มีใครเคยเจอปัญหาแบบเราบ้างในชีวิตมหาลัย?!
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
14 ความคิดเห็น
มีเพื่อน น่าจะดีกว่า ไม่มีเพื่อน
แต่ถ้าอึดอัด ..ก็ ค่อย ๆ ตรองดู ค่อย ๆ ถอยออกมา แล้วดูตัวเองอีกที...เป็นไง
ถ้าอยู่คนเดียว แล้วสบายใจกว่า ก็ถอยห่างออกมาอีก... เพื่อน ก็ยังคงอยู่ แต่ ...ห่างนิดนึง
แล้วก็อาจจะมีเพื่อนใหม่...ต่อไป.....อย่าลืมพิจารณาตนเองด้วย
เรารู้สึกว่าอย่างน้อยก็มีคนไปไหนมาไหนด้วยกัน ของเราแทบจะไม่เพื่อนเลยด้วยซ้ำเพื่อนที่อยู่โรงเรียนเดียวกันแต่ไม่ได้คุยกันเลย ถึงจะทักกันก็รู้สึกอึดอัดเหมือนพวกเค้าไม่อยากทักเรา เพื่อนในคณะถึงจะมีเพื่อนที่ไปไหนด้วยกัน อยู่ห้องข้างๆกันก็ไม่เคยชวนไปไหนเลยมีแค่ไปเวลาเรียนเท่านั้น ส่วนใหญ่เราจะอยู่ในห้องตลอดเวลาเพราะไม่มีเพื่อนไปด้วยเลย เราก็อยากย้ายมหาลัยไปจากที่เราเรียนให้ไกล อยากเจอสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ เพราะตอนนี้เราเหมือนอยู่คนเดียวมากๆเลย แต่เราอยากให้กำลังใจกับเจ้าของกระทู้เหมือนกัน สู้ๆนะ อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่คนเดียวเหมือนกับเรา :)
ฮือออ เหมือนเราเลยย แค่อยู่ด้วยกันตอนไปเรียน เวลาไปเที่ยวไรงี้เพื่อนก็ไม่ค่อยได้ชวนเรา เรียนเสร็จเราก็กลับหอ ไม่ได้ออกไปไหน เอาแค่ตอนเรียน+กินข้าว มีเพื่อนไปด้วยพอ
เป็นเหมือนกัน เราคิดว่าเราสนิทกับเพื่อน แต่เพื่อนไม่รู้จะคิดแบบนี้กับเราด้วยป่าว เรามีเพื่อนแค่ตอนเรียน+กินข้าว แค่นั้นจริงๆ เพื่อนๆที่รู้จักส่วนมากก็จะไปแต่กับเพื่อนเก่า(รรเดิม) เราก็ไม่กล้าเข้าไปเจิมด้วย กลัวพวกเขาจะอึดอัด เลยได้แต่ไปเรียน และกลับหอมานอนไม่ได้ออกไปไหน คิดไว้ว่าอยากจะซิ่วแต่ก็ไม่อยากมาเริ่มนับ1ใหม่เลยได้แต่อดทน เพราะเราเข้ามารั้วมหาลัยนี้แบบไม่เต็มใจ :)
มีเพื่อนในกลุ่มเราคนหนึ่ง เข้ากลุ่มมาตอนปีหนึ่งเทอมสองค่ะ เพื่อนบอกว่าเข้ากับกลุ่มเดิมไม่ได้ เลยอยากลองมาขอลองอยู่กลุ่มเราดู แต่ไม่เคยกลับกลุ่มเก่าเลยค่ะ จนตอนนี้ก็สนิทกับเพื่อนในกลุ่มบางคน
เรื่องเข้ากับเพื่อนไม่ได้เราเป็นนะคะ ชีวิตตอนปี1 เทอม 1 เราดีมาก แบบเพื่อนดี คณะก็ดี ซึ่งเทอมนี้เราเรียนแต่วิชานอกคณะ ทำกิจกรรมเฟรชชี่เยอะแยะค่ะ พอเทอม 2 รู้ซึ่งเลยค่ะว่าเป็นไง ตอนแรกก็ยังเรียนๆเล่นๆเหมือนเดิม พอเราเรียนไม่ได้ เราต้องถอนตัวหนึี่งก็รู้สึกแปลกแยก ไม่ค่อยเข้ากลุ่ม ถึงเพื่อนจะพูดอย่างไงก็ตาม ทะเลาะกับเพื่อนคนหนึ่งเรื่องทัศนคติอีกค่ะ แล้วก็รู้สึกเหมือนโดนแย่งเพื่อนด้วยค่ะ แต่สุดท้ายมันไม่เกี่ยว มันเป็นที่แค่เรากับเพื่อนเข้ากันได้ไม่เท่าเขาค่ะ แล้วเราก็เลือกไปเข้าค่ายกับทางคณะ เราก็เริ่มมีเพื่อนใหม่ มีความคิดใหม่ ว่าเรื่องเรียนก็สำคัญ แต่เพื่อนที่ดีก็ยังมีอีกเยอะแยะ ได้เพื่อนใหม่เยอะเลยค่ะ บางคนถึงขั้นเปลี่ยนกลุ่มเลยค่ะ
