Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มีคนเคยถามว่า ทำไมผมถึงใช้นามปากกาชื่อ นายถังนำ้ เพราะผมชอบเทนิยายตัวเองทิ้งไงล่ะ!!! (ชวนคุยเกี่ยวกับการรีไรท์)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
           หลังจากที่นิยายของผมเดินทางมาได้เกือบจะถึงห้าสิบตอนเเล้ว โดยเเต่ละตอนก็มีความยาวเฉลี่ยออกมาเป็นตอนละหมื่นตัวอักษร เเต่พอได้เขียนมาถึงปัจจุบัน มันก็รู้สึกว่า บทนำช่วงเริ่มต้นของเรื่องเนี่ย มันดูไม่ค่อยสนุกเอาซะเลยนะ

           เเละเพราะเเบบนั้น ผมก็เลยคิดว่า หลังจากจบอีเวนต์ ครอสโอเวอร์นิยายสามเรื่องที่กำลังทำอยู่ ก็จะทำการรีไรท์มันให้กลายเป็นเวอร์ชั่นที่ห้า ร่องรอยการเดินทางอันยาวไกลกว่า สามเเสนตัวอักษรจะจางหายไป เพื่อสิ่งที่ดีกว่า จากนี้ไปมันจะต้องไม่มีอีกเเล้ว การเขียนเเบบเรื่อยเปื่อย มันจะต้องมีการควบคุมเนื้อหาให้กระชับมากกว่านี้ กำหนดไว้เลยว่า สิบตอนจะต้องจบหนึ่งเควสใหญ่ ระหว่างนั้นจะมีเควสยิบย่อยอะไรก็ได้ เเต่มันจะต้องจบเมื่อถึงจุดกำหนดที่เเน่นอน

          เอาล่ะ พล่ามเรื่องของตัวเองมามากพอเเล้ว ทีนี้ ผมอยากจะฟังเรื่องของคนอื่นๆบ้าง พวกท่านเเต่ละคนเคยรีไรท์นิยายตัวเองมากี่ครั้งกันเเล้วเหรอครับ เเบบว่า มันไปต่อไม่ได้สักทีเพราะกลับมาเเก้ใหม่จนกว่าจะพอใจจนเรื่องมันไม่เดินหน้าสักที เเล้วเเต่ละครั้งที่เเก้ไขเนื้อหาเก่าๆเนี่ย มาจากเพราะอะไรกันเหรอครับ อย่างของผมเนี่ยก็เพื่อปรับปรุงทุกอย่างตั้งเเต่คอนเซ็ปเรื่อง การใช้สำนวนที่ตามหาเเนวทางของตัวเองไปเรื่อยๆ พัฒนาให้ได้เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ใครมีประสบการณ์รีไรท์เเบบไหนก็เอามาเล่ากันได้นะครับ เเล้วบอกวิวัฒนการของเเต่ละคนมาก็ดีว่า ตั้งเเต่เเรกเริ่มนั้น มันเป็นยังไง เเล้วปัจจุบันเปลี่ยนไปเป็นยังไง เพราะอะไรต้องรี เเล้วรีกี่รอบจากอดีตถึงปัจจุบัน อยากฟังเรื่องเล่าจากทุกๆคนครับ


         ปล.ผมเองก็คิดนะว่า การที่มัวเเต่ถอยหลังกลับไปมองความผิดที่ผ่านมา จะทำให้เดินหน้าไม่ได้ เเต่กลับกัน ถ้าหากรากฐานไม่สามารถมั่นคงเเล้วยังก่อสร้างต่อไป ในอนาคตก็คงล้มไม่เป็นท

แสดงความคิดเห็น

>

12 ความคิดเห็น

ทิตภากร : กันต์ระพี 20 ส.ค. 62 เวลา 01:53 น. 1

อยู่สายด้นสดค่ะ

เพราะฉะนั้น เมื่อเดินหน้าแล้วมีเหตุการณ์อะไรที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เขียนมา ก็จำเป็นต้องย้อนกลับไปแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนในจุดนั้นๆ ค่ะ


ส่วนเรื่องรีไรท์...

