณเป็นยังไงบ้าง ผมจะโทรเรียกรถพยาบาล” มอร์แกนควานหาโทรศัพท์ลนลาน เพียงเพื่อจะสบถออกมาไม่เบานัก เมื่อพบว่าหน้าจอโทรศัพท์แตกร้าวใช้การไม่ได้

แซนด้าเองก็รับรู้ความรู้สึกหงุดหงิดนั้นได้ จากท่าทางที่เขาเสยผมลวกๆ ไม่อยากให้เป็นกังวล เธอก็กัดฟันข่มความเจ็บยื่นมือสั่นเทาออกไปสัมผัสหลังมือคนรัก

“อย่าร้อนใจไปเลยที่รัก คงมีคนโทรเรียกรถพยาบาลแล้ว”

“แต่...” มอร์แกนละล้าละลัง

“ได้โปรด...อยู่กับฉันเถอะนะ ฉันขอร้อง...”

มอร์แกนมองสภาพคนรักแล้วสะท้อนใจนัก ทั้งที่อยากรองรับความเจ็บปวดทั้งหมดแทน แต่เขาทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากรั้งมือนุ่มมากุมไว้แล้วลูบไล้เชิงปลอบประโลมใจ

“อดทนไว้นะที่รัก ผมอยู่ตรงนี้ ทำใจดีๆ ไว้...”

แซนด้าฝืนยิ้มน้ำตารื้น กำลังใจดีๆ จากคนรักนั้นเปรียบเสมือนยาวิเศษ แต่ชีพจรก็อ่อนล้าลงทุกขณะ วินาทีที่ลมหายใจขาดห้วง ร่างทั้งร่างก็ผวาเฮือก ไม่อาจทานทนต่อพิษบาดแผล หรือแม้แต่จะยื้อชีวิตตัวเองเอาไว้

“โอ้ว ไม่...! ไม่นะแซนด้า อย่าทิ้งผมไป...!!”

มอร์แกนคร่ำครวญรวดร้าว หัวใจเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้น สถานการณ์ตรงหน้าบีบคั้นหยาดน้ำตาลูกผู้ชายให้ไหลริน ไม่รู้จะช่วยคนรักอย่างไร นอกจากลูบคลำไม้กางเขนในอกเสื้อแล้วพร่ำภาวนาในใจ ตามประสาคนสิ้นหวังที่ต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ

‘ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ทรงเมตตา ได้โปรด...ช่วยคนรักของลูกด้วย ช่วยเธอสักครั้ง อย่าพรากเธอไปจากลูกเลย...’

คำวิงวอนที่ออกมาจากใจจะไปถึงผู้เป็นใหญ่บนสรวงสวรรค์หรือไม่...ไม่อาจรู้ แต่เวลานี้สายลมพัดอู้ ท้องฟ้าปั่นป่วนราวกับเกิดวิปริต จู่ๆ อสนีบาตก็ฟาดเปรี้ยง ส่งเสียงคำรามสะเทือนเลือนลั่น ขณะถ้อยคำเย้ยหยันแว่วในภวังค์ของมอร์แกน ราวกับมีใครบางคนมากระซิบข้างหู

“มนุษย์ผู้โง่เขลา...”

“ใคร...ใครกันที่พูด!?” มอร์แกนหันขวับ ไม่พบสิ่งใดนอกจากความว่างเปล่า แรกทีเดียวคิดว่าหูฝาด จนกระทั่งหันมองแซนด้าแล้วไม่พบร่างชุ่มโชกไปด้วยเลือดก็เอะใจขึ้นมา

เวลานี้บนถนนไร้ร้างผู้คน บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด น่าอึดอัด เสียงหวีดหวิวของสายลมช่างวังเวงนัก ราวกับติดอยู่ในห้วงแห่งกาลเวลาอีกมิติหนึ่ง ถึงกระนั้นสัญชาติญาณในตัวก็รับรู้ได้ถึงพลังงานอะไรบางอย่าง และมันกำลังบอกเขาว่า...ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง!

มอร์แกนกวาดสายมองไปโดยรอบอย่างระแวดระวัง หัวใจเต้นแรงขึ้นทุกขณะ เหงื่อกาฬผุดพรายในอุ้งมือ ทั้งที่อากาศรอบตัวเย็นยะเยือกสะท้านไปถึงกระดูก โสตประสาทตื่นเร้า หวาดระแวง เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งลี้ลับที่มีพลังอำนาจเหนือมนุษย์

“เจ้าช่างน่าสมเพชนัก!” เป็นอีกครั้งที่คำถากถางแว่วในภวังค์

แม้มอร์แกนจะยกมือขึ้นปิดหูโดยอัตโนมัติ แต่ความใคร่รู้ ผนวกกับความโกรธก็อยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง เขาก็เปิดปากท้าทายออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“อย่าดีแต่พูดดีกว่า ถ้าแน่จริงก็ออกมา ออกมาเจอกันซึ่งๆ หน้า”

“ข้าก็อยู่ตรงนี้ไง...”

มอร์แกนเพ่งมองตามทิศทางของเสียง ทว่า...แสงนีออนบนท้องถนนไม่ช่วยในการมองเห็นมากนัก ถึงกระนั้นก็พอคาดเดาได้ว่าเจ้าของเสียงกังวานที่ยืนกอดอกอิงหลังกับต้นไม้ใหญ่ในระยะสายตานั้นเป็นบุรุษ

“คุณเป็นใคร ทำไมพูดจาอะไรแปลกๆ”

“ข้าก็แค่ผ่านมาและได้ยินความปรารถนาในใจเจ้า”

“ได้ยินอย่างนั้นเหรอ?” มอร์แกนขมวดคิ้วมุ่น สะดุดหูกับคำพูดนั้น

แน่ล่ะ...หากสิ่งที่คิดอยู่ในใจ แล้วอีกฝ่ายจะล่วงรู้ได้อย่างไรกัน นั่นเป็นเรื่องที่เขาสงสัยอยู่ แต่ไม่ทันได้สอบถาม จู่ๆ คู่สนทนาก็สำแดงเดชปรากฏกายตรงหน้า ราวกับว่าเป็นเรื่องง่ายดายเสียจริงๆ

มอร์แกนผงะเล็กน้อย นัยน์ตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นร่างทรงพลังสยายปีกแสดงฤทธาน่าเกรงขาม แม้นัยน์ตาสีรัตติกาลจะสะท้อนความเย่อหยิ่งแลเย็นชา ไร้ความรู้สึก แต่โครงสร้างใบหน้าคมเข้มก็งดงามราวกับประติมากรรมในงานศิลป์ ไม่มีส่วนใดใกล้เคียงกับคำว่า ‘น่าสะพรึงกลัว’ เสียด้วยซ้ำ ตรงกันข้าม...บุรุษลึกลับผู้นี้หล่อเหลาราวกับเทพบุตรก็ว่าได้

“นี่...นี่คุณเป็นเทพ เทวดา หรือว่าภูตผีปีศาจกันแน่!?”

“เจ้าจะสนใจทำไม ข้าช่วยคนรักของเจ้าได้ก็น่าจะพึงพอใจแล้ว”

“จริงเหรอ!” แม้มอร์แกนจะมีสีหน้าแปลกประหลาดใจ แต่แววตาก็สะท้อนความคาดหวังอย่างเห็นได้ชัด “เมื่อกี้คุณบอกว่าช่วยแซนด้าได้อย่างนั้นเหรอ คุณช่วยเธอได้จริงๆ ใช่ไหม คุณไม่ได้ล้อผมเล่นใช่หรือเปล่า”

“ไยจึงถามเช่นนั้น!” นัยน์ตาสีรัตติกาลที่ตวัดมองฉายแสงแดงฉานฉาบความเกรี้ยวกราด ฉับพลันทันใด...สร้อยที่ร้อยไม้กางเขนบนลำคอของมอร์แกนก็ร่วงหล่นลงสู่พื้น ราวกับเจ้าตัวจะประกาศศักดากลายๆ “หรือเจ้าศรัทธาเศษโลหะนั่นมากกว่าข้า!”

“ไม่ใช่นะ! ไม่ใช่อย่างนั้น ผมก็แค่ดีใจที่รู้ว่าคุณช่วยแซนด้าได้”

“ข้าจะช่วยก็ต่อเมื่อมีข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ”

“เรื่องนั้น...ไม่ใช่ปัญหา ถ้าคุณทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร ผมยอมทั้งนั้น”

“แม้กระทั่งชีวิตเจ้าอย่างนั้นหรือ?” บุรุษลึกลับปรายตามองราวกับหยั่งเชิงกลายๆ คิดว่าจะได้เห็นความลังเลในจิตใจมนุษย์ผู้นี้ ทว่า...

“ถ้าชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต...ผมยินดี!” มอร์แกนยืนกราน

เขาจะอยู่ได้อย่างไร หากต้องใช้ชีวิตที่เหลือโดยปราศจากคนรัก โลกทั้งใบคงไร้สีสัน ถ้าต้องจมอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำที่น่าเศร้า มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและทุกข์ทรมานใจสำหรับเขา ถึงแม้จะมีลมหายใจต่อชีวิตไปวันๆ แต่การอยู่อย่างซังกะตายก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายไปแล้ว

“ดี! ข้าชื่นชมคนที่มีศรัทธาในความรักแรงกล้าอย่างเจ้านัก” แม้จะกล่าวเช่นนั้น แต่รอยยิ้มเหยียดบนริมฝีปากก็บ่งบอกว่าดูแคลน

มนุษย์หนอมนุษย์ ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่โง่เขลาที่สุด ละโมบ โลภมาก ไม่เคยมีอะไรเพียงพอในชีวิต ไม่มีใครตัดกิเลสตัณหาออกจากใจได้เลยสักคน เพียงแค่ถูกล่อลวงด้วยความปรารถนาดำมืดในก้นบึ้งจิตใจ ทุกคนต่างก็ศิโรราบยอมรับพันธนาการปีศาจอย่างไม่มีเงื่อนไข ยอม...แม้กระทั่งสละชีวิต เลือดเนื้อ จิตวิญญาณให้ตกอยู่ใต้การจองจำที่มืดมิด

ช่างน่าสมเพชนัก!



