งงกับข้อสอบกพ. ภาษาไทยมาก นักเขียนลองตอบหน่อยค่ะ ว่าคำตอบของคำถามข้อนี้ควรเป็นอะไร
ตั้งกระทู้ใหม่
ถามนักเขียนทุกท่าน
ข้อใดใช้คำฟุ่มเฟือย
ก. เขากระซิบที่ข้างหูตำรวจว่า เจอคนร้ายแล้ว
ข. วันที่จะตื่นจากชีวิต ก็คือวันที่ดีที่สุดแห่งชีวิต
ค. ผู้ตั้งบ้านเรือนอยู่ในเมือง ย่อมได้รับอากาศไม่บริสุทธิ์
ง. เรายินดีช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์
มาจากข้อสอบ กพ. ภาษาไทยค่ะ ลองตอบกันดู อยากบอกว่าไม่เข้าใจข้อเฉลยมาก
16 ความคิดเห็น
เอ่อ จากการเดา (ล้วนๆ 100% มีทฤษฎีที่ลืมไปหมดแล้วมาบ้าง) ก. น่าจะฟุ่มเฟือยตรง กระซิบที่ข้างหู ประมาณว่า กระซิบต้องที่ข้างหูอยู่แล้วไม่ต้องใส่ (??) ข. ค. บ้าน กับ เรือน ความหมายเดียวกัน (จริงๆมันเป็นคำที่มักใช้คู่กันนี่หว่า) ง. อาจจะแบบว่า ช่วยเหลือต้องเต็มใจอยู่แล้วไม่ต้องใส่ยินดี (???) เดาว่า ข ไข่ (มั่วล้วนๆ)
จาาการวิเคราะห์ส่วนตัวคิดว่าตอบ ก. นะเจ้าคะ
ข.ใช้คำว่าชีวิต 2 จุด ถือว่าฟุ่มเฟือย
ค.บ้านเรือนมีความหมายเดียวกัน แต่ใส่เพิ่มเข้ามาถือว่าฟุ่มเฟือยนะเรา
ง.ทุนทรัพย์ก็มีความหมายในทางเดียวกัน
ส่วน ก. คำว่า กระซิบ "ที่ข้างหู"ถือเป็นส่วนขยายของกระซิบ ตำรวจเป็นกรรม น่าจะใช่นะ
อ่านดูเหลือแต่ข้อ ข. แต่ผมไม่เข้าใจความหมายของข้อ ข. ด้วยซ้ำไป
ตอบ
ง. เรายินดีช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์
เอ้า สรุปโจทย์ถามว่าใช้คำฟุ่มเฟือยหรือไม่ฟุ่มเฟือยล่ะ เมื่อกี้กดเข้ามาถามว่า "ข้อใดใช้คำไม่ฟุ่มเฟือย" พอตอบเสร็จกระทู้กลายเป็นแก้ว่า "ข้อใดใช้คำฟุ่มเฟือย" ซะงั้น
ถ้าถามว่าข้อใดใช้คำฟุ่มเฟือย ขอตอบ ค. ผู้ตั้งบ้านเรือนอยู่ในเมือง ย่อมได้รับอากาศไม่บริสุทธิ์
...เดาล้วนๆ
555555555
อ่านโจทย์ผิดเหมือนกันเลย ตอบ ง. เหมือนกันอีก
เราง่าเราตาไม่ฝาดนะคะ กระทู้มีการแก้จริงๆ 55555
ต้องเป็นอย่างนั้นครับ อ่านพลาด 2 คนเป็นไปได้ไง... (เข้าข้างตัวเองชัด ๆ)
ถ้าให้ตอบ...
