Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทริปเที่ยวชลบุรี - พัทยา- สัตหีบ - ระยอง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
               
เช้าวันศุกร์ที่ 11  ตุลาคม 2562
ออกเดินทางเวลา 07.15
ไปหนองรี ชลบุรีรับอัง ระยะเวลาโดยประมาณ 4 ชั่วโมง 10นาที


 


 
จะถึงประมาณเที่ยง
มีร้านอาหารให้เลือก  3  ร้านดังนี้
1. Chonburi Mountain (ชลบุรี เม้าเทน) 


https://www.wongnai.com/restaurants/283565UC-chonburi-mountain






2.  กินลมชมเขา หนองรี ชลบุรี 









3.  ร้านอาหารป่า สิงห์ดง 






 
ออกเดินทางต่อ
จุดหมายปลายทาง สัตหีบ - หาดน้ำใสจะมีสองเส้นทางให้เลือก
1. เส้นมอเตอร์เวย์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 กว่านาทีโดยประมาณ
2. เส้นบ้านบึง ใช้เวลา  1ชั่วโมง 48 กว่านาทีโดยประมาณ


ระหว่างทางจะแจ้งเพิ่มหน้างานหรือดูตามความเหมาะสม
 สถานที่เที่ยวใกล้เคียง 



แผนที่







หาดเตยงาม










จุดชมวิว เขาแหลมปู่เจ้า












วัดสัตหีบ








 


อ่าวดงตาล กองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ









ศูนย์อนุรักษ์ พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ



ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 20180
โทรศัพท์ : 038-437 600 ต่อ 79335 หรือ 02-466 1180-9 ต่อ 79335 
เว็บไซต์ : http://www.turtles.navy.mi.th/
วันและเวลาทำการ
เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม     ไม่เสียค่าเข้าชม







 
เรือหลวงจักรีนฤเบศร สัตหีบ

การเข้าชม
เวลาทำการ : ทุกวันเวลา 9.00-17.00 น.
ช่วงเวลาเที่ยว : ตลอดทั้งปี
ค่าเข้าชม

  • คนไทย ไม่เสียค่าเข้าชม
  • ชาวต่างชาติไม่อนุญาตให้เยี่ยมชมเรือ

คำแนะนำในการเข้าชม

  • สามารถถ่ายรูปบนเรือได้ แต่ห้ามถ่ายวีดีโอ
  • เรือรบเป็นสถานที่ราชการ โปรดแต่งกายสุภาพและงดสูบบุหรี่
  • การเยี่ยมชมในเรือต้องเดินในเส้นทางที่กำหนดเท่านั้น ห้ามเดินออกนอกเส้นทาง
ที่ตั้ง – ติดต่อเรือหลวงจักรีนฤเบศร
ที่อยู่ : ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี










 หาดนางรำ&หาดนางรอง





























หาดนางรอง
เป็นหาดที่เชื่อมต่อกันกับหาดนางรำ








แผนที่
จากเรือหลวงจักรีนฤเบศรไปที่พักหาดน้ำใส


เย็นทำกินปิ้งย่าง
จะมีตลาดสดให้เลือกซื้อ3ที่
ที่สัตหีบ มีตลาดอาหารทะเลสด 3 แห่ง ที่คนสัตหีบมักจะไปซื้อมารับประทานเนื่องจากสดจริง ๆ
1. ตลาดอาหารทะเลสด ช่องแสมสาร สัตหีบ เป็น ตลาดจำหน่ายอาหารทะเลประเภทกุ้ง หมึก ปู ปลา อาหารทะเลที่ช่องแสมสารรับมาจากเรือประมงโดยตรง จึงรับประกันได้เลยว่าอาหารทะเลที่นี่สดจริง นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสัตหีบจึงเดินทางมาที่ช่องแสมสารเพื่อซื้ออาหารทะเลไป ปิ้ง ย่าง เอง หรือ แวะซื้อกลับบ้าน (ใกล้ที่พักที่สุด)



2. ตลาดอาหารทะเลสดข้างเทศบาลสัตหีบ จำหน่ายอาหารทะเลประเภทกุ้ง หมึก ปู ปลา สด โดยเฉพาะปูจากตลาดนี้จะสดมาก และสามารถให้ทางร้านนึ่งให้ได้ด้วย ด้วยความสดของปู ก่อนนึ่งแม่ค้าจึงต้องน็อคด้วยน้ำแข็งก่อนเพื่อให้ปูสลบ และเมื่อน้ำไปนึ่งจะได้เนื้อเต็ม ก้าม และขาครบ รับรองว่าถ้าไปดูกรรมวิธีการนึ่งปูแล้วจะรู้ว่าสดจริง ๆ ครับ  