7
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 18:19 น. 6-1

งุ้ย.. ในที่สุดก็มีเเนวฝรั่งโพล่มากับเขาบ้าง

#เเต่ไม่ว่าภาษาไหนผมก็ออกสำเนียงมั่วอยู่ดี

0
ทิตภากร : กันต์ระพี 26 พ.ค. 62 เวลา 19:40 น. 6-2

จริงๆ อยากบอกว่าอายมาก


นี่เป็นงานเขียนในแนวที่ไม่ถนัดค่ะ ไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย เคยลองเอาลงเว็บในนามปากกาที่คิดจะเปิดใหม่ สรุป...ไม่มีคนจิ้มมาอ่านเลย ฮากลิ้ง


สมมุตินะสมมุติ

ถ้าเกิดได้รับเลือก เราขอหินสีนะ ชอบๆ อยากได้สีแดงอะ

(ช่างกล้าคาดหวังนะยะหล่อน 555)



0
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 20:02 น. 6-3

กำลังนึกอยู่ว่ามีไหม ผมดันชอบผมหินดิบเเร่ดิบอย่างอเมทิสนี่สิ ขอเช็กก่อนนะครับ

0
ทิตภากร : กันต์ระพี 26 พ.ค. 62 เวลา 21:07 น. 6-4

ก็โออยู่นะ


เขาว่ากันว่าอเมทิสต์เป็นหินนำโชค (เขาที่ว่านี่มันเป็นใคร555)

เคยเห็นๆ สีม่วงๆ ใช่ป่าวคะ

0
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 21:23 น. 6-5

เรื่องของเรื่องคือราคามันสูงน่ะ

เลยไม่ค่อยอยากปล่อยในรางวัลสักเท่าไร

ไหนจะค่าขนส่งอีก จำได้ว่าเห็นหินอยู่อันหนึ่งทรงหยดน้ำสีเเดงสวยมาก เล็กกว่าเหรียญสองบาทอีกทั้ง? 200up..


ใช่ครับอเมทิสต์สีม่วง มันเป็นเครื่องรางนำโชคก็จริงเต่ผมจำไม่ได้ว่าด้านไหน ที่เอามาเป็นของรางวัลอาจจะเป็นพวกผลึกที่ยังไม่ได้เจียรหรือขัดมัน ชิ้นเล็กมาก เล็กกว่าเหรียญบาทอีกทั้ง? อาจจะมีควอสที่เป็นเศษเยอะหน่อย ผมว่าต้องดูที่งานเขียนด้วย ถ้าเขียนดีจริงอาจจะเอามาถวายให้เลย


0
พี่ตุลา 29 พ.ค. 62 เวลา 18:42 น. 6-7

งุ้ย ไม่ยากขนาดนั้นหรอกครับ

ผมปล่อยของง่ายจะตาย พยายามเข้านะครับ!~`

0
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 18:44 น. 7-3

รับทุกเเนวยกเว้นเเฟนฟิคครับ

อันนั้นอ่านออกเสียงไม่ไหวจริงๆ(หัวเราะ)

0
Pungpron 26 พ.ค. 62 เวลา 18:20 น. 8

ชื่อเรื่อง : อินเทอร์เน็ตฟรี

นามปากกา : พังพรอน

ไม่ใช่ฟิค

ไม่วาย

จำนวนหน้า : เกินสาม อาจจะสี่กว่า ๆ

วันเกิด อ่า...25 มิถุนายน


คลิ๊กเข้าไปเลยครับ


https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1861436&chapter=10

7
Pungpron 26 พ.ค. 62 เวลา 19:03 น. 8-1

เพิ่งเห็นวันสิ้นสุดกิจกรรม...สิ้นเดือนหน้า โห คงรอจนรากงอก 555

0
Pungpron 2 มิ.ย. 62 เวลา 14:15 น. 8-3

แก้กติกาให้เอามาโพสในเม้นเหรอครับ แบบนี้ผมก็ทำผิดกติกาน่ะสิ

0
玉兰 (Yulan) 2 มิ.ย. 62 เวลา 14:18 น. 8-4

ขออนุญาตตอบแทน จขกท. นะคะ


1.เเต่งเรื่องสั้นลงในคอมเมทน์กระทู้นี้หรือเชื่อมลิงค์เข้าสู้หน้านิยายโดยไม่ข้ามเว็บ

0
Pungpron 2 มิ.ย. 62 เวลา 14:26 น. 8-5

พอดีผมไปอ่านข้อที่ 3 น่ะครับ (พอดีพี่แกแก้หลายรอบ ๆ เลยชักงง ๆ 555)


https://image.dek-d.com/27/0709/6716/128926645

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

WriteFromHEART 26 พ.ค. 62 เวลา 18:33 น. 9

ขอโทษนะคะ ราคานิยายนี่คือเรียกว่าเกือบถึง 400 บาทเหรอคะ คิดราคารวมค่าส่งจึงเรียกว่านิยายนี้มีมูลค่าเกือบ 400 บาทกรือคะ?


แล้วคือรางวัลของที่ 3 มีมูลค่ามากกว่ารางวัลที่ 1 หมายความว่ายังไงเหรอคะ?


จะบอกว่าไม่อยากเข้าร่วมเล่น ก็ไม่ควรติ อันนี้ขออนุญาตไม่เห็นด้วยนะคะ


ถึงจะกล่าวว่าเป็นการบำบัด หรือสนองความพอใจของตนเองก็ตาม แต่รู้สึกว่าคุณไม่ได้ให้ค่ากับความคิด และฝีมือของนักเขียนท่านใดๆเลย แถมกิจกรรมของคุณเองแท้ๆ แต่ท้ายประโยคล้วนมีแต่คำลงท้ายว่า'ขี้เกียจ'​กิจกรรมนี้แท้จริงแล้วไม่ได้จริงจัง แต่เพียงใช้คำอ้างว่า 'เป็นการกระตุ้นฝีมือนักเขียน'? ที่ถูกเพียงแค่คุณวิจารณ์เพียงคนเดียวเท่านั้น? แบบนี้ถือว่าเหมาะสมกับการพัฒนาฝีมือจริงๆหรือคะ?


ความคิดเห็นของเราอาจจะถูกมองว่าดราม่า คิดมากไป หรืออคติ หรือมันอาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่สำหรับการกระทำแบบนี้ไม่ใช่สิ่งดีสำหรับวงการนักเขียนในระยะยาว และวงกว้างเลยค่ะ

3
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 19:58 น. 9-2

ไม่คิดว่าจะมีคนสงสัยเลยติดสตั้นไปนิด

#เเต่ที่หายไปนานคือพิมพ์เเล้วมันเด้งครับ

โอเคครับผมจะไล่ตอบคำถามตามที่พิมพ์มานะครับ


1.ขอโทษนะคะ ราคานิยายนี่คือเรียกว่าเกือบถึง 400 บาทเหรอคะ คิดราคารวมค่าส่งจึงเรียกว่านิยายนี้มีมูลค่าเกือบ 400 บาทกรือคะ?

•ตอบ• ใช่ครับ ผมรวมค่าจัดส่งเข้าไปด้วย

ปกติเขาไม่รวมกันหรือครับ? พอดีผมยังมือใหม่ทางด้านนี้ เเต่ผมคิดว่าไม่ว่าจะสั่งซื้อหรือออกไปซื้อเองยังไงก็ต้องมีค่าขนส่ง/ค่าเดินทางอยู่เเล้ว ตัวนิยายที่ผมเอามาก็เป็นรอบจองที่มีของเเถมด้วยเด็กๆบางคนอาจจะหมุนเงินออมค่าขนมไม่ทันนะครับ ซึ่งผมเคยได้อ่านนิยายเรื่องนี้มาเเล้ว โดยส่วนตัวเเล้วผมรู้สึก

ว่ามันสนุกมันดีมาก ควรค่าเเก่การสะสม เลยคิดว่ามันก็สมกับราคา400บาทดีครับ

ไปลองอ่านกันได้นะครับของโคตรดี--เเค่ก

#หยอกๆ


2.แล้วคือรางวัลของที่ 3 มีมูลค่ามากกว่ารางวัลที่ 1 หมายความว่ายังไงเหรอคะ?

•ตอบ•ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษเลยครับ

คือเรื่องมันมีอยู่ว่าตอนที่สั่งจองนิยายเรื่องนี้ผมดันเจออีกเจ้าที่ราคามัดจำถูกกว่า ก็เลยหน้ามืดสั่งจองไปอีกหนึ่งชุดเท่านั้นเองครับ

หากใครมาทันช่วงบ่ายจะเห็นว่าเดิมทีนั้นกระทู้นี้มีเพียงเเค่รางวัลที่1 200บาท รางวัลที่2 100บาท เเละรางวัลที่สามนิยายวาย โดยไม่ได้บอกชื่อเรื่องไว้ ผมก็เพียงเเค่นำนิยายที่สั่งซ้ำมาเเปะในรางวัลที่สามที่เป็นนิยายวายก็เท่านั้นเองครับ


ส่วนถ้าถามว่าในเมื่อมูลค่ารางวัลที่สามมันมากกว่า1,2ทำไมไม่เพิ่มมูลค่ารางวัลที่1,2

ผมหมุนเงินไม่ทันเเล้วครับ(._. ช่วงนี้ผมสั่งของไปค่อนข้างเยอะ+เดือนกรกฎามีงานหนังสือเลยไม่สามารถเพิ่มมูลค่าที่ไม่เเน่ใจว่าตัวเองจะมีจ่ายไว้ให้ได้ เเต่ในอนาคตมีเเผนจะมีการปรับมูลค่ารางวัลอย่างเเน่นอนครับ

(อาจจะส่งรางวัลช้าหน่อยอะนะ)


หรือผมควรเปลี่ยนลำดับรางวัลครับ?



