Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อ่านหนังสือเตรียมสอบกสพท.ในเวลา8เดือน [ฉบับคนไม่เก่งแต่ขยัน+อ่านเองเกือบหมด]

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่า เราเป็นเด็กคนนึงที่ผ่านการสอบกสพท.มาแล้ว ก็เลยอยากจะมาแชร์ทริคเล็กๆที่เราใช้ในการอ่านหนังสือเตรียมสอบนะคะ บอกก่อนเลยว่าเราไม่ใช่คนเก่งอะไรและเรียนแผนการเรียนภาษาอังกฤษมาตลอด คือเราเรียนพวกวิทย์-คณิตเป็นภาษาอังกฤษค่ะ เพราะฉะนั้นเนื้อหาม.ปลายเราจะไม่แน่นเหมือนเด็กคนอื่นๆแน่นอน เอาล่ะเกริ่นมาพอสมควรแล้วก็ไปเข้าเนื้อหากระทู้กันเลยดีกว่าาาา

จุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัดสินใจสอบกสพท

เริ่มก่อนเลยคือเราไปแลกเปลี่ยนมาช่วงตอนม.5 และกลับมาไทยช่วงม.6 ตอนนั้นเรากังวลมากเพราะเวลาเรียน เวลาอ่านหนังสือเราหายไป1ปีเต็มๆ อีกอย่างคือเราแทบไม่รู้เนื้อหาอะไรของตอนม.ปลายเลย ตอนนั้นเรารู้แค่ว่าเราอยากเรียนสายแพทย์ค่ะ เราเลยเริ่มหาข้อมูลว่ามีเส้นทางไหนที่ใช้สอบเข้าสายนี้ได้บ้าง สอบอะไรบ้าง สอบเมื่อไหร่ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเราเรียนแบบภาษาอังกฤษมาแต่ทำไมไม่ลองสอบรอบแรกที่ใช้คะแนน bmat, ielts ณ ตอนนั้นที่เราตัดสินใจคือเราเลือกที่จะสอบรอบ3รอบเดียวเลย ซึ่งจะใช้วิชาสามัญและความถนัดแพทย์ เหตุผลเพราะเรารู้สึกว่าถ้าเราจะสอบรอบแรกด้วย เราเตรียมตัวไม่ทันเพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน ถึงมันจะเป็นสิ่งที่เราถนัดกว่าก็เถอะ แต่ถ้าสอบไม่ได้ขึ้นมามันเท่ากับว่าเราเสียเวลาอ่านของรอบ3ไปด้วยซึ่งเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรอยู่แล้ว5555 เราเลยเลือกที่จะเริ่มต้นใหม่กับการอ่านกสพท.ไปทีเดียวและทำให้มันได้ไปเลยค่ะ อีกอย่างคือเราไม่สอบ gat/pat ด้วยนะคะ แอบเสี่ยงแต่เราก็ทำไปแล้วค่ะ5555 เราใช้เหตุผลที่ว่าถ้าสอบหลายอย่างเท่ากับมีโอกาสอย่างละ 50% แต่ถ้าตั้งใจเต็มที่กับรอบกสพท.ไปเลย อาจจะมีโอกาสขึ้นมาเป็น 80% ก็ได้


อ่านหนังสือเองยังไง?

