แนะนำการเขียนให้ลื่นไหลหน่อยค่ะ
ตั้งกระทู้ใหม่
เนื่องจากเฮามีประสบการณ์น้อยนิด จึงอยากขอคำแนะนำหน่อยดีค่ะ รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ไม่รู้ว่าลงถูกหมวดไหม?
12 ความคิดเห็น
ถ้าเอาแบบคนไม่คิดมากก็เขียนไปเรื่อยๆ จากที่เขียนไม่ออกก็จะเริ่มง่ายขึ้นจนถึงระดับที่เรียกได้ว่าให้ลื่นไหลเลยนะ ไม่ก็ลองนึกภาพของเรื่องที่จะเกิดขึ้นแล้วก็บรรยายออกมา ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเรื่องที่จะเขียน การฝึกบรรยายภาพที่เห็นรอบตัวก็เป็นสามารถช่วยได้เหมือนกัน
//ถ้าอยากลื่นไหลจริงๆ แนะนำให้ใช้น้ำมันหล่อลื่นนะ(ไม่เกี่ยว555)
ค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณคนตอบนี่มีอารมณ์ขันจริงๆ
วางแผนก่อนจะเขียนนิยายครับ เหมือนผมจะนิยายถ้ามีแบบแผน
วางแผนก่อน ขอบคุณมากนะคะ แต่ยังๆๆ มีข้อสงสัยอยู่ดีค่ะ แงง
เขียนลื่นไหลนี่แบบไหนครับ
เขียนให้งานอ่านแล้วรื่นไหลไร้สะดุด หรือเขียนงานแบบรื่นไหล ชั่วโมงละสิบแปดหน้า
ถ้าอย่างหนึ่งก็เขียนให้เสร็จแล้วอ่านทวนซ่ำหลาย ๆ รอบ จะเจอจุดที่ทำให้อ่านไม่รื่น
ถ้าอย่างสอง อันนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือ การวางโครงเรื่องทั้งหมดก่อนเขียนช่วยได้มาก แต่ถ้านั่งเขียนด้นสด คงจะยากหน่อย
อย่างที่หนึ่งค่ะ เฮาไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรน่ะค่ะ เลยมาขอคำแนะนำนิสหน่อย
ก็ตามนั้นแหละครับ ลองเขียนให้จบ อ่านทวน แก้จุดที่อ่านแล้วสะดุด ทำแบบนี้หลาย ๆ รอบนิยายจะลื่นขึ้นมาก
อีกอย่าง การอ่านช่วยได้เยอะครับ ยิ่งมีศัพท์มากเท่าไหร่ ก็ช่วยในการหาศัพท์ที่เหมาะสมมาใช้ในเรื่องได้มากขึ้น
ปล.เรื่องนี้เป็นเรื่องพื้นฐานของนักเขียนครับ ขึ้นอยู่กับความพยายาม (อ่านและตรวจ) ของแต่ละท่าน อยากได้งานดีก็พยายามเยอะหน่อย แต่ถ้ามือใหม่จริง ๆ ผมแนะนำว่าอย่าเพิ่งไปซีเรียสมาก พยายามเข็นนิยายให้มันจบ ๆ ไปก่อน มัวแต่ห่วงภาษา เกรงว่าจะเขียนไม่จบเอา
ขอบคุณมากนะคะ เฮาเป็นมือใหม่ จึงไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรเลย มาขอคำแนะนำน่ะค่ะ แหะๆๆ
ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินคือ เขียนไป อ่านไป เก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ นั่นแหละค่ะ
ลองดูในนี้ดูนะคะ
รวบรวมคำถาม-คำตอบ กระทู้ FAQ ประจำบอร์ดนักเขียน
https://writer.dek-d.com/Miran/writer/view.php?id=1860018
ตอนที่ 9 : บรรยายอย่างไรให้ภาษาสวย/ให้สมจริง
https://writer.dek-d.com/Miran/writer/viewlongc.php?id=1860018&chapter=9
ตอนที่ 10 : การเขียนบทสนทนาในนิยาย
https://writer.dek-d.com/Miran/writer/viewlongc.php?id=1860018&chapter=10
ขอบคุณมากค่ะ จะเข้าไปดูนะ
เป็นบทความที่ดีมากๆค่ะ ขอขอบคุณค่ะ
ฝึกค่ะ ฝึกอย่างเดียว
ขอบคุณค่ะ จะฝึกไปเรื่อยๆค่ะ
ผู้หญิงรึ ผมนึกว่าชายตั้งนาน ขอโทษครับ เดี๋ยวนะ ต้องชายสิ ก็ในเมื่อ...!?