เราคิดว่าต้องเริ่มทำกิจกรรมก่อนค่ะ แล้วค่อยเปลี่ยนกลุ่มแบบเนียนๆ
เหมือนเราเลยค่ะ เพื่อนเรามีไรชอบไม่พูดต่อหน้า แต่เอาไปพูดลับหลัง เอาใจไม่ค่อยถูก เราก็ลองชวนเพื่อนคนอื่นๆคุยไปเรื่อยๆ คนไหนที่คิดว่าเราน่าจะเข้ากันได้ ก็เข้าไปคุยด้วยบ่อยๆ และก็ขอไปอยู่ด้วยเลยค่ะ เราใช้เวลาเกือบ 2 ปีกว่าจะหาคนที่ลงตัวกับเราได้ ลองพยายามหาดูนะคะ ต่างคณะก็ได้ค่ะ ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วอึดอัดสำหรับเราเราไม่โอเคอ่ะ ต้องหาที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจๆ
สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ เรื่องเพื่อนคือเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ อยากลองให้จขกท ลองเปิดใจคุยกับเพื่อนดูนะคะ ว่าไม่โอเคเรื่องอะไรแล้วเพื่อนมีเรื่องอะไรที่อยากให้เราปรับเพื่อเค้าบ้าง ชีวิตมหาลัยอยากแนะนำให้มีเพื่อนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจมากกว่าค่ะ หากจขกท คิดว่าอยู่กลุ่มเดียวกับเพื่อนกลุ่มนี้ไม่ได้ค่อยๆเฟดตัวออกมาแบบเงียบๆดีกว่าค่ะ จะได้ไม่ต้องเสียครสต่อกัน
มีเพื่อนเยอะ แต่ในเวลาเดียวกัน ก็รุ้สึกเหมือนไม่มีซักคน คือ รุ้ใจจิงๆ กับ สนิทจริงๆ แทบไม่มี ยุท่ามกลางคนที่รุ้จักแต่เหงา กับ ยุท่ามกลางคนที่ไม่รุ้จักแต่เหงา ความรุ้สึกมันต่างกัน เห้อ
เพื่อนที่ดีกับเพื่อนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจมันต่างกันจริงๆ เจอมาตอน ม.ปลาย เข้าใจความรู้สึก จขกท นะคะ สู้ๆค่ะ
เราก็ซิ่วมาเรียนเหมือนกันตอนนี้เรียนจบแล้ว ปัญหาเรื่องเพื่อนคือโลกแตกมากเคยทะเลาะกับเพื่อนที่คบกันตั้งแต่ปี1 เพื่อนที่สนิทก็ลาออกไม่เรียนต่อ ท้อมากจนไม่อยากเรียนแล้วต่อมาก็คิดถึงครอบครัวคิดถึงพ่อที่ส่งมาเรียน เพื่อนอาจจะไม่ใช่ทุกอย่างสำหรับเราแต่เราต้องรู้จักวิธีการใช้เพื่อนให้เป็นประโยชน์ การมีเพื่อนที่ชวนกันเรียนเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่เดิมกลุ่มที่เราไปขออยู่ไม่ใช่กลุ่มเรียนดีแต่เป็นคนจริงใจ เราช่วยกันเรียนช่วยกันทำงานจนกระทั่งเข็นกันจนจบ เพื่อนอาจจะมีปัญหาของเพื่อนถ้าเราลองมาคุยกันปรับความเข้าใจก็จะอยู่ได้ค่ะ กลุ่มเราเคยถึงขนาดนั่งด่ากันไปร้องไห้ไปเพราะเพื่อนไม่ช่วยทำงานแต่สุดท้ายก็ปรับความเข้าใจกันและจับมือทำงานจนจบพร้อมกันทุกคน สู้ๆค่ะถ้าเราไม่ยอมแพ้อะไรก็ผ่านไปได้