พอเรามีจุดมุ่งหมายแล้วว่าจะอ่านวิชาสามัญและความถนัดแพทย์ ซึ่งตอนนั้นเรามีเวลาเหลืออยู่8เดือน เราก็เริ่มเขียนแพลนอ่านหนังสือของตัวเอง เราเริ่มต้นใหม่จาก0 และอ่านเนื้อหาทั้งหมดด้วยตัวเองค่ะ สิ่งที่เราทำคือดูหลักสูตรก่อนว่าแต่ละวิชาออกข้อสอบบทไหนบ้าง และไปซื้อหนังสือติวเตรียมสอบมาแล้วอ่านเป็นบทๆไปตามนั้นเลยค่ะ เหตุผลที่เราไม่เลือกเรียนพิเศษเพราะว่าสำหรับเราการเรียนพิเศษเพื่อเก็บเนื้อหาทุกวิชาของม.ปลาย มันต้องกินเวลานานมากๆ ไหนจะต้องหาเวลามาทำข้อสอบเก่าอีก และค่าใช้จ่ายคงเยอะมากๆ เราเลยเลือกที่จะอ่านเองซะเลย5555 วิธีที่เราใช้ก็อ่านเนื้อหาในหนังสือติว ตรงไหนไม่เข้าใจเราก็หาคลิปติวในยูทูปเอาแล้วมาจดเพิ่มเป็นโน๊ตของตัวเองอีกทีค่ะ ในหนังสือติวสอบมันก็จะมีโจทย์ยิบย่อยเพื่อเสริมความเข้าใจอยู่แล้ว ตรงนั้นก็ช่วยให้เราเข้าใจเนื้อหาได้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดกับการเก็บเนื้อหาทุกวิชาให้พอเข้าใจคร่าวๆ เราใช้เวลาประมาณ1-2เดือน นี่คือแบบคร่าวๆจริงๆนะคะ เพราะเรายังคงต้องอ่านซ้ำหลายๆรอบและเจอโจทย์บ่อยๆ ถึงจะจำได้แล้วเข้าใจจริงๆ


ทริคแต่ละวิชาในแบบฉบับเราเอง

คณิต

วิธีอ่าน: อ่านเอง+เรียนพิเศษคอร์สตะลุยโจทย์วิชาสามัญ (พี่อุ๋ย ติวเตอร์)

วิชานี้อ่านเนื้อหาในหนังสืออย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องฝึกทำโจทย์บ่อยๆด้วย เราขอเริ่มด้วยการเล่าสิ่งที่เราพลาดกับวิชานี้ก่อนนะคะ ตอนแรกเรากลัวอ่านไม่ทันมากจนทำให้เราเร่งอ่านเกินไป สิ่งที่เราทำคือหลังจากที่เก็บเนื้อหาครบทุกบทแล้ว เราก็ไปเรียนคอร์สตะลุยโจทย์แบบไม่ลองทำข้อสอบด้วยตัวเองก่อนเลยค่ะ คือมาถึงเราเรียนตามที่ติวเตอร์เฉลยและจดตามเลย จากนั้นค่อยมาอ่านทวนทำความเข้าใจและลองทำเองอีกรอบแทน พอมาถึงวันสอบpre-testที่เราสมัครไว้ ผลคือเราแทบจะทำไม่ได้เลยสักข้อค่ะ คะแนนออกมาก็ตามคาดคือไม่ถึง30ซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์ ตอนนั้นเราเครียดมากเลยว่าจะทำยังไงดี เวลาก็เหลือน้อยลงไปทุกที เราเลยตัดสินใจซื้อหนังสือติวเล่มใหม่มาเพื่อเริ่มต้นทำโจทย์จากเบสิคจริงๆก่อน แล้วค่อยกลับไปดูข้อสอบเก่าอีกครั้งนึง แต่ข้อสอบเก่าเราก็ทำมันเสียไปแล้วจากการดูเฉลยก่อน เราเลยพยายามหาข้อสอบชุดใหม่ที่เป็นแนววิชาสามัญมาทำด้วย ครั้งนี้เราลองทำเองก่อนดูเฉลยแน่นอนค่ะ ผลคือเราทำได้มากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ทั้งหมดที่พิมมาก็อยากจะเตือนว่าอย่าพลาดแบบเราเนอะ เพราะการกลับมาแก้อะไรที่พลาดไปแล้วมันยากกว่าการทำดีไปเลยตั้งแต่แรกเยอะค่ะ อยากจะฝากทริคอีกอย่างที่เราใช้คือเราจะเอาข้อสอบเก่าทุกปีมานั่งกางและเทียบกัน เพราะว่ามันจะมีประเด็นที่ข้อสอบชอบออกซ้ำๆอยู่ค่ะ พยายามจับจุดให้ได้และทำความเข้าใจตรงนั้นให้ดี เพื่อที่ว่าพอไปเจอโจทย์แนวเดิมอีกจะได้ไม่พลาด


