ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะคะ ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะคะ เราพอเข้าใจแล้วล่ะ ;-; สรุปคือการสื่อสารให้รู้เรื่องนั่นเอง ลยาลี 17 ก.ค. 62 เวลา 07:03 น. 3 like 1,448 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
FreudMr 17 ก.ค. 62 เวลา 07:46 น. 1 เป็นกำลังใจให้นะครับ ^^ 2 1 ถูกใจ 2 ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Milaika_Highwind 17 ก.ค. 62 เวลา 09:13 น. 2 คหสต. 1.กรณีไม่ได้เซ็นสัญญา ต้องถามว่าตอนแจ้งกับทางสำนักพิมพ์เรื่องตอนจบของนิยายไม่ทราบทางนักเขียนแจ้งสำนักพิมพ์ทางไหนคะ? เป็นทางโทรศัพท์หรือทางอีเมล์? ถ้านักเขียนแจ้งผ่านอีเมล์แนะนำให้คุณนักเขียนไปค้นหาอีเมล์ฉบับนั้นมาปริ๊นและเก็บไว้เป็นหลักฐานค่ะ ถ้าแจ้งทางโทรศัพท์นั้นค่อนข้างจะยากสักหน่อย แต่ก็ไม่ต้องตกใจค่ะถ้าคุณนักเขียนยื่นยันว่าไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรไว้กับทางสำนักพิมพ์ เพราะถ้าเป็นคดีความขึ้นมา สิ่งแรกที่ตำรวจถามหาน่าจะเป็นสัญญาแล้วพิจารณาตามนั้น หากไม่มีคงต้องหาหลักฐานอื่นๆมายืนยันว่าเราได้แจ้งเค้าไปแล้วนะ! ประมาณนี้2.กรณีเซ็นสัญญา กรณีนี้หากสำนักพิมพ์ไม่ได้เล่นแง่อะไร คุณนักเขียนน่าจะมีคู่สัญญาอยู่ในมือแล้วนะคะ (ตัวก๊อปปี้สัญญานี้ปกติจะต้องมีเก็บไว้ทั้งสองฝ่าย) คุณนักเขียนลองกลับไปอ่านคู่สัญญานั้นดูค่ะว่ามีรายละเอียดอะไรบาง (ส่วนนี้อยู่ที่ความระเอียดรอบครอบของคุณนักเขียนเอง) กรณีนี้ถึงแม้ว่าคุณนักเขียนจะมีหลักฐานว่าได้แจ้งสำนักพิมพ์แล้ว แต่กฏหมายก็ยึดตามสัญญาเป็นหลักนะคะ หากสัญญาระบุให้คุณนักเขียนต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ทางสำนักพิมพ์มันก็จะเป็นไปตามนั้นแหละ ปล.เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่าหากคิดจะทำธุรกิจที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ คุณควรติดต่อกันแบบมีลายลักษณ์อักษรเพื่อป้องกันตัวเองไว้ก่อน และควรพิจารณาเนื้อหาสิ่งอยู่ในสัญญาอย่างละเอียดรอบครอบก่อนเซ็นทุกครั้งปล.2 รอความเห็นของผู้มีความรู้ทางด้านกฏหมายมาตอบอีกทีก็ดีจ้า 2 1 ถูกใจ 2 ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ลยาลี 17 ก.ค. 62 เวลา 11:36 น. 2-1 เห็นด้วยค่ะ ควรตกลงกันเรียบร้อยให้เสร็จทั้งสองฝ่าย ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะคะ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
