Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวครบจบยันสัมภาษณ์ สอบตรง นิติ มธ. จาก #Dek62 Part 1

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
  สวัสดีค่ะน้องๆ ทุกคน วันนี้พี่จะมารีวิวการเตรียมตัวสอบตรง รอบที่ 3 สำหรับน้องๆที่มีเป้าหมาย  หรือ สนใจที่จะเข้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กันค่ะ
                   
ออกตัวก่อนเลยว่าพี่เป็นเด็กสายวิทย์ค่ะ ติดรอบที่ รับตรง  คณะนิติศาสตร์ มหาวิท  ยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต  น้องๆคงแปลกใจว่าทำไมพี่ถึงมาเรียนคณะนี้   เหตุผลคือจริงๆแล้วพี่เป็นคนที่ชอบเรียนวิชาทางสายสังคมมาตั้งแต่สมัย ม.ต้นแล้ว แต่คือทางครอบครัวพี่เค้ากลัวว่าพี่จะเปลี่ยนใจไปเรียนคณะทางสายวิทย์ ก็เลยให้เรียนสายวิทย์ไปเพราะสามารถไปได้หลากหลายกว่าทั้งคณะทางสายวิทย์  สายศิลป์  ซึ่งการที่พี่เรียนสายวิทย์ไปตลอดเวลาที่ผ่านมา  พี่รู้สึกค่อนข้างลำบาก และอึดอัดพอสมควรเลย  เพราะวิชาคณิตเป็นวิชาซึ่งพี่ไม่ชอบเลยมานานแล้ว นอกจากนี้ยังมี  เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์  เป็นอะไรที่หนักมากๆ บวกกับการที่พี่ต้องอ่านเนื้อหากฎหมายไปด้วย ซึ่งพี่ไม่เคยมีพื้นฐานเลย  พี่จึงอยากจะบอกก่อนเลยว่า การเลือกเรียนสายที่เราชอบเป็นอะไรที่สำคัญมาก  อยากให้น้องคิดดีๆก่อนว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่  แต่สำหรับใครที่เป็นเหมือนพี่  ไม่ว่าน้องจะมารู้ตัวทีหลัง หรือรู้ใจตัวเองมาตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากเรียนคณะนิติศาสตร์ พี่บอกเลยว่าไม่ว่าน้องจะเรียนสายไหน  น้องก็มีสิทธิ์ติดคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   เพียงแค่น้องมีการวางแผนที่ดี  หาตัวเองให้เจอ รู้จักตัวเอง มี สิ่งที่พี่ใช้สอบเข้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