3. ตลาดอาหารทะเลสด ตลาดเช้าบางเสร่ จะเป็นอาหารทะเลสดเช้าที่ได้มาจากเรือประมงตรงสะพานปลาบางเสร่  ( ไกลจากที่พักที่สุด )
แต่น่าจะแวะซื้อที่ตลาดแสมสาร
มีโซนที่ทำพื้นที่ใหม่ ร้านค้าดูเป็นระเบียบ สะอาดสะอ้านดีค่ะ
แต่ละร้านไม่ต่างกันมากทั้งขนาดและราคา มีบริการนึ่ง ลวก เผาฟรี รอแค่ 15นาทีก็ได้กินของอร่อยแล้วค่ะ
แต่น้ำจิ้มไม่ฟรีนะคะ ขายแยกถุงละ 10-20บาทว่ากันไป









 
ร้านอาหารแนะนำ





 
ฟาร์มปลาการ์ตูน เพอคูล่า สัตหีบ












 
เข้าที่พักบ้านรับรองหาดน้ำใส





ปิ้งย่างได้บริเวณบ้านไม่ให้ลงหน้าหาดค่ะ ถ้าจะเอาเตามาเองต้องเป็นเตาถ่านมีขาตั้งยกสูงเท่านั้นค่ะ ถ้าไม่มีมีให้เช่าค่ะ อาหารอย่างอื่นห้ามประกอบนะคะ
มีเตาให้เช่า 250 /350









 



เช้าวันที่ 12
 
ตื่นแต่งตัวไปจองตั๋ว 
* เกาะแสมสารไม่มีกำหนดปิดเกาะ
* บัตรคิวข้ามเกาะแสมสาร 1 บัตรคิว ต่อ 1 คน เท่านั้น
* เปิดรับบัตรคิวเวลา 06.00 น. และเรียกคิวซื้อบัตรเวลา 08.00 น.
* ปัจจุบันนโยบายของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยได้กำหนดผู้เยี่ยมชมเกาะแสมสารไม่เกิน 300 คน/วัน หากมีคณะนักเรียนนิสิต นักศึกษา มาศึกษาธรรมชาติ และจำนวนยอดจากบัตรคิวออนไลน์เกาะแสมสารจะนำมาหักยอดในจำนวน 300 คน