เมื่อก่อนไม่เคยทำค่ะ เพราะคิดว่าตอนเขียนก็ย้อนอ่านบทเก่าเพื่อต่ออารมณ์อยู่แล้ว (มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง) แต่หลังจากหยุดเขียนไปเกือบ 2 ปี จะอ่านๆ แก้ๆ บ่อยมาก วกมาแก้ส่วนที่ติดขัดเหมือนไม่อยากปล่อยผ่าน อาจจะเพราะไม่มั่นใจในภาษาของตัวเองหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ บางทีคอลัมน์หนึ่งอ่านแล้วแก้อยู่สามวัน เพื่อ...?https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-12.png


จขกท.เขียนได้ 50 ตอนแล้วนี่ถือว่าเยี่ยมนะ

สำหรับเรา...ถ้าต้องเขียนยาวๆ อย่างนั้น ยกธงขาวเลย 55

1
Tdeuy 20 ส.ค. 62 เวลา 08:54 น. 1-1

เอิ่ม กันต์เฉย ๆ ไม่ต้องแก้บ่อยแล้วมั้ง ^…^

0
20 ส.ค. 62 เวลา 03:02 น. 2

ตอนแรกเราด้นสด พอเขียนไปเกือบๆกลางเรื่องก็กลับมาแก้บทนำต้นๆรอบหนึ่ง ภาษาก็ดีขึ้นนะ มันทำให้เราเห็นจุดบกพร่องเยอะมากขึ้น แต่ก็ยังไม่โอเคตามที่ต้องการเท่าไหร่ ก็เลยกลับไปเขียนเนื้อเรื่องต่อจากเดิมก่อน

จนตอนนี้เขียนไปได้เกินครึ่งแล้ว ละดันมีปมที่ต้องเขียนเชื่อมกับบทนำ พล็อตทุกอย่างเริ่มลงตัวหมดแล้ว ตอนนี้เลยกะว่าจะเพิ่มเนื้อเรื่องขึ้นมาใหม่ในตอนแรกๆหมดเลย แล้วพอกลับมาเขียนบทเริ่มใหม่ มันทำให้เห็นพัฒนาการทางภาษาตัวเองดีขึ้นมาก จากอธิบายแบบรวบๆไม่รู้เรื่องก็เปลี่ยนไป คำซ้ำก็น้อยลง บรรยายได้สละสลวยขึ้น แต่ในอนาคตถ้าเขียนจบก็น่าจะได้กลับมารีไรท์เพิ่มเติมอีกนั่นแหละ

สำหรับเราคือเขียนไปก่อนเยอะๆ จะด้นสดอะไรก็ได้ถ้าคิดไม่ออก เขียนไปก่อน พอถึงจุดหนึ่งเดี๋ยวมันจะคิดปมเชื่อมกันได้หมดเอง แล้วค่อยกลับมาดูส่วนเก่าๆที่เขียนไว้ ตรงนั้นแหละที่เราจะเห็นจุดบกพร่องของภาษาตัวเองแล้วก็เนื้อเรื่องที่แปลกๆ คราวนี้ก็แก้ไขตามที่ต้องการ


ปล.เราเข้าไปดูนิยายของคุณมา คิดว่าควรเพิ่มส่วนบรรยายเป็นอย่างแรกเลยค่ะ ส่วนมากเป็นบทพูดเรียงเดี่ยวลงมาเลย ควรมีบรรยายคั่นให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่านี้นะคะ แล้วก็ตัวละครของคุณพูดติดอ่างเยอะไปหน่อย ถ้าลดได้คำพูดตัวละจะดูสมูทขึ้น