ณัฐณรา 17 ก.ค. 62 เวลา 11:31 น. 3 ลงรายละเอียดครบหรือยังคะ พอดีรู้จักกับทางสนพ.แห่งนึง มีกรณีนี้เหมือนกัน แต่ว่าตัวต้นฉบับที่ทางสนพ.ให้ปรับ เพราะไปเอาบทกลอนจากเพจอื่นมาใส่ในนิยาย อ้างความไม่รู้ ทั้งที่มันเป็นปัญหาใหญ่เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น ทางกองบ.กเลยต้องการให้ตัดออก และบางฉากในต้นฉบับนิยายเรื่องนั้น ก็คล้ายคลึงกับวรรณกรรมจีนที่เคยทำเป็นละครและออกเป็นเล่มกับสนพ.อื่นมาแล้ว งานชิ้นนั้นถ้าไม่เซ็นสัญญาก็เป็นสิทธิ์ของผู้เขียนค่ะ ไปเสิร์ชกูเกิ้ลดูข้อมูลเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาได้ แนะว่าลองเสิร์ชให้ละเอียดนะคะ ส่วนเรื่องที่ว่าขอให้เปลี่ยนตอนจบ ถ้านิยายเรา ไปเหมือนฉากหรือคล้ายคลึงจนคล้ายเป็นการเอาฉากนั้นของนิยายเรื่องอื่นมาลง แล้วทางสนพ.ทักท้วง ก็ควรเปลี่ยนค่ะ เพราะถ้าเจ้าของงานชิ้นที่เราไป 'ยำ' งานเขามาตามเอาผิด ทั้งนักเขียนและสนพ.จะมีความผิดทางกฏหมายทันที สนพ.ก็จะมาไล่เบี้ยเอาผิดกับนักเขียนอีกทอด ฟ้องร้องค่าเสียหาย เสียเยอะกว่าค่าบ.กที่กล่าวมาข้างต้นค่ะ ถ้าแค่จบแบบแบดเอน ธรรมดา ก็ตามเรื่องตามราวเลยค่ะ ไม่อยากเปลี่ยนก็ตามใจ แต่ถ้าจบแบบแบดเอน แล้วดันไปเขียนด้วยฉากแบดเอนของนิยายจีนแปลเรื่องดัง ก็เปลี่ยนเถอะค่ะ 2 1 ถูกใจ 2 ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ลยาลี 17 ก.ค. 62 เวลา 11:35 น. 3-1 เข้าใจในเรื่องของการผิดลิขสิทธิ์ค่ะ ไม่ว่านักเขียนท่านไหนที่ทำแบบที่ท่านได้กล่าวมาเบื้องบน ย่อมสมควรแก้ไขงานทั้งนั้น อันนี้เห็นด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
ข่าวดี! #dek67 ทดลองจัด 10 อันดับ Admission พร้อมพรินต์ PDF ได้แล้ว (ใช้ปรึกษาคะแนนใน Dek-D's TCAS Fair ได้) TCAS/รับตรง/แอดมิชชั่น
3 ความคิดเห็น
เป็นกำลังใจให้นะครับ ^^
ขอบคุณค่ะ
คหสต.
1.กรณีไม่ได้เซ็นสัญญา ต้องถามว่าตอนแจ้งกับทางสำนักพิมพ์เรื่องตอนจบของนิยายไม่ทราบทางนักเขียนแจ้งสำนักพิมพ์ทางไหนคะ? เป็นทางโทรศัพท์หรือทางอีเมล์? ถ้านักเขียนแจ้งผ่านอีเมล์แนะนำให้คุณนักเขียนไปค้นหาอีเมล์ฉบับนั้นมาปริ๊นและเก็บไว้เป็นหลักฐานค่ะ ถ้าแจ้งทางโทรศัพท์นั้นค่อนข้างจะยากสักหน่อย แต่ก็ไม่ต้องตกใจค่ะถ้าคุณนักเขียนยื่นยันว่าไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรไว้กับทางสำนักพิมพ์ เพราะถ้าเป็นคดีความขึ้นมา สิ่งแรกที่ตำรวจถามหาน่าจะเป็นสัญญาแล้วพิจารณาตามนั้น หากไม่มีคงต้องหาหลักฐานอื่นๆมายืนยันว่าเราได้แจ้งเค้าไปแล้วนะ! ประมาณนี้
