Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวฟูลคอร์สหนังสือปี 2019 ของเราเองง ^^

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
    สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันในกระทู้เกี่ยวกับหนังสืออีกแล้ว ;^) วันนี้เราจะมารีวิวหนังสือในหัวข้อ
ฟูลคอร์สหนังสือ ปี2019 ของเราเองค่ะ ฮุเร่!! ปรบมือออ (แปะๆๆๆ---)
ไม่รู้มีใครเคยทำรีวิวแบบนี้ไหม แต่อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือเราจะแนะนำให้รู้จักหนังสือ 8 เล่มที่เป็นเสมือนฟูลคอร์สของเราในช่วงปี 2018-2019(เพราะเพิ่งจะครึ่งปี ไม่แน่ว่าก่อนจะสิ้นปีอาจมีลูกรักเล่มใหม่ก็ได้5555555)
อนึ่ง... การรีวิวนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความชอบส่วนตัวและความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ไม่มีเจตนาดิสเครดิตหรือไม่ใช่ว่าเป็นความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่เมื่อไหร่ ขอให้อ่านด้วยความบันเทิงเถอะนะคะ ฮ่า ถ้าหากทำให้ไม่พอใจต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
 
มาเริ่มกันเล้ยยยยย
 
  1. ออร์เดิร์ฟ
ถ้าเป็นออร์เดิร์ฟ คิดว่าน่าจะต้องเป็นหนังสือที่อ่านสบาย ๆ กระตุ้นให้อยากหยิบเล่มอื่น ๆ มาอ่านต่อ
สำหรับเราคงเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นค่ะ เพราะอ่านแล้วละได้ยาก ฮ่า ๆ และจากบรรดาการ์ตูนในชั้นหนังสือ ตอนนี้ยกให้เรื่องนี้เลย

เซลล์ขยัน พันธุ์เดือด

เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเซลล์(อ่านไม่ผิดค่ะ เซลล์ในร่างกายเราเลยแหละ)ที่มีรูปร่างเป็นคนค่ะ เขาก็หยิบยกกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายมาเล่าเรื่องผ่านตัวละครเหล่านี้ อาทิเช่น สาวน้อยเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ขนกล่องบรรจุอ็อกซิเจน ไปส่งให้คุณเซลล์ในอพาร์ทเมนต์ , คุณเม็ดเลือดขาวที่ไล่ฆ่าเชื้อโรคจนตัวโชกเลือดไปหมดดด เป็นต้น สนุกดีนะคะ อ่านเพลิน ๆ ได้ความรู้ด้วย ลายเส้นก็น่ารัก ไม่ได้สวยหวือหวาแต่ก็เข้าถึงได้ ไม่มีฉากวาบหวิว มีซีนตลกด้วย ครบเครื่องสุดดด ราคาก็สมน้ำสมเนื้อนะคะเราว่า รักมั่กกก <3
 
  1. ซุป
ซุปสำหรับเราคือต้องเป็นอะไรที่ทานง่าย คล่องคอ ทำให้รู้สึกอยากทานอาหารจานอื่น ๆ ต่อค่ะ ถ้าให้เลือกเป็นหนังสือที่มี ก็คงจะเป็น

เสียดายหมอดูไม่ได้บอก


หนังสือที่ตกหลุมรักหน้าปกตั้งแต่แรกเห็นค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าเดินเข้าไปหาเลยแบบไม่สนว่าหนังสืออะไรทั้งสิ้น ฮ่าๆ เนื้อหาเกี่ยวกับการที่คุณคนเขียนเขาเอาคำถามเกี่ยวกับแวดวงโหราศาสตร์มาตีแผ่และตอบคำถามค่ะ พร้อมกับทริคการดูดวงอย่างถูกต้องนิด ๆ หน่อย ๆ ที่เราชอบคือคุณเขาใช้ภาษาการเขียนที่เหมือนกำลังพูดคุยกับเรา ทำให้ไม่น่าเบื่อแล้วก็รู้สึกว่าเข้าถึงได้ง่าย สนุก อ่านเพลิน อ่านคล่อง อ่านเรื่อย ๆ ว่างเมื่อไหร่ต้องหยิบมาอ่านจนจบค่ะ อ่านจนอินกับเรื่องดูดวงไปพักหนึ่งเลย5555555 ส่วนภาพประกอบในเล่มก็สวยมาก ๆ ค่ะ อาร์ตสุด
 