0
หยกน้ำแข็ง 20 ส.ค. 62 เวลา 04:53 น. 3

หัวอกเดียวกันครับ หุหุ พอว่างคิดว่าจะเขียนนิยายหรือพิมพ์นิยายอัพขึ้นเว็บ ก็ดันแวะเข้าบอร์ดอ่านกระทู้ เปิดเพลงฟัง...จะตี5แล้ว วันนี้ไม่ใช่ตื่นเช้านะครับ ยังไม่ได้นอน อิอิอิ สำหรับผมงานดองคืองานถนัดเลย ผมเขียนไว้หลายเรื่องเหมือนกันเอาเข้าจริงๆ สายด้นสดไปไม่รอดจอดอยู่ตอนที่ 20 กว่าๆ 4เรื่อง เลยต้องเปลี่ยนจุดหมาย เอานิยายที่คิดว่าตัวเองตั้งใจเขียนจริงๆ แล้วเอามาลงตามเว็บเพื่อกระตุ้นให้ขยันอัพ แต่อารมณ์เขียนนิยายดันมาขยันตอนทำงาน ตอนว่างงานดันไม่มีอารมณ์พิมพ์นิยายอัพ และก็ไม่มีอารมณ์เขียน นิยายผมเลยไม่คืบหน้าสักที...คิดแล้วก็ปวดใจ


เรื่องรีไรท์แก้ไข นี่วนทำอยู่เรื่อยๆ ทำไมคำผิดกับการเชื่อมประโยคมันต้องเจอทุกครั้งที่อ่านนะ แก้จนเหนื่อย บางทีก็ยอมอดทนไปก่อนจดไว้รอแก้ทีเดียวตอนว่างๆ ...วนแก้ทีหนึงก็เสียเวลาเป็นวันเหมือนกัน เพราะยิ่งอ่านยิ่งเจอตอเจอปัญหา บางทีก็พิมพ์เวิ่นเว้อใช้คำฟุ่มเฟือยสารพัด ย้อนอ่านนิยายของตัวเอง เห็นแล้วก็อยากเอาปี๊บคลุมหัวเหลือเกิน รู้สึกอายนะครับแต่บอกตัวเองเสมอ จงด้านเข้าไว้ไม่มีใครรู้จักเราหรอกหุหุ.... สู้ๆครับ ตอนแรกที่เขียนเหมือนเห็นเส้นทางสวยหรูพอเขียนๆดูโอ้โห...เหมือนอยู่ในป่ารกชัฏ ผมเองก็คิดอยากจะเขียนให้จบตามแบบที่คิดไว้เหมือนกัน พยายามกันต่อไปครับ

0
หญ้าโค้ง 20 ส.ค. 62 เวลา 06:05 น. 4

เรื่องที่อยู่บนเขียงศัลยกรรมตอนนี้ เพราะว่า ขาดตัวร้ายที่น่าสนใจครับ

และเริ่มซึ้งกับสัจจะธรรมที่ว่า


เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

เพิ่มดาวร้ายแค่ตัวเดียว

ชะตากรรมจักรวาลเปลี่ยนเลยทีเดียว (หมายถึงงานเข้าน่ะ)


0
NUMAI-13 20 ส.ค. 62 เวลา 06:21 น. 5

รีไรท์.. นิยายสั้น รวดเดียว 4-6 ตอน

ทำเอาอีกวันไปทำงานไม่ได้เพราะนอนน้อยเกิน 55+

แต่ก็พอละ.. โอเคกับมันละ


ส่วนเรื่องชอบเทนิยายนี่.. อืม ไม่รู้เรียกเทได้เปล่า เหลืออีก 3 ตอนจะจบ พล็อตวางถึงตอนจบแล้วแต่คร่าวๆ ยังไม่ได้ทรีต เว้นมาสัปดาห์นึงละ ควรลงวันเสาร์ที่ผ่านมาแต่ยังไม่ได้เขียน.. ก็อยากให้มันจบนะ จะได้หลุดพ้นซักที แต่ก็.. เฮ้ออ~~