วัดช่องแสมสาร

ลอดโบสถ์วัดช่องแสมสาร






"พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต" หรือ "หลวงพ่อดำ" วัดช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นพระพุทธปฏิมากรศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง ซึ่งชาวประมงฝั่งตะวันออก เลื่อมใสศรัทธา ทุกครั้งที่ออกทะเลมักจะไปนมัสการและขอพร ชาวประมงทุกคนจะกลับมาโดยสวัสดิภาพ มีโชคได้สินทรัพย์จากทะเลเป็นกอบเป็นกำ
พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต หรือหลวงพ่อดำ ประดิษฐานในพระวิหารเขาเจดีย์ (ในพื้นที่ของวัดช่องแสมสาร แต่แยกห่างจากกันไปคนละทาง) เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสูง ๕ เมตร มีรูปใบหน้าอิ่มเอิบ ดวงตาทอดต่ำลงแผ่เมตตาให้กับผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้ 
 ตำนานหลวงพ่อดำ ระบุว่า เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๑ "หลวงพ่อดำรง คุณาสโภ" ได้เดินทางจาก จ.สุพรรณบุรี มาปักกลด ณ บริเวณพระเจดีย์เก่าบนเขาของวัดช่องแสมสาร หลวงพ่อดำรง ได้เล่าให้ญาติโยมที่ไปกราบนมัสการให้ฟังว่า ท่านจำพรรษาอยู่วัดเขาขึ้น อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี สาเหตุที่เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ เพราะได้ฝันว่า เทพยดาองค์หนึ่งบอกให้ไปสร้างพระพุทธรูปไว้ใกล้ๆ พระเจดีย์เก่าองค์หนึ่ง บนเขาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก 
 "ในภายภาคหน้า พระประธานองค์นี้จะกลายเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีประชาชนให้ความเคารพนับถือเดินทางมากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากบริเวณแห่งนี้มีความเหมาะสมที่จะบูรณะให้กลายเป็น แหล่งรักษาศีลและความสงบให้กับชาวพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก..."
 หลวงพ่อดำรง ได้ออกเดินทางจากวัดเขาขึ้น กว่าจะถึงวัดช่องแสมสารเป็นเวลาหลายวัน เพราะท่านเดินทางถึงหมู่บ้านติดทะเลที่ใดก็จะแวะดูเรื่อยไป จนถึงบ้านช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี คือ สถานที่ท่านปักกลดอยู่นี้ เป็นสถานที่มีภูมิทัศน์ตรงกับสภาพที่ท่านนิมิตฝัน ท่านจึงชักชวนญาติโยม ช่วยกันบริจาควัสดุในการสร้างพระพุทธปฏิมากร ซึ่งได้รับศรัทธาร่วมมือด้วยดี ในสมัยนั้นยังไม่มีทางรถยนต์ จึงจำเป็นต้องใช้แรงงานคนแบกขนวัสดุขึ้นไป การสร้างใช้เวลาสร้างประมาณ ๒ ปี จึงแล้วเสร็จและ ทารักสีดำ ตั้งเป็นสง่าอยู่กลางแจ้ง โดยไม่มีหลังคาคลุมแต่อย่างใด 
 ชาวบ้านชาวเรือและผู้พบเห็น จึงเรียกว่าหลวงพ่อดำกันจนติดปาก ทั้งๆ ที่ตอนสร้างเสร็จท่านได้ถวายนามว่า "พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต" ซึ่งตอนท้ายมีความหมายระบุว่า เป็นพระที่เกิดจากความฝันดี 
 หลังจากสร้างเสร็จประมาณ ๑ เดือน ได้จัดงานฉลองพระและประกอบพิธีเบิกพระเนตร ในครั้งนั้นได้มีการผูกหุ่นฟาง ๒ หุ่น เพื่อเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อดำ หลังจากเสร็จพิธีก็เผาหุ่นฟาง หลวงพ่อดำ ได้ตั้งตากแดดอยู่กลางแจ้งเป็นเวลาถึง ๑๐ ปีเศษ จนมีชาวประมงจากจังหวัดสมุทรปราการแล่นเรือผ่านมาเห็นหลวงพ่อดำตากแดด จึงบนขอพรว่าออกเรือเที่ยวนี้ขอให้ได้ ๒๐๐,๐๐๐ บาท จะมาทำหลังคาให้ ปรากฏว่าได้ดังคำขอ จึงเอาเงินมาฝากให้นายเจริญ ทิศาบดี ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยทำหลังคา แต่ไม่มีฝา เมื่อฝนตกก็สาดเปียก ต่อมาชาวประมงอีกรายผ่านมา ก็บนหลวงพ่อดำอีก ขอให้จับปลาได้เยอะๆ จะมากั้นฝาให้ ปรากฏว่าได้สมหวังก็เอาเงินมาฝากผู้ใหญ่ให้ช่วยทำต่อไป สภาพวิหารหลวงพ่อดำในขณะนั้น จึงเป็นเพียงมีหลังคาและฝาไม้สามด้าน มีชาวบ้านและชาวเรือต่างขึ้นไปนมัสการกราบไหว้ เป็นจำนวนมาก และมักประสบผลสำเร็จ 
 หลังจากสิบปีผ่านไป สภาพของวิหารชำรุดทรุดโทรมจนใช้งานไม่ได้ นายเสน่ห์ พิทักษ์กร สมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมมือกับพระครูวิสารทสุตากร เจ้าอาวาส พร้อมชาวบ้าน ร่วมกันสร้างเป็นวิหารจตุรมุข ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง และมีภาพปูนปั้นเรื่องราวพุทธประวัติ ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน ครั้นสร้างเสร็จ ได้ทำพิธีเปิดวิหารอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๒ ในแต่ละวันมีประชาชนเดินทางไปนมัสการขอบน และแก้บนสิ่งสมปรารถนาโดยมิได้ขาด เรื่องราวพุทธานุภาพปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อดำมีมาก จากคำบอกเล่าของผู้คนที่มาแก้บนแต่ละวัน จะเข้าสักการะแก้บนด้วยไข่ต้มและพวงมาลัยดอกไม้สด ตามความเชื่อว่าหลวงพ่อดำคุ้มครองรักษาให้ปลอดภัย และได้โชคลาภสิ่งที่สมปรารถนาไม่ขาดสาย จนหลวงพ่อดำที่ทารักสีดำ กลายเป็นหลวงพ่อดำสีทองเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งองค์ในปัจจุบัน 