เราแนะนำนะว่า ถ้ารู้สึกอึดอัดเพราะคนในกลุ่มไม่ยอมคุยเรื่องความรู้สึกกัน ให้เราเองลองเริ่มต้นคุยความรู้สึกกับทุกคนก่อนนะ แต่ถ้ากลัวว่าจะทำให้ตัวเราเองดูเป็นคนตรงเกินไป ก็หลังจากที่บอกความรู้สึกไปแล้วให้ช่วยกันหาข้อตกลงว่าจะแก้ปัญหากันแบบไหนดี ยกตัวอย่างนะ ถ้าเราไม่ชอบการที่เพื่อนไปไหนแล้วเราต้องไปด้วย ก็บอกว่า "เห้ยที่ที่พวกเธออยากไปกันอ่ะ เราอาจจะไม่ได้อยากไปก็ได้่นะ ถ้าเราต้องถูกบังคับไปแล้วไม่ได้ไปทำอะไร เราขอไม่ไปนะ ตกลงไหม?" แต่ถ้าเพื่อนตอบกลับมาว่าที่ชวนก็เพราะอยากให้ไปเจออะไรใหม่ๆแล้วอยากให้ไปเที่ยวด้วยกัน ก็ลองเสนอไปว่า "ถ้าอย่างนั้น ถ้าอยากให้ไปไหนก็ให้แนะนำมาว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง แล้วเราจะตัดสินเองว่าอยากไปไม่อยากไปหรือเปล่า เราโอเคกับการทำแบบนี้นะ" คือที่เราอยากจะสื่อคือ ถ้าเราคุยกันแล้วช่วยกันหาข้อตกลงกันได้ เราจะได้รู้ว่าทำแบบไหนถึงโอเคทำแบบไหนไม่โอเค เราว่านี้คือวิธีที่จะไม่ต้องมาอึดอัดหรือกังวลว่าเราทำดีพอไหมนะ เราหวังว่าคำแนะนำนี้จะทำให้ เจ้าของกระทู้แก้ปัญหาไปได้นะ สู้ๆ
หนูก็เคยค่ะมันอึดอัดจนต้องออกจากกลุ่ม(ตอนม.1) ตอนนี้มีเพื่อนที่เข้ากันได้และมีความสุขดีน่าจะเพราะเรารู้จักกันตั้งแต่รร.เก่าด้วยล่ะมั้งคะ แต่อีกอย่างที่เราไม่ค่อยทะเลาะกันเพราะมีอะไรก็พูดกันตรงๆ ยอมรับข้อดีข้อเสียของเพื่อนให้ได้และเอาใจเขามาใส่ใจเรา แต่บางทีความชอบและลักษณะนิสัยก็ส่งผลต่อการคบเพื่อนเหมือนกันนะคะ มีเพื่อนดีชีวิตก็ดีค่ะยังไงก็ลองดูสังเกตหลายๆคนเข้าไว้ถ้าออกจากจุดนั้นไปได้ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก
เป็นที่mind setค่ะ เราต้องปรับเปลี่ยนมุมมองหลายๆอย่างของเราโดยที่เราต้องเข้าใจว่าไม่มีใครทำให้เราสบายได้ 100% ตลอดเวลา สังคมมหาลัยค่อนข้างหลากหลาย น้องลองไปตามเพื่อนกลุ่มอื่นบ้างก็ได้ค่ะ อยู่กับคนในกลุ่มบ้างให้ไม่ห่างหายจนเกินไป ไปกับคนอื่นบ้าง คบเพื่อนให้หลากหลายและไปอยู่ตรงที่น้องสบายใจ อย่างน้อยเพื่อนน้องคอยsupportน้องก็โอเคแล้ว หากอึดอัดเพราะเพื่อนมีอะไรไม่ค่อยพูดกันแนะนำว่าเป็นคนเปิดไปเลยค่ะ เราเริ่มเอง อย่าเก็บจนระเบิดทีเดียวเพื่อนกันมีอะไรต้องคุยกันค่ะ แต่คำพูดต้องไม่ทำร้ายกัน เพื่อนกันต้องเตือนต้องบอกกันจะได้คบกันได้ยาวๆ แต่เราต้องยอมรับค่ะว่าไม่มีใครชอบถูกตำหนิแต่สักพักเพื่อนจะเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจสักทีน้องไปอยู่กับคนอื่นดีกว่าค่ะ นิสัยทัศนะคติอาจจะไม่ตรงกัน หวังว่าคอมเม้นจะมีประโยชน์บ้างนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