ฟิสิกส์

วิธีอ่าน: อ่านเอง+ดูยูทูป

ฟิสิกส์นี่เราใช้วิธีอ่านคล้ายๆคณิตเลยค่ะ แต่ต่างตรงที่เราจะดูคลิปติวจากยูทูปเสริมด้วยเป็นส่วนใหญ่ เราดูแชนแนลของฟิสิกส์โกเอก อาจารย์เขาลงคลิปติวเฉลยข้อสอบครบทุกปีเลย แล้วยังมีคลิปติวอื่นๆด้วยค่ะ นอกนั้นเราก็อ่านเนื้อหาทวนและฝึกทำโจทย์เองด้วย วิชานี้เราแอบพลาดแบบคณิตเหมือนกัน5555 แต่ก็กู้กลับมาได้ด้วยวิธีแบบเดียวกันนะ นอกจากวิธีที่เราใช้จับจุดที่ข้อสอบชอบออกซ้ำบ่อยๆแล้ว เรายังต้องอ่านและทำโจทย์แบบเข้าใจจริงๆด้วยนะคะว่าทำไมข้อนี้ถึงคิดแบบนี้ หรือใช้หลักการนี้ ถ้ารู้ตัวว่าไม่เข้าใจจริงๆต้องรีบแก้ให้เร็วที่สุดก่อนที่จะสายเกินไปนะ


เคมี

วิธีอ่าน: อ่านเอง+เรียนพิเศษคอร์สตะลุยโจทย์วิชาสามัญ (อาจารย์ไมธ์ ยูเรก้า)

เคมีก็เป็นอีกวิชาที่เราเรียนพิเศษนะ เหตุผลเพราะว่าพวกวิชาหมวดวิทย์ที่มีคำนวณเนี่ย สำหรับเราแล้วอาศัยทำโจทย์เอง อ่านเองหมดคงไม่รอดแน่ๆ เราเลยลงคอร์สตะลุยโจทย์ไปเพื่อที่จะเจอข้อสอบจริงแล้วทำความเข้าใจจากข้อสอบโดยตรงเลย วิชานี้คำนวณไม่หนักเท่าฟิสิกส์กับคณิตเพราะมีส่วนท่องจำเข้ามาช่วยด้วยพอสมควร ซึ่งเราถนัดด้านนี้มากกว่า เลยทำให้การอ่านเป็นไปง่ายกว่าสำหรับเรา เราก็ไม่ได้มีทริคไรมากขอแค่อ่านเนื้อหาแบบเข้าใจจริงๆ เพราะมันจะช่วยให้การทำโจทย์ง่ายขึ้นเยอะมากค่ะ ไม่ใช่สักแต่ว่าจำแต่ดันไม่เข้าใจอะไรเลย นอกจากมันจะทำให้งงแล้ว บางครั้งลืมง่ายด้วยนะ5555


ชีวะ

วิธีอ่าน: อ่านเอง+ดูยูทูป

ชีวะเป็นวิชาที่เนื้อหาเยอะมากๆ เป็นพาร์ทจำซะส่วนใหญ่เราเลยชอบค่ะ5555 เราก็ใช้วิธีอ่านเองตามเนื้อหาในหนังสือเลย แต่หลังๆเราเริ่มรู้สึกว่าจำไม่ค่อยได้และลืมบ่อยถึงจะอ่านซ้ำหลายรอบแล้วก็ตาม เราเลยตัดสินใจทำสรุปทุกบทเองค่ะ มันทำให้ได้ทวนเนื้อหาและช่วยให้เข้าใจมากขึ้น แล้วยังทำให้เห็นภาพรวมของเนื้อหาทุกบทด้วยค่ะ ส่วนเรื่องการทำข้อสอบเก่า เราก็ทำเองละหาเฉลยจากในเน็ตเลย นอกนั้นก็ดูแชนแนลของชีวะพี่พี Bio Cover พี่เขาเฉลยให้ละเอียดมากๆค่ะ ถือว่าแชนแนลนี่ช่วยทำให้เราเข้าใจเนื้อหามากขึ้นและช่วยในการทำข้อสอบได้เป็นอย่างดีเลย