 1.น้องต้องมี Passion  หรือ แรงบันดาลใจ
    
   Passion และแรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก  เพราะเวลาเราจะทำอะไรเราจะรู้สึกกระตือรือร้นในการทำสิ่งนั้น เรารู้สึกอยากจะทำมันให้สำเร็จ เมื่อเรารู้สึกเหนื่อยหรือท้อสองสิ่งนี้เองที่จะเป็นตัวให้น้องลองทำและพยายามต่อไป  จากประสบการณ์โดยตรงของพี่เอง
พี่จึงบอกก่อนว่าถ้าน้องหาสองสิ่งไม่เจอ  การที่จะเตรียมตัวสอบเข้า  จะเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก   อ้าวพี่ แล้วจะหาเจอได้ยังไง  น้องหลายคนคงบอกแบบนี้  วันนี้พี่จึงจะมาแนะนำวิธีการหา Passion และแรงบันดาลใจให้ค่ะ
               ง่ายๆเลยน้องต้องได้สัมผัสประสบการณ์จริง  การได้ไปใกล้ชิดกับบุคคลที่ทำงานในแวดวงกฎหมายนี้ หรือรุ่นพี่ที่เรียนคณะนิติศาสตร์  พี่เข้าใจเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ยากเพราะครอบครัวพี่  ญาติมิตร  พี่น้อง หรือคนรู้จักไม่ได้ทำงานทางด้านสายนี้โดยตรงกันสักคน  แต่วิธีที่พี่ใช้คือ  "ไปเข้าค่าย เข้าร่วมกิจกรรมทางด้านกฎหมาย" เป็นวิธีที่ได้ผล รวมทั้งช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้น้อง ได้เจอเพื่อน สังคมใหม่ๆด้วยค่ะ  ค่ายที่พี่จะแนะนำต่อไปนี้เป็นค่ายที่พี่ได้ไปจริงๆค่ะ (หากน้องคนไหน  รู้สึกขี้เกียจอ่าน ข้ามไปพาร์ทเตรียมตัวสอบเลยค่ะ เพราะเนื้อหาจะค่อนข้างยาว)
            ค่ายแรกที่น้องจะพลาดไม่ได้  ถ้าน้องจะเข้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ได้แก่  "ค่าย Pre-camp เปิดประตูสู่นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์"  เป็นค่ายของทางคณะโดยตรงเลย พี่เป็นเด็กPre-camp รุ่นที่ 23 ค่ะ   ค่ายนี้เป็นค่ายที่ดีมากจริงๆ  น้องจะได้เจอกับรุ่นพี่ในคณะ อาจารย์ในคณะตัวจริงเสียงจริงเลย  รุ่นพี่ก็จะมาแนะนำเราหลายสิ่งหลายอย่างเลย ทั้งการเรียน การสอนในคณะ  และอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งกิจกรรมสนุกๆที่ทางรุ่นพี่เตรียมไว้  เป็นค่ายแรกที่พี่เข้าไป และทำให้พี่มี Passion แรงบันดาลใจที่จะเรียนที่นี่  น้องต้องลองติดตามข้อมูลดูนะคะว่าเค้าเปิดรับสมัครวันไหน  การสมัครก็จะมีการให้เราทำแบบทดสอบเพื่อคัดเลือกเราเข้าไปค่ะ
           