  1. จานปลา
จานปลา... ในฐานะคนไม่เคยลองทานฟูลคอร์ส เราตีความจานนี้ว่าเป็นจานที่ปูทางก่อนเข้าจานเนื้อ จานหลัก ก็คือเป็นเนื้อสัตว์ที่ไม่หนักท้องมาก เราเลยเลือกเล่มนี้มาค่ะ เหมือนจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรู้ในการพิจารณาเนื้อหาควบคู่ไปด้วย แต่จริง ๆ แล้วเราก็แค่กำลังอ่านผลงานวิทยาศาสตร์ของคน ๆ หนึ่งเท่านั้น ไม่ต้องเก็บมาคิดมากก็ได้(แต่ถ้างงก็คงต้องหยิบมาอ่านซ้ำ ซึ่งนั่นก็โอเค) เสพความสุนทรีย์และความประทับใจในความสามารถของเขาแค่นั้นก็ย่อมได้ J

Stephen Hawking
สตีเฟน ฮอว์คิง คำตอบย่อของคำถามใหญ่

ผลงานสุดท้ายของคุณสตีเฟน ฮอว์คิง นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งของยุคนี้นั่นเองค่ะ เราเป็นคนที่ชอบดาราศาสตร์มากๆๆ เพราะฉะนั้นเล่มนี้ที่เป็นผลงานสุดท้ายจึงอดที่จะซื้อเก็บไว้ไม่ได้จริง ๆ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแปล ที่คุณฮอว์คิงหยิบยกคำถามของมนุษย์มาตอบ เช่น พระเจ้ามีจริงไหม อะไรอยู่ในหลุมดำ เป็นต้น โดยลักษณะคำบรรยาย จากที่ได้อ่านเรารู้สึกว่าเหมือนกำลังฟังคน ๆ หนึ่งเล่าเรื่องราวของคำตอบในคำถามที่ดูยิ่งใหญ่จากผลการศึกษาและค้นคว้าที่ยาวนานของเขา ออกมาได้แบบไม่เครียด ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น แต่ทำให้ประทับใจค่ะ ในเล่มคุณฮอว์คิงแทนตัวเองว่า ผม เหมือนกำลังพูดคุยกับเราเอง อันที่จริงขอสารภาพว่า ณ ตอนที่เขียนรีวิวนี้ยังอ่านไม่จบ แต่รู้สึกชอบมากจนต้องเอามาเป็นฟูลคอร์สหนังสือของเราเลยนะคะ
 
  1. จานเนื้อ
เนื้อของฟูลคอร์สเรา เราว่ามันคือเนื้อค่ะ เนื้อที่แน่น นุ่ม ชุ่มฉ่ำ ทำให้หนักท้องแต่ก็ยังไม่ใช่จานหลัก(ก็คือยังไม่ใช่ลูกรักที่สุดนั่นเองจ้า----) เราขอยกให้

แฮร์รี่ พ็อตเตอร์

อันนี้หนักมาก5555 หนักในที่นี้หมายถึงเนื้อหาที่ยาวจุใจกว่าหลายพันหน้า ความสนุกล้นปรี่ ความยิ่งใหญ่และน่าประทับใจของเนื้อเรื่อง ยกให้เป็นจานเนื้อของฟูลคอร์สเราไปเลยยย ความสุดยอดคนส่วนใหญ่คงทราบกันดีอยู่แล้ว ทั้งลักษณะการเขียนบรรยายที่ดึงดูดพวกเราสู่โลกเวทมนตร์คาถา การผจญภัยที่น่าตื่นเต้น มิตรภาพ ความสร้างสรรค์ที่แบบ... เราอ่านแล้วเรารู้สึกชอบมาก ๆ เลยค่ะ เป็นความรู้สึกชื่นชมมาก ๆ ที่คุณเจ เค โรลลิ่ง เหมือนได้สร้างโลกใบใหม่ของเวทมนตร์ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ คือสร้างสรรค์มากจริง ๆ สุดยอด แล้วปกล่าสุดก็สวยมาก ๆ เลยนะคะ น่าเก็บสุด ๆ >< แต่แอบเสียดายที่ปกใหม่ล่าสุดนี้ รูปประกอบเล็ก ๆ ที่เคยมีไม่มีแล้ว TT
 
  1. จานหลัก
เย้ มาถึงจานหลักแล้วว สำหรับเรา จานหลักในฟูลคอร์สนี้คือ ลูกรัก ค่ะ... ใช่ค่ะ หนังสือที่ชอบมากๆที่สุดแบบรักมาก ณ เวลาปัจจุบัน ไม่สนว่าหนักไม่หนัก แต่รักเรื่องนี้อ่ะ! อะไรทำนองนี้ (ขออภัยที่ดูเอาแต่ใจค่ะ555) นั่นก็คือออ...

