Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตัวใส่ร้าย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่าคิดเช่นไรได้เช่นนั้น​ คิดให้เดือดร้อนมันก็เดือดร้อน​ คิดให้สงบก็ได้สงบ​ คิดให้มีกิเลสก็มีกิเลส​ คิดให้หลุดพ้นก็หลุดพ้น​ เพราะความคิดเป็นต้นเหตุแห่งการปรุงแต่งทุกอย่าง​ ถ้ารู้ทันจะคิดดับๆ​ ก็ดับความคิดได้ในขณะนั้น​

ถ้าเราหยุดคิดได้ทุกอย่าง​ทั้งถูก​ ทั้งผิด​ ทั้งเกลียด​ ทั้งชอบ​ ทั้งดี​ ทั้งชั่ว​ ก็ได้ชื่อว่าเราเหนือกว่าใครๆ ทั้งสิ้น​ เพราะว่าจะเป็นการใส่ดีทุกขณะที่หยุดคิด​ แต่ถ้าขืนคิดต่อนั่นได้ชื่อว่าเป็นการใส่ร้าย​ ขยายผล​ หาที่จบไม่ล​ง

เราลองทำวิจัยความคิดดูซิ​ ว่าจะจริงอย่างที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ไหม​ ขนาดแพทย์ยังวินิฉัยว่าโรคเกิดขึ้นจากความคิด​ การทำวิจัยต้องรู้ทันต้น​ กลาง​ สุด​ ของความคิด​ จะคิดก็รู้ทันว่าจะคิด​ จะหยุดก็ต้องรู้ทันว่าจะหยุด​ จึงจะทำวิจัยผ่าน​

-เรื่องการชี้แจงเหตุผลให้กับคนใส่ร้าย​ ยังไงเขาก็ไม่ยอมรับเหตุผล​ คอยให้ผลร้ายที่เขาผลิตเล่นงานเขาเองแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว​ เพราะการใส่ร้ายก็ต้องได้รับผลร้าย​ การใส่ดีก็ต้องได้รับผลดี​ เพราะรู้ทันจะคิดดับๆ​ จะไม่ใส่ร้าย​ เบียดเบียน​ เพ่งโทษใคร​ นั่นแหละเป็นกำไรรายได้แห่งชีวิตที่ชนะขาด ต่อไปก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกเลย

ดูแต่พระโกกาลิกะซิ​ ใส่ร้ายกับพระอรหันต์​ พระโมกขลานะ​ พระสารีบุตรว่าเป็นพระลามก​ โลภมาก​ พระพุทธเจ้าทรงห้ามว่าอย่าไปว่าใส่ร้ายพระอรหันต์​ ผลร้ายมันจะเกิดขึ้น​ พระโกกาลิกะก็ว่าใส่ร้ายพระพุทธเจ้าว่าเข้าข้างกันล่ะซิ​ ทันใดนั้นตุ่มผื่นแดงก็เกิดขึ้นกับผิวหนังพระโกกาลิกะ​ ทีแรกเกิดตุ่มเท่าเม็ดถั่วเขียว​ ตอนสุดท้ายก็ขยายผลเท่ากับลูกมะตูม​ แล้วแตกน้ำเหลืองไหล
ตายลงสู่อเวจีมหานรก​ ลึกและนานกว่าพระเทวทัต​ จึงโทษเราโทษเขาไม่ได้​ว่าสุข​ ทุกข์นี้​ เราทำหรือเขาทำ เพราะต้นเหตุอยู่ที่ความคิดทั้งสิ้น​

ถ้าดับความคิดก็เป็นการใส่ดี​ ถ้ามีความคิดก็เป็นการใส่ร้าย​ แล้วก็รับผลกันทั่วหน้า

ใส่ร้ายทั่วปฐพี​ ใส่ดีแค่หนึ่งเดียวชนะขาด

จากสายสืบนิสัยศาสตร์

แสดงความคิดเห็น

>