           ค่ายต่อมา ซึ่งจริงๆไม่ใช่ค่ายค่ะ  แต่เป็น "โครงการทำก่อนฝัน ของทาง Trueplookpanya" โครงการนี้เป็นโครงการที่ให้น้องๆได้ไปลองสัมผัสการทำงานของพี่ๆในอาชีพนั้นเลย รวมทั้งบางอาชีพก็ให้เราได้ลองฝึกงานกันจริงๆเลยค่ะ  ทางโครงการมีหลายอาชีพให้เราเลือกสมัครเข้าไปค่ะ ซึ่งการสมัครในรุ่นของพี่เค้าให้อัดวิดีโอพูดเกี่ยวกับว่าทำไมถึงอยากมาโครงการนี้ แต่เหมือนว่ารุ่นต่อๆมาเค้าจะมีให้เขียนเรียงความด้วยนะ  แต่ละรุ่นก็จะมีอาชีพที่แตกต่างกันไป น้องต้องลองติดตามดูนะคะ  ซึ่งในตอนนั้นอาชีพที่พี่เลือกสมัครคือ "อัยการ"  พี่ได้ไปเข้าร่วมโครงการนี้เป็นระยะเวลาประมาณ 8 วัน แต่ไม่ได้ค้างนะคะ  เดินทางไป-กลับ ทางโครงการก็จะมีตารางเวลาให้เราดูว่าในแต่ละวันเราจะต้องไปที่ไหนค่ะ  ก็จะมีท่านอัยการตัวจริงเสียงจริงพาเราไปแนะนำการทำงานของอัยการค่ะ  เป็นคนพาเราเข้าไปในศาล อาชีพนี้คงฝึกงานกันไม่ได้นะคะ555  แต่น้องจะได้เห็นการทำงานจริงๆของอัยการ  รวมทั้งน้องจะได้เห็นการทำงานของทนายความ  รวมทั้งผู้พิพากษาค่ะ  เพราะเราจะได้เข้าไปในศาลจริงเลย  เป็นครั้งแรกที่พี่ได้เข้าไปในศาลค่ะ  จำได้ว่าตอนนั้นรู้สึกเกร็งๆ ประหม่ามาก   ไม่เหมือนที่เคยดูหนังเลย5555  ซึ่งในตอนนั้นที่เข้าไปเป็นการสืบพยานค่ะ  พี่ก็นั่งฟังไป  รู้สึกเปิดประสบการณ์ใหม่มากๆ  นอกจากนี้ทางโครงการก็จะมีเกียรติบัตรให้ด้วยค่ะ  ค่ายนี้ทำให้พี่รู้จักรุ่นพี่และเพื่อนๆ ซึ่งทุกวันนี้ยังติดต่อกันอยู่เลยค่ะ
                  โครงการนี้เป็นโครงการที่พี่พูดเลยว่าโคตรดี   Passion แรงบันดาลใจ รับรองว่ามาเต็มค่ะ 
              ค่ายที่สามคือ "ค่ายต้นกล้าตุลาการ" ค่ายนี้พี่บอกเลยว่าใครไม่ไป  ถือว่าพลาด!! ทำไมถึงพลาดเพราะค่ายนี้ของกินเยอะมาก ไม่ใช่ละ5555 ค่ายนี้เป็นค่ายที่จัดโดยสำนักงานศาลยุติธรรม  เป็นค่ายค้างคืน  รุ่นของพี่เข้าประมาณ8 วัน ถ้าจะไม่ผิดนะคะ ค่ายนี้คือไปถึงคือน้องจะได้ไปศาลเกือบทุกศาล ตั้งแต่ศาลฎีกา  ศาลพิเศษต่างๆ  แต่ไม่ได้เข้าไปในห้องพิจารณาคดีนะคะ  เยี่ยมชมแค่ภายนอก แต่ที่พิเศษสุดๆคือน้องจะได้เข้าไปในห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกาเลย   คือตอนเดินเข้าไปรู้สึกตื่นเต้นมากก ได้เจอท่านชีพ 
จุลมนต์ ประธานศาลฎีกาที่ท่านให้เกียรติมาเป็นประธานกล่าวเปิดค่ายนี้  และนอกจากนี้บุคคลสำคัญขององค์กรต่างๆมากมาย  ระหว่างที่อยู่ค่ายก็จะมีทั้งกิจกรรมทางวิชาการ  กิจกรรมสันทนาการ มีท่านผู้พิพากษาและอัยการหลายท่านที่ให้เกียรติมาบรรยายความรู้กฎหมายต่างๆ  เล่าเรื่องราวของชีวิตท่าน แรงบันดาลใจของท่านให้ฟัง แนะนำการเรียนการสอนในคณะนี้ รวมทั้งบุคคลต่างๆที่ประสบความสำเร็จทางด้านนี้  นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าไปถาม หรือเข้าไปคุยกับท่านได้ด้วยนะ เรียกได้ว่าใกล้ชิดมากๆค่ะ ที่สำคัญเลยคือของกินเยอะมากอย่างที่เคยพูดวไว้  ตั้งแต่ไอศครีม  น้ำต่างๆ ขนม อาหารว่าง อาหารคาว กลับมาคืออาจจะน้ำหนักขึ้นได้เลยค่ะ5555  สุดท้ายนี้พี่อยากจะบอกว่าค่ายนี้เป็นค่ายที่ดีค่ายหนึ่งจริงๆ ได้ทั้งความรู้ เพื่อน แรงบันดาลใจ อะไรหลายๆอย่าง เป็นค่ายที่ได้ใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญที่สุดแล้ว หลังจากกลับค่ายน้องจะได้ Passion อยากเรียนคณะนี้เพิ่มมากขึ้นแน่นอนค่ะ
            