เซนต์เซย่า

ใช่ค่ะ ถ้าใครอายุสัก 17+ (เด็กไปไหมนะคะ แต่ขอเอาตัวเองเป็นเกณฑ์นะ เพราะเราก็ทันดูตอนเด็ก ๆ ._. ) อาจจะรู้จักกระบวนท่า เพกาซัส หมัดดาวตก จากการ์ตูนเรื่องนี้ เราชอบมากเลยค่ะ ชอบความคิดของอ.คุรุมาดะแกที่เอากลุ่มดาวทั้ง 88 มาสร้างเป็นชุดคลอธแล้วก็ตัวละครได้สวยมาก ลายเส้นดั้งเดิมอาจจะแปลก ๆ แต่เราก็ว่ามันคลาสสิคดีนะ แล้วพอมาเป็นภาค lost canvas เปลี่ยนมือผู้วาดเป็นอ.ชิโอริ ลายเส้นสวยขึ้นตามสมัยแบบสวยมากกกก แล้วก็อยากบอกว่าเซนต์เซย่านี่แหละค่ะ ที่พาเราเข้าวงการดาราศาสตร์ เราจำกลุ่มดาวได้ จำชื่อดาวได้ จำเอกลักษณ์ของกลุ่มดาวได้เพราะเรื่องนี้เลย ใครว่าการ์ตูนไร้สาระ ไม่จริงหรอกค่ะ555 ถ้ารู้จักเชื่อมโยงดี ๆ ก็มีประโยชน์สุด ๆ เลยนะ แล้วก็ ๆ เรื่องนี้น่าประทับใจในหลาย ๆ จุดเลยล่ะค่ะ อ่านไปบางตอนก็ร้องไห้ไป แบบมันดีอ่ะคุณ ไม่มีฉากวาบหวิว ไม่ออกแนวเลิฟสตอรี่ เหมือนเป็นมิตรภาพลูกผู้ชาย ความสามัคคี เสพความงามจากคลอธสวย ๆ โดยเฉพาะโกลด์คลอธคือสุดยอดไปเรย!! (บอกแล้วนี่ลูกรัก555)
  1. สลัด
แฮะ หลังจากจานหลักไปแล้วมาต่อกันที่สลัดค่ะ เรานึกถึงสลัดผักล้วน ๆ เลย และผักมีประโยชน์นะแต่สลัดนี่ทำให้ทานผักง่ายขึ้นด้วย เราเลยคิดว่าน่าจะเป็นหนังสือที่รวมเรื่องสั้น ๆ ที่อ่านแล้วมีสาระสักหน่อยแต่ไม่เครียดค่ะ

ดอกไม้ไฟในเอกภพ

เล่มนี้เลยยย คืออย่างที่บอกว่าเราเป็นเด็กดาราศาสตร์ เพราะฉะนั้นในครั้งแรกที่เจอ เล่มนี้ได้ตกเราด้วยเนบิวล่าปูในปกค่ะ (ตรงที่วาฬพ่นออกมา) นี่ก็หยิบมาเพราะคิดว่าเกี่ยวกับดาราศาสตร์ แต่จริง ๆ คือเป็นเหมือนรวมแนวคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทั่ว ๆ ไปเอาไว้ นำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับความคิดมนุษย์ วิทยาศาสตร์ จิตวิทยาอีกนิดหน่อย ภาษาที่ใช้ไม่ได้เป็นวิชาการมาก อ่านแล้วก็ชิล ๆ อ่านเรื่อย ๆ แต่ก็ได้คิดเหมือนกันค่ะ แบบคิดว่าอืมมม ก็จริงของเขานะ! อ่านนอกเวลาได้ดีเลยแหละ ขนาดเล่มก็กะทัดรัดพกพาง่าย ภาพประกอบนี่ศิลปะสุด สื่อความหมายได้ดี จะคั่นแต่ละบทไว้ค่ะ ทำให้ไม่น่าเบื่อ แต่ราคารู้สึกว่าแรงนิดนึงเมื่อเทียบกับขนาด แต่ถ้าเราชอบ เราก็ว่าคุ้มนะคะ
  1. ของหวาน
มาถึงของหวานนน แน่นอนว่ามันต้องหวานนน แต่เป็นคนไม่ค่อยอ่านนิยายรักหวานแหววค่ะ (อ่านฟิค คิกค้าก--) ก็เลยขอเลือกเป็นหนังสือที่ทำให้อ่านแล้วยิ้มกรุ่มกริ่ม ยิ้มเขินออกมาแล้วกัน
อะแฮ่ม ๆ


