Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วิธีเตรียมสอบเลขวิชาสามัญ + PAT1

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


สวัสดีจ้า เราเป็น dek62 ที่เพิ่งผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไป เราอยากจะมาแชร์วิธีการเตรียมสอบเอนท์วิชาคณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นวิชาสามัญ หรือ pat1 เพื่อให้เพื่อนๆ และน้องๆ สามารถนำไปปรับใช้กับการอ่านของตัวเองได้นะ

note: นี้เป็นกระทู้แรกของเรานะ ถ้าผิดพลาดอะไร ก็ขอโทษด้วยนะค้าบ

อันนี้คือคะแนนของเราน้า ^^ (ขออนุญาตไม่บอกชื่อนะ)





(มันครอปได้แค่นี้ TwT)

TIMELINE 
ภายในเดือนตุลาคม: ทบทวนเนื้อหาม.ปลายให้จบทุกบท
เดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์: ทำข้อสอบเก่า
กุมภาพันธ์: สอบ PAT1
มีนาคม: สอบวิชาสามัญ

ต่อไปจะพูดถึงสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการเตรียมตัวสอบ ไม่ใช่กับแค่วิชาคณิตศาสตร์ แต่ใช้ได้กับทุกวิชา ซึ่งก็คือ การสอบ Mock Exam

สำหรับเรา การสอบ mock เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่ใช้วัดว่า เรามีความพร้อมในการสอบมากน้อยแค่ไหน เราสามารถรู้ได้ว่า เรายังไม่พร้อมบทไหน ควรเตรียมบทไหนเพิ่ม นอกจากนี้ เราจะได้ประสบการณ์ในการเข้าห้องสอบก่อนการสอบรอบจริง ได้เห็นสถานการณ์ในห้องสอบ เพื่อตอนสอบรอบจริงจะได้มีวิธีการเตรียมตัวที่ถูกต้อง

ทีนี้ หลายคนก็จะสงสัยว่า สอบ mock นี่มีที่ไหนบ้าง สมัครยังไง เราเลยจะเขียน list ที่คิดว่ามีประโยชน์ในการสอบอย่างแน่นอน

1. admissionpremium
ตัวนี้จะมีทั้งแบบฟรีกับแบบพรีเมียม (น่าจะต่างกันเกี่ยวกับพวกรูปแบบการเฉลยข้อสอบ) มีให้สอบทุกวิชา ไม่ว่าจะเป็น gat-pat วิชาสามัญ ความถนัดแพทย์ และ onet
ความพิเศษของตัวนี้ คือเป็นการสอบแบบ online ไม่ต้องไปสอบที่สนามสอบ (ข้อดีคือสะดวก สอบที่บ้านได้ ข้อเสียคือไม่ได้ประสบการณ์การนั่งในห้องสอบ และก็บางวิชาต้องปริ้นท์ออกมาทำถึงจะทำได้ถนัด แต่เขาไม่ให้ปริ้นท์ ;_;)

2. tcaster
ตัวนี้เป็นของ ondemand ก็คือส่วนใหญ่จะเป็นครูจาก ondemand มาออกข้อสอบ มีสอบ 2 รอบ โดยในแต่ละรอบ วิชาที่มีให้สอบ คือ gat-pat วิชาสามัญ และความถนัดแพทย์
เราแนะนำให้สอบอันนี้มากๆ เพราะเปรียบเทียบกับตัวอื่น ของ tcaster มีความ balance เนื้อหาในข้อสอบได้ดีที่สุด ที่สำคัญคือ สำหรับ dek63 เขาให้สอบฟรี ไปสอบกันเยอะๆ 

3. dekdpread
ตัวนี้จะมีให้สอบ 2 รอบ
รอบแรก: มีพวกวิชา gat-pat สอบประมาณปลายเดือนมิถุนายน
รอบสอง: มีพวกวิชา gat-pat วิชาสามัญ และความถนัดแพทย์ สอบประมาณเดือนธันวาคม
(gat-pat จะเป็นข้อสอบใหม่ ไม่ต้องห่วงว่าจะได้สอบข้อสอบซ้ำ)