3.จะบอกว่าไม่อยากเข้าร่วมเล่น ก็ไม่ควรติ อันนี้ขออนุญาตไม่เห็นด้วยนะคะ

•ตอบ•โห้ย ติมาเถอะครับ ผมอยากได้คนเล่นด้วยเเต่ครั้งหน้าก็อยากจะให้ไปพิมพ์ถามที่ใต้คอมเมนท์สำหรับถามนะครับ ผมกลัวตกหล่นไม่ได้ตอบน่ะ(._.



4.ถึงจะกล่าวว่าเป็นการบำบัด หรือสนองความพอใจของตนเองก็ตาม แต่รู้สึกว่าคุณไม่ได้ให้ค่ากับความคิด และฝีมือของนักเขียนท่านใดๆเลย แถมกิจกรรมของคุณเองแท้ๆ แต่ท้ายประโยคล้วนมีแต่คำลงท้ายว่า'ขี้เกียจ'​กิจกรรมนี้แท้จริงแล้วไม่ได้จริงจัง แต่เพียงใช้คำอ้างว่า 'เป็นการกระตุ้นฝีมือนักเขียน'? ที่ถูกเพียงแค่คุณวิจารณ์เพียงคนเดียวเท่านั้น? แบบนี้ถือว่าเหมาะสมกับการพัฒนาฝีมือจริงๆหรือคะ?

•ตอบ•คำว่าขี้เกียจที่ผมใส่ไปมีจุดประสงค์เพื่อสื่อว่า "ไม่อยากให้คาดหวังครับ" ประมาณว่า ถ้ามาช้าคือขก.อยู่นะ อย่าคาดหวังเลยหมอนี่มันขก. บางอันก็ใส่เป็นมุกครับ

เเละเเน่นอนว่ากิจกรรมนี้ก็ไม่ได้จริงจังจริงๆครับ


คล้ายกับจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเเจกรางวัลอยู่เเล้วจะเห็นว่ากติกามันง่ายมาก ของรางวัลผมก็ปล่อยง่ายมากเช่นกัน เเต่เผาเกินไปก็อดเน้อ มันก็ไม่เชิงหรอกครับ คิดซะว่าเป็นการขับไล่ความขี้เกียจ เเบบ ดูนี่สิฉันเเต่งเรื่องสั้นได้ตั้งเรื่องหนึ่งเเหนะ หู้ว อันนี้ได้รางวัลด้วยนะ เป็นอะไรเล็กๆน้อยๆครับอย่างเช่นตันเรื่องนั้นมาเเต่งเรื่องสั้นส่งสักหน่อย ระบายไอเดียอะไรเเบบนี้ครับ


ส่วนเรื่องที่ผมวิจารณ์คนเดียว ผมอาจจะไม่ได้วิจารณ์อย่างจริงจังมากเเละไม่มีฝีมือเท่ากับนักวิจารณ์ท่านอื่นๆเเต่ผมคิดว่าเเม้จะเป็นเพียงเเค่หนึ่งคนธรรมดาวิจารณ์ก็สามารถเปิดเเนวทางความคิดใหม่ได้ครับ ดีกว่าคลำทางเองล่ะนะ อีกอย่างคือผมจะชอบยกตัวอย่างเป็นงานเขียนวัยรุ่นให้กับวัยรุ่น ไม่ใช่ว่างานเขียนรุ่นเก๋ามันไม่ดีนะครับ เเต่ผมคิดว่าน้องๆคงจะอ่านง่ายกว่า ตรงใจกว่า ประมาณนั้นครับ


ขอทราบได้ไหมครับว่าส่วนไหนที่อ่านเเล้วรู้สึกว่าผมไม่ให้ค่ากับงานเขียนของท่านอื่นๆ ผมจะได้ปรับปรุงเเก้ไขในส่วนนั้นครับ



5.ความคิดเห็นของเราอาจจะถูกมองว่าดราม่า คิดมากไป หรืออคติ หรือมันอาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่สำหรับการกระทำแบบนี้ไม่ใช่สิ่งดีสำหรับวงการนักเขียนในระยะยาว และวงกว้างเลยค่ะ

•ตอบ•ผมคิดว่ามีคนไม่มากก็น้อยเกิดข้อสงสัยเช่นเดียวกับคุณเเละกำลังคำตอบจากผมอยู่ ในตอนนี้ผมได้มาตอบคำถามเเล้วนะครับ หากยังสงสัยตรงจุดไหนหรือข้อสงสัยอื่นๆเพิ่มเติมสามารถสอบถามมาได้เลยครับ ผมยินดีตอบอาจจะช้าหน่อยเเต่จะมาตอบครับ


รบกวนตอบข้อสงสัยของผมหน่อยได้ไหมครับว่ากิจกรรมนี้ส่งผลต่อวงการนักเขียนอย่างไร ผมจะได้นำไปปรับปรุงสำหรับกิจกรรมครั้งหน้าครับ

0
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 19:59 น. 9-3

เพ้ย! พึ่งเห็นว่าติดเเท็กกิจกรรมบำบัด

ขอตัวไปเเก้ก่อนนะครับ

0
ณ เรือนแก้ว (Philous) 26 พ.ค. 62 เวลา 23:18 น. 11

ขอเล่นด้วยคนนะคะพี่ตุลา ใช้เวลาคิดพลอต 20 นาที 555

นามปากกา : ณ.เรือนแก้ว

ไม่ทายวันเกิดพี่ตุลาดีกว่าค่ะ เห็นเล่นกันเยอะแล้ว

ไม่ใช่สายวายเลย รวมถึงเรื่องสั้นก็ด้วย 555 (ไม่เคยเขียนเรื่องสั้นมาก่อนค่ะ)

นิยายไม่ติดเรตแต่มีบรรยายเชิงสัญญะอีโรติกนิดหน่อยให้เดาๆกัน


เรื่องสั้น : หวีดร้อง


๑ . เสียงหวีดร้องของผู้คนที่อยู่ใกล้ๆผม เสียงย่ำเท้าที่วิ่งกรูเข้ามาดูเหตุการณ์ตรงหน้า ทุกสิ่งรอบตัวแตกฮือกระจาย ผมชายตามองร่างหนึ่ง ร่างที่คุดคู้กองอยู่บนพื้นทรายตรงหน้า สีแดงเข้มทะลักออกจากรูตรงกลางอกนั่นย้อมทุกอย่างบนพื้นตรงหน้าให้แดงฉาน ควรตกใจไหม...ผมรู้จักร่างตรงหน้าไหม... ไม่สักนิดนี่นา ควรเสียใจหรือร่ำไห้คร่ำครวญกับสิ่งที่เคยมีชีวิตตรงหน้าหรือ...ไม่หรอก ไม่รู้จักกันจะไปเสียใจเพื่ออะไร

หยดเลือดบางส่วนยังคงกระเซ็นติดเสื้อของผม..สีแดงฉาน ย้อมบนผ้าฝ้ายสีขาวสะอาด

ดอกดวงสีแดงสด คล้ายงานศิลปะที่ศิลปินแต่งแต้ม เหมือนดอกไม้สีแดงจริงๆ

ทั้งสวย...และน่าขยะแขยงในคราวเดียวกัน

ต้องล้างสินะ...ผมต้องล้างมันจากเสื้อตัวโปรดของผมให้ได้

ว่าแต่...ผมรู้จักร่างที่กองอยู่ตรงหน้าจริงๆหรือเปล่านะ...


๒. เสียงหวีดร้องออกมาเบาๆ จากคนตรงหน้าบอกชัดว่าปลาบปลื้มใจแค่ไหนกับสิ่งที่เห็น ของขวัญราคาแพงที่ผมซื้อมาฝากจากต่างประเทศ นาฬิกาหรูที่เจ้าตัวเคยเปรยซ้ำๆหลายครั้งว่าอยากได้นักอยากได้หนา ผมรู้ดีว่าความรัก...มันใช้เงินแลกมาไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะเลิกโง่ได้เสียหน่อย

หากได้ลองรักแล้วสักครั้ง หอมหวานจากสัมผัสและกลิ่นกายที่เย้ายวนของคนตรงหน้า มันเหมือนยาพิษที่เคลือบด้วยคาราเมลจนกลบสิ้นกลิ่นแห่งมรณะ มันหวาน...หอม ให้ชวนหลง เหมือนแมลงที่ดอมดมเกสรจนเผลอถูกรั้งไว้ในดอกไม้จนตาย

รักหรือใคร่...ใครแยกออกบ้างในยามที่หลงอยู่ในห้วงทะเลแห่งตัณหาและราคะ

ช่างหัวมันสิ...จะรักเพราะเงิน หรือรักเพราะร่าง ใครจะสน

วันนี้เท่านั้น เวลานี้เท่านั้นที่ปรารถนา กอบเข้าไป..โกยเข้ามาจนถ่าถั่งไปด้วยความตื่นเพริศของอารมณ์ ร่างที่บิดเป็นเกลียวคลื่นตรงหน้านี้เป็นตัวผม...หรือคนนั้น..ใครจะแยกออกได้บ้าง

บางที มันอาจจะเป็นเพียงจิตวิญญาณที่พันเป็นเกลียวแห่งกามารมณ์...จิตวิญญาณที่ยืมใช้ร่างของผมและคนนั้นเพียงชั่วคราว....เมื่อสมปรารถนาในอารมณ์แล้ว จิตนั้นก็ละลายสลายราวสายหมอกที่หายไปในอากาศ


๓. เสียงหวีดร้องโหยหวนโหยไห้ของร่างหนึ่งที่ดังขึ้นกลางอากาศ นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน ใครมันมาหวีดร้องแถวนี้ได้ นั่น...คนตรงหน้ากำลังทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาเบิกโพลงตาค้างกับภาพกิจกรรมตรงหน้า ขณะที่อีกคนหนึ่งกำลังมองกลับมาด้วยสายตาสับสนระคนกระดากอาย และผมกำลังตกตะลึงในสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น

ใคร...ควรกระดากอาย ผม..หรือ เธอ กันแน่

ระหว่างคนที่เปลือยกาย และคนที่เปลือยจิตวิญญาณ อะไรน่ากระดากอายกว่ากัน

คนหนึ่งปกปิดซ่อนเร้นความรักไว้ในหลืบและแสดงเพียงสิ่งที่ผู้คนหวังให้เป็นออกมา

คนหนึ่งเปิดเผยอย่างปราโมทย์ แต่ไม่อาจครอบครองในรัก...หรือมันอาจไม่เคยมีจริง...