พี่ก็เป็นนะ การจะหาเพื่อนที่ดีและเข้ากับเรา เข้าใจกันและกัน ดูเป็นเรื่องที่ยากมากเลย ชีวิตมหาลัยกับมอปลาย สังคมแตกต่างกันแล้วแต่ที่ด้วยแหล่ะ มุมมองความคิด นิสัย ฐานะและวุฒิภาวะก็ต่างกัน ปี1 พี่ก็มีเพื่อนคนนึงคุยกันสนุกสนาน ไปไหนก็ไปด้วยกันแต่ด้วยความที่มีเรื่องเข้าใจกันผิด ทำให้ความสนิทใจมีน้อยลงเยอะมาก และห่างๆกันไปแต่ก็คุยได้ในเรื่องงานและบางโอกาสที่ต้องเจอหน้ากัน ก็รู้สึกอึดอัดนะ เป็นเพราะพี่ไม่อยากทำให้เพื่อนคนนั้นต้องมาหงุดหงิดหรือรำคาญใจ พี่จึงเลือกที่จะเดินตามเส้นทางของตนเองและพึ่งตนเองให้มากที่สุด ไม่ใช่ว่าไม่หาเพื่อนนะ ก็มีคุยกับคนอื่นบ้าง ยิ้มแบบเป็นมิตร พูดคุยทักทายปกติ พี่เลยผ่านจุดนั้นมาตลอด เพื่อนดีมันก็ดีแต่ต้องดูให้เป็นว่าดีจริงไหม เพื่อนดีบางครั้งก็ไม่ใช่เพื่อนสนิท ถึงเป็นเพื่อนสนิทแต่ก็ไม่สนิทใจก็มี ก็อาจจะลำบากหน่อยๆ มันไม่ใช่ความผิดน้องหรอก พี่รู้ว่าน้องเหนื่อยกับการหาเพื่อน แต่พอเรียนจบไปเพื่อนที่ดีและสนิทกันจะมีอยู่แค่ไม่กี่คน บางคนอาจจะยังเป็นแก๊งค์ เป็นคู่ ก็มี น้องลองปรับตัว คิดบวกมากขึ้น พึ่งตนเอง ใช้เวลาว่างๆในการพักผ่อนหาความสุขที่เป็นประโยชน์ มันอาจจะกระจายพลังบวกให้คนเข้าหาน้องก็ได้นะ สิ่งไหนเครียด สิ่งไหนที่รู้สึกแย่ ลองปล่อยวางและอยู่กับตนเองให้มากขึ้นจะสบายใจกว่า เพื่อนสนิทที่ดีและเข้าใจกันจะไม่ทิ้งน้อง มีอะไรพูดกันตรงๆ ให้กำลังใจกัน ไม่เหยียบย่ำความรู้สึกแน่นอน เรื่องการเรียนบางครั้งก็ต้องขวนขวายจากอินเทอร์เน็ต หนังสือจากรุ่นพี่หรือเพื่อนๆบ้าง แต่ขอเพื่อนบ่อยไปก็ไม่ได้เพราะเกรงใจ พี่เลยทบทวนหนังสือ เรียนด้วยตนเอง ทำอะไรด้วยตนเองตลอด ปรับปรุงบุคลิกไปด้วย บางทีก็ต้องเอาตัวรอดให้เป็นในสังคมแบบนี้
ยังไงก็สู้ๆนะคะ อย่าท้อ อย่าเครียดเกินไป หาความสุขให้ตนเองจะทำให้ชีวิตดูสดใส และเพื่อนๆจะเห็นว่าน้องดูเป็นมิตร น่าชวนคุยแน่นอน พัฒนาตนเองและพยายามไปด้วยกันนะคะ ^^
น่าจะเป็นกันเกือบทุกคนลูกสาวผมก็เป็น พลอตเรื่องเดียวกันเลย เด็ํกต่างจังหวัดก็มักจะเป็นเช่นนี้ คิดเสียว่าความรู้สึกนี้ยังมีอีกหลายคนที่เหมือนเราเปิดใจและปรับตัวให้เข้ากับสังคมให้ได้ เอาเรื่องเรียนเป็นหลักก่อน คิดเสียว่าพ่อแม่ท่านทำหน้าที่ของท่านแล้ว เราก็ควรทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
เราเข้าใจเจ้าของกระทู้น้า กอดๆให้กำลังใจ
เราเคยเจอแบบนี้เพราะต้องเจอกันตลอดเวลาตอนที่อยู่คณะ อึดอัดมาก บางทีเป็นอะไรก็ไม่พูด แอบรู้สึกว่าเค้าเบื่อเรารึป่าวที่เจอหน้ากันบ่อยๆอะไรแบบนี้ ลองค่อยๆออกห่างดูมั้ย เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น เราเคยเป็นแบบนี้คือแคร์คนอื่นมากไปแต่เค้าไม่ได้แคร์เรา แล้วก็เครียดเอง อย่าไปโฟกัสเรื่องเพื่อนมาก ให้โฟกัสเรื่องเรียน แล้วก็บอกกับตัวเองว่าเดี๋ยวก็จบแล้ว ปล.เราค่อยๆออกห่าง ก็ความสัมพันธ์ดีขึ้นนะ แต่ตอนนี้อยู่คนเดียว เหงาเป็นบางที แต่สบายใจมากกก สู้ๆน้าคิดซะว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?