สังคม

วิธีอ่าน: อ่านเอง+ดูยูทูป

ตอนแรกเรากลัววิชานี้มากและไม่ชอบเอาซะเลย เราไม่อยากเสียเวลากับวิชานี้มากเกินไปด้วยความที่เปอร์เซ็นต์ถ่วงมันน้อยแล้วเนื้อหายังออกกว้างมากอีก เราเลือกที่จะหาหนังสือติวเล่มเล็กๆบางๆ เนื้อหาข้างในพิมพ์น่ารักอ่านง่าย แทนที่จะซื้อหนังสือเล่มหนาๆแบบชีวะค่ะ ไม่งั้นเราได้อ่านไส้แตกแน่5555 เราก็อ่านทั้งเล่มให้เข้าใจคร่าวๆก่อนว่ามีเนื้อหาประมาณไหนบ้าง จากนั้นก็หาคลิปติวเพิ่มเติมจากยูทูปอีกเช่นเคย (ส่วนใหญ่จะดูแชนแนลของพี่บอลนะคะ) เพราะในหนังสือเนื้อหามันก็ไม่ได้ละเอียดมาก เราก็อาศัยวิธีนี้แหละจดเพิ่มเติมจากที่ติวในยูทูปแล้วอ่านเนื้อหาในหนังสือซ้ำไปหลายๆรอบ สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีและชอบวิชาสังคมมากขึ้นคือการที่เราเข้าใจเนื้อหามากขึ้นค่ะ ด้วยความที่เนื้อหามันเยอะและกว้างมาก เวลาอ่านเราจะพยายามเรียบเรียงเนื้อหาให้เป็นระบบที่สุด โดยเฉพาะพาร์ทประวัติศาสตร์ เราจะพยายามเรียบเรียงเวลาเหตุการณ์ต่างๆให้ได้ บางเหตุการณ์หรือบุคคลมันก็เชื่อมโยงกันด้วย ก็ต้องพยายามอ่านให้เข้าใจแบบรู้ที่มาที่ไปแล้วมันจะช่วยร่นเนื้อหาที่ต้องจำในสมองค่ะ


ไทย

วิธีอ่าน: อ่านเอง

วิชานี้เราไม่มีทริคไรมากเนาะ ส่วนใหญ่ข้อสอบจะเป็นอ่านจับใจความ เราก็อาศัยทำข้อสอบเก่าเยอะๆ ฝึกพาร์ทจับใจความและจับจุดให้ได้ ส่วนพวกหลักภาษาเราก็หาหนังสือสรุปมาอ่านเอาเองค่ะ แต่บางบทมันค่อนข้างออกกว้างถึงอ่านไปก็มีแนวโน้มทำข้อสอบไม่ได้สูง เราก็เทบทนั้นเลยนะ5555 เราเลือกอ่านเฉพาะส่วนที่อ่านแล้วจะทำได้อย่างเดียวพอ แต่ใครเก่งจะเก็บหมดทุกบทก็ได้นะคะ5555