ทีนี้เรามาเข้าเรื่องกว่าเดิมดีกว่า :-)

การทบทวนเนื้อหา
เราจะไม่ค่อยเหมือนคนอื่นตรงเรื่องหนังสือ เพราะส่วนใหญ่เพื่อนๆ จะซื้อหนังสือมาทำ แต่เราไม่ได้ซื้อหนังสือมาทำเลย แต่เราจะเน้นไปทำชีทของ rathcenter.com มากกว่า บอกเลยว่าเว็บนี้คือสุดยอดในการเตรียมเอนท์เลขแล้ว !



เมื่อเข้าเว็บไป จะเป็นหน้าแบบในรูป 
สมมติว่าเราต้องการทบทวนเนื้อหา ให้เราหาชีทเรื่องที่จะทำ (แนะนำว่าทำของเลขเพิ่มไปเลย เลขพื้นจะง่ายไปจ้า) เราคิดว่าชีทของพี่รัฐเป็นชีทที่ดีและครบถ้วนมากๆ เลยไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อหนังสือจากที่อื่นมาอ่าน

ส่วนถ้าเราต้องการทำข้อสอบเก่า ในเว็บพี่รัฐก็จะมีข้อสอบเก่า onet วิชาสามัญ pat1 ทุกรอบทุกปี พร้อมเฉลยละเอียดแบบฟรีๆ ก็สามารถไปทำได้จ้า แต่แนะนำว่า ถ้าจะทำข้อสอบเก่า เราคิดว่าควรจะทบทวนเนื้อหาให้ได้เกือบหมดทุกบทแล้ว และควรทำจากปีเก่าสุดไปปีใหม่สุด ที่เก็บปีใหม่สุดไว้หลังสุดเพราะมันจะใกล้เคียงข้อสอบปีถัดมามากที่สุด ข้อสอบเก่าๆ บางปีจะเป็นคนละแนวกับข้อสอบปัจจุบันแล้ว ที่เห็นได้ชัดเจนมากคือข้อสอบ pat1 ถ้าเป็นช่วงปี 57-58 จะเป็นช่วงที่ข้อสอบโหดมาก ต่างกับข้อสอบปี 62 ที่ง่ายลงมามากๆ จ้า

note: ถ้าอยากทำโจทย์ที่ไม่ใช่ข้อสอบเก่า ก็ให้ทำพวกข้อสอบ mock นั่นแหละ เพราะเราคิดว่าเป็นข้อสอบที่ดีรองลงมาจากข้อสอบจริง ส่วนถ้าเป็นพวกโจทย์ในหนังสือ โดยส่วนตัวไม่อยากแนะนำหนังสือเล่มไหนเลย แต่ถ้าอยากทำจริงๆ ก็จะมีอยู่ 2 สำนักจ้า
1. ณัฐ อุดมพาณิชย์: syntax vaccine crack และก็พวกแนวข้อสอบวิชาสามัญกับ pat1
(สามารถใช้โจทย์จากเว็บพี่รัฐมาแทนได้นะ แต่ถ้าใครอยากหาโจทย์ทำเพิ่มจริงๆ ก็ซื้อมาทำได้จ้า)
2. รัชพล ธนาภากรรัตนกุล: มีแค่วิชาสามัญที่เป็นเล่มที่หน้าปกเป็นเป้าธนู 
(เนื้อหาบางข้อไม่ได้อยู่ในเนื้อหาที่ออกสอบจริงๆ)

