พ่อชอบทำตัวเหมือนจะไม่ส่งเราเรียน
ตั้งกระทู้ใหม่
* บ้านเราไม่ได้มีฐานะมาก แต่ก็ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มยากจนอะ ชนชั้นกลางๆ นี่คือเงินเดือนแม่กับพ่อ
พ่อ : ข้าราชการครู 4x,xxx
แม่ : ข้าราชการครู 3x,xxx ซึ่งแม่กับพ่อรับราชการทั้งคู่ มันมั่นคงแล้วก็ไม่มีปัญหาล้มละลายอะ นี่แค่เงินเดือนด้วย ยังไม่รวมค่าสวน
ทุกอย่างมันดูโอเคอะ เค้าดูมีกำลังส่งเราเรียนได้ แลวทำไมถึงทำเป็นจะไม่ส่งเราเรียน
7 ความคิดเห็น
จริงๆโรงเรียนนี้ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เป็นศูนย์uce afs ศูนย์อบรมสอวน.เคมีอะไรสักอย่าง เป็นศูนย์สอบการแข่งขันหลายๆอย่างด้วย มันก็ไม่แย่ แต่เรามีปัญหากับเพื่อนอะ เราทนอยู่ไม่ได้จริงๆ
เงินเดือนเยอะเวอร์ขนาดนั้น
แถมเป็นข้าราชการเบิกค่าเทอมลูกได้
ทำไมไม่ส่งลูกเรียนต่อล่ะ
หรือพ่อแม่หนี้สินเยอะรึเปล่า
นั่นน่ะสิคะ หนี้สินก็คิดว่าไม่ได้เยอะขนาดนั้นค่ะ มีค่าผ่อนรถอยู่ราวหมื่นต่อเดือน ซึ่งเราคิดว่ามันมากอยู่นะถ้าเทียบกับงานรับจ้างหรือธุรกิจส่วนตัว ถึงไม่มากมันก็น่าจะพอส่งเราเรียนได้
เราเรียนเก่งไหม เขาอาจเห็นว่า เรียนต่อก็คงไม่ไหว เราเรียนเพื่อไปทำงาน เรียนอะไรก็ได้ที่ชอบ
กลางๆค่ะ เกรดเราอยู่ที่ประมาณ 3.7x
อะไรที่ชอบมันเหมือนจะไปทางมหาลัยมากกว่าสายอาชีพค่ะ เพราะเราอยากเรียนเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ ไม่ก็พวกสื่อสารมวลชน แต่ถ้าต้องเรียนปวช.ก็คิดๆไว้ว่าจะเรียนการตลาด แล้วไปต่อปริญญาตรีบริหารของรามคำแหงอะไรประมาณนี้
น้องใจเย็นๆนะคะ ลองพูดคุยกับพ่อแม่แบบเปิดอกว่าพวกท่านมีปัญหาด้านการเงินรึป่าว สมัยนี้ม.4สามารถกู้เงินกยศ.เรียนได้นะคะ ยิ่งเป็นข้าราชการก็เบิกงานค่าเล่าเรียนได้อีก ลองพูดคุยกันดีๆนะคะ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ
เข้าใจว่าจะยื่นกยศ.ได้พ่อแม่ต้องมีรายรับน้อยกว่า 100,000 บาทต่อปีมาตลอดเลยค่ะ ไว้จะลองไปคุยๆดู ขอบคุณมากๆนะคะ
คิดว่าพ่อแม่คงคิดว่าจบแล้วมีงานทำครับ น้าก็บอกลูกแบบนี้เช่นกัน เรียนเท่าที่ตัวเองศักยภาพถึงมีงานทำพอ ส่วนไปเรียนอะไรเพิ่มค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้โอกาสการศึกษาสูงครับ
ขอบคุณความเห็นดีๆจากผู้ปกครองนะคะ จะนำไปปรับใช้ค่ะ
พี่ว่า น้องควรใจเย็นๆ ก่อนนะคะ มันมีอะไรให้พิจารณาเยอะมาก เช่น ในครอบครัวมีสมาชิกกี่คน พี่น้องมีจำนวนกี่คน รายได้-รายจ่ายของครอบครัวต่อ 1 เดือนเท่าไร มีภาระหนี้สินอะไรบ้าง มีทรัพย์สินอะไรในครอบครอง โรงเรียนที่น้องเรียนค่าเทอมเท่าไร ผลการเรียนน้องอยู่ในระดับไหน มันมีปัจจัยให้พิจารณาเยอะมาก แต่ละครอบครัวมีปัญหาแตกต่างกัน
.
ในส่วนที่บอกว่า พ่อชวนไปขับรถยนต์ ทำสวน พี่มองว่า เป็นเรื่องดีนะคะ พี่สูงเท่าน้องเลย เวลาทำงานเขาก็ถามว่า เคยทำอะไรมาบ้าง ขับรถได้ไหม ยิ่งมีรถยนต์ส่วนตัว หรือใบขับขี่ยิ่งดี ถ้าสมมุติวันไหนเราต้องทำรับงานต่อจากพ่อแม่ ตรงนี้เป็นต้นทุนของน้องที่ดีกว่าคนอื่นๆ
.
ต้องถามตัวน้องเองว่า มีเป้าหมายอะไรที่ชัดเจนไหม เป้าหมายของน้องคืออะไร มีข้อดี-ข้อด้อยอย่างไร พ่อแม่ทุกคนก็พยายามหาทางเลือกให้ลูกตัวเองทั้งนั้นค่ะ ยิ่งในยุคที่คนจบปริญญากันเกลื่อนมากและงานหายากขึ้นทุกที สมัยนี้การศึกษาการทำงานแข่งขันสูงมาก ความสามารถเฉพาะทาง ความต้องการของตลาด ทักษะทางภาษา และอื่นๆ ถ้าเรียนอะไรที่จบมาแล้วมีงานทำเลย พ่อแม่ก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งค่ะ
.
อยากให้น้องลองเปิดใจคุยกับผู้ปกครองดูนะคะว่า มีปัญหาอะไร ท่านต้องการอะไร ตอนนี้น้องมองว่าชีวิตน้องควรเป็นอย่างไร น้องอยากรับราชการหรือทำงานบริษัท ลองถามพ่อแม่ดูว่า มีเพื่อนทำงานสายไหนบ้าง ลองขอคำแนะนำจากคนที่ทำงานหลายๆ สายค่ะ เผื่อเป็นประโยชน์ให้เรามองทางออกได้หลากหลายยิ่งขึ้น
.
ม.เปิดก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวค่ะ ลองดูหลักสูตรของม.เปิดหลายๆ แห่ง แล้วมองว่า เราชอบเรียนหรืออยากทำงานแนวไหนก็ช่วยได้มากขึ้นค่ะ อีกทางคือ ลองหาคอร์สออนไลน์ภาษาอังกฤษเรียนดูค่ะ มี University ดังๆ เปิดหลายหลักสูตรให้เรียน ทั้งสายมนุษยศาสตร์, ธุรกิจ, การตลาด ฯลฯ
.
พี่เชื่อว่า ถ้าเรามีเหตุผลหนักแน่นและมีหลักการมากพอ ผู้ใหญ่จะเชื่อฟังเราค่ะ ถ้าน้องกังวล ลองคุยกับผู้ใหญ่ที่น้องสนิทใจดู พี่ได้เข้าเรียนคณะที่ตัวเองรัก เพราะไปคุยกับเพื่อนพ่อ แล้วเพื่อนพ่อมาคุยให้ค่ะ บางทีเราอาจเรียบเรียงความคิด ความต้องการของเราไม่ได้ ก็ต้องให้ผู้ใหญ่เขาคุยกัน
.
หวังว่า คำแนะนำของพี่จะมีประโยชน์นะคะ
พี่เขียนมายาวมากๆ ขอบคุณที่มาตอบนะคะ เราอ่านของพี่ครบและอยากตอบที่พี่บอกให้ไปคิดมากๆเลยค่ะ แต่เนื่องจากพี่พิมพ์มายาว เราเลยจำคำถามไม่ได้เท่าไหร่ คร่าวๆคือเรามีพี่น้อง2คนค่ะ หนี้สินไม่เยอะ เราเรียนได้ไม่โดดเด่นแต่คิดว่าน่าจะไม่ลงเหวค่ะ แนวทางการเรียนต่อในอนาคตน่าจะพวกเศรษฐศาสตร์ไม่ก็สื่อสารมวลชน (แต่หากไม่ได้ต่อพวกนี้เราก็อาจจะเรียนปวช.พวกบัญชีหรือการตลาด แล้วต่อบริหารรามคำแหงค่ะ ) พวกการขับรถ ทำสวน ทำงานบ้าน คือไม่ได้มีปัญหาตรงนั้นเท่าไหร่ค่ะ แค่สงสัยว่าทำไมต้องมีมาพูดลงท้ายแบบนั้นๆนู้นๆ แต่ว่าตอนที่พิมพ์ลงไปค่อนข้างน้อยใจพ่อ เนื้อความเลยออกมาเป็นแบบนั้นค่ะ ส่วนเรื่องม.เปิด เราโอเคมากๆถ้าได้เรียนค่ะ เราไม่ได้ยึดติดกับม.ขนาดนั้นค่ะ (แต่ถ้ามีโอกาสเข้าม.ดัง ก็อยากเข้านะคะ แหะ โอกาสในการทำงานมันน่าจะเยอะกว่า) สุดท้ายนี้ขอตอบประโยคของพี่ที่ว่า หวังว่าเราจะได้ประโยชน์ เราได้ประโยชน์จากพี่เยอะมากๆ คิดบวกขึ้นด้วย ขอบคุณอีกรอบค่า
ตอนนี้เราโอเคแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆที่มาแสดงความเห็นกันนะคะ ตอนที่พิมพ์กระทู้นี้ไป เราพิมพ์ไปด้วยความอยากระบาย และ เรื่องที่ระบายลงไปก็คือความน้อยใจของเราอีกค่ะ55 มันทำให้เรื่องที่อ่านเราดูเศร้าขึ้น และพ่อดูแย่ขึ้น แต่ตอนนี้เราเป็นปกติแล้วค่ะ (ขอบคุณความเห็นลุงป้าน้าอาทุกคนในเฟสบุ๊กนะคะที่บอกมาว่าพ่อแม่อยากให้ลูกมีงานทำ และ อยากเสนออะไรที่ทำให้ลูกประสบความสำเร็จได้มาให้ลูก ตอนที่เราน้อยใจอยู่ เราไม่ได้คิดถึงตรงนี้เลยค่ะ ขอบคุณทุกๆคนที่เสนอแนวทางและปลอบมากๆ ขอบคุณค่ะ)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?