“ไม่จริงใช่ไหม...คุณแอบคบกันใช่ไหม...” เสียงแผ่วโหยของคนตรงหน้า ราวกับจะรวบรวมตัวอักษรที่หล่นกระจายหายไปในอากาศกลับคืนมา

ผมได้แต่แค่นยิ้มและหันไปมองอีกคนหนึ่ง ร่างเปลือยนั้นก้มหน้านิ่งราวอดสูใจกับคนที่ปรากฎตรงหน้า

ตัด...แต่มันไม่ขาด ตัดสายสวาทได้ง่าย..อย่างนั้นหรือ ผมเห็นสายตาที่คล้ายอาวรณ์จากคนที่ก้มหน้าอดสูนั้น

เจ็บ...ความเจ็บมันแทงสวนขึ้นมากลางอก...แววตาแบบนั้นบอกชัด...ผมไม่อาจครอบครองส่วนลึกในใจคนตรงหน้าได้

ริษยา...ชิงชังประดังกันขึ้นมาราวกับกำลังเล่นเก้าอี้ดนตรีในหัวของผม

“เราจบกันเถอะ...ที่จริงแล้วเราไม่เคยรักกันด้วยซ้ำ มีแต่อยู่ด้วยกันเพื่อบางสิ่ง”

ใช่สิ...คนเราก็อยู่ด้วยความอยากได้ อยากสนองตัณหาล้วนๆ นั่นแหละ และบางคนก็อยู่เพื่อเงิน ...


๔. เสียงหวีดร้องกู่ก้องด้วยความเจ็บปวดของผมแหวกไปในอากาศ ท้องฟ้าของปากช่องวันนี้เย็นนัก แต่เสียงปืนที่คำรามขึ้นเมื่อครู่นั้นทำลายความเงียบสงบทุกสิ่ง แต่ขณะเดียว กันมันปลุกทั้งปีศาจที่หลับไหลและความมนุษย์กะจ้อยร่อยของผมขึ้นมาพร้อมกัน

“มนุษย์”...ไม่สิ... ต้องเรียกว่า“คน” น่าจะถูกต้องกว่า

ผมคงเป็นได้แค่ “คน” ธรรมดา ที่มีเลือดเนื้อ มีตัณหา มีความทะยานอยาก และแน่นอน “ความแค้น”

เพราะเป็น “คน”..จึงคนทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเข้ามาสู่ใจกลางชีวิตของตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความรู้สึก และน่าขันที่ไม่เคยตัดอะไรออกไปได้สักที

โง่เง่าเสียจริง

วินาทีนี้ ผมคิดว่า ผมจำได้แล้วนะว่า ร่างที่กองคุดคู้อยู่นั้นเป็นใคร...แต่จะบอกพวกคุณที่ไม่มีตัวตนไปทำไม...

สู้ผมไปบอกเขาด้วยตัวเองดีกว่า ว่า ผมจำเขาได้แล้ว...

จำได้ว่าเขาเป็น...รักที่เพิ่งผ่านพ้นไปของผม

เปรี้ยง ! ! !

…………………………………………………….

“ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต 2 ศพ ในเบื้องต้นขอสงวนนามไว้ นาย ก. เป็นชายชราอายุ 86 ปี ถูกยิงเสียชีวิตเข้าที่ราวนมซ้ายหนึ่งนัด และอีกรายหนึ่งเป็น นาย ข. ชายชราวัย 61 ปี ซึ่งอาศัยในชุมชนเดียวกัน เป็นมือยิง โดยมีนาง ย. หญิงชราวัย 81 ปีผู้เห็นเหตุการณ์ยืนตัวสั่นงันงกให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากชายชราทั้งสองมี-งกัน ในเรื่องชู้สาว จนในที่สุด นาย ข. จึงคว้าปืนที่ติดตัวมายิงกระหน่ำใส่ นาย ก. จนแน่นิ่ง จากนั้นจึงยิงตัวตายตาม ซึ่งทั้งคู่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล... ข่าวต่อไป....วันนี้การเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฏรฯ ครั้งแรกประจำปี พ.ศ. 2562…. ”


............................

ความยาว 2 หน้ากระดาษ A4 ค่ะ สดร้อนออกจากเตาใหม่ๆ 555

ยินดีแลกเปลี่ยนความเห็นกับทุกคนค่ะ ^^

8
ณ เรือนแก้ว (Philous) 26 พ.ค. 62 เวลา 23:28 น. 11-3

มาสร้างสีสัน...เราต้องการความดาร์กมากขึ้นอีก ปกติเขียนแต่ใสๆ สว่างกระจ่างใจ

แต่คราวนี้ขอธีมแบบหม่นมืดตีแผ่ชีวิต...ก็ท้าทายดีค่า ไม่เคยเข่ียนเรื่องสั้นมาก่อนเหมือนกัน

0
พี่ตุลา 26 พ.ค. 62 เวลา 23:40 น. 11-4

วิธีการนำเสนอเเบบนี้เเหละที่ตามหา!

เเต่รู้สึกอ่านยากนิดหน่อย สงสัยเพราะผมนอนน้อยด้วย กำลังคิดว่าถ้าเป็นนิยายเสียงจะใช้โทนเสียงประมาณไหนดี


สายวายน้อยกว่าที่คิดคงต้องเชือนเนื้อตัวเองเพิ่มของรางวัลเเล้วล่ะ!

0
ณ เรือนแก้ว (Philous) 26 พ.ค. 62 เวลา 23:48 น. 11-5

สารภาพตามตรงว่าไม่เคยเขียนวายมาก่อน นี่เป็นเรื่องสั้นชิ้นแรกและก็เขียนวายครั้งแรก

ขยำๆจากภาพข่าวที่เห็นผ่านตาสองสามวันก่อน แล้วก็เอามาเรียงลำดับเหตุการณ์ใหม่

3-1-2-4

และที่อ่านยาก ก็คงเป็นเพราะจงใจไม่บอกเพศสภาพของตัวละครนอกจากตัวเอกว่าเป็นผู้ชาย ส่วนที่เหลือ...ปล่อยให้สมองจะนำทางไป จากนั้นก็ค่อยมาตลบท้ายตอนหลังว่าเป็นรักระหว่างชายชราสองคน ที่คนหนึ่งแต่งงานแล้วมีภรรยามีคนที่อยู่ด้วย


สารสำคัญที่ลงในนี้คือ ตัณหา ค่ะ ตัวเดียวที่เคลื่อนทุกอย่างในเรื่องจนกระทั่งปิดฉากลง

และก็พยายามลองเล่นคำ "เสียงหวีดร้อง" ซึ่งแต่ละตอนจะให้ความหมายที่ต่างกันไป :)

0
ณ เรือนแก้ว (Philous) 26 พ.ค. 62 เวลา 23:57 น. 11-7

ของรางวัลไม่ต้องหรอกค่ะพี่ตุลา ขอบคุณมากกว่าที่ทำให้ลองเขียนเรื่องสั้นดูบ้าง

เพราะไม่เคยเขียนเลย ^^

สนุกดี..และที่สำคัญคือ สั้นดีค่ะ ไม่ต้องต่อยาวๆเป็น 70 ตอนแบบซีรีย์ของเรือนแก้ว 555

0
พี่ตุลา 27 พ.ค. 62 เวลา 00:03 น. 11-8

อันนั้นก็โหดไปครับ ผมที่เป็นนักอ่านเฉยๆยังไม่สู้เลย ปวดตาครับ(หัวเราะ)

0
ปากกาว่างๆ หัวสมองก็ว่างตาม 27 พ.ค. 62 เวลา 09:01 น. 12

มาตามเกาะอ่านเรื่องสั้นของชาวบ้านก่อนแล้วกันค่ะ ยังนึกไม่พล็อตไม่ออก (อ่า...สามหน้าเองหรอคุณตุลา เคยเขียนสั้นสุดเก้าหน้า ต้องหั่นๆๆ ยังไงดี ฮ่าาาาา) มาขอฝึกฝนจากการอ่านเรื่องสั้นในนี้ก่อนนะคะ

2
พี่ตุลา 27 พ.ค. 62 เวลา 17:10 น. 12-1

จริงๆเเล้วก็เกินได้นะครับ ที่ผมพิมพ์บอกไว้ ผมกลัวจะเยอะเกินเล้วผมอ่านไม่ทัน ผมมีเวลาอ่านเเละประเมิณทั้งหมดเเค่เเปดวันเองครับ

0
28 พ.ค. 62 เวลา 00:44 น. 12-2

งั้นเดี๋ยวเอาเรื่องที่เคยส่งแข่งมาลงแล้วกันค่ะ ผแต่ขอเกาแปบนึง เผื่อจะทอนหน้าลงได้ ^^