ถ้าพูดถึงกวดวิชา เราคิดว่าเรียนของที่ไหนก็ได้ที่เหมาะกับตัวเรา แต่ส่วนตัว คิดว่ากวดวิชาที่ดีมากๆ คือ  the tutor สอนโดยพี่ตุ้ย จ้า คอร์สที่แนะนำคือคอร์สทุนคิงระยะ 1-2-3 (ชื่อคอร์สเป็นทุนคิงแต่จริงๆ เป็นคอร์สสอบเอนท์) 
ทุนคิงระยะ 1 จะทบทวนเนื้อหาม.ปลายครึ่งหลัง (5/2 + 6 ทั้งปี)
ทุนคิงระยะ 2 จะทบทวนเนื้อหาม.ปลายครึ่งแรก (4 ทั้งปี + 5/1)
ทุนคิงระยะ 3 จะตะลุยโจทย์ทุกเรื่อง + ทบทวนเนื้อหาประกอบ

ถ้าตอนนี้เรียนอยู่ม.6 แล้ว แนะนำให้เก็บเนื้อหาเอง แล้วไปลงทุนคิงระยะ 3 เลย เพื่อที่จะได้เรียนทันและเรียนรู้เรื่อง แต่ถ้าตอนนี้ยังเรียนม.5 อยู่ แนะนำให้ลงทุนคิงระยะ 1 ได้เลย แล้วก็ตามด้วยระยะ 2 กับ 3 เพื่อให้เก็บเนื้อหาได้แบบต่อเนื่องจ้า
note: เราเรียนเลขม.ปลายแค่พี่ตุ้ย 3 คอร์ส คือคอร์ส 4/1 4/2 แล้วก็ทุนคิงระยะ 3 ไปเลย เวลาที่เหลือจะเน้นอ่านเอง + ทำข้อสอบเยอะๆ มากกว่า

สรุปการเตรียมตัวสอบ: ควรทวนเนื้อหาให้จบก่อนเริ่มทำโจทย์ สามารถทำสรุปเนื้อหาของตัวเองได้ เพราะจะทำให้เราจำเนื้อหาได้แม่นยิ่งขึ้น

ต่อมาเราจะขอพูดถึงลักษณะของข้อสอบแต่ละฉบับนะ

วิชาสามัญ
30 ข้อกากบาท 90 นาที ตกข้อละ 3 นาที ส่วนใหญ่คนที่เข้าหมอ/ทันตะจะต้องสอบ (คิดเป็นคะแนนกสพท 14%)
part 1: 1-10 ข้อละ 2 คะแนน (คิดเป็นคะแนนกสพท 0.28%/1 ข้อ) ง่ายมาก ควรทำให้ได้ทุกข้อ
part 2: 11-30 ข้อละ 4 คะแนน (คิดเป็นคะแนนกสพท 0.56%/1 ข้อ) มีตั้งแต่ง่าย ปานกลาง จนถึงยาก



เราคิดว่าข้อสอบวิชาสามัญเป็นข้อสอบที่วัดพื้นฐานที่ลึกของผู้สอบ จะไม่ถึกมากในแต่ละข้อ แต่จี้ความรู้แบบลึก เพราะถ้าไม่แม่นเนื้อหาพอ จะทำได้โดนช้อยหลอกได้ง่ายมากๆ 

note: ข้อสอบจะไม่ออกเรื่องตรรกศาสตร์ เซต กำหนดการเชิงเส้น และความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน
เรื่องที่ควรเน้น: แคลคูลัส สถิติ (เรื่องละ 3-4 ข้อ)
เรื่องที่ออกน้อย: ทฤษฎีจำนวน 

signature: ใน 30 ข้อนี้ จะมี
- 2 ข้อ ที่วัด concept โดยจะถามว่า ถูกกี่ข้อ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเมทริกซ์ เวกเตอร์ สถิติ
- 2 ข้อ ที่นำมาประยุกต์กับความน่าจะเป็น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเมทริกซ์ จำนวนเชิงซ้อน 
- มักมีข้อยากที่เห็นได้ชัดอยู่ 2-3 ข้อ ซึ่งมักจะอยู่ในข้อ 26-30 เกือบทุกครั้งที่สอบ 
- ช้อยหลอกเก่งมาก !