                ค่ายสุดท้าย คือ "ค่ายเยาวชนกฎหมาย คณะนิติศาสตร์ ปรีดี พนมยงค์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์  " ค่ายนี้ ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งที่ควรไป เพราะเป็นค่ายที่ได้ทั้งความรู้  เพื่อนใหม่ๆ ค่ายนี้ก็จะมีทางรุ่นพี่มาแนะนำการเรียนการสอนในคณะ มี อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิหลายๆท่านมาบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อต่างๆค่ะ มีกิจกรรมสันทนาการสนุกๆมากมาย นอกจากนี้ยังมีศาลจำลองให้เราได้ดูกันด้วยนะ  วันสุดท้ายก็จะมีแบบทดสอบความรู้เกี่ยวกับกฎหมายมาให้เราทำ  ใครได้คะแนนสูงสุด  มีเงินรางวัลด้วยนะ  รวมทั้งมีเกียรติบัตรให้ด้วยค่ะ ค่ายนี้ไม่ต้องทำแบบทดสอบอะไรค่ะ  เพียงแค่ให้ทางโรงเรียนทำเรื่องส่งชื่อไปยังมหาวิทยาลัย
            สำหรับค่ายอื่นๆที่พี่ไม่มีโอกาสได้ไปแต่น่าสนใจมากๆ คือ “ค่ายสู้สอบตรง”
ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ค่ะ

2.การวางแผนเตรียมตัวสอบ  และการอ่านหนังสือ
การวางแผนเตรียมตัวสอบ

Q : คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดรับสมัคร TCAS รอบไหนบ้าง?
A : เปิดรับสมัครทั้งรอบที่ 2 , รอบที่ 3 , รอบที่ 4 แต่วันนี้เราจะมาโฟกัสที่รอบ 3 กันนะคะ
      **รอบ 2 จะเป็นรอบโควตาต่างๆ , โครงการต่างๆเช่น โครงการพลเมืองจิตอาสา,โครงการส่งเสริมนักเรียนดีภาคกลาง เป็นต้น ซึ่งในแต่ละโครงการก็จะมีหลักเกณฑ์ ระเบียบการต่างๆที่แตกต่างกันไป ให้น้องลองไปศึกษาดูเพิ่มเติมจากปีล่าสุดดูนะคะ **
Q : รอบที่ 3 ใช้คะแนนอะไรบ้าง?
A : คะแนนเต็ม 100 คะแนนนะคะ คิดเป็น
              1 .คะแนนสอบวิชาเฉพาะ 70% / 70 คะแนน ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 พาร์ท
      พาร์ทแรก :  วิชานิติศาสตร์ 1 /ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมาย , ความสามารถในการใช้เหตุผลทางกฎหมาย   40 คะแนน
      พาร์ทสอง:  วิชานิติศาสตร์  2 /เรียงความ 15 คะแนน , วิชาย่อความ 15 คะแนน   รวม 30 คะแนน
             2.คะแนนสอบ GAT 30%  คะแนนเต็ม 300
เอาคะแนนที่ได้หาร 10
 
Q : ลักษณะข้อสอบวิชาเฉพาะเป็นอย่างไร ?
A : พาร์ทแรกวิชานิติ 1  : 1. วิชาความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมาย  เป็นแบบปรนัย   4 ตัวเลือก ปีล่าสุดมี 20 ข้อค่ะ มีความรู้ตั้งแต่กฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา กฎหมายวิแพ่ง และกฎหมายวิอาญา แต่ส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปที่ กฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา กฎหมายวิแพ่ง และกฎหมายวิอาญาเป็นแค่เบื้องต้น
                              2. วิชาความสามารถในการใช้เหตุผลทางกฎหมาย ในปีพี่มี 20 ข้อ  ค่ะ  ลักษณะข้อสอบแบบนี้คือ โดยส่วนใหญ่จะมี 2 กรณี กรณีแรกโจทย์จะให้หลักกฎหมายมา และข้อเท็จจริง ถามประมาณว่า เป็นความผิดตามที่หลักกฎหมายให้มาหรือไม่  แล้วก็จะมีช้อยส์ให้น้องเลือกตอบค่ะ  ส่วนกรณีที่สองพี่ว่าค่อนข้างยากและยาว  ปีล่าสุดก็ออกมาหลายข้อมาก โดยจะให้คำตัดสินของศาลมา  4 ข้อ แล้วให้เราเลือกว่าศาลใช้หลักกฎหมายใดตัดสินคดีค่ะ  เป็นช้อยส์ให้น้องเลือกตอบ