โอปป้าพาเที่ยวเกาหลี

ค่ะ อันที่จริงคือเราชอบวงซุเปอร์จูเนียร์ค่ะ ก็เลยซื้อเล่มนี้มาเพราะเหมือนได้โฟโต้บุ๊คด้วย-- แล้วก็ยังเป็นเรื่องที่พี่ ๆ เขาเขียนเล่าเองอีกต่างหาก! แอร้ย— ภาพสวยแบบคมชัดมาก เนื้อเรื่องก็เกี่ยวกับการพาเที่ยวเกาหลีโดยแบ่งให้สมาชิกวงแต่ละคนรับผิดชอบในส่วนต่าง ๆ กันไป เช่น ทัวร์อาหารคลีน ทัวร์กลางคืน ทัวร์สุดหรู อะไรแบบนี้ น่ารักดีค่ะ เหมาะสำหรับเอลฟ์(ชื่อแฟนคลับวงนี้)และคนทั่วไปที่อยากได้หนังสือท่องเที่ยวเกาหลีแบบเล่าเรื่องกันเอ๊งกันเอง ตลก555 เรื่องนี้เลยเหมือนเป็นของหวานของเราค่ะ อ่านแล้วอยากอ่านอีก อ่านแล้วยิ้มหวานนนน
 
  1. เครื่องดื่ม
มาถึงเล่มสุดท้ายของคอร์สกันแล้วค่า เย้ ใครอ่านมาถึงตรงนี้ขอบคุณมากจริง ๆ ที่ให้ความสนใจรีวิวอ๊อง ๆ ของเรานะคะ แฮะๆ เครื่องดื่มนี่คืออะไรที่อ่านแล้วสดชื่นค่ะ แต่ถ้าอ่านไวไปก็ทำให้ช็อตเพราะไม่เข้าใจเอาได้ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องยาก(เหมือนตอนรีบดื่มน้ำแล้วสำลักแหละนะคะ)

ตำนานเทพกรีกและหมู่ดาว

คืออออ ปกสวยมากกก มีความตำรา ความคัมภีร์สุดด เป็นเรื่องเกี่ยวกับตำนานเทพกรีกที่เกี่ยวกับดวงดาวและกลุ่มดาวค่ะ ที่อาจรู้จักกันในชื่อ นิทานดาว นั่นเอง เราชอบดูดาวและชอบอ่านนิทานดาวมาก ๆ แต่เทพกรีกบางองค์หรือบางตำนานก็อ่านยาวเป็นพรืดเลยค่ะ ถ้าอ่านไม่เว้นช่วงทำความเข้าใจก็งงเอาได้ง่าย ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องอ่านจริงจังก็ได้5555 ส่วนเนื้อเรื่องยกตัวอย่างเช่น ดวงอาทิตย์ – เทพอพอลโล่ เทพแห่งดวงอาทิตย์ที่จะนั่งราชรถลากดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ท้องฟ้าในทุก ๆ วัน ดาวพฤหัส – ซูส(จูปิเตอร์) ราชาแห่งเทพ ผู้มีเมี-- แค่ก มีภรรยาหลายคนจนเกิดเรื่องวุ่นๆ ให้จับคนนู้นคนนี้ สัตว์ตัวนู้นนี้ไปเป็นกลุ่มดาวได้เยอะเลย5555 กลุ่มดาวคนคู่ – ตำนานของพอลลักซ์ คาสเตอร์ แฝดที่รักกันมาก ความตายมิอาจพราก เนี่ยยย นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายเรื่องเลย ถ้าใครชอบแล้วอยากเก็บเป็นเล่ม ๆ แนะนำเลยค่า อีกอย่างคุณคอสมอส คนเขียนเขาก็เขียนแบบเล่าเรื่องสนุก ๆ ดีนะคะ เพลินมากเลย
 
 
 
 
 
จบกันไปแล้วนะคะ กับฟูลคอร์สหนังสือ ปี 2019 ของเราเอง คือเราชอบอ่านหนังสือเป็นเล่ม ๆ แบบนี้มากก เพราะอย่างน้อยมันก็ได้สัมผัสของกระดาษ กลิ่นหมึก แล้วก็ความรู้สึกที่หนังสืออิเล็กส์ทรอนิคให้ไม่ได้เนอะ แต่ก็แล้วแต่ความสะดวกนะคะ ถ้าไม่ได้ออกจากบ้านก็อ่านในเน็ตบ้างเหมือนกัน แล้วไปสอยทีเดียวงานหนังสือแห่งชาติเลย---
สุดท้ายนี้ขอบคุณครอบครัว โดยเฉพาะคุณแม่ที่สนับสนุนให้เราเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ ซื้อหนังสือที่เราสนใจให้อ่านแบบไม่เกี่ยง ขอบคุณจริง ๆ นะคะ
 
แล้วเพื่อน ๆ มีฟูลคอร์สหนังสือเป็นของตัวเองไหมคะ? มาแชร์กันหน่อยน้า
 
ขอบคุณค่า <3 see youwink
PP_ELF

 

แสดงความคิดเห็น

>