2.กรณีเซ็นสัญญา กรณีนี้หากสำนักพิมพ์ไม่ได้เล่นแง่อะไร คุณนักเขียนน่าจะมีคู่สัญญาอยู่ในมือแล้วนะคะ (ตัวก๊อปปี้สัญญานี้ปกติจะต้องมีเก็บไว้ทั้งสองฝ่าย) คุณนักเขียนลองกลับไปอ่านคู่สัญญานั้นดูค่ะว่ามีรายละเอียดอะไรบาง (ส่วนนี้อยู่ที่ความระเอียดรอบครอบของคุณนักเขียนเอง) กรณีนี้ถึงแม้ว่าคุณนักเขียนจะมีหลักฐานว่าได้แจ้งสำนักพิมพ์แล้ว แต่กฏหมายก็ยึดตามสัญญาเป็นหลักนะคะ หากสัญญาระบุให้คุณนักเขียนต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ทางสำนักพิมพ์มันก็จะเป็นไปตามนั้นแหละ
ปล.เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่าหากคิดจะทำธุรกิจที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ คุณควรติดต่อกันแบบมีลายลักษณ์อักษรเพื่อป้องกันตัวเองไว้ก่อน และควรพิจารณาเนื้อหาสิ่งอยู่ในสัญญาอย่างละเอียดรอบครอบก่อนเซ็นทุกครั้ง
ปล.2 รอความเห็นของผู้มีความรู้ทางด้านกฏหมายมาตอบอีกทีก็ดีจ้า
เห็นด้วยค่ะ ควรตกลงกันเรียบร้อยให้เสร็จทั้งสองฝ่าย ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะคะ
ลงรายละเอียดครบหรือยังคะ พอดีรู้จักกับทางสนพ.แห่งนึง มีกรณีนี้เหมือนกัน แต่ว่าตัวต้นฉบับที่ทางสนพ.ให้ปรับ เพราะไปเอาบทกลอนจากเพจอื่นมาใส่ในนิยาย อ้างความไม่รู้ ทั้งที่มันเป็นปัญหาใหญ่เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น ทางกองบ.กเลยต้องการให้ตัดออก และบางฉากในต้นฉบับนิยายเรื่องนั้น ก็คล้ายคลึงกับวรรณกรรมจีนที่เคยทำเป็นละครและออกเป็นเล่มกับสนพ.อื่นมาแล้ว
งานชิ้นนั้นถ้าไม่เซ็นสัญญาก็เป็นสิทธิ์ของผู้เขียนค่ะ ไปเสิร์ชกูเกิ้ลดูข้อมูลเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาได้ แนะว่าลองเสิร์ชให้ละเอียดนะคะ
ส่วนเรื่องที่ว่าขอให้เปลี่ยนตอนจบ ถ้านิยายเรา ไปเหมือนฉากหรือคล้ายคลึงจนคล้ายเป็นการเอาฉากนั้นของนิยายเรื่องอื่นมาลง แล้วทางสนพ.ทักท้วง ก็ควรเปลี่ยนค่ะ เพราะถ้าเจ้าของงานชิ้นที่เราไป 'ยำ' งานเขามาตามเอาผิด ทั้งนักเขียนและสนพ.จะมีความผิดทางกฏหมายทันที
สนพ.ก็จะมาไล่เบี้ยเอาผิดกับนักเขียนอีกทอด ฟ้องร้องค่าเสียหาย เสียเยอะกว่าค่าบ.กที่กล่าวมาข้างต้นค่ะ
ถ้าแค่จบแบบแบดเอน ธรรมดา ก็ตามเรื่องตามราวเลยค่ะ ไม่อยากเปลี่ยนก็ตามใจ แต่ถ้าจบแบบแบดเอน แล้วดันไปเขียนด้วยฉากแบดเอนของนิยายจีนแปลเรื่องดัง ก็เปลี่ยนเถอะค่ะ
เข้าใจในเรื่องของการผิดลิขสิทธิ์ค่ะ ไม่ว่านักเขียนท่านไหนที่ทำแบบที่ท่านได้กล่าวมาเบื้องบน ย่อมสมควรแก้ไขงานทั้งนั้น อันนี้เห็นด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?