เราตอบ ข.ใส่ไข่ (ไม่ได้ยึดตามหลัก แต่อาศัยการอ่านออกเสียงเอา)
ว่าแต่...มันเฉลยว่าไงจ๊ะ
อ๋อ เข้าใจแล้ว คำว่า "ที่" สินะ
จริงๆ ข้อ ข.ใส่ไข่ ก็ควรตัดคำว่า "จะ-ก็" ด้วยเหมือนกัน
แต่ข้อที่เหลือก็ฟุ่มเฟือยนะคะ เผลอ ๆ มากกว่าข้อที่ถูกอีก
จ้า...คงต้องทำใจ คงคล้ายๆ ข้อสอบเอ็นฯ 555
สำนวนนิยายกระซิบที่ข้างหูน่าจะแบบมีบทรักนิดนึง
พอมาในรูปตำรวจ ขอบอกว่าตอบก.ค่ะ อันนี้คือ เพราะว่ามันตลก ไม่ได้เกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ
คือจะหาคนร้าย แต่ไปกระซิบข้างหูตำรวจ แล้วลองนึกภาพตามค่ะ ตำรวจกำลังมุ่งมั่นจับคนร้ายถือปืนไรงี้ แล้วเราก็ไปกระซิบข้างหู เจอคนร้ายแล้วตัวเอง....
ใช่หรอ...
อันนี้คือไม่ได้เกี่ยวกับทฤษฎีใด ๆ ค่ะ ข้ามเราไปได้
ง. ทะแม่ง ๆ
เฉลยตามข้อสอบค่ะ
อ่อ พออ่านเฉลยก็ไม่แปลกใจนะ
"กระซิบ" เป็นคำกริยาที่แสดงอาการ "พูดเบาๆ ใกล้ๆ" พอเป็นคำว่า กระซิบที่ข้างหู มันเลยดูฟุ่มเฟือย(สำหรับคนออกข้อสอบ)
เพราะแค่คำว่ากระซิบเฉยๆ ก็แปลว่าคนพูดไปพูดใกล้ๆคนฟังแล้ว จะเพิ่มวลี "ที่ข้างหู" เพื่ออะไร ในเมื่อคำว่ากระซิบมันก็อธิบายแล้วว่า "ใกล้ผู้ฟัง" เช่นกัน
แต่พวกเราเป็นคนเขีนนิยายไง กระซิบเฉยๆ ไม่ได้อารมณ์ ต้องเติมเสียงพร่าที่ข้างหูขยายความให้เห็นภาพ 555
แปลกใจที่ข้อ 2 ไม่ฟุ่มเฟือยนี่แหละครับ
ก็พอเข้าใจได้ว่าตรงโจทย์ "ไม่ใช้คำเกิน" ถ้าถามว่าข้อใดมีปัญหาในการสื่อสาร ข้อนี้นำมาที่ 1
ใช่..เราเห็นด้วยกับท้องฟ้า
สรุป..สอบตกหมด เพราะเลือก ข.ใส่ไข่เป็นส่วนใหญ่ 555
เอ้า เพิ่งเลื่อนลงมาเห็นเฉลย... เดาถูกด้วยแฮะ
ผมมองว่าข้อ ข. วันที่จะตื่นจากชีวิต ก็คือวันที่ดีที่สุดแห่งชีวิต มันไม่เกี่ยวกับคำฟุ่มเฟือย เหมือนเป็นพวกคติสอนใจที่ตีความได้หลายความหมาย ซึ่งถ้าเราซี้ซั้วไปตัดหรือเปลี่ยนคำไหน มันก็อาจผิดใจความที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อหรือซ่อนเอาไว้ก็ได้
อืม...