การทำข้อสอบ ห้ามทำเรียงข้อ ให้สแกนข้อสอบก่อน แล้วเลือกทำข้อที่
1. (คุ้นๆ ว่า)เคยทำ/เป็นเรื่องที่ถนัด ควรทำให้เร็วแต่ไม่รีบเกินไป เพราะไม่ควรผิดกับข้อแบบนี้ 
2. ไม่เคยทำ แต่พอทำได้ เพราะพอเห็นแนวทางในการทำ
ส่วนข้อที่งง ไปไม่เป็น ให้เก็บไว้หลังสุด ถ้าไม่เห็นแนวทางในการทำจริงๆ ก็ต้องข้ามแล้วไปเก็บข้ออื่นจ้า

การกระจายช้อยส์ ตั้งแต่ข้อสอบเป็นแบบช้อยส์ทั้งหมด (ธ.ค. 58 เป็นต้นมา) ช้อยส์จะกระจายแบบ 56667 ทุกปี เช่นในรอบ 62 คำตอบเป็นแบบ 66576 หมายความว่า ตอบช้อย 1,2,3,4 5 ทั้งหมด 6,6,5,7,6 ข้อ ตามลำดับ

PAT1
30 ข้อกากบาท 15 ข้อเติมคำ 180 นาที
ตกข้อละ 4 นาที ส่วนใหญ่คณะสายวิทย์ที่ไม่ใช่หมอจะต้องสอบ เช่นวิศวะ บัญชี และมีบางคณะสายศิลป์ก็ต้องสอบเหมือนกัน ซึ่งสัดส่วนคะแนนจะขึ้นกับแต่ละคณะ
part 1: 1-30 กากบาท ข้อละ 6 คะแนน 
part 2: 31-45 เติมคำ ข้อละ 8 คะแนน
ทั้ง 2 part มีตั้งแต่ข้อง่าย ปานกลาง จนถึงข้อยาก



สำหรับ pat1 เราคิดว่าเป็นข้อสอบที่วัดความถึกและการบริหารเวลาที่ดีของผู้สอบ เพราะต้องทำข้อสอบติดต่อกันถึง 3 ชั่วโมง และมีถึง 45 ข้อ

note: ข้อสอบออกทุกเรื่อง
เรื่องที่ควรเน้น: แคลคูลัส ฟังก์ชัน สถิติ (เรื่องละ 5-6 ข้อ)
เรื่องที่ออกน้อย (แต่ควรเก็บ): ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน กำหนดการเชิงเส้น ทักษะการคิดคำนวณ (เรื่องละ 1 ข้อ)
เรื่องที่ออกน้อย (ไม่ได้ง่ายแบบที่คิด): เซต ตรรกศาสตร์ เพราะเดี๋ยวนี้คนออกข้อสอบออกให้ซับซ้อนขึ้น เช่นเรื่องเซต ชอบออกแบบข้อมูลไม่เพียงพอ แล้วถามเชิงอสมการแทน ส่วนตรรกศาสตร์จะนำไปประยุกต์กับเรื่องอื่น เช่นในปี 62 ประยุกต์กับเรื่อง expo-log 

signature
- ใน 30 ข้อแรก จะมี 2 ข้อที่มีข้อย่อย ก ข ค เพิ่มขึ้นมา เพื่อที่จะถามแนวถูก-ผิด เช่นข้อนี้



- เน้นความถึก ทำหลายขั้นตอน จึงต้องระวังเรื่องการคิดเลขผิดเป็นอย่างมาก
- ไม่ค่อยเน้นช้อยหลอก
- ข้อยากในปัจจุบันมีน้อยมาก ประมาณ 0-2 ข้อต่อชุด อาจะอยู่ในพาร์ทกากบาทหรือพาร์ทเติมคำก็ได้