ผมคงนอนน้อย...
มีการเข้าใจผิดด้วยหรือคะเนี้ย....
พึ่งไปอ่านมาวันนี้ค่ะ เห็นว่าแนวคิดของนักเขียนท่านนี้น่าสนใจดี คุณดาวกระจ่างลองเข้าไปอ่านดูน้า เผื่อจะนำเอามาปรับกับตัวเองได้
https://www.dek-d.com/writer/52677/
ขอบคุณค่ะ เป็นบทความที่ดีค่ะ
เขียนให้ลื่นขึ้นอยู่กับอารมณ์ในการเขียนค่ะ
ส่วนเขียนให้อ่านลื่น คือเขียนแล้วต้องอ่านทวนซ้ำค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เรื่มจาก เขียนฉากที่ตัวเราเองต้องการที่สุดก่อน
เรื่องที่ว่าจะใช้ได้ไหมนี่ลงถังขยะไปเลย ลบทั้งหมดอยู่แล้ว
วิธีคือ
-ไม่ต้องวางแผน เขียนไปเลยตามใจปรารถนา ฉากที่ชอบที่สุดยังไงก็เขียนได้อยู่แล้ว
ยังไงเราก็เรื่มแต่งนิยาย เพราะอยากจะเขียนให้ถึงฉากนี้
-ไม่ต้องอ่านซ้ำ เขียนบรรเลง จินตนาการออกมา ให้สุดก่อน
แล้วค่อยไปอ่านซ้ำ อย่าไปพะวงคำผิด ประโยคไม่สมบูรณ์
-ไม่ต้องแก้ไขเนื้อหาเก่ากลางคัน เมื่อนึกได้ว่าเขียนผิด หรืออยากเปลี่ยนเนื้อเรื่อง
ก็ไม่ต้องกลับไปแก้ ให้เขียนต่อไปทั้งอย่างงั้น
-ไม่สนความสวยงาม ไม่ต้องสนใจว่าประโยคจะยาวแค่ไหน
คำไม่สวยสื่อความหมายไม่ตรง
แม้จะเหมือนไม่มีประโยชน์ แต่ว่ามันก็เป็นการสร้างพื้นฐานการแต่งนิยาย
และใช้ประโยชน์สำหรับนำมาวิเคราะห์ได้ดีมาก
ปล.ตีความที่เขียนไปให้มากๆล่ะ เพราะตอนเขียนง่วงมาก
ขอบคุณมากๆค่ะ เฮาก็เหมือนๆกับเจ้าของเม้นนะ ถ้าเขียนยาว
อืม เวลาเขียนก็นึกว่ากำลังพูดกับเพื่อนค่ะ เวลาที่พูดกับเพื่อนนี่น้ำไหลไฟดับมาก หรือคล้ายกับกำลังเขียนเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของตัวเอง เริ่มจากภาษาง่าย ๆ ไปก่อนไม่ต้องไปรีบหรือเร่งมัน
มันจะเขียนได้ง่ายค่ะ จากนั้นก็ ฟัง พูด อ่าน เขียน สั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ
ขอบคุณค่ะ เป็นวิธีใช้ประจำวันจริงๆ
เราเองก็มีประสบการณ์ไม่มากนัก แต่เทคนิคการเขียนให้ลื่นไหลตามที่ คุณดาวกระจ่าง ว่า สำหรับในความคิดเรา แยกเป็น 2 กรณี ดังนี้ค่ะ
1. การเขียนลื่นไหลในความรู้สึกของเราเพื่อตัวเราเอง (โดยคำนึงถึงแค่ความลื่นไหลของจินตนาการในความคิด ที่เราสามารถถ่ายทอดออกมาผ่านการเขียนหรือการพิมพ์ได้อย่างไม่มีสะดุด และเป็นที่พอใจ)
กับ