พาร์ทสองวิชานิติ 2 :  วิชาเรียงความ-ย่อความ  นิติ มธ.ศูนย์รังสิตและศูนย์ลำปาง  ข้อสอบจะไม่เหมือนกันนะคะ
 โดยวิชาเรียงความ ศูนย์รังสิต ปีล่าสุด เป็นหัวข้อ  “ให้อภิปรายการอนุญาตใช้กัญชาในประเทศไทย”
ส่วนวิชาย่อความเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับ ”ที่พักพิงระยะยาวของผู้สูงอายุญี่ปุ่น ในจังหวัดเชียงใหม่”
            วิชาเรียงความ ศูนย์ลำปาง ปีล่าสุด หัวข้อ คือ “มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันของประเทศไท”
ส่วนวิชาย่อความ  หัวข้อ “การยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม”
โดยในแต่ละปีวิชาเรียงความก็จะให้หัวข้อเรามาแล้วให้เราเขียนบรรยาย  อภิปราย,บางกรณีมีการให้แสดงความเห็น ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไรกับข้อความที่ให้มา แตกต่างกันไปค่ะ  ส่วนวิชาย่อความ คือให้เราย่อใจความสำคัญจากเนื้อเรื่องที่เขาให้มาให้เหลือประมาณ 15 บรรทัดค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการย่อบทความนั่นเองค่ะ แต่ในบางปีแปลกๆก็มีอย่างให้ย่อสุนทรพจน์ พระบรมราโชวาท ก็มีค่ะ
            พี่ขอบอกเลยว่าปีล่าสุดที่พี่เพิ่งสอบมาย่อความเนื้อหายาวมาก อยากให้น้องเตรียมตัวมาให้ดีๆค่ะ สำหรับเทคนิคการทำเรียงความ-ย่อความ  ก็จะขอกล่าวต่อไปนะคะ
 
Q : เวลาในการทำข้อสอบวิชาเฉพาะ
A :  สอบภาคเช้านะคะ  วิชานิติศาสตร์ 1 /ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมาย ความสามารถในการให้เหตุผลทางกฎหมาย มีเวลาทำข้อสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นก็จะมีเวลาพักให้ 30 นาที ออกมาตั้งสติเพื่อเตรียมตัวทำวิชานิติศาสตร์ 2 / เรียงความย่อความ ของศูนย์รังสิต   โดยนิติ 2 ศูนย์รังสิต   ก็จะให้เวลาอีก 1 ชั่วโมง 30 นาที เช่นกันค่ะ
            ในส่วนของภาคบ่าย จะเป็นการสอบวิชานิติศาสตร์ 2 / เรียงความย่อความ ของศูนย์ลำปางค่ะ  ให้เวลา อีก 1 ชั่วโมง 30 นาที
 
Q : สมัครสอบวิชาเฉพาะอย่างไร
A : ปีพี่สมัครสอบวิชาเฉพาะที่เว็บ  www.tuadmissions.in.th ค่า
สมัครสอบวิชานิติ 1 300 บาท, วิชานิติ 2 ศูนย์ละ 300 บาท 