ก๋วยเตี๋ยวปลาสารวัตรโจ

 
ร้านก๋วยเตี๋ยวปลาสารวัตรโจ ร้านจะอยู่ทางไปเกาะแสมสารค่ะ ทางร้านมีบริเวณที่จอดรถให้ลูกค้ามากมาย และมีเมนูให้เลือกทานกันอย่างหลากหลายอีกด้วย ร้านนี้เปิดให้บริการกันตั้งแต่เช้าค่ะ เวลามาเที่ยวสัตหีบ จะเป็นร้านที่เรามักจะมาฝากท้อง ในมื้อเช้าแทบจะทุกครั้ง เพราะย่านนี้หาร้านอร่อยๆ ทานตอนเช้าค่อนข้างยากจริงๆ เมนูแนะนำของทางร้าน ได้แก่ ข้าวต้มปลาอินทรีย์ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล ปลาอินทรีย์ลวกจิ้ม ทอดมันปลาอินทรีย์ อาหารตามสั่งต่างๆ และที่นี่ยังมีสเต็กด้วยนะคะ แต่ส่วนใหญ่จะให้บริการในช่วงมื้อเที่ยงค่ะ ส่วนใหญ่เราจะเน้นไปทางก๋วยเตี๋ยวมากกว่าค่ะ รสชาติก๋วยเตี๋ยวถูกเสิร์ฟในรสชาติที่เข้มข้นอยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องปรุงเพิ่ม เราชอบตรงที่ใส่ถั่วคั่วบดมาอย่างเยอะ และมีกุ้งทอดกรอบใส่มาให้อีกด้วย ซึ่งแตกต่างจากร้านอื่นๆ ที่ได้ทานมา ข้าวต้มปลาอินทรีย์ก็อร่อยนะคะ น้ำซุปรสชาติหวาน หอม กลมกล่อมกำลังดี เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี ปลาอินทรีย์ลวกจิ้มชิ้นกำลังพอดีคำ บอกเลยว่าเนื้อสดมากๆ และที่สำคัญไม่มีกลิ่นคาวมารบกวนใจ บวกกับน้ำจิ้มรสชาติจัดจ้านเข้ากันเป็นอย่างดี โดยรวมในเรื่องคุณภาพ รสชาติ และราคาที่ไม่แพง ถือว่าสุดคุ้มจริงๆ เป็นอีกหนึ่งร้านที่ควรมาทำความรู้จักกันนะคะ
เบอร์โทรศัพท์     081 - 9963295
เวลาเปิดทำการ   07.00 - 17.30 น.










 
มุ่งหน้าสู่ระยอง
แวะชมหาดพลา





















ศาลหลวงเตี่ยบ้านพยูน 

ชวนไหว้ หลวงเตี่ย ลอดสะพานมังกร หนึ่งเดียวในโลก ต้อนรับ EEC ที่ปากคลองบ้านพยูน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

ที่หาดพยูนหมู่ที่ 4 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายสุทธา เหมสถล ประธานกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุต เทศบาลตำบลบ้านฉางถึงการก่อสร้างสะพานมังกรข้ามปากคลองบ้านพยูน เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น การกระจายรายได้แก่ชุมชน แนวคิดที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในโลกด้วยการก่อสร้างเป็นสะพานมังกรที่มีความ 2.40 ยาว 35 เมตร สูง 3 เมตรด้านทางเข้าสร้างเป็นหัวมังกรพ่นน้ำบนลูกแก้ว ด้วยลักษณะพิเศษไม่เหมือนกับที่ใดในโลกด้วยมังกร 5 เล็บที่เป็นมังกรสัญญาลักษ์เครื่องทรงของจักรพรรดิจีนโบราณ ครึ่งตัวและยังสามารถมองเห็นบรรยากาศท้องทะเล และลำคลองในจุดที่ได้มาบรรจบกันที่ปากคลองบ้านพยูนแห่งนี้โดยสะพานมังกรสร้างเชื่อมระหว่างฝั่งคลองเพื่อให้เดินข้ามฝั่งนมัสการศาลหลวงเตี่ยศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของชาวจังหวัดระยองโดยบริเวณดังกล่าวนี้ทั้งหมด เตรียมบรรจุเป็นโมเดลขับเคลื่อนท้องถิ่นในด้านการท่องเที่ยวและเข้าสู่ปฏิทินการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลางเขต4 จังหวัดระยองในอนาคต เชื่อมโยงพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือEEC ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โดยเฉพาะ อ.บ้านฉางมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามในด้านชายหาดทั้งสามแห่ง

คือ หาดพลา หาดพยูน และหาดน้ำริน อนาคตจะพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้เป็นตลาดน้ำโดยเน้นผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์ประมงพื้นบ้าน และพัฒนาเป็นลานมังกร ที่สำคัญ สะพานมังกรตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองพัทยาจึงดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางมาลอดลานมังกรแห่งนี้ได้ดีอีกด้วย







 

ตลาดน้ำเกาะกลอย




วัดป่าประดู่ยังมีพระอุโบสถหลังเก่าที่สร้างขึ้นตอนต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นพระวิหาร ซึ่งนักท่องเที่ยวนอกจากไปทำบุญ สักการะพระพุทธไสยาสถ์ ถวายสังฆทาน ฯลฯ ยังสามารถลอดใต้พระอุโบสถเก่าทางวัดไม่มีการลื้อถอน เมื่อเก่าผุพังก็สร้างคลุมรากฐานที่ยังอยู่ ซึ่งการลอดพระอุโบสถ หรือโบสถ์นี้ หมายถึง การสะเดาะเคราะห์สืบชะตา ได้สะเดาะเคราะห์ต่อชีวิตโบสถ์มีอายุนาน ได้โบสถ์ ได้สวดบรรจุฝังผูกพัทธสีมาเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์รอดแล้วจะรอดจากความทุกข์ ความยาก ความลำบาก รอดจากความเจ็บ ความไข้ได้ป่วย รอดจากความตาย รอดจากความจนขอให้รอดพ้น จะทำให้เราดีขึ้น 

“ลอดใต้โบสถ์ 1 รอบ – 9 รอบ
รอบ 1 ขอให้รอดปลอดภัยเคราะห์วัน
รอบ 2 ขอให้รอดปลอดภัยเคราะห์เดือน
รอบ 3 ขอให้รอดปลอดภัยเคราะห์ปี
รอบ 4 ขอให้รอดปลอดภัยเคราะห์นอกกายหรือนอกสถานที่ ที่เดินทางไป เคราะห์นอกให้ออกไป
รอบ 5 ขอให้รอดปลอดภัยเคราะห์ในจากโจรปล้นจี้ฆ่า หรือลักเล็กขโมยน้อย เคราะห์ในให้บรรลัยสิ้นสูญ
รอบ 6 ขอให้รอดสรรพเคราะห์ สรรพโศก สรรพภัย ให้หมดไปสูญสิ้น
รอบ 7 รอดพ้น แคล้วคลายจากเคราะห์ทั้ง 7 วัน
รอบ 8 รอดจากพระราหู คือพวกยักษ์มารเสนียด- พวกอิจฉาตาร้อน
รอบ 9 พระเกตุ เทวดารักษาหมายถึง บิดามารดา”






 
ถนนยมจินดา

ถนนสายแรกของเมืองระยอง ที่ทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำระยอง เป็นแหล่งการค้าแห่งแรกของเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกแห่งนี้ ถนนสายนี้เกิดจากดำริของพระศรีสมุทรโภค (อิ่ม ยมจินดา) เจ้าเมืองระยองคนสุดท้าย ที่ให้ตัดถนนขึ้นกลางเมืองในยุคที่การคมนาคมยังพึ่งพาสายน้ำเป็นหลัก นับจากนั้นมา แหล่งการค้าจึงย้ายจากในน้ำขึ้นมาบนบก และถนนยมจินดาก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางของเมืองระยองนับแต่นั้น แต่เมื่อเมืองเติบโตขึ้น บวกกับการรุกคืบเข้ามาของธุรกิจและซูเปอร์มาเกต ทำให้ถนนยมจินดาเหี่ยวเฉาลง บ้านไม้โบราณทั้งหลายถูกปล่อยปละจนทรุดโทรม ชาวชุมชนจึงตัดสินใจตั้งกลุ่มชมรมอนุรักษ์ฟื้นฟูเมืองเก่าระยอง ร่วมมือกับเทศบาล ทำการฟื้นฟูย่านชุมชนเก่าแห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ทำนุบำรุงและฟื้นฟูกิจการในอดีตให้กลับคืนมา โดยอาศัยมนต์เสน่ห์ของความเก่าแก่อันเปี่ยมมนต์ขลัง และได้จัดให้มีการปิดถนนทุกเสาร์-อาทิตย์ เพื่อเปิดเป็นถนนคนเดิน ไม่มีค่าเข้าชม เวลาเปิด ร้านค้าทั่วไป เปิดทุกวัน 10.00 - 20.00 น. ถนนคนเดิน เปิดเสาร์ - อาทิตย์ 18.00 - 22.00 น. ที่ตั้ง ถ.ยมจินดา จาก ถ.สุขุมวิท เลี้ยวเข้า ถ.ภักดีบริรักษ์ ถ.ยมจินดาจะอยู่แยกที่ 2 ซ้ายมือ หรือเข้าทาง ถ.ตากสินมหาราช เข้ามาประมาณ 400 เมตร ถ.ยมจินดาจะอยู่ขวามือ ที่จอดรถ ไม่มีที่จอดรถเฉพาะกิจ แต่สามารถเลยไปจอดที่สวนศรีเมืองได้ แล้วเดินย้อนกลับมาประมาณ 300 เมตร








 
พระเจดีย์กลางน้ำ ป่าชายเลนเจดีย์กลางน้ำ ระยอง


ปูชนียสถานคู่เมืองระยอง สร้างในสมัยพระยาศรีสมุทรโภคชัยโชคชิตสงคราม นำแบบอย่างมาจากพระเจดีย์กลางน้ำที่ จ.สมุทรปราการ องค์พระเจดีย์ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง สร้างจากต้นตะเคียนตอกเป็นรากฐาน แล้วก่ออิฐฉาบปูนเป็นทรงระฆัง สูง 10 เมตร ใช้เป็นสัญลักษณ์ให้ชาวเรือได้รู้ว่าเดินทางมาถึงเมืองระยองแล้ว ปัจจุบันเป็นจุดชมวิวแม่น้ำระยอง และเมื่อถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกปี จะมีงานประเพณีห่มผ้าพระเจดีย์ แข่งเรือยาว และงานลอยกระทง ไม่มีค่าเข้าชม เวลาเปิด เปิดทุกวัน ที่ตั้ง เกาะเจดีย์กลางน้ำ ต.ปากน้ำ เข้าได้หลายเส้นทาง แต่ทางที่ชัดเจนที่สุดคือ จาก ถ.สุขุมวิท เลี้ยวเข้า ถ.ตากสินมหาราช (นครระยอง 64) ตรงไปจนสุดทางพบสามแยก เลี้ยวขวาเข้า ถ.สมุทรคงคา ตรงยาวไป แล้วโค้งขวาเข้า ถ.สมุทรเจดีย์ พระเจดีย์ฯ จะอยู่สุดถนน
เวลาทำการ : ทุกวัน  ตั้งแต่เวลา 08.00- 16.30 น.
ช่วงเวลาเที่ยว : ตลอดทั้งปี

https://www.emagtravel.com/archive/chedi-rayong.html






หาดแสงจัทร์

หาดแสงจันทร์  ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นชายหาดที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับมาพักผ่อนอีกแห่งหนึ่ง ด้วยคลื่นลมที่ค่อน ข้างแรงของชายหาดแสงจันทร์ทำให้มีการสร้างแนวหิน ที่เรียกว่า เขื่อนหินทิ้ง มากั้นเพื่อป้องกันการกัดเซาะของคลื่นลมยาวไป ตลอดแนวชายฝั่ง โดยสร้างเป็นรูปตัวที ทำให้หาดแสงจันทร์มีขายหาดที่โค้งเว้าคล้ายรูปเกือกม้ายาวไปจนสุดถนนเป็นภาพที่สวยงาม แปลกตา  หาดแสงจันทร์ มีถนนเลียบหาดที่สามารถลงเล่นน้ำได้เฉพาะริมชายหาดเท่านั้นเพราะห่างฝั่งไปคลื่นค่อนข้างแรง หรือมาเดิน เล่นชมวิวปั่นจักรยาน ขับรถชมบรรยากาศริมทะเลโดยเฉพาะในเวลาเย็นไปจนถึงค่ำหาดแสงจันทร์จะคึกคักด้วยร้านอาหารทะเล ที่ตั้งเรียงรายยาวไปตลอด สองข้างทาง  นั่งทานปูเสื่อ พร้อมโต๊ะญี่ปุ่น กางร่มผ้าใบในราคาไม่แพง หรือจะนำเสื่อมาเองแล้วสั่งอาหาร จากร้าน หน้าหาดมาทานก็ย่อมได้ อาหารที่ขายเป็นประเภท อาหารทะเล  จิ้มจุ่ม  ปลาเผา อาหารอีสาน  เป็นการนั่งทานอาหารริมทะเล ที่ได้ บรรยากาศมีลมพัดเย็นสบายตลอด  หาดแสงจันทร์มีที่พักริมหาดประมาณ 3-4 แห่งให้เลือกพักผ่อนแบบสบาย ปลายสุดของชาย หาดติดกับแหลมเจริญซึ่งเป็น จุดจอดเรือประมงและแหล่งลงปลาทำให้มีชาวบ้านมาตั้งร้านขายอาหารทะเลสด อย่างเช่น ปูม้า ปูทะเล ปลาหมึก หอยนางรม ในราคาย่อมเยา สำหรับซื้อหากลับไปรับประทานที่บ้าน

การเดินทางจากตัวเมืองระยอง จากสุขุมวิทวิ่งเข้าถนนสุขุมวิท (นครระยอง 2)  วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนเจอสามแยกนางยักษ์ ซึ่งมีรูปปั้น นางยักษ์อยู่ตรงกลาง จากนั้นเลี้ยวขวาก็จะเจอหาดแสงจันทร์ 





 

Happy Camper Rayong














ตลาดสตาร์ไนท์บาร์ซ่า (  คล้ายเซฟวัน )








 
เดินทางไปที่พัก
แผนที่
เคียงทะเล











เช้าวันที่ 13 ตุลาคม 
ตื่นมาทาน Breakfast บุฟเฟ่ต์ ที่พัก
 
 ออกเดินทางไปจันทบุรี



 
เขาแหลมหญ้า







ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่ตั้ง : ถนน หลังวัด ซอย 1/1 ตำบล แกลง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง

ค่าเข้าอุทยาน :  ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท

โทร : 038 653 034






ตลาดบ้านเพ(ตลาด100เสา)









หาดสวนสน









หาดแหลมแม่พิมพ์










พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง









อนุสาวรีย์สุนทรภู่









สะพานรักษ์แสม(สะพานรักแสม) 











 
ร้านเกี๊ยวปลานายเคี๊ยม








จะมีให้เลือกจะไปที่ไหนก่อนละหว่าง ทุ่งโปรงทองกับอนุสรณ์เรือรบหลวงประแส 



ทุ่งโปรงทอง




ก่อนที่เราจะไปเดินทางไปถึงทุ่งโปรทองนั้นเราจะต้องจอดรถในที่จุดรับฝากรถครับ ราคาที่จอดรถก็คันละ 20 บาทเท่านั้นเองแล้วเราก็ต้องนั่งรถที่เค้าจัดไว้ให้ เสียค่ารถคนละ 5 บาท ระยะทางจากจุดจอดรถไปทางเข้าทุ่งโปรงทองประมาณ 1 กิโลเมตรครับ ลานจอดรถที่นี่จะมีอยู๋ประมาณ 2-3 ลาน ลานสุดท้ายลึกเข้าไปจะเป็นลานที่ใกล้ทางเข้ามากที่สุด แล้วแต่สะดวกเลยครับว่าจะจอดรถที่ลานไหน รถที่เราต้องนั่งต่อเข้าไปครับ และนี่คือรถที่เรานั่งกันไปครับซึ่งก็รู้สึกแปลกไปอีกแบบ เรานั่งรถกันมาไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงกับทางเข้าทุ่งโปรงทอง








อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส









แผนที่
 







จุดชมวิวหินโคร่ง










หาดคุ้งวิมาน








จุดชมวิวเนินนางพญา









จุดชมวิวเจดีย์กลางน้ำ บ้านหัวแหลม

จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม

ท่าเทียบเรือประมงบ้านหัวแหลม  ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี

เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา   05.00 น.- 20.00 น.

เมื่อมาถึงท่าเทียบเรือต้องจอดรถไว้บริเวณลานจอดรถเสียค่าจอด 20 บาท จากนั้นนั่งรถสามล้อพ่วงข้างของชาวบ้านไปกลับ คนละ 10 บาท
จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม จันทบุรี
เที่ยวเมืองจันท์กันครับ…จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม…เป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรง มาเมืองจันท์แล้วต้องห้ามพลาดแวะแชะเก็บภาพ ชมภาพธรรมชาติสรรสร้างอย่างลงตัว ทิวเขา กำแพงป่าชายเลน ทะเลสวย ฟ้าคราม หรือยามเย็นพระอาทิตย์ตกก็สวยงามไม่แพ้กัน ยังมีวิถีชุมชนการทำประมง อาชีพของชาวบ้านหัวแหลมที่อยู่คู่กับธรรมชาติที่น่ามองมีเสน่ห์ให้ได้เห็น และที่สำคัญต้องมาสักการะเจดีย์บ้านหัวแหลมสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชุมชนมานานกว่า 200 ปี เป็นที่เคารพสักการะของชาวชุมชน อิ่มใจกับความสวยงามของเนินนางพญาแล้ว สามารถนั่งรถซาเล้ง ค่าบริการไปกลับคนละสิบบาท จุดขึ้นที่เนินนางพญามาที่จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม จะอยู่ไม่ไกลจากเนินนางพญา หรืออยากจะเดินชิวๆแวะช้อปชิมตามสองข้างทางระยะทางประมาณ 50 เมตร ก็ตามสะดวก

ประวัติความเป็นมา เจดีย์บ้านหัวแหลม
ในสมัยก่อน ประมาณ 200 ปีได้มีนายทอกไม่ทราบนามสกุล เป็นผู้สร้างเจดีย์บนก้อนหิน บริเวณหัวแหลมซึ่งเป็นบริเวณปากอ่าวคุ้งกระเบน สาเหตุที่สร้างยังไม่ทราบแน่ชัดแต่เชื่อว่า สร้างไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวประมงเนื่องจากการทำประมงในสมัยก่อน จะต้องเสี่ยงอันตราย เพราะจะต้องเจอกับพายุและคลื่นที่รุนแรง ทำให้ชาวประมงส่วนใหญ่ในสมัยนั้น ต้องทำการบนบานศาลกล่าวเพื่อให้ออกเรือมีความปลอดภัย








หาดแหลมเสด็จ








สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ

วันและเวลาทำการ

ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.30 - 17.30 น.
วันหยุดราชการ  เวลา 08.30 - 17.30 น.

ค่าเข้าชม

ไม่เสียค่าเข้าชม
 





ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน 





 



 
เดินทางเข้าที่พัก
ลุงหมื่นรีสอร์ท เจ้าหลาว

มีชายหาดติดที่พัก
ห้ามประกอบอาหาร
ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าพัก

มีร้านอาหารขายภายใน
เล่นเที่ยวกินพักผ่อนตามอัธยาศัย











ตื่นตามอัธยาศัยอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกเดินทางกลับบ้านเรา









ลานหินสีชมพู เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน จันทบุรี

สำหรับการไปชมลานหินสีชมพู ได้จัดทำเป็นศึกษาเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ระยะทาง 1 กิโลเมตร  ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ น้ำลงตอนกลางวัน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เดือนมิถุนายน จะเห็นภาพของลานหินสีชมพูได้แบบชัดเจนขึ้น  โดยเส้นทางเดิน มี 2 เส้นทางให้เลือก เส้นทางแรกเป็นทางเดินเลียบทะเลที่สลับกับโขดหินและลานหินซึ่งมีสีชมพูอมแดง อมส้มบ้าง ส่วนอีกหนึ่งเส้นทางสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาบ่อเตย จะมีบันไดหินสำหรับเดินเลาะรอบเขา ปลายทางจะได้พบกับลานหินชมพูที่ติดกับทะเล โดยใช้ระยะเวลาในการเดินไปจนถึงลานหินสีชมพู ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที








สะพานตากสินมหาราช










ตึกแดง

ตึกแดง แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของจังหวัดจันทบุรี เป็นประวัติอันขมขื่นของคนไทยที่เมืองจันทบุรีอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสถึง 11 ปี (พ.ศ.2436 – 2446) สถานที่แห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน กว่าจะมาเป็นเมืองจันทบุรี และเป็นไทยอยู่ทุกวันนี้บรรพบุรุษของเราต้องแลกกับเลือดเนื้อ ดินแดน และทรัพย์สิน
ตึกแดง และ คุกขี้ไก่ สร้างขึ้นโดยฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2436 ในยุคของอินโดจีนฝรั่งเศส หรือ วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ในสมัยนั้นฝรั่งเศสได้แผ่อาณานิคมเข้ามาที่ลาว กัมพูชา เวียดนาม และได้หาเรื่องรุกรานไทยโดยอ้างว่า ดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงคือ อาณาจักรลาวเกือบทั้งหมด ฝรั่งเศสได้บุกเข้ามาที่กรุงเทพฯ เพื่อต้องการดินแดนส่วนนี้ กับพื้นที่ในจังหวัดตราด และยังต้องการค่าเสียหายอีกเป็นจำนวนถึง 3 ล้านฟรังก์เหรียญทอง หรือราว 1.56 ล้านบาทในขณะนั้น
ในขณะที่ไทยยังไม่สามารถยกดินแดนที่ฝรั่งเศสต้องการ และ ฝรั่งเศสยังไม่ได้รับค่าเสียหาย ฝรั่งเศสก็เลยใช้วิธียึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นตัวประกัน ฝรั่งเศสได้สร้างตึกแดง เป็นตึกเล็กชั้นเดียว ขนาด 7 x 32 ตารางเมตร มีห้องภายในอยู่ 5 ห้อง ไว้เป็นที่บัญชาการ และที่อยู่อาศัยของทหารฝรั่งเศส – ญวณ ด้านนอกทาสีแดงเข้ม ที่ตั้งของตึกแดงอยู่ที่ป้อมพิฆาฏปัจจามิตรซึ่งเป็นป้อมปืนเก่าแก่ในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยฝรั่งเศสได้รื้อเอาป้อมพิฆาฏปัจจามิตรออกแล้วสร้างตึกแดงในที่ตรงนั้น มีการนำวัสดุบางอย่างของป้อมพิฆาฏปัจจามิตรมาใช้ในการสร้างดึกแดงด้วย ฝรั่งเศสใช้งานดึกแดงเป็นที่บัญชาการจนถึงปี พ.ศ. 2447 จนได้สิ่งที่ต้องการจนครบไม่ว่าจะเป็นดินแดนที่เคยเป็นเมืองขึ้นของไทย และเงินค่าเสียหายที่ฝรั่งเศสเรียกร้อง มีบันทึกไว้ว่าเงินในท้องพระคลังสมัยนั้นถึงกับหมดเกลี้ยง
ในปี พ.ศ. 2557 ได้มีการปรับปรุงตึกแดงให้เป็นอาคารห้องสมุดและศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนของ อ.แหลมสิงห์ ต่อมาได้ถูกยกเลิกและทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว




คุกขี้ไก่​





โอเอซิส ซีเวิลด์






ชุมชนขนมแปลก ริมคลองหนองบัว




ตลาดชุมชนหนองบัว
เป็นตลาดเก่ามีอายุมากกว่า 100 ปี ภายในตลาดก็จะมีลักษณะคล้ายบ้านไม้เก่า วันที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวก็คือ วันเสาร์-อาทิตย์ ในวันดังกล่าวจะมีผู้คนพลุกพล่าน ได้บรรยากาศในการเดินเที่ยว ภายในตลาดมีอาหารหวานคาวมากมาย และเครื่องใช้ย้อนยุค และจุดไฮไลท์ของที่นี้คือ มีจุดถ่ายภาพมากมาย ในแต่ละมุมก็จะแตกต่างกันออกไป
เวลา 09.00 – 17.00 น.
เสาร์-อาทิตย์
ลานจอดรถ ฟรี ริมฝั่งถนน








ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

เดินทางกลับบ้านเรา
  

ใช้ระยะเวลา 5 ชั่วโมง28นาทีโดยประมาณ
ไม่รวมแวะข้างทาง&เข้าปั๊มน๊าาาาาาาา


 

แสดงความคิดเห็น

>