0
Tdeuy 27 พ.ค. 62 เวลา 09:03 น. 13

คุณพี่ตุลา ขอลงอีกสักเรื่อง อยากลองแต่งค่ะ แต่ไม่มีที่ลง รางวัลไม่เอา แต่อยากร่วมสนุกค่ะ^^ เอ แต่รางวัลไม่น่าจะได้นา ฝีมือไม่ถึง 555


เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจสองส่วน

ส่วนแรกมาจากเรื่องสั้นของคุณมิรัน

อีกส่วนมาจากนิยายเรื่องล่าสุดของตัวเองที่คนกับผีไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยา เลยทำได้เพียงบอกผ่านความรู้สึกผ่านการพูดและสายตา


ผมชื่อ อาทิตย์ อายุปีนี้ก็ 26 แล้ว ความฝันของผมคือการเป็นช่างภาพ การได้มองผู้อื่นผ่านเลนส์เป็นอะไรที่ผมชอบ คล้ายกับว่าเราไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวสายตาของคนเหล่านั้นที่ส่งกลับมา


พูดให้ง่ายคือ ผมไม่กล้าสบตากับใครตรง ๆ ผมกลัวว่าสายตาที่ส่งกลับมานั้นจะแสดงถึงความไม่พอใจ

-อาทิตย์-



ผมชื่อ ก้อง อายุ 29 ปี นายแบบคืออาชีพของผม ด้วยส่วนสูง 185 ก็ทำให้ผมเป็นที่สะดุดตาแล้ว ไม่ว่าจะเดินไปที่ใด ทุกสายตาที่เปรียบเหมือนสปอร์ตไลท์จะมองมาที่ผมทันที


ผมไม่ได้มีดีเพียงที่ส่วนสูงเท่านั้น ใคร ๆ ต่างก็พูดว่าผมเป็นคนหน้าตาดี ผมฟังแล้วเฉยมาก


ผมชอบงานถ่ายแบบมากที่สุด ยามได้สบตาผ่านเลนส์ผมรู้สึกสนุกกับการได้คิดว่า คนถ่ายภาพจะรู้สึกเช่นไร

-ก้อง-



เช้าวันใหม่อากาศสดใสเช่นเคย ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้ามามากแล้ว อาทิตย์รีบลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างเกียจคร้าน เมื่อทำใจได้ว่าต้องไปทำงานจึงรีบจัดการกับตัวเองอย่างรวดเร็ว เขาส่องกระจกเพื่อจัดแต่งทรงผมให้ดูดีเล็กน้อย วันนี้จะได้ถ่ายภาพให้กับนายแบบชื่อดัง เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงยิ้มออกมา


ด้านก้องก็ไม่แตกต่างกัน แต่ที่ต่างคงเพราะการเป็นนายแบบต้องดูดีแม้กระทั่งตอนระบายท้องเสียอย่างหนัก เขายิ้มขำกับความคิดนี้ วันนี้จะเป็นอีกวันที่ได้สบตาและคิดว่านักถ่ายภาพจะรู้สึกเช่นไร


เมื่อฉากด้านหลังเรียบร้อย นายแบบผู้พกพาความสูง 185 เซนติเมตรก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางที่เดินบนเวทีไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง ใบหน้าแม้หล่อเหลาทว่านิ่งสนิทราวกับผืนน้ำที่ไม่เคยต้องลมแม้เพียงแผ่วเบา ทำให้บรรยากาศดูอึมครึมขึ้นมาทันทีราวกับอยู่ในหน้าฝน


ตากล้องผู้ไม่ค่อยเอาใจใส่ตนเองกำลังตรวจสอบความเรียบร้อยของกล้อง เมื่อรับรู้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปจึงเงยหน้าขึ้นมองนายแบบ เพียงสบตาได้เสี้ยวเดียวเขาก็ต้องหลบทันที

ก้องยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของตากล้อง

"พี่ ตากล้องคนนั้นชื่ออะไร" ก้องถามยิ้ม ๆ

"อาทิตย์ ฝีมือดีมากเลยนะ แกทำตัวดี ๆ กับเขาหน่อย" ผู้จัดการส่วนตัวส่ายหน้าแล้วกลับไปสนใจโทรศัพท์ต่อ


ก้องยิ้มอีกครั้ง เขาคิดว่าอาทิตย์ช่างน่าสนใจ ดูเหมือนคนที่ไม่กล้าสบตาตรง ๆ กับผู้อื่น


เมื่อการถ่ายแบบเริ่มขึ้น ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตนอย่างดี


อาทิตย์กดชัตเตอร์รัวพร้อมกับเอ่ยชมก้องเป็นระยะ หรือเอ่ยปรับเปลี่ยนท่าทางเป็นระยะ ยามเขาสบตากับอีกฝ่ายเพื่อถ่ายภาพ เขารู้สึกตื่นเต้นมาก ดวงตาของก้องดูงดงามระยิบระยับราวกับนำดวงดาวนับพันหมื่นมาประดับ ประกอบกับคิ้ว จมูก ปาก นั่นยิ่งทำให้มีเสน่ห์อย่างเหลือร้าย เขายอมรับเลยว่าไม่เคยถ่ายแบบให้ใครแล้วรู้สึกประทับใจเช่นนี้มาก่อน


ด้านก้องเองก็ทำงานอย่างมืออาชีพ พร้อมกับสังเกตทุกการกระทำของอาทิตย์ไปด้วย เขาคิดว่า ตากล้องคนนี้ช่างหน้าสนใจ ยามเอ่ยชมหรือสั่งบางอย่าง อีกฝ่ายแทบจะไม่สบตาเขาเลย แต่ยามมองผ่านเล่นส์กลับมองได้นานขึ้นกว่าเดิม

หลังจากอาทิตย์กับก้องผ่านการทำงานร่วมกันครั้งแรกไปอย่างราบลื่น เมื่อถึงคราวต้องถ่ายแบบอีกครั้ง ก้องมักเลือกให้อาทิตย์เป็นตากล้องให้


ผ่านไปเช่นนี้ทุกครั้ง ก้องสนุกกับการที่ส่งถ่ายความรู้สึกผ่านเลนส์ไปให้อาทิตย์ ในขณะเดียวกันก็คอยสังเกตด้วย


ด้านอาทิตย์ก็เริ่มมองก้องผ่านเลนส์มากขึ้น เหมือนเขาจะเข้าใจและไม่เข้าใจบางอย่างในเวลาเดียวกัน นั่นเรียกว่า ความสับสน


ทั้งสองแทบไม่เคยพูดกันอย่างคนที่รู้จักเลยสักครั้ง โดยส่วนใหญ่จะคุยผ่านเลนส์เสียมากกว่า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าแต่ละฝ่ายตีความเช่นไร


"คุณอาทิตย์" ก้องตัดสินใจที่จะเริ่มก่อน "เรารู้จักกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ผมคิดว่าเราน่าจะไปดื่มกาแฟด้วยกัน" เขาเกาท้ายทอยเล็กน้อยด้วยความกระดาก "จริง ๆ ผมไม่ดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด"


"ได้ครับ" อาทิตย์ตอบรับด้วยการพยักหน้าและหลบสายตา


ณ ร้านกาแฟที่บรรยากาศดีและเป็นส่วนตัว

ก้องนั่งจ้องอาทิตย์ไม่วางตา คำถามมากมายอยู่ในหัวของเขาเช่นเคย "เรารู้จักกันมาสักพักแล้ว แต่คุณไม่เคยสบตาผมตรง ๆ เลย" เขายิ้มออกมา "แต่ผมชอบนะที่ได้สบตาผ่านเลนส์ มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างเช่นกัน เพียงแต่..."


"เพียงแต่การสบตาผ่านเลนส์มันเหมือนมีม่านกั้นบาง ๆ ทำให้คล้ายกับถูกปิดกั้นความรู้สึกบางส่วนไว้" อาทิตย์ตอบยิ้ม ๆ แล้วยกกาแฟดำขึ้นดื่ม


ก้องยกกาแฟขึ้นดื่มเช่นกัน ใช่ มันเป็นเช่นที่อาทิตย์เอ่ย


"แล้วคุณไม่อยากสบตากับใครโดยไม่ผ่านเลนส์หรือ" ก้องยักคิ้วให้


อาทิตย์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับก้อง ครั้งนี้...เขาไม่ได้มองผ่านเลนส์ รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาน้อย ๆ


จบแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าวายไหม ฝากไว้อีกเรื่องแล้วกันนะคะ



3
พี่ตุลา 27 พ.ค. 62 เวลา 19:00 น. 13-1

หรือจะหมายถึงอาทิตย์กับก้องภพกันหนอ?

ยังไม่ได้อ่านทั้งหมดเเต่เเค่เลื่อนอ่านผ่านๆก็รู้ว่ามันดีต่อใจ(อมยิ้ม)

0
Tdeuy 27 พ.ค. 62 เวลา 19:32 น. 13-2

อันนี้ไม่ได้กวนนะคะ แต่ไม่น่าจะอันเดียวกันค่ะ เพราะถ้าเป็นละครก็ไม่ค่อยได้ดูค่ะ พูดง่าย ๆ ว่าไม่ดูเลย มันเหมือนเหรอคะ น่าจะบังเอิญอ่ะค่ะ^…^

0
มุกน้ำค้าง 27 พ.ค. 62 เวลา 14:48 น. 14

เล่นมั่งๆๆๆๆ


ลิงก์นิยาย

ไว้มาเติมที่หลังนะคะ มีลงในเวบนี้ด้วยค่ะ



ชื่อเรื่อง "ทวง"


เธอเคยได้ยินเสียงมีดแทรกผ่านเข้าไปในร่างกายคนไหม

ฉึก !.. ฉึก !.. หรือ

ไม่ใช่..สาวน้อย เสียงมันไม่ดังเหมือนในหนังสือที่เธอเคยอ่านหรอกนะ

ไม่เชื่อลองดูสิ

...