อังกฤษ

วิธีอ่าน: อ่านเอง

ภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เราถนัดมากที่สุด เราไม่ได้อ่านอะไรมากกับวิชานี้เลยอาจจะแนะนำไรไม่ได้เท่าไหร่นะคะ สำหรับเราแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการท่องศัพท์และการจัดการเวลาทำข้อสอบค่ะ การรู้คำศัพท์เยอะจะช่วยให้เราเข้าใจข้อสอบมากขึ้น อย่างน้อยการทำข้อสอบเราต้องอ่านแล้วสามารถเข้าใจสิ่งที่ข้อสอบถาม หรือสิ่งที่ข้อสอบต้องการจะบอก นี่คือด่านแรกของการทำข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษเลย แล้วพาร์ทreadingก็เยอะพอสมควรด้วย แต่ถึงอย่างนั้นแต่ละคนก็จะมีพาร์ทที่ถนัดแตกต่างกันออกไปเนอะ ทั้งreading, conversation, grammar, เรียงประโยค พยายามหาพาร์ทที่ตัวเองถนัด/ใช้เวลาทำไม่นานมากและทำพาร์ทนั้นก่อน สิ่งที่เราต้องการจะสื่อคือเรื่องของการจัดการเวลาในการทำข้อสอบค่ะ ด้วยความที่จำนวนข้อมันเยอะมากถ้าเทียบกับเวลาที่ให้ เราเลยใช้วิธีการกำหนดเวลาของตัวเองในแต่ละพาร์ทเลยว่าจะทำให้เสร็จภายในกี่นาที ถ้าไม่เสร็จตามเป้าก็จะข้ามไปทำพาร์ทอื่นก่อนแล้วค่อยมาเก็บตกพาร์ทที่ถนัดและมั่นใจที่สุดค่ะ เราทำแบบนี้เพราะจะได้เห็นข้อสอบทุกพาร์ทก่อนเพื่อให้รู้ว่าข้อไหนทำได้ ไม่ได้บ้าง จะได้มั่นใจว่าข้อที่เหลือเป็นข้อที่ทำไม่ได้จริงๆ อีกอย่างคือจะได้ไม่ทำไปเรื่อยแต่มารู้ตัวอีกทีคือทำไม่ทันแล้วค่ะ สุดท้ายคือพยายามอย่าลังเลในการตอบข้อใดข้อนึงนะคะ เพราะมันเท่ากับว่าเรามีโอกาส50/50อยู่แล้วที่จะถูกหรือผิด การลังเลไม่ได้ช่วยให้ถูกมากขึ้นเลยค่ะ อาจจะข้ามไปทำข้ออื่นก่อนหรือตัดใจตอบไปเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลาค่ะ


(ต่อที่คอมเม้นนะคะ)

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

b_aaii 19 ก.ค. 62 เวลา 17:43 น. 2

ความถนัดแพทย์

วิธีอ่าน: อ่านเอง

ข้อสอบความถนัดแพทย์เอาจริงๆคืออาศัยการทำโจทย์อย่างเดียวเลยค่ะ ก็จะสบายหัวหน่อยๆเพราะไม่วิชาการมาก แต่ก็อย่าประมาทไปนะเพราะให้เวลาทำน้อยกว่า9สามัญไปอีก พาร์ทเชาว์ปัญญาไม่มีอะไรจะแนะนำเลยจริงๆนอกจากฝึกและฝึกทำโจทย์ไปเท่านั้นค่ะ ฝึกให้ครบทุกแนวทั้งรูปภาพ คิดเลข อะไรก็แล้วแต่ ส่วนพาร์ทจริยธรรม ถ้าให้เราแนะนำคือลองทำข้อสอบให้พอรู้ว่ามันออกแบบไหนก็พอเพราะมันฝึกอะไรไม่ได้อยู่แล้วเนอะ เฉลยแต่ละที่ก็ไม่ค่อยจะเหมือนกันด้วย เวลาทำข้อสอบก็ปล่อยสบายๆ มันจะเป็นฟอร์มนี้ตลอดคือมีช้อยส์ที่ตัดได้แน่ๆและจะเหลือข้อให้ลังเลอยู่ประมาณ2ข้อ ไม่ต้องคิดไรมากค่ะ เอาที่คิดว่าใช่ละกาเลย ลังเลไปไม่มีประโยชน์เนาะ5555 เพราะเราพลาดมาแล้ว ความลังเลและคิดมากเนี่ยแหละที่ทำให้เราทำข้อสอบไม่ทันค่ะ สุดท้ายคือพาร์ทเชื่อมโยง เอาจริงๆเราพลาดเพราะเลือกหนังสือผิดค่ะ คือหนังสือเฉลยมั่วมากๆ (ที่กล้าพูดเพราะหลายคนก็คิดแบบแบบเรานะ5555) และนั่นทำให้เรายิ่งงงและทำไม่ได้เข้าไปอีก ดีที่เรามาเจอหนังสือเล่มนึงพอดี เป็นหนังสือของ The books เราว่าถ้าจะติวความถนัดแพทย์แนะนำซื้อหนังสือของเดอะบุคส์เลยค่ะ มันดีมากจริงๆโดยเฉพาะหนังสือเชื่อมโยงเราชอบมาก เราทำเชื่อมโยงได้เพราะเล่มนี้เลยค่ะ คอนเฟิร์ม!