การทำข้อสอบ ห้ามทำเรียงข้อ ให้สแกนข้อสอบก่อน จะมี 2 วิธีให้เลือก (แนะนำวิธีแรก)
1. ทำเติมคำก่อน เพราะง่ายกว่ากากบาท แต่มีโอกาสตอบผิดเยอะกว่า 
2. ทำกากบาทก่อน ถึงจะยากกว่าเติมคำ แต่ก็มีช้อยส์ให้อุ่นใจ
ทั้ง 2 วิธีต้องเลือกทำเรื่องที่ตัวเองถนัดก่อน และคอยดูเวลาอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นที่จะต้องทำทุกข้อ ทำแค่ข้อที่เราทำได้และทำให้ถูก ดีกว่าทำเกือบทุกข้อแต่ผิดเยอะ
3. ในพาร์ทเติมคำ ควรฝนทีเดียวตอนสุดท้ายพร้อมลงคำตอบด้วยปากกาไปเลย ไม่ควรทำไปฝนไป เพราะถ้าตอบผิดจะแก้กระดาษคำตอบได้ลำบาก (ห้ามใช้ลิควิดเด็ดขาด !)

การกระจายช้อยส์ ตั้งแต่ข้อสอบเป็นแบบช้อยส์ 30 ข้อ 5 ช้อยส์ (ต.ค. 58 เป็นต้นมา) ช้อยส์จะกระจายแบบ 55677 ทุกปี

สรุปการทำข้อสอบ:
1. ห้ามทำเรียงข้อ (ไม่ใช่แค่กับเลข แต่กับทุกข้อสอบที่จะต้องเจอ)
2. ทำเรื่องที่ตัวเองถนัดก่อน (แต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน ควรรู้ว่าเราถนัดเรื่องอะไร และไม่ถนัดเรื่องอะไร)
3. ต้องเอานาฬิกาเข้าห้องสอบ ดูเวลาสม่ำเสมอ เผื่อเวลาไว้ให้ฝนกระดาษคำตอบด้วย อย่างน้อย 15 นาที
4. ถ้าเป็นคนขี้หนาว ให้ติดเสื้อกันหนาวเข้าห้องสอบด้วย เผื่อไว้ 

ก็จะประมาณนี้แหละจ้า ถ้าใครไม่เข้าใจตรงไหน ให้คอมเม้นท์ถามได้เลยนะ หรือว่าใครมี suggestion ก็บอกเราได้เลย อันนี้เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดอะไรก็ขอโทษด้วยนะ ขอให้ทุกคนโชคดีค้าบ ^^

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

alphaparticle 16 มิ.ย. 62 เวลา 20:13 น. 2-1

ตอนสอบยังไงก็มีโอกาสที่จะลนอยู่แล้วครับ แต่ที่สำคัญคือเราต้องรู้ตัวให้เร็วและกลับมาใจเย็นให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ทำต่อได้ครับ ซึ่งสิ่งพวกนี้หลักๆ จะฝึกได้จากการไปสอบ mock ครับผม เป็นกำลังใจให้นะครับ :-)

0
4156+5 16 มิ.ย. 62 เวลา 15:22 น. 3

ดูจากผลคะแนนสอบ บวก กับ วิธีการแนะนำ และ ภาพประกอบ แล้ว

เป็นประโยชน์ สำหรับเด็กรุ่นต่อไปที่ได้ดูจริง ๆ ถึงแม้จะเป็น tutor มาสอบเอง

ก็ถือว่ามีฝีมือ และให้คำแนะนำได้ละเอียดดู ขอบคุณแทนเด็กนักเรียนนะครับ

(ปล. ถ้าไม่ได้เป็น tutor มาเอง ก็ขออภัยด้วยนะ ดูแล้วไม่น่าเป็น นร.ม.6)

1
alphaparticle 16 มิ.ย. 62 เวลา 20:18 น. 3-1

ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ป.ล. ผมเป็นนักเรียนเพิ่งจบม.6 จริงๆ นะครับ ^^

0
alphaparticle 7 ส.ค. 63 เวลา 09:17 น. 6-1

พี่เรียนตอนขึ้นม.5 ค้าบ มันสามารถเรียนได้เพราะเราเลือกเรื่องให้ตรงกับที่เรียนในโรงเรียนได้จ้า

0