การอ่านหนังสือ

Part 1 : วิชาเฉพาะ
                         สำหรับตัวพี่เอง ตอนแรกคือพี่อ่านเองค่ะ และช่วงหลังคือ เรียนพิเศษ
น้องๆคงสงสัยว่า เราจะเริ่มอ่านตรงไหนดี อ่านยังไงให้เวิร์ค สิ่งแรกที่พี่อยากให้น้องมีเลยคือ  สมุดเปล่า 1 เล่มค่ะพร้อมปากกา  หลายสียิ่งดี  จุดเริ่มแรกการอ่านหนังสือของพี่เลยคือ ซื้อหนังสือมาอ่านค่ะ จะเป็นหนังสือ “คู่มือสอบตรง นิติศาสตร์ ของ Themizlaw” โดยทางผู้เขียนก็จะออกมาหลายเล่มมากค่ะแตกต่างกันไปในแต่ละปี แต่เนื้อหาข้างในคือแพทเทิร์นเดียวกัน คือ เป็นข้อสอบวิชานิติ 1  ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมาย  ความสามารถในการใช้เหตุผลทางกฎหมายค่ะ น้องๆอาจจะไม่ต้องซื้อครบทุกปีก็ได้นะ  เอาแค่ช่วงปีล่าสุดก็พอ หนังสือเล่มนี้คนไม่มีพื้นฐานเลยก็อ่านได้ค่ะ โดยภายในก็จะมีคำอธิบายตรงส่วนเฉลยให้เราด้วยค่ะว่าเป็นยังไง  อ่านแล้วเข้าใจง่ายมาก
         วิธีพี่เลยคือ  ทำข้อสอบชุดนึงเสร็จ ให้น้องจดคำอธิบายที่ได้อ่านมาจากในหนังสือลงในสมุดค่ะ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จากนั้นพอหมดเล่มให้น้องมาอ่านทวนซ้ำไปซ้ำมา  น้องจะพอจับแนวทางของข้อสอบได้ค่ะว่าออกเกี่ยวกับอะไร แล้วให้น้องไปศึกษาเพิ่มเติมในส่วนนั้นๆค่ะ
            ช่วงหลังคือพี่เริ่มหาที่เรียนพิเศษค่ะ เป็นคอร์สสอบตรงเข้านิติ มธ.โดยเฉพาะเลย
ซึ่งพี่มีสถาบันติวสอบตรงที่พี่อยากจะแนะนำน้องๆดังนี้ค่ะ
                        1.Genius Law TU  พี่เรียนคอร์สสอบตรงจากสถาบันนี้ค่ะ แต่เรียนเป็นคอร์ส online นะคะ สำหรับรอบเรียนสดก็มี ในคอร์สนี้คือน้องๆจะได้หนังสือเล่มหนึ่งมา ซึ่งเป็นหนังสือสรุปเนื้อหาทั้งหมดที่ใช้ในการสอบตรง ตั้งแต่เนื้อหากฎหมายแพ่งและพาณิชย์  กฎหมายอาญา  เรียงความ ย่อความ ซึ่งทางสถาบันสรุปไว้ในครบมากๆค่ะ ละเอียด ตรงประเด็น พี่ใช้ทั้งในการอ่านสอบตรงและแข่งขันตอบปัญหากฎหมายเลยค่ะ ของเค้าดีจริงๆ ถ้าน้องอ่านเล่มนี้แล้วสามารถจับประเด็นได้ จำเนื้อหาได้ พี่รับรองเลยว่าการติดนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ   นอกจากนี้ถ้าน้องเรียนออนไลน์ ทางสถาบันเค้าก็จะอัพโหลดวิดีโอที่ใช้สอนเหมือนรอบสดเป๊ะๆเลยค่ะ พร้อมทั้งได้สรุปเนื้อหาเพิ่มเติมเป็นไฟล์ด้วยค่ะ มีการบ้านเขียนเรียงความ ย่อความให้เราทำ เมื่อเราทำเสร็จก็ให้เราแสกนส่งไฟล์ไปทางเมลค่ะ  พี่ที่สถาบันเค้าก็จะตอบกลับมา ประเมินทักษะของเราอย่างละเอียดว่าควรแก้ไขอะไร เพิ่มทักษะตรงไหน ให้คำแนะนำเราค่ะ พี่เค้าดูแลดีมาก เหมือนน้องไปเรียนรอบสดเลย  ดูแลทุกอย่าง ทุกขั้นตอนในการสอบตรงค่ะ  ทางสถาบันนี้นอกจากจะมีคอร์สสอบตรงแล้ว ยังมีคอร์สอื่นๆด้วยนะ เช่น คอร์สติวสอบนิติศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ LLB , คอร์สติวเขียนเรียงความ ย่อความโดยเฉพาะค่ะ  นอกจากนี้ในระหว่างก่อนการสัมภาษณ์พี่เค้าก็จะเก็งคำถามสัมภาษณ์มาให้เราด้วยค่ะ
                      2.Themizlaw สถาบันนี้เป็นสถาบันหนึ่งที่คนสอบตรงติดนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เยอะมากค่ะ  พี่เรียนคอร์ส Advance online ของสถาบันนี้ค่ะ แต่สำหรับน้องๆที่ยังไม่มีพื้นฐานพี่แนะนำให้เรียนเป็นคอร์ส Basic นะคะ เพราะคอร์สนี้จะมีหนังสือสรุปที่หลายคนเรียกว่าเล่มแดงให้ค่ะ โดยหนังสือเล่มนี้ก็จะสรุปประเด็นเนื้อหาสอบตรงให้ค่ะ
สำหรับคอร์ส Advance online ที่พี่เรียนทางสถาบันก็จะให้ชีทเอกสารมาค่ะ เป็นแบบฝึกหัดล้วนๆ วิชานิติ1 และมีหัวข้อเรียงความ ย่อความให้น้องมาลองเขียนด้วย  วิดีโอที่ใช้สอนก็จะส่งลิงก์มาทางเมลของน้องค่ะ การสอนของพี่ๆเค้าก็จะอธิบายรายข้อของแบบฝึกหัดให้เลยค่ะ สอนเข้าใจมากๆ  นอกจากนี้ช่วงที่พี่สมัครทางสถาบันเค้าแถมแบบฝึก Reading มาให้ด้วยค่ะ  ก่อนสอบสัมภาษณ์ทางสถาบันก็จะให้คำแนะนำในการเตรียมตัวค่ะ
 เทคนิคการเขียนเรียงความ-ย่อความ
           