0
Miran/Licht 20 ส.ค. 62 เวลา 07:14 น. 6

สมัยเขียนแรกๆ คงม.ปลายเคยตกหล่มรีไรท์ค่ะแก้แล้วแก้อีกไม่จบสักที


พอมาตอนนี้เลยตัดใจว่า วางเส้นเรื่องไว้ดีแล้วไม่ออกนอกเส้นมีแต่จุดที่ย้อนไปอ่านแล้วแปลก หรือจุดที่อยากเพิ่ม ซึ่งจะคอยโน๊ตไว้เวลาย้อนกลับไปอ่าน รีไรท์ที่ตรงนั้นตรวจคำผิดกับรูปประโยคพอแล้วจบ อย่าไปแตะมันมาก เหมือน ต่อ-ติด-ตาย


ส่วนเรื่องนามปากกา...ฟังแล้วคนอ่านคนตกใจ สำหรับคนเขียนด้วยกันก็ up to you

0
yurinohanakotoba 20 ส.ค. 62 เวลา 08:12 น. 7

ทะเลาะกับตัวละครเป็นส่วนใหญ่ พูดแล้วตลก ก่อนเขียนกับเริ่มเขียนตัวละครมันไม่เหมือนกัน มันมีชีวิตเป็นของมันมากขึ้น ๆ แล้วพอกลับไปอ่านมันจะเถียงว่า เป็นฉัน ๆ จะไม่พูดแบบนี้ ไม่คิดแบบนี้ ฉันไม่ตัดสินใจแบบนี้เด็ดขาด บางทีก็ต้องแก้วน ๆ ไป ที่แก้บ่อย ๆ ก็จังหวะการเล่าเรื่อง ผมเป็นคนที่เล่าเรื่องแบบราบเป็นเส้นตรง ด้วยจังหวะสม่ำเสมอ ก็ต้องกลับมาแก้ตรงนี้เยอะด้วย

0
Tdeuy 20 ส.ค. 62 เวลา 09:06 น. 8

เรื่องล่าสุดกำลังรีไรท์รอบที่สี่ค่ะ สายด้นสด

ยิ่งทำหลายรอบก๊็เห็นได้ว่าสามารถตัดบางคำออกได้หรือบางประโยค

แม้จะอ่านจนเบื่อแต่ถ้าทำให้งานออกมาดีได้ ก็ต้องยอมอ่ะค่ะ ส่วนมากจะเขียนจนจบเรื่องแล้วรีค่ะ ไม่แต่งไปรีไป นอกจากมีบางส่วนสะดุดก็จะกลับไปอ่านตอนพวกนั้นเพื่อดูเฉย ๆ สะดุดก็แบบอาจเขียนแล้วขัดกันเล็กน้อย

แต่คุณเขียนได้เยอะเนอะ ในการรีไรท์ก็สู้ ๆ นะคะ ตรง ปล. เห็นด้วยเลย การเขียนกับการใช้ชีวิตบนความผิดพลาด มันอาจดูไม่หนัก แต่ถ้าไม่ทำให้รากฐานมั่นคง เราก็จะย่ำอยู่กับที่ ที่ก้าวหน้าคงเป็นเรื่องเวลาแต่ไม่ใช่เรื่องงานเขียน

0
Ciel En Rose 20 ส.ค. 62 เวลา 10:58 น. 9

ตอนนี้เรื่องที่เราแต่ง มี 91 ตอนค่ะ แต่งตอนหนึ่งเราแบ่งพาร์ทด้วยมันเลยคูณสองคูณสาม

เรื่องนี้เกิดจากการด้นสดมาก่อนค่ะ พอแต่งมาได้ครึ่งทางมันเริ่มติดขัด เลยต้องแก้ไทม์ไลน์ใหม่ทั้งหมด เพราะตอนแรกไม่ได้วางไว้ละเอียด จากนั้นก็รีไรท์ไปสองรอบ ซึ่งสองรอบนั้นก็รู้สึกว่าน่าจะโอเค ปรากฎพออ่านครั้งที่สาม ต้องรีไรท์ใหม่เลยค่ะ แบบตกใจกับสำนวนตนเองมาก ตอนนี้ก็เริ่มเล็ง ๆ ครั้งที่สี่ค่ะ ^^