2.เขียนลื่นไหลในความรู้สึกของเราเพื่อผู้อ่าน (โดยคำนึงถึงความลื่นไหลของจินตนาการที่เราต้องการถ่ายทอด ให้ผู้อ่านสามารถอ่านได้เรื่อยๆอย่างไม่สะดุด ซึ่งเป็นที่พอใจทั้งเราเองและผู้อ่าน)
ถ้าเป็นแบบในข้อแรก จะคล้ายๆขั้นตอนการ Sketching ค่ะ คือร่างออกมาก่อน เน้นความ Flow ของจินตนาการ จากนั้นค่อยมาเกลาเรื่อง เกลาภาษาอีกที
ส่วนในแบบที่ 2 เป็นส่วนขั้นตอนของการเกลาเรื่องและภาษาเพื่อการเผยแพร่ผลงานแล้ว สำหรับเรา จะมีกฏคร่าวๆจากประสบการณ์การเขียน และข้อแนะนำที่ได้จากการติชมจากผู้อ่าน แบบสังเขป ดังนี้
1. ใช้คำที่มีความคล้องจ้อง สัมผัสกัน คล้ายๆกลอน แต่ไม่จำเป็นต้องสัมผัสนอกในขนาดนั้นนะคะ (ไม่งั้นก็ต้องเขียนกลอนไปเลย) ภาษาไทยมีคำที่ใช้คล้องจองเยอะ เช่น ไปนงไปไหนมาดึกๆดื่นๆ เราสังเกตจากหนัง ตปท พากษ์ไทย บ่อยๆค่ะ ที่คนพากษ์เขาจะพากษ์ตลก ไ่ม่มีติดขัด สามารถส่งต่อมุขกันได้เรื่อยๆ (ยิ่งถ้าเป็นหนังจีน เช่น คนเล็กของเล่นใหญ่ หรือ นักแตะเสี้ยวลิ้มยี่ นี่จะเห็นได้ชัดมาก) ถ้าเราสามารถทำให้ผู้อ่านจินตนาการถึงการออกเสียงและท่าทางการพูดได้ ก็เสมือนเขาเห็นตัวละครของเราออกมาพูดเอง แบบนั้นก็จะสร้างอรรถรสในการอ่านได้ดีขึ้นค่ะ
2. ไม่ใช่คำซ้ำบ่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น "ฉันเดินไปเจอผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งมีผมสีขาวยาวสวยประบ่า ซึ่งใบหน้าของเขาอย่างกับถูกแกะสลักออกมาจากหินอ่อนคาราร่า ซึ่งอยู่ที่ประเทศอิตาลี่ ฉันที่ตอนแรกตั้งใจจะไปทำงานแต่เช้า กลับต้องจอดรถเพื่อหยุดดูเขา ซึ่งไม่ทันสังเกตเลยว่าขณะนี้ไฟแดงได้เปลี่ยนเป็นไปเขียวเสียแล้ว" ในที่นี้ก็จะเจอคำว่า "ซึ่ง" บ่อยมากค่ะ ที่เห็นชัดๆเลยในนิยายตอนนี้คือ ใช้คำว่า "ร่างสูง" หรือ "ร่างบาง" มากเกินไป การใช้คำซ้ำมันคือการเน้นย้ำ ซึ่งทำให้เกิดความเครียดกับเนื้อหาและผู้อ่านนะคะ ควรหลีกเลี่ยง
3. เนื้อหาอะไรบางอย่างที่มากเกินไปอาจทำให้ผู้อ่านเบื่อได้ เช่น ดราม่าเกินไป โหดเกินไป บู๊เกินไป หวานเลี่ยนเกินไป เพราะทำให้ไม่ตื่นเต้นค่ะว่าจะได้เจออะไรต่อ จะทำให้ไม่มีแรงผลักดันในการอ่าน เพราะจะทำให้ผู้อ่านคิดว่า อ่านไปก็เจอแต่รสชาติเดิมๆ เบื่อแล้ว ไม่อ่านต่อดีกว่าค่ะ