ไม่เหมือนใช่ไหม ลองดูอีกทีนะ

...

มันช่างเป็นเสียงที่แปลก..

เสียงความคมกริบมันแผ่วเบา แล้วมันยังมีเสียงน้ำหนักของแรงส่ง เสียงมันสะท้อนก้องอยู่ในเนื้อเยื่อ

มันก้องอยู่ในหูของเธอด้วยหรือ ?

คิดไปเองแล้ว..

นั่นมันเสียงของเธอต่างหาก

เธอส่งเสียงออกมาดังๆไม่ได้เพราะผ้าชุบน้ำเปียกๆรัดได้แนบดีนัก มันกักเสียงของเธอให้อยู่ในคอ แล้วพุ่งขึ้นสมองให้มันไปก้องอยู่ในนั้น

เรื่องของเรามันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ..

วันที่ลูกของฉันย้ายมาเรียนที่โรงเรียนเดียวกับเธอ ?

วันที่เธอกับเพื่อนๆเริ่มสนใจลูกของฉัน ?

หรือวันที่พวกเธอเริ่มเรียกลูกของฉันว่า ‘อีหนวก’ ?

ลูกของฉันเป็นเด็กดี

เขาเป็นเด็กดีจริงๆนะ เขาน่ารัก อ่อนโยน ใจดี เขาไม่เคยคิดร้ายกับใครเลย

ทำไมพวกเธอไม่ชอบเขาล่ะ เขาออกจะแสนดีขนาดนั้น

เขาเป็นความหวังเดียวของฉัน

เธอร้องไห้ทำไมหรือ ?

เธอสงสารลูกของฉันหรือ ?

แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่ทำดีกับเขาล่ะ ?

หรือว่าเจ็บแผล ?

ไม่เป็นไรหรอกนะ ฉันห้ามเลือดแล้วก็ฉีดยาให้เธอแล้ว อยู่ในมือหมอไม่มีอะไรต้องกลัว

เธอชอบมีดพวกนี้หรือ ดูสิ จ้องเอา..จ้องเอา

ตอนที่ลูกของฉันยังเด็ก เวลาที่เขาสนใจอะไรเขาก็เฝ้ามองมันได้ทั้งวัน

อันเล็กสุดนี่..มีดผ่าตัด

เล็ก แต่คมกริบชนิดผ่านเนื้อเธอได้แบบรู้สึกตัวอีกทีเลือดก็ไหลออกมาแล้ว

...

นี่ไง กรีดเบาๆหูของเธอก็ขาดออกมาทั้งอัน

ส่วนอันนี้เอาไว้ตัดข้อกระดูก

กรึ๊บ !

น่าน..นิ้วร่วงเป็นองุ่นหลุดขั้วเลย

ฉีดยาอีกสักเข็มนะ เธอจะได้รู้สึกตัวตลอด

อืม..คนเก่งของหมอ เก่งที่สุดเลย เก่งกว่าเพื่อนๆของเธออีก

นางคนหนึ่งนะ พอมารู้ตัวตื่นอยู่ในบ้านร้างนี่ก็ตกใจจนชักเกร็ง น้ำลายฟูมปากเหมือนหมาบ้า

แล้วยังอีกคน แม่คนนี้กลัวจนขี้เยี่ยวราด โสโครกที่สุด ! ทนเล่นสนุกกับมันได้แค่ชั่วโมงก็จะอ้วกแล้ว

เดี๋ยวนะ ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนมันเป็นคู่ซี้ของเธอไม่ใช่หรือ งั้นเธอก็ทดเวลาแทนมันแล้วกันนะ

ขอไปเปลี่ยนแผ่นเสียงก่อน

ตลกหรือไง..ดูมองเข้าสิ

เด็กสมัยนี้นี่น้า..มองคนชอบของเก่าว่าตลกว่าเชย

จะบอกให้นะหนูน้อย ของที่มีคุณค่าทางจิตใจน่ะ มันไม่ถูกจำกัดด้วยยุคสมัยหรอก

จุ๊ ! อย่าทำเสียงงี้ดง้าดเหมือนลูกหมาร้องหาแม่สิ

นี่เพลงโปรดของลูกฉันเชียวนะ รู้จักไหม ‘ลัลลาบาย’ น่ะ

ถึงลูกของฉันจะหูหนวก แต่เขาไม่ได้หนวกสนิท เขายังได้ยินเสียงของฉัน ได้ยินเสียงเพลง ได้ยินเสียงนินทาเสียดสีล้อเลียนจากพวกเธอ

แล้วก็..ได้ยินเรื่องที่พวกเธอปูดข่าวอัปยศนั่นด้วย

ลูกสาวของฉันพยายามทิ้งเรื่องเลวร้ายในอดีตมาเริ่มต้นใหม่ที่นี่

เธอไม่รู้หรอกว่าเขาต้องพยายามมากขนาดไหนที่จะลืมมัน พยายามขนาดไหนที่จะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

แต่แล้ว..แกกับเพื่อนๆนรกของแกก็ทำลายทุกอย่าง

พวกแกทำลายความพยายามต่อสู้เพื่อจะมีชีวิตอยู่ต่อของเขาอย่างเลือดเย็น แล้วก็ลอยนวลเพราะคำว่า ‘เยาวชน’

แล้วฉันล่ะ..ความสูญเสียจนในสลายของฉัน จะเรียกร้องเอาจากใครได้

คนเราไม่ควรทำลายความหวังเดียวของใคร..

พวกแกไม่เคยได้ยินคำพูดนี้หรือ ?..

ความหวังเดียวของเขาคือการได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กสาวคนอื่นๆ

ความหวังเดียวของฉันคือการได้เห็นเขาเติบโตเป็นหญิงสาวที่งดงาม

แล้วความหวังของพวกแกล่ะ ?..

ความหวังสุดท้ายของพวกแกคือรอดจากเงื้อมือของฉันใช่ไหม ?

ชีวิตคนเราช่างเปราะบางและวับหายได้ง่ายเหมือนเงาสะท้อนบนมีด

เงาของคม

คมเป็นเงา

ความคมกำลังผ่านเข้าตัวแกแล้ว

ดูสิ

ดู !


....................

อยากสนุกด้วย ไม่ขอรางวัลค่า


4
พี่ตุลา 27 พ.ค. 62 เวลา 17:16 น. 14-2

อ่านเสร็จเเล้วรู้สึกข้อมูลในหัวมันวิ่งเร็วมาก

เเต่บางส่วนอ่านเเล้วยังมีความสับสนนะครับ? งุ้ย.. ยันเดเระเเหละ!

0
มุกน้ำค้าง 31 พ.ค. 62 เวลา 11:09 น. 14-4

14-1 ขอบคุณค่า ลองเขียนแนวนี้ดูค่ะ ปกติแนวเค้า ไส..ไส..(หัว ไป) 555


14-2 ทบทวนๆๆ จะฝึกบ่อยๆค่ะ ขอบคุณค่า อ้อ เกือบลืม เราไม่วายค่ะ เราแค่วุ่นๆ


14-3 ขอบคุณค่า

0
ปากกาว่างๆ หัวสมองก็ว่างตาม 28 พ.ค. 62 เวลา 13:05 น. 15

ชื่อเรื่อง : ความรุ่งโรจน์ที่ล่มสลาย

นามปากกา : สายลมใบไม้ผลิ

เป็นเเฟนฟิค/ฟิคสั้นหรือไม่ : normal ja

เป็นสาววายหรืหนุ่มวายหรือไม่ : กะ...ก็อ่านอยู่นะ ฮ่า ๆ ๆ

จำนวนหน้าเกินสามหน้ากระดาษหรือไม่ : ไม่เกินจ้า ตัดแล้ว (ฮ่าาาา)

ตอบเกี่ยวกับวันเกิดผมจำนวนหนึ่งคำตอบ : 27 มิถุนายน (ตามน้ำจ้า)


++++++++++++++++++++++++++++++++


ผู้คนต่างเชื่อกันว่าโลกนั้นเกิดจากกลุ่มควัน ไอน้ำ และแก๊สต่าง ๆ ที่หลอมรวมกันจนกลายเป็นผืนน้ำ แผ่นดิน ต้นไม้ และอากาศ เมื่อโลกอยู่ในสภาวะที่เสถียรจึงได้ก่อเกิดสิ่งมีชีวิตตามม


วันเวลาหมุนเวียนสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นต่างเริ่มเรียนรู้การเอาชีวิตรอด ผู้แข็งแกร่งย่อมมีชีวิตยืนยาว ในขณะที่ผู้อ่อนแอต้องล้มหายตายจาก หรือไม่ก็กลายเป็นเหยื่ออันโอชะให้กับผู้ล่า ความโหดร้ายไร้ความปรานีดำเนินอยู่นับร้อย ๆ ปี ก่อนที่สิ่งมีชีวิตมากด้วยปัญญาจะถือกำเนิด ห่วงโซ่ที่เคยยุ่งเหยิงได้รับการแก้ไข เพราะไม่ว่าสิ่งมีชีวิตชนิดไหนก็ไม่อาจเอาชนะพลังและปัญญาจากสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้ได้


โลกเข้าสู่ความสงบ...


ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ความจริงนี่คือจุดเริ่มต้นของความโหดร้ายทารุณยิ่งกว่าที่โลกเคยมีมา


กลุ่มชนผู้มาทีหลังต่างเรียกขานตนว่า ‘มนุษย์’ มนุษย์ผู้ประเสริฐด้วยปัญญา ฉลาดเฉลียว และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ พวกเขารวมตัวเป็นกลุ่มชนอยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบภายใต้การนำของมนุษย์ผู้แข็งแกร่งที่สุด ผู้ที่ถูกเรียกขานว่า ‘เจ้าแห่งกาลเวลา’ อำนาจลึกลับที่ยิ่งใหญ่ อำนาจผู้สยบทั่วล้าให้ก้มหัวโอนอ่อน ไม่เว้นแม้แต่เผ่าพันธุ์เดียวกัน


ต่อมาที่อยู่ของเหล่ามนุษย์ถูกเรียกว่าอาณาจักรจินหลง แผ่ขยายอำนาจจนชนเผ่าอื่นไม่กล้ากล้ำกลาย ฝูงสัตว์หลบลี้ซ่อนตัวในป่า ภูติพรายเร้นกายในแดนนิมิต ปีศาจร้ายหลบซ่อนตัวใต้พิภพ มนุษย์จึงได้ครองความเป็นใหญ่บนปฐพี


อนิจจา...สติปัญญาทำให้ผู้คนหลงมัวเมา เมื่อแข็งแกร่งจนครองครอบไว้ทั้งโลกย่อมเกิดความทะนงตน บนโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดจะต้านทานผู้ครองอาณาจักรอย่างราชาจินหลงฮุ่ยเปียว เจ้าของชีวิตผู้สามารถควบคุมความเป็นตายของทุกชีวิตบนโลกใบนี้ได้อีกแล้ว ซึ่งนี้ทำให้อาณาจักรจินหลงภายใต้การปกครองของเจ้าแห่งเวลาที่สืบต่อกันภายในวงศ์ตระกูลสามารถครองพิภพได้อย่างยาวนานถึงห้าร้อยปี ก่อนที่...


“กำจัดองค์ราชาให้สิ้นซาก”


ทั้งๆ ที่คิดว่ามนุษย์ธรรมดาหลังกำแพงนั้นอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของตนมาตลอดจะสั่งชี้เป็นชี้ตายเช่นไรล้วนง่ายดาย พวกเขาเคยเชื่อฟังเพราะหวาดกลัวในพลังที่แข็งแกร่ง แต่ทว่าภาพที่เห็นคือการลุกฮือฟาดฟันเชื้อพระวงศ์ผู้ครองครอบพลังเหนือกาลเวลา แม้จะล้มตายกันเป็นจำนวนมากแต่ปริมาณที่ดูเหมือนจะหลั่งไหลมาไม่หมดสิ้นเสียทีกลับทำให้ได้เปรียบ


จากหนึ่งกลายเป็นสอง จากสองกลายเป็นสามสี่ห้าหกเจ็ดและยังคงเข้ามาเรื่อยๆ คนของราชวงศ์ที่เคยทะนงตนว่าเป็นผู้เหนือกว่ากำลังล้มตายลงไปทีละคน


“คุ้มครององค์ราชา ราชินี” เสียงตะโกนจากหัวหน้าองค์รักษ์ดังขึ้นก่อนกลุ่มคนในชุดน้ำเงินจะเข้ามาล้อมผู้เป็นประมุขสูงสุด แต่ทว่ามันน้อยกว่าอีกฝ่ายจนหน้าขำ


พวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่มีพลังธรรมดา แม้พลังของพวกเขาหากเมื่อเทียบกับคนหรืออสูรทั่วไปแล้วมีมากกว่า แต่จำนวนนั้นช่างน้อยนิด ต้นไม้ใหญ่กลางกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากจะยืนตระหง่านต้านทานไม่ให้โค่นล้มลอยไปกับน้ำได้นานแค่ไหนกัน อาจทำได้เพียงแค่ถ่วงเวลาให้นานขึ้นก่อนที่จะหักโค่นพาชีวิตที่เกาะอยู่บนตัวมันให้ไหลไปกับกระแสน้ำ


เหล่าองครักษ์ในชุดน้ำเงินล้มตายลงจนกระทั่งเหลือเพียงตัวหัวหน้าและราชากับราชินี สภาพของทั้งสามอิดโรยเต็มทีเพราะการต่อสู้ที่กินเวลามาเนิ่นนาน หัวหน้าองครักษ์แม้จะโรยแรงเพราะฝืนขีดจำกัดแต่ยังคงยืนมั่นอยู่เบื้องหน้าคนที่ตนปกป้อง


“ความหวาดกลัวของพวกเราจะได้หมดสิ้นลงสักที พลังที่น่ารังเกียจแบบนั้นจงหมดสิ้นไปซะ” ชายผู้มีหางจิ้งจอกแปดหาง ผู้ปกครองเหนือเหล่าสัตว์อสูรจิ้งจอกทะยานตนเข้าใส่กลุ่มคนทั้งสาม หัวหน้าองครักษ์ยกดาบหนาขึ้นป้องกันทันที


“ตายซะ” มนุษย์ผู้ครอบครองเวทย์อัคคีเห็นโอกาสจึงปล่อยพลังไปทางราชาหมายกำจัดเสาหลักของราชวงศ์ แต่ทว่า...


“เสด็จแม่!!!!!” ร่างงามของราชินีคู่บัลลังก์มังกรทองผวาเข้ามารับการโจมตีนั้นด้วยร่างกายที่อิดโรยจนใช้พลังใดๆ ของตนไม่ได้อีก แค่ขยับกายมารับเพลิงเวทย์นับว่านางฝืนทนมากแล้ว แต่เพื่อบุรุษอันเป็นที่รักย่อมเสียสละได้เสมอ


ทุกสายตาหันมาจดจ้องเสียงที่แผดออกมาของผู้พึ่งปรากฏกาย ผู้ได้ชื่อว่าเป็นโอรสผู้มีสิทธิ์ครองบัลลังก์ต่อไป ด้วยไม่ทันคาดคิดว่าจะยังมีราชวงศ์หลุดรอดจากการต้อนมารวมกันตามแผนของหนอนบ่อนไส้ที่พวกตนสู้อุตส่าห์ส่งเข้ามาแฝงตัวอยู่ในนี้เป็นเวลานาน


ใช่แล้ว การกระทำครั้งนี้ถูกวางแผนมาอย่างยาวนานเพื่อปลดพวกตนให้พ้นจากความหวาดกลัว และเพื่ออำนาจที่ตนจะได้รับหากเป็นผู้ที่สามารถโค่นเจ้าแห่งพิภพลงได้


เพราะทะนงมั่นใจในแผนของตนมากเกินไปจนทำให้เกิดข้อผิดพลาด...


สายตาหวาดระแวงมองไปทางผู้ครอบครองพลังร้ายกาจอีกสองคน ก่อนคำสั่งจะดังให้ได้ยินท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่

“ฆ่าองค์ชายกับท่านหญิง!!!”

จบคำเหล่ามนุษย์และอสูรจึงบุกเข้าไปยังเด็กทั้งสอง แต่เพียงเสี้ยวของเศษเวลาทุกร่างที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้นกลับหยุดค้าง คงเหลือไว้เพียงผู้ที่มีพลังควบคุมเหนือธรรมชาติเท่านั้นที่ขยับได้


“เสด็จ...พ่อ...” เสียงครางแผ่วหลุดออกมาจากปากของผู้เป็นลูกชาย ด้วยทราบดีว่าพลังนี้คือพลังที่เคยสร้างความเกรียงไกรเมื่อครั้งในอดีต แต่ทว่าในหลายๆ รุ่นต่อมาไม่มีใครที่สามารถใช้พลังนี้ได้อิสระเฉกเช่นประมุขคนแรก เพราะภาชนะที่รองรับพลังนั้นอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ จนใครคิดบังอาจควบคุมมหากาลเวลาอีกต้องแลกด้วยชีวิต สิ่งนี้ถูกเก็บเป็นความลับมีเพียงคนสนิทเป็นที่ไว้ใจเท่านั้นที่จะทราบ

...และเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นหากความลับยังคงเป็นความลับ


“จงมีชีวิตต่อไปเพื่อพ่อและแม่” ร่างขององค์กษัตริย์ทรุดลงจากการฝืนใช้พลังต้องห้ามด้วยสภาพที่แค่ลมพัดก็สามารถมลายไปกับสายลมได้


“เสด็จพ่อ...” น้ำใสที่ไม่เคยให้ใครได้เห็นมานานตั้งแต่วันที่ได้รับรู้ว่าบัลลังก์มังกรที่แข็งแกร่งอยู่เหนือคนทั่วหล้าต้องหลั่งรินเมื่อเห็นผู้เป็นบิดากระอักเลือดคำโตเพราะร่างกายไม่อาจแบกรับพลังมหาศาลนั้นได้อีก เท้าเล็กขยับหมายก้าวเข้าหาร่างผู้ให้กำเนิด


“ไปซะ! จงมีชีวิต... ขอแค่เจ้ามีชีวิตเท่านั้น เรื่องอื่นใดขอให้เจ้าลืมมันให้หมด ...ช่างเอ๋อร์ลูกรัก” เสียงห้ามหยุดฝีเท้าผู้เป็นลูกก่อนที่ราชาจะหันไปยังอีกคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังบุตรชาย หลานสาวที่เกิดจากกษัตริย์องค์ก่อนหรือพี่ชายของเขาเอง “ข้าอาจจะเห็นแก่ตัวต่อเจ้า แต่ถือว่านี้คือคำขอร้องจากข้า ...ปกป้องเขา”


ดวงหน้าสาววัยแรกแย้มผินมองไปยังร่างของสตรีที่นอนแน่นิ่งในอ้อมแขนขององค์ราชาผู้เคยหยิ่งทะนง เนตรสีทะเลหันกลับมายังผู้ที่กำลังมองหน้านางด้วยสายตาอ้อนวอน ไม่ใช่ขู่บังคับเฉกเช่นคนที่เคยมีอำนาจล้นฟ้า


...สายตาของผู้เป็นพ่อที่ปรารถนาอย่างสุดซึ้งเพื่อให้เลือดเนื้อที่ยังเหลืออยู่มีชีวิตต่อไป


“ได้ ข้าจะทำ ไม่ใช่เพราะคำขอร้องหรือความเห็นแก่ตัวของพระองค์ แต่ข้าจะทำในฐานะคนที่จะเคียงข้างเขาเฉกเช่นองค์ราชินีที่เคียงข้างพระองค์จนวาระสุดท้าย” จินหลงไป๋ตอบกลับด้วยแววตามั่นคงแม้ใบหน้าสวยนั้นจะขาวซีดเพราะความโหดร้ายที่พึ่งจะเคยพบเจอตรงหน้า


“ขอบคุณ” องค์ราชายิ้มให้อย่างซาบซึ้งและก่อนที่ลูกชายจะขัดความตั้งใจนี้เขาจึงใช้เส้นชีวิตเกือบทั้งหมดแหวกมิติให้ทั้งสองหายไปจากตรงนั้น


และนี่คือ - - จุดจบของมหาอาณาจักรที่เคยยิ่งใหญ่


+++++++++++++++++++++++++

แจ้งนิดเผื่อมีใครเคยอ่านเรื่องนี้แล้ว(?)