แบ่งเวลา/วางแผนอ่านหนังสือยังไง?

เอาจริงๆเราอ่านหนังสือหนักมาก แบบกลับมาจากโรงเรียนก็เริ่มอ่านตามแพลนในแต่ละวันเลยค่ะ เราพยายามเคลียร์การบ้านให้เสร็จตั้งแต่ที่โรงเรียนเพื่อที่กลับมาจะได้มีเวลาอ่านอย่างเต็มที่ เราพยายามใช้เวลากับงาน การอ่านหนังสือ อะไรก็ตามของโรงเรียนให้น้อยที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าเทนะคะ5555 แค่อาจจะทุ่มเทน้อยลงบ้าง เพราะอย่างที่เราบอกไปว่าเราเรียนเป็นแบบภาษาอังกฤษ บางวิชาที่มันไม่ตรงกับที่เราใช้สอบก็อาจจะมีไม่ตั้งใจบ้างเล็กน้อยแล้วมาอ่านของติวสอบแทน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต้องบาลานซ์ให้ดี อย่าให้ส่วนใดส่วนนึงผลออกมาแย่เกินไปนะคะ เข้าเรื่องการอ่านหนังสือติวสอบ เราคิดว่าจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดคือการวางแผนค่ะ ควรวางแผนให้ดีว่าวันไหนจะอ่านอะไรบ้าง ให้จบเนื้อหาภายในเดือนไหน เริ่มทำโจทย์ภายในเดือนไหน และต้องเริ่มทำข้อสอบได้ภายในเดือนไหน เราวางแผนแบบรายเดือนก่อนแล้วแต่ละเดือนค่อยมาเจาะรายสัปดาห์อีกทีค่ะ บางครั้งอยากละเอียดหน่อยก็รายวันเลย ที่เราต้องตั้งเป้าหมายแบบนี้เพื่อที่เราจะได้ไม่อ่านไปเรื่อยแบบไม่มีจุดหมายค่ะ และยังทำให้เราเห็นภาพรวมของตัวเองด้วยว่าเหลือเนื้อหาอะไรบ้าง ทำตรงไหนได้ไม่ได้ยังไง ทั้งนี้ทั้งนั้นเราจะคอยปรับแพลนของตัวเองไปเรื่อยๆให้เหมาะสมกับช่วงเวลานั้นๆนะคะ เพราะบางครั้งอาจจะอ่านช้าบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง หรืออ่านไม่ทันบ้าง ก็ต้องรู้ทันตัวเองและคอยวางแผนอยู่เสมอๆนะ เรื่องการแบ่งเวลาอ่านหนังสือ เราเป็นคนที่อ่านหนังสือติดต่อกันได้นานหลายชม.ค่ะ เพราะฉะนั้นเราจะอ่านไปเรื่อยๆเลย ขอแค่อยู่ในแพลนพอว่าต้องจบบทไหน หรือทำโจทย์ให้ได้กี่ข้อในวันนั้นๆ แล้วก็จะพักเวลาที่รู้สึกเหนื่อยหรืออ่านต่อไม่ไหวค่ะ แต่บางคนอาจจะถนัดอ่านทีละ30นาทีหรือ1ชม และพักเป็นยกๆแทน ยังไงก็ลองหาจุดที่เหมาะสมกับตัวเองให้เจอนะ ทั้งนี้ต้องพยายามไม่ฝืนตัวเองในการอ่าน และไม่ปล่อยตัวมากเกินไปในการพักนะคะ ข้อนี้คือสำคัญมากๆ