       การเขียนเรียงความ โดยหลักแล้วก็จะมี 3 ย่อหน้าด้วยกันคือ คำนำ เนื้อเรื่อง สรุป  แต่จริงๆแล้วในส่วนของเนื้อเรื่องมีหลายย่อหน้าได้นะ  อันดับแรกเลยให้น้องอ่านหัวข้อให้ดีว่าเป็นหัวข้อเกี่ยวกับอะไร เพราะสิ่งที่เราจะเขียนต้องสัมพันธ์กับหัวข้อเสมอค่ะ เช่นอาจจะให้อภิปราย  หรือบางทีก็จะให้เราแสดงความคิดเห็นค่ะว่าเห็นด้ยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร   สำหรับคำนำเป็นส่วนที่ควรเขียนน้อยที่สุดนะคะ  รองลงมาคือสรุป และส่วนที่ควรเขียนให้เยอะที่สุดคือเนื้อเรื่องค่ะ
            คำนำ >> เป็นส่วนที่น้องๆควรเขียนเกริ่นนำให้ดูน่าสนใจในการเข้าสู้เนื้อเรื่องค่ะ  พี่แนะนำให้น้องๆจำสุภาษิตกฎหมายไว้  พระบรมราโชวาทที่เกี่ยวกับกฎหมาย  คำคมกฎหมายไว้นะคะ เพราะเนื้อหาที่เราจะเขียนเรียงความเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายค่ะ เราสามารถนำมาประยุกต์เข้ากับหัวข้อที่เราจะเขียนได้ค่ะ
            เนื้อเรื่อง>> ส่วนนี้เป็นส่วนที่เราควรเขียนให้เยอะที่สุดค่ะ นอกจากจะเยอะแล้ว ยังต้องครบถ้วน ตรงประเด็นด้วยนะคะ สำหรับในส่วนของเนื้อเรื่องเป็นการเขียนที่ยากมาก เพราะเราไม่รู้เลยว่าคนออกข้อสอบจะออกอะไร  แต่สำหรับพี่แล้วพี่จะใช้วิธีในการติดตามข้อมูลข่าวสารสำคัญๆที่เกี่ยวกับกฎหมาย ในปีที่พี่สอบค่ะว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ให้น้องอ่านให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่หลังจากอ่านแล้วให้น้องเขียนสรุปเนื้อหาของข่าวไว้ด้วยนะคะว่ามีประเด็นสำคัญอะไรบ้าง จากนั้นให้น้องจดจำประเด็นเหล่านั้นให้ได้ด้วยนะคะ  อย่างปีล่าสุดมีการอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ข้อสอบก็ออกมาให้อภิปรายการอนุญาตใช้กัญชาค่ะ
      มีต่อจ้า   ลิงก์ไป PART 2 >>   
https://www.dek-d.com/board/view/3930068/ 

 

            
 

แสดงความคิดเห็น

>