เรื่องสั้นนี้เป็นการเอาเรื่องเก่ามาหากินใหม่ เพื่อให้เข้ากับกติกาคุณพี่ตุลา(จาก 10 เหลือ 3 ปาดเหงื่อ) เขาไม่ได้ก็อปปี้(บางส่วน) ดัดแปลง(บางส่วน) ของคนอื่นน้าาาา แฮร่...

2
พี่ตุลา 28 พ.ค. 62 เวลา 18:08 น. 15-1

เห็นความยาวเเล้วถึงกับปาดเหงื่อเบาๆ

เลื่อนดูผ่านๆก็พบว่าเป็นเเนวที่กำลังตามหาครับ!~~~`<3<3 (กำลังนึกอยู่ว่าถ้าจะอ่านจะอ่านยังไงดี555)

0
28 พ.ค. 62 เวลา 21:27 น. 15-2

แอบคาดหวังรางวัลได้ใช่ไหมคะเนี่ย ฮ่าาาม


ปล. ตัดทอนจากสิบเหลือสามแล้วน้าาาา

0
พี่ตุลา 30 พ.ค. 62 เวลา 20:24 น. 17-1

ไม่รีบครับ หมดเขตเดือนมิถุนา

งานเนี้ยบก็เอาของรางวัลไปเลย!


0
sarunrachdw 30 พ.ค. 62 เวลา 21:27 น. 18

ชื่อ = sarunrachdw

นามปากกา = โสดสิดี!!

เป็นสาววายจ้าา คืออาจจะไม่ได้เป็นเเบบเปิดเผยขนาดนั้น เเต่ก็เป็นอยู่ดีนั่นเเหละ555

ส่วนวันเกิดเจ้าของกระทู้หรอ...25 มิถุนา มั้ง

เรื่อง = ...มีเเล้ว

++++++++++++++++++

ฉันเป็นสาวเเซ่บประจำมหา'ลัยที่สวย รวย เเละลีลาเด็ดมาก


ชีวิตของฉันคือการอยู่อย่างลอยหน้าลอยตาไปวันๆกับกลุ่มเพื่อนหญิง...คุยเม้าเรื่องดาราเกาหลีเเละความสวยความงามตามประสาวัยรุ่นทั่วไป


มีผู้ชายหลายคนมากๆที่ชอบฉัน เเละพยายามตามจีบ บ้างก็เอาดอกไม้มาให้ บ้างก็ฝากขนมเล็กๆน้อยๆมาให้ หรือมีเเม้เเต่ชีทสรุปรายวิชาที่เขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบ


ก็นะ มันก็เเค่ของเล็กๆน้อยๆที่พบเจอได้ทั่วไปในชีวิตของคนสวย


เเต่ฉันก็ไม่เเม้เเต่จะชายตามองของกระจุ๋มกระจิ๋มพวกนั้น เพราะหัวใจของฉันมีเจ้าของอยู่เเล้ว...


ฉันกำลังมีความรักให้กับรุ่นพี่หนุ่มหล่อสุดฮอตคนหนึ่ง


รุ่นพี่คนนี้เป็นถึงดาวประจำมหาลัย มีหุ่นสูงเพรียวเหมือนนายเเบบ ใบหน้าเปี่ยมเสน่ห์ เเละความเป็นเเบดบอยเท่ระเบิด เเละที่สำคัญคือ รุ่นพี่เเกยังโสดเสียด้วย


ความจริงฉันเองก็เเปลกใจอยู่ไม่น้อยทีเดียวที่ค้นพบว่าคนที่หล่อขนาดนี้ไม่มีเเฟน ถึงบางครั้งฉันจะเห็นเขาเดินควงสาวๆบ้าง เเต่หน้าก็ไม่เคยเหมือนกันเลยสักคน ส่วนนอกนั้นเขาก็เเค่อยู่กับพวกเพื่อนผู้ชายตามปกติ


ฉันลงทุนลงเเรงซื้อสมุดบันทึกเเบบล็อคได้กับปากกาเขียนลื่นไม่สดุดเพื่อจดบันทึกข้อมูลของรุ่นพี่เขาโดยเฉพาะ จากนั้นก็เริ่มลงมือปัดกวาดความรู้ที่ครูอาจารย์สอนออกไปจากสมอง เเทนที่ทุกๆอย่างด้วยวันเกิด น้ำหนัก เเละส่วนสูงของคนคนนั้น...


เเละในที่สุด การตามสตอร์กพี่เขาเเบบขั้นเทพของฉันก็เห็นผล เมื่อฉันพบทางสะดวกในการบอกความรู้สึกของตนเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้


หัวใจของฉันเต้นเเรงมากจนเเทบจะทะลุออกมาจากอก มือที่สั่นเทาค่อยๆยื่นช็อกโกเเล็ตกับดอกกุหลาบส่งให้ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า


"รุ่นพี่คะ คือ..." ฉันสบตากับรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า สูดหายใจลึกรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี เเล้วโพล่งออกไป "ฉันชอบรุ่นพี่ค่ะ!!"


รุ่นพี่อึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่ได้ยื่นมือมารับของ เเต่ดันมันกลับเข้าหาตัวฉันเเทน "เธอก็สวยอยู่หรอกนะ" เขายักไหล่ "เเต่ว่า...ผมมีเเล้วน่ะ"


หัวใจของฉันราวกับหยุดเต้นไปชั่วขณะ "รุ่นพี่...ใครกันคะ?"


ใครกันนะที่สามารถครอบครองหัวใจของสุดหล่อตรงหน้าฉันได้!? 


ใครกันที่รุ่นพี่หวงเเหนถึงขนาดไม่เคยเเสดงความรักกันต่อหน้าสาธารณะชน!?


"คบกับฉันเถอะค่ะ" ฉันรีบพูดขึ้นก่อนคนตรงหน้าจะเดินจากไป ความหวังอันน้อยนิดทำให้ความกล้าหน้าด้านเกิดขึ้นมาเเวบหนึ่ง


รุ่นพี่ถอนหายใจเเล้วหันมาจ้องหน้าฉัน "ฟังให้ชัดๆนะครับ" เขาพูดช้าๆ


"ผม-มี-ผัว-เเล้ว"



++++++++++++++++++










4
sarunrachdw 1 มิ.ย. 62 เวลา 11:26 น. 18-2

มีคนอ่านด้วยหรอเนี่ย~555

ขอบคุณนะคะ เพราะอันนี้เพิ่งเริ่มเขียนน่ะ น่าจะไม่ผ่าน...

0
พี่ตุลา 1 มิ.ย. 62 เวลา 12:38 น. 18-3

จริงๆผมอ่านเเล้วนะครับเเต่ไม่ได้คอมเมนท์บอก เพราะพิมพ์เเล้วมันเด้งจนหงุดหงิด(ฮา)


เนื้อหาเดาง่ายไปนิด กระซิบบอกว่าถ้าปรับเเก้หน่อยจะใช้ได้เลยครับ!


0
Ciel En Rose 6 มิ.ย. 62 เวลา 12:08 น. 19

ชื่อเรื่อง

-นามปากกา: ภัสนภางค์

-เป็นเเฟนฟิค/ฟิคสั้นหรือไม่ : ไม่เป็นแฟนฟิคค่ะ

-เป็นสาววายหรืหนุ่มวายหรือไม่ : ไม่ค่ะ

-จำนวนหน้าเกินสามหน้ากระดาษหรือไม่ : เรื่องหนึ่งเกินหนึ่งหน้า อีกเรื่องเกิน 2 หน้าค่ะ

-ตอบเกี่ยวกับวันเกิดผมจำนวนหนึ่งคำตอบ : 23 มิถุนายน


ขอแปะลิงก์ สองเรื่องนะคะ จากรวมเรื่องสั้นจิปาถะ

เรื่องแรก สุดเอื้อม (เกือบy) 4 หน้าเอสี่


https://writer.dek-d.com/sact/story/viewlongc.php?id=1758387&chapter=20


เรื่องสอง อสงไขย 5หน้าเอสี่


https://writer.dek-d.com/sact/story/viewlongc.php?id=1758387&chapter=21


0
PanDa-[Kung] 9 มิ.ย. 62 เวลา 20:09 น. 20

-ชื่อเรื่อง : บทเรียนจากคนไร้ค่า

-นามปากกา/นามเเฝง : Shadow Priest

-เป็นเเฟนฟิค/ฟิคสั้นหรือไม่ : ไม่ใช่

-เป็นสาววายหรืหนุ่มวายหรือไม่ : ไม่ใช่

-จำนวนหน้าเกินสามหน้ากระดาษหรือไม่ : สามหน้าพอดี Cordia UPC 16

-ตอบเกี่ยวกับวันเกิดผมจำนวนหนึ่งคำตอบ : 10 มิถุนาแล้วกันครับ


https://my.dek-d.com/joshywisky/writer/view.php?id=1969123

2