ผลลัพธ์

เราได้คะแนนรวมกสพท.รวมประมาณ58กว่าๆและติดเภสัชค่ะ อาจจะไม่ใช้คะแนนที่เยอะมากแต่เราก็ทำเต็มที่และภูมิใจมากค่ะ เพราะเราเริ่มต้นอ่านเองจาก0จริงๆ และในเวลาเท่านี้แล้วเราทำได้เท่านี้ก็พอใจมากแล้วค่ะ ถึงมันจะเหนื่อยมากก็จริง แต่สุดท้ายแล้วคุ้มนะ ทุกคนที่เข้ามาอ่านเราเชื่อว่ามีต้นทุนที่ดีกว่าเราด้วยซ้ำค่ะ ยังไงตั้งใจเข้าไว้ต้องทำได้แน่นอนนะ


สิ่งสุดท้ายที่อยากฝาก

เราไม่ใช่คนเก่งอะไร แต่เราแค่ขยันจริงๆค่ะ เราเขียนกระทู้นี้มาเพื่อให้กำลังใจทุกคน อยากให้ทุกคนที่กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบ พยายามให้มากๆ ขยันให้มากๆ วางแผนอ่านหนังสือดีๆ วันไหนที่เราขี้เกียจเท่ากับเราหยุดอยู่กับที่ไปแล้วนะคะ เราคิดแบบนี้ตลอดเลยทำให้เรามีแรงผลักดันที่จะอ่านหนังสือในทุกๆวัน แต่ถ้าตอนไหนไม่ไหวจริงๆก็แนะนำให้พักและค่อยกลับมาเริ่มใหม่ มันจะได้ประโยชน์มากกว่าหักโหมอ่านนะ อีกสิ่งนึงที่อยากฝากคือคอยเช็คตัวเองอยู่เรื่อยๆว่าสิ่งที่เราอ่านมานั้น เราเข้าใจจริงๆมั้ย ไม่ใช่สักแต่อ่านไปเรื่อย เพราะถ้าตรงไหนไม่เข้าใจ ตรงไหนรู้สึกทำไม่ได้ ก็ต้องเริ่มวิเคราะห์ตัวเองแล้วว่าทำไมเราถึงไม่เข้าใจ พลาดเนื้อหาตรงไหนไปมั้ย แล้วให้ทำความเข้าใจทันทีเลยนะคะ ไม่งั้นมันจะยิ่งงงไปใหญ่และต้องมาตามแก้ทีหลังแบบเราซึ่งมันเสียเวลามากๆ นอกจากจะเข้าใจเนื้อหาและทำข้อสอบได้แล้วยังต้องทำข้อสอบให้ทันด้วยนะ อย่าประมาทในเรื่องของเวลาไปค่ะ จัดการเวลาให้ดีแต่ถ้าทำไม่ทันจริงๆก็ขอให้ข้อที่ทำไม่ทันเป็นข้อที่เราทำไม่ได้นะ อีกอย่างคืออย่าลืมสแกนข้อสอบคร่าวๆก่อนทำเพื่อเก็บคะแนนข้อที่ทำได้ชัวร์ๆก่อนด้วยนะคะ


สุดท้ายแล้วจริงๆ ทุกคนต่างมีวิธีการอ่านหนังสือที่แตกต่างกัน บางคนถนัดเรียนพิเศษ บางคนถนัดอ่านเอง เราต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองให้เจอแล้วทำตามแบบฉบับของตัวเราเองเนี่ยแหละ ขอแค่ขยันและทำอย่างสม่ำเสมอ หมั่นเช็คความเข้าใจ และวางแผนให้ดีๆ ทำให้เต็มที่ และความตั้งใจของเราจะทำให้เราประสบความสำเร็จเองค่ะ โชคดีน้าาา

2
plssfocustostudy 29 มิ.ย. 64 เวลา 09:50 น. 2-1

พี่คะ พี่เป็นแรงบรรดาลใจหนูมากๆเลย คือตอนนี้หนูก็เหลือเวลา 8เดือนแล้วแบบความรู้มอปลายไม่แน่นเหมือนกันค่ะ จะเป็นไรมั้ยถ้าหนูขอคอนแทคพี่เอาไว้

0
plssfocustostudy 29 มิ.ย. 64 เวลา 09:54 น. 2-2

หรือว่าหนูสามารถทิ้งช่องทางการติดต่อได้ไหมคะ;-; เผื่อพี่เห็น

0