4. ถ้าเขียนไม่ออก ให้ไปสถานที่จริง หรือใกล้เคียงที่สุด อย่างเรา มีครั้งหนึ่งได้มีโอกาสไปนอนที่โรงแรมตรงเชิงเขาจุงเฟราค่ะ บรรยากาศเงียบชนิดได้ยินเสียงหายใจตัวเอง มันเป็นแบบนั้นจริงๆ จะว่าน่ากลัวก็น่ากลัวค่ะ ตอนนั้นเลยเข้าใจที่เขาว่า สมัยก่อน เงียบเสียน่ากลัว มันเป็นยังไง // ประเด็นคือ ถ้าเราไม่เคยสัมผัสมาก่อน เราจะคิดไม่ออกค่ะ คำแนะนำคือให้ออกไปข้างนอก แล้วไปสัมผัสบรรยากาศที่ตรงกับที่เราต้องการ หรือใกล้เคียงให้ได้มากที่สุด จะดีกว่ามานั่งคิด หรือเปิดยูทูปดูเอาค่ะ
คร่าวๆราวๆนี้เนอะ ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ ได้ทั้งสองอย่างเลย
ปล่อยใจไปตามเพลงครับ หนักเข้าก็ปล่อยไปกับความเงียบ
ไม่ค่อยได้ฟังน่ะค่ะ เผอิญมันไม่ตรงกับธีมที่แต่งอ่ะ
ซึมซาบความเงียบแล้วดึงจินตนาการครับผม สู้ๆ ครับ^^
ขอบคุณนะคะ พอดีว่ากลับมาดึกเลยเพิ่งมาตอบ ขอโทษทีนะ
การเขียนให้อ่านแล้วดูลื่นไหลไร้สะดุด
1.เริ่มจากเขียนไปก่อน นึกอะไรได้แล้วก็เขียนออกไปตามที่มีในหัวนั่นแหละครับ พอเขียนเสร็จจบตอนนั้นๆแล้วก็กลับมาอ่านทวนหาคำผิด แก้รูปประโยคที่ตัวเองอ่านแล้วยังรู้สึกขัดๆ
2.แก้เสร็จแล้วกลับมาอ่านซ้ำอีกรอบ ถ้าตัวเองอ่านแล้วยังขัดหรือต้องแปลไทยเป็นไทยอีกก็แก้ใหม่ ตรวจเว้นวรรคให้ดี การอ่านงานตัวเองมันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอก ยิ่งการต้องมาอ่านซ้ำหาจุดผิดสองถึงสามรอบบางทีมันเสียเวลาไม่ต่างกับการเขียนตอนขึ้นมาทั้งตอนนั่นแหละแต่ถ้าอยากให้งานมีคุณภาพและอ่านได้ลื่นไหลก็ต้องทำ
ปล. จำนวนครั้งที่เราอ่านซ้ำตอนของตัวเอง ยิ่งจะเป็นตัวชี้วัดและทำให้นิยายอ่านได้ลื่นไหลขึ้นเท่านั้น เพราะเราเองจะเห็นถึงจุดบกพร่องและแก้ไขได้
ส่วนถ้ายังไม่รู้จริงๆว่าต้องเขียนยังไงหรือใช้รูปประโยคแบบไหน ใช้คำไหนถึงจะบรรยาย เขียนได้ลื่นไหล ก็ให้วางการเขียนของตัวเองลงก่อนและไปหยิบหนังสือชั้นครู นิยายที่ชอบอ่านแนวเดียวกับที่เขียนอยู่มาเปิดอ่านดู อ่านไปอ่านมามันจะแบบ อ๋อ อยากบรรยายความรู้สึกแบบนี้ต้องเขียนแนวนี้ ต้องทำแบบนี้ เข้าใจแล้ว ขึ้นมาเอง ยิ่งทำซ้ำเยอะ ประสบการณ์ก็จะเยอะขึ้น สุดท้ายก็จะคิดได้เองเมื่อประสบการณ์มากพอแล้ว
ขอบคุณนะคะ อ่านไปนึกภาพตามเลยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งนะคะ เข้าใจแล้วค่ะ โทษทีที่ตอบช้านะ พอดีว่ากลับมาดึกค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?