ก. เขากระซิบที่ข้างหูตำรวจว่า เจอคนร้ายแล้ว (มีกระซิบแล้ว ก็ไม่ต้องขยายว่าข้างหูก็ได้ครับ)
ข. วันที่จะตื่นจากชีวิต ก็คือวันที่ดีที่สุดแห่งชีวิต (อันนี้อ่านแล้วงงๆ แต่เข้าใจว่าชีวิตหน้ากับชีวิตหลังใช้ในความหมายที่ต่างกันในเชิงเปรียบเทียบ)
ค. ผู้ตั้งบ้านเรือนอยู่ในเมือง ย่อมได้รับอากาศไม่บริสุทธิ์ (อันนี้ได้อยู่)
ง. เรายินดีช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ (อันนี้โอเค)
อันนี้ตอบจากการตัดคำล้วนๆ นะคะ อันไหนตัดคำได้คือฟุ่มเฟือย เรื่องหลักการลืมไปหมดแล้ว (อาจขอเปลี่ยนคำบ้างนิดหน่อย ในที่นี้ขีดเส้นกลางคำไม่ได้เลยขอใช้ขีดเส้นใต้แทนการตัดคำ วงเล็บเป็นการแก้ประโยคให้ฟังดูลื่นขึ้นนะคะ)
ก. เขากระซิบที่ข้างหู(บอก)ตำรวจว่า เจอคนร้ายแล้ว หรือ
เขากระซิบที่ข้างหูตำรวจว่า เจอคนร้ายแล้ว
- ข้อนี้ทำเราสับสนหน่อย เพราะถ้าต้องการแค่ตัดคำเฉยๆ เพิ่มคำหรือเปลี่ยนประโยคไม่ได้ คำว่า "ที่ข้างหู" จะตัดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นประโยคจะฟังดูแปลกทันที แต่จะตัดได้แค่คำว่า "ว่า" กลายเป็น "เขากระซิบที่ข้างหูตำรวจ เจอคนร้ายแล้ว" ถ้าต้องการดูจากรูปประโยคจะเป็น "เขา(ประธาน)กระซิบ(กริยา)ที่ข้างหู(วิเศษบอกตำแหน่งหรืออะไรสักอย่าง)ตำรวจ(กรรม)ว่า(ขยาย?) เจอคนร้ายแล้ว" เลยคิดว่าคงมีแค่ "ว่า" ที่ตัดได้
ข. วันที่จะตื่นจากชีวิต ก็คือวันที่ดีที่สุดแห่ง(ใน)ชีวิต
- ข้อนี้แอบสงสัยว่า "จะ" แรกตัดได้หรือเปล่า แต่ถ้าตัดความหมายอาจเปลี่ยนไปนิดหน่อยเลยไม่ตัด (ถ้าไม่คิดเล็กคิดน้อยมากก็ตัดได้ความหมายเปลี่ยนไม่มาก) ที่สงสัยคือทำไมใช้คำว่า "แห่ง" ให้ดูยิ่งใหญ่เกินไป มันดูไม่เข้ากับรูปประโยคแปลกๆ (ตามความเห็นของเรานะคะ) ตัด "ก็" เพราะรู้สึกว่า "คือ" มันทำหน้าที่บอกความหมายได้ดีอยู่แล้ว ตัด "ก็" ไปไม่ได้ทำให้ความหมายเปลี่ยน
ค. ผู้ตั้งบ้านเรือนอยู่ในเมือง ย่อมได้รับอากาศไม่บริสุทธิ์
- บ้านเรือนเป็นคำซ้ำความหมาย แต่รวมกันแล้วมันเป็นคำเพียงหนึ่ง สมมติว่าถ้าตัด "ผู้ตั้งบ้านในเมือง" หรือ "ผู้ตั้งเรือนในเมือง" ประโยคมันอาจดูแปลกๆ เลยคิดว่าตัดไม่ได้ ที่ตัด "อยู่" เพราะ "ใน" ทำหน้าที่บอกตำแหน่งได้ดีอยู่แล้ว ประโยคหลังรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรให้ตัด
ง. เรายินดีช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์
- แบ่งคำตามหน้าที่จะเป็น "เรา(ประธาน)ยินดี(วิเศษขยายกริยา)ช่วยเหลือ(กริยา)ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์(กรรม หรืออาจจะเป็นกรรม+วิเศษขยายกรรม) ที่น่าสนใจว่าจะเป็นคำฟุ่มเฟือยหรือเปล่าคือส่วนกรรม มีหลายคำที่ความหมายซ้ำซ้อน แต่ความหมายซ้ำซ้อนพวกนั้นรวมกันได้หนึ่งคำ สมมติถ้าตัดคำออกมาเป็น "เรายินดีช่วยเหลือผู้ขาดทรัพย์" "เรายินดีช่วยเหลือผู้ขาดทุน" "เรายินดีช่วยเหลือผู้แคลนทรัพย์" หรือ "เรายินดีช่วยเหลือผู้แคลนทุน" มันคงแปลก ถ้าจะฟังดูดีหน่อยก็คงเป็นประโยค "เรายินดีช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทรัพย์" แต่ถ้าจะให้กระชิบจริงๆ เปลี่ยนกรรมไปเป็น "เรายินดีช่วยเหลือผู้ยากไร้" จะดีกว่า (ความหมายฟังดูเป็นยังไงมันอีกเรื่อง)
ถ้าให้เราตอบเราคงเลือกข้อ 4 ล่ะมั้งคะ
ผมเดาว่า ก. นะครับ เขากระซิบที่ข้างหู ถ้าใช้ กระซิบใส่หู ใช้คำน้อยกว่า หรือใช้บอกเหมือนเมนต์บนยังได้
ข. วันที่จะตื่นจากชีวิต ก็คือวันที่ดีที่สุดแห่งชีวิต ถ้าแก้ให้เข้าใจง่ายก็ วันที่จะตื่นจากชีวิต ก็คือวันที่ดีที่สุด'ของ'ชีวิต ใช้คำพอ ๆ กัน
ค. เนี่ย ตัดทอนคำจนยากจะเข้าใจเลยด้วยซ้ำ ผู้ที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ในเขตชานเมือง ย่อมได้รับอากาศที่ไม่บริสุทธิ์
ง. กำลังดี สวยงาม ไม่มีไร
ผมเคยเขียนศัพท์นิยาย ๆ แบบก. ส่งรายงานโครงงาน โดนตีกลับมาว่าใช้คำได้ฟุ่มเฟือยมาก รายงานไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาสวยงามขนาดนั้น อ่านหนึ่งบรรทัดต้องเข้าใจทุกอย่างแล้ว บลา ๆ ๆ ๆ เลยจำแม่นเลยว่าอันไหนออกแนวนิยาย ๆ คือฟุ่มเฟือยแล้วนะ
ถ้าเป็นผม ผมจะตอบ ก
เพราะคำว่า ที่ เป็นคำฟุ้มเฟื่อย ตัดออกแล้วไม่ทำให้ประโยคเสีย
ผมมองต่างนะ ว่ากระซิบ สามารถใช้กับคำว่าข้างหูได้ เพราะการกระซิบ ไม่ใช่กริยาที่ต้องพูดใกล้ ๆ หู สามารถพูดในที่ไหนก็ได้ กริยาใดก็ได้ ความหมายคือลดเสียงลง เจตนาให้ได้ยินแค่ในวงจำกัด
เคยสอบนะ อิ กพ เนี่ย
บอกตรงๆ ไม่คาดหวังกับวิชาภาษาไทยเลย
ตีความไม่ได้ วกไปวนมา งวยงงสงสัย ฮ่าๆๆๆ รู้สึกโง่เลยตอนนั้น
บางทีเหมือนเล่นเกมเดาใจคนออกข้อสอบด้วย
ตอบอะไรไปก็ไม่มั่นใจว่าจะถูก
คณิตฯ ที่ว่าโง่ๆ ยังมั่นใจมากกว่าเลยอ่ะ
ถ้าผมเจออย่างนี้ตอนสมัยเรียน บอกได้อย่างเดียวครับว่า "งง" แต่ตอนที่ผมเรียนนั้นส่วนใหญ่เจอแต่การใช้บทกลอน
ตอบข้อ 1 เหมือนกันค่ะ ไม่งงคำเฉลยนะ
สำหรับเราข้อไหนขัดตาคงข้อนั้นแหละ ข้อหนึ่งขัดตาแบบไม่มีเหตุผล๕๕๕๕
อ่านเฉลยละอ้อ...
อ้ออออ
เออ เซ้นท์ตูดีจริง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?