นิยายเรายังแต่งไม่จบนะคะ แต่เหลืออีกไม่ถึงสิบตอนก็จะจบ เลยขอรีไรท์ใหม่ไปด้วยค่ะ

0
เจ้า(แมว)ขาว 20 ส.ค. 62 เวลา 11:44 น. 10

เรื่องแรกที่เขียนพระเอกไม่มีพ่อแม่ ตายไปแล้ว มีปมเรื่องความขัดแย้งระหว่างญาติด้วย

เขียนไปจนจบ รู้สึกว่านิยายหม่นๆ หมองๆ ออกแนวดราม่าแบบที่นิยมทำละครนั่นแหละ

แต่ก็คิดว่าถ้าพ่อแม่พระเอกยังอยู่จะเป็นอย่างไร เลยต้องรีไรต์


เริ่มอ่านและแก้ใหม่ตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้าย ตอนแรกคิดว่าแค่ทำให้พระเอกมีพ่อแม่

ดูเป็นปกติคนทั่วไป แต่เขียนไปเรื่อยๆ ตัวละครทั้งสองตัวก็เริ่มมีบทบาทเข้ามาเกี่ยวข้อง

มากกว่าที่เราคาดเอาไว้และทำให้นิยายดูมีสีสันมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีบทน้อยแต่ก็ขาดไม่ได้

นอกจากนี้ยังทำให้ตัดตัวละครที่ไม่จำเป็นออกไปสองตัว ส่วนเรื่องขัดแย้งก็ไม่มีแล้ว



1
ไซตามะคุง 20 ส.ค. 62 เวลา 23:59 น. 11

ผมเคยรีไรท์หนักมากๆๆชนิดที่ว่าต้องปิดเรื่องเก่ามาเปิดเรื่องใหม่เลยครับเพราะรีทั้งเรื่อง 555 สรุปคือโดนนักอ่านเก่าสาปส่งเทกันไปบ้าง แต่ผมสบายใจมากที่ได้ทำแบบนี้ สบายใจกว่ามาฝืนเขียนในสิ่งที่เรารู้สึกว่าไม่ใช่ และซื่อตรงต่อนักอ่านด้วย เพราะถ้ามารีทีละเล็กละน้อยทีหลังนักอ่านงงแน่ สู้รีไรท์ใหญ่ครั้งเดียวจบ เปิดเรื่องใหม่ ทำความเข้าใจใหม่ไปเลย จะได้ไม่มาอ่านแล้วงงว่าทำไมเนื้อเรื่องมันเปลี่ยนไปบางส่วน

0
ปลากระพง 22 ส.ค. 62 เวลา 17:21 น. 12

ส่วนตัวไม่ค่อยชอบการรีไรท์เท่าไหร่ค่ะ (ถึงพอกลับมาอ่านแล้วจะต้องกรีดร้องเป็นภาษาต่างดาวก็ตาม)

เราว่ามันเป็นการเปรียบเทียบได้ดีเลยนะ สร้างกำลังใจได้ด้วย เวลาที่เฟลๆโดนด่าไรงี้ (แบบที่เกินคำว่าติไปแล้ว) ลองย้อนกลับมาอ่านเรื่องแรกที่เขียน แล้วถามตัวเองว่า ‘มันดีกว่าหรือยัง?’ ถ้ายังก็พยายามต่อไป แต่ถ้าดีกว่าแล้ว ขอให้ครั้งต่อไปอย่าอ่านเรื่องแรก แต่ให้อ่านเรื่องที่นำมาเปรียบเทียบ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆๆ สุดท้ายเมื่อมองย้อนกลับไปอีกครั้ง คุณจะรู้สึกได้